รีวิว Ducati Xdiavel S RSD Full Muscle เทคโนครุยเซอร์ + Dragster สุดหรู ที่สายลั่นต้องลองสักครั้ง

0

ย้อนกลับไปเมื่อช่วงไตรมาส 3 ของปี 2015 ได้มี ภาพดักถ่าย Spyshot Ducati Cruiser รุ่นใหม่ ที่จะมาทำตลาดต่ยอด Diavel ในรูปลักษณ์ที่เป็นแบบ Cruiser แท้ๆ และได้หันมาใช้สายพานขับเคลื่อนเป็นครั้งแรกของรถ Ducati อีกด้วย

Ducati-XDiavel-S_RSD-Full-Muscle_09หลังจากนั้นเพียงไม่กี่เดือน Ducati ก็ปล่อย VDO Teaser ทั้ง 4 คลิป เรียกน้ำย่อยก่อนเปิดตัว ได้แก่ This is BlackThis is X, This is Style และ This is Sophistication จนมาในงาน EICMA2015 ได้เปิดตัวรถชื่อ Ducati XDiavel และ S version ออกมาทำตลาด เรียกได้ว่าสร้างความฮือฮา และนิยามใหม่ให้กับรถครุยเซอร์เลยก็ว่าได้

Ducati-XDiavel-S_RSD-Full-Muscle_54ผลจากการออกแบบด้านดีไซน์ที่ฉีกกฎเกณฑ์ครุยเซอร์ทั่วไป ทำให้ Ducati XDiavel S คว้ารางวัล Red Dot Award 2016 การันตีความสวยงามด้านการออกแบบ ในต้นปี 2016 ที่ผ่านมา ซึ่งในวันนี้ MotoRival เราได้มีโอกาสมา รีวิว Ducati Xdiavel S RSD Full Muscle คันนี้ กับเจ้าเทคโนครุยเซอร์ สาย Dragster จอมลั่น คันนี้ กันครับ

Ducati-XDiavel-S_RSD-Full-Muscle_55
รูปลักษณ์ภายนอก XDiavel ได้ต่อยอดรุ่นพี่ Ducati Diavel ให้มีความเป็นครุยเซอร์มากขึ้น ซึ่งจะว่าไปแล้วมันแทบจะไม่มีอะไรที่เหมือนรุ่นพี่เลย นอกเสียจากล้อหลังโตสวมยางหลังไซส์กว้างพิเศษ

Ducati-XDiavel-S_RSD-Full-Muscle_28
โดยหลักๆ ในด้านของตัวถังน้ำมันจะดูแบนลง ตำแหน่งพักเท้าเลื่อนไปอยู่ด้านหน้าสไตล์ครุยเซอร์มะกัน

Ducati-XDiavel-S_RSD-Full-Muscle_34
อีกไฮไลท์สำคัญ คือ การปรับมาใช้สายพานแทนโซ่ ซึ่งนี่ถือเป็นเอกลักษณ์อีกอย่างที่สำคัญ สะดวกสบาย ไม่ต้องมาทำความสะอาดโซ่ ให้เสียเวลา และเลอะเทอะใส่ล้อวงสวยและแพง รวมถึงลดเสียงดังของโซ่ลงด้วย (แต่เสียงท่อกลบแทน)

Ducati-XDiavel-S_RSD-Full-Muscle_25
สำหรับ Ducati XDiavel S คันนี้ โดดเด่นจากล้ออัลลอยปัดเงา ซึ่งมีลวดลายที่โฉบเฉี่ยว กว่ารุ่น Std

Ducati-XDiavel-S_RSD-Full-Muscle_24
ครอบเครื่อง L-Twin ทางฝั่งขวา แบบปัดเงา

Ducati-XDiavel-S_RSD-Full-Muscle_37
ปั๊มเบรกหน้า Brembo M50

Ducati-XDiavel-S_RSD-Full-Muscle_42
และตัวไฟหน้าเป็นแบบ Full LED มาพร้อมไฟ DRL สุดหรู ซึ่งสามารถเซ็ทให้เปิดได้แบบ Auto

Ducati-XDiavel-S_RSD-Full-Muscle_40
ไฟท้าย LED แบบเรียงยาว 2 แถวรับกับดีไซน์ท้ายโล่ง มีไฟเลี้ยวติดอยู่ที่บังโคลนล้อหลัง

Ducati-XDiavel-S_RSD-Full-Muscle_17
ล้อหลังขนาดใหญ่ สวมยาง ยาง Pirelli  Rosso II ขนาดกว้างพิเศษสำหรับ Diavel และ XDiavel ไซส์ 240/45 ZR17

Ducati-XDiavel-S_RSD-Full-Muscle_16
ซึ่งติดตั้งบนสวิงอาร์มแบบ Single Side เปิดโชว์ลายล้ออลูมีนัมปัดเงา คันนี้ให้โดดเด่นยิ่งขึ้น

สำหรับคันนี้มาพร้อมชุดแต่ง RSD (Roland Sand Design) รอบคัน ได้แก่

Ducati-XDiavel-S_RSD-Package_2
จุกอุดเฟรม. ฝากระปุกน้ำมันเบรกล่าง, ฝาน้ำมันเครื่อง, , ฝาครอบเครื่องฝั่งซ้าย, ฝาครอบสายพานหน้า-หลัง, พักเท้าคนขี่

Ducati-XDiavel-S_RSD-Package_1
ฝาครอบปั๊มบนซ้าย-ขวา, ฝาถังน้ำมันเชื้อเพลิง, ประกับแฮนด์, จุกอุดปลายแฮนด์

Ducati-XDiavel-S_RSD-Full-Muscle_18
แผงหม้อน้ำคาร์บอน

Ducati-XDiavel-S_RSD-Full-Muscle-Termignoni_1
และ ท่อไอเสีย Termignoni ปลายสั้นออกซ้าย-ขวา รวมไปถึงเบาะนั่งแบบตูดมด (ซึ่งผู้เขียนได้เลือกที่จะใส่เบาะปกติ พร้อมพนักพิงกันตก)

Ducati-XDiavel-S_RSD-Full-Muscle_20
XDiavel ถือเป็นรถครุยเซอร์เทคโนโลยีหรู ด้วยการใช้กุญแจแบบ Keyless เช่นเดียวกับ Multistrada ทำให้การใช้งานต่างๆ สะดวกเหมือนรถยนต์ และถ้าไม่อยากพกกุญแจเลยก็ยังทำได้ สะดวกด้วยระบบ Pin Code สำหรับคนไม่ชอบพกกุญแจติดตัว แค่ ใส่รหัส ก็พอ

Ducati-XDiavel-S_RSD-Full-Muscle_43
มาตรวัดดิจิตอลสี TFT ออกแบบสไตล์ Minimal ขนาดกะทัดรัด แสดงผลครบครัน

Ducati-XDiavel-S_RSD-Info-Mode
มีลูกเล่นให้ปรับรูปแบบการแสดงผล Info Mode ได้ 4 แบบด้วยกัน Core, Track, Full, City

Ducati-XDiavel-S_RSD-Riding-Mode-Set
สามารถเซ็ท Ride Mode ได้ 3 แบบ Sport, Touring, Urban นอกจากนี้ เรายังสามารเข้าไปปรับตั้งค่าภายใน Ride Mode ทั้งหมดได้อีก
ทั้ง Engine ที่ปรับได้ High, Medium, Low
DTC ปรับได้ถึง 8 ระดับ และ ABS ปรับได้ 3 ระดับ

Ducati-XDiavel-S_RSD-Full-Muscle_44
อีกลูกเล่นของ XDiavel S คือ การ Pair Bluetooth ที่จะมาแสดงชื่อผู้โทรเข้าเวลามีสายเข้า รวมถึงข้อมูล infotainment ต่างๆ อาทิ ชื่อเพลง เป็นต้น

มีการจับเวลา Lap Time ได้อีกด้วย เพราะรถคันนี้ มีโหมด DPL (Ducati Power Launch) เอาไว้สำหรับออกตัวในการแข่งขันด้วยเช่นกัน

Ducati-XDiavel-S_RSD-Full-Muscle_45
นอกจากนี้ยังมีแถบจอ Monitor ขนาดเล็กเหนือแฮนด์ที่แสดงสัญลักษณ์อาทิ ไฟเตือนน้ำมัน, ไฟ Engine, ไฟต่ำ-สูง, ABS, Cruise Control

Ducati-XDiavel-S_RSD-Left-Switch
สวิทช์ไฟซ้าย นอกจากปุ่มพื้นฐานอย่าง สวิทช์ไปเลี้ยว แตร ไฟสูง ไฟฉูกเฉิน แล้วก็จะมีปุ่มไฟ DRL ปุ่มเมนู และ Cruise Control รวมถึงไฟ Backlit

Ducati-XDiavel-S_RSD-Right-Switch
สวิทช์ไฟขวา มีปุ่ม Run-Off และ Engine Start แล้ว เพิ่มปุ่ม Lock คอ แบบที่พบใน Multistrada และเพิ่มอีกจุด คือ ปุ่ม DPL และมีไฟ Backlit ด้วยเช่นกัน

Ducati-XDiavel-S_RSD-Full-Muscle_27
ตัวก้านเบรก และคลัทช์ สามารถปรับระยะได้ด้วยการหมุนความละเอียด

Ducati-XDiavel-S_RSD-Full-Muscle_56
มิติ Ducati XDiavel S
เบาะมีความสูงไม่มากสไตล์ครุยเซอร์ที่ 755 มม.
น้ำหนัก 247 กก. (Wet Weight)
ถังน้ำมันใหญ่จุ 18 ลิตร

Ducati-XDiavel-S_RSD-Full-Muscle_50
ด้านตำแหน่งท่านั่ง Handlebar ขนาดกว้างและยาว และอยู่ในตำแหน่งที่ค่อนข้างสูง ตำแหน่งห่างจากตัวเบาะพอสมควร ทำให้การหยิบจับแฮนด์ ดูห่างไกล สำหรับผู้ที่แขนไม่ยาวและไม่สูงนัก อาจจะต้องมีอาการเอื้อมมือกันได้ นั่งหลังโก่งมากขึ้น

Ducati-XDiavel-S_RSD-Riding-Position_3
โดยเฉพาะ ที่สำคัญช่วงออกตัวหรือเปิดคันเร่งแรงๆ อาจจะต้องนั่งโก่งหลังเกร็งข้อมือ หนีบถังให้แน่น เพื่อความกระชับเตรียมพร้อมรับทอร์คอันหนักหน่วงของตัวรถ

Ducati-XDiavel-S_RSD-Riding-Position_1
ในขณะที่พักเท้าเหยียดไปข้างหน้าในแบบรถครุยเซอร์ ซึ่งบอกเลยว่าแม้จะปรับได้ 3 ระดับ +22.5 มม. ซึ่งเราได้เลือกให้มันอยู่ใกล้ลำตัวที่สุดแล้ว ยังรู้สึกว่าต้องเหยียดไปข้างหน้าพอควร การวางเท้าข้างหนึ่งบนพักเท้า และอีกข้างวางบนพื้นควรเหยียบเท้าข้างที่อยู่บนพื้นให้มั่นคงเสียหน่อย เพราะระยะของเท้าทั้ง 2 ฝั่งนั้นห่างกันพอควร อาจทำให้ผู้ที่ช่วงขาไม่ยาวนักเหยียดได้ไม่มั่นใจ

Ducati-XDiavel-S_RSD-Riding-Position_2
สำหรับผู้ซ้อนนั้น ถ้าก้นไม่ใหญ่นัก ก็ยังพอนั่งได้ แต่ถ้าคนตัวใหญ่คงลำบากแน่ๆ ซึ่งถ้ามีผู้ซ้อนเป็นประจำขอแนะนำติดพนักกันตกด้วยจะปลอดภัยขึ้นมาก เพราะถ้าเปิดคันเร่งแรงๆ ผู้ซ้อนไม่ทันระวังมีตกรถได้ง่ายๆ

Ducati-XDiavel-S_RSD-Full-Muscle_53
สำหรับการขี่ลัดเลาะในเมือง พบว่า ถ้าพอมีช่องมุดการจราจรให้ไป XDiavel S คันนี้ก็ยังพอไปได้เนื่องจากตำแหน่งแฮนด์นั้นจะสูงเลยจากกระจกรถยนต์เป็นส่วนใหญ่ แต่จะอยู่ในระดับเดียวกับรถกระบะ และรถ SUV

Ducati-XDiavel-S_RSD-Full-Muscle_49แต่สำหรับการขี่ทางไกลด้วยความเร็ว พบว่ารถสไตล์นี้ หากขี่เกิน 130 กม./ชม. ขึ้นไปดูจะโต้ลมมากทีเดียว และองศาแฮนด์ที่กว้างทำให้ต้องเกร็งการจับแฮนด์ให้มั่นคงขึ้นด้วย ดังนั้น XDiavel S คันนี้ เน้นขี่หล่อๆ ชิลๆ สักไม่เกิน 120 กม./ชม. น่าจะกำลังดี ไม่ตึงเครียดจนเกินไปในการคุมรถ

Ducati-XDiavel-S_RSD-Full-Muscle_24
เครื่องยนต์ Testastretta 1,262cc DVT (วาล์วแปรผัน Desmodromic Variable Timing) บล็อกเดียวกับ Multistrada 2015 แต่ได้นำมาปรับจูนใหม่ เพิ่มกำลังอัดเป็น 13:1 ซึ่งสร้างกำลังออกมาลดลงเล็กน้อยเหลือ 156 hp@9,500rpm และแรงบิด 128.9 Nm@5,000rpm

Ducati-XDiavel-S_RSD-Full-Muscle_23
ส่งกำลังเครื่องยนต์ผ่านสายพาน แทนโซ่ มาพร้อม Slipper Clutch และคันเร่งไฟฟ้า dbW

Ducati-XDiavel-S_RSD-Full-Muscle-Termignoni_3
เริ่มต้นติดเครื่องยนต์กันเลย ซุ่มเสียงดุดันเอาเรื่อง ลองเบิ้ลคันเร่งเพื่อบันทึกเสียงดูหน่อย เจ้าเครื่อง DVT ตัวนี้เมื่อจับคู่กับท่อ Termignoni สั้นๆ แบบนี้ บอกได้ว่า “แผดดังลั่นซอย” เสียงดุดันก้าวร้าวมาก จนรู้สึกว่ามันดังเกินจนรำคาญได้เลย เมื่อเปิดคันเร่งไปที่รอบสูงๆ และหากคุณต้องขี่เข้าซอยที่เงียบๆ หรือ ต้องขี่รถเข้าในด้านบ้าน คงต้องเปิดคันเร่งด้วยความแผ่วเบาหน่อยล่ะ

Ducati-XDiavel-S_RSD-Full-Muscle_35
กลับมาที่สมรรถนะเครื่องยนต์ ถือได้ว่าเป็นที่ประจักษ์แล้วสำหรับเจ้าเครื่อง Testastretta 1,262cc บล็อกนี้ที่เราได้เคยลองในตัว Multistrada ใหม่ มันทรงพลัง ดุดัน และให้แรงบิดมหาศาลที่ดีอยู่แล้ว แม้ว่ามันจะสร้างกำลังรวมได้น้อยกว่าเครื่องบล็อกเดิมของ Diavel ก็ตาม แต่โดยรวมมันไม่ได้ดูด้อยสมรรถนะลงแต่อย่างใดเลย เพียงแต่ขี่นุ่มสมูทขึ้นอีกหน่อยด้วยซ้ำ

Ducati-XDiavel-S_RSD-Full-Muscle_57
ตัวคันเร่งไฟฟ้ามาพร้อม Riding modes 3 แบบ Urban (ตอนกำลังเหลือ 100 แรงม้า คันเร่งหน่วงเบาเน้นปลอดภัย), Touring (ม้าเต็ม แต่คันเร่งสมูทเน้นขี่ง่าย บิดตึงมือนิดๆ) และ Sport (ม้าเต็ม การตอบสนองเครื่องยนต์รวดเร็วทันใจ)

  • เริ่มกันที่ Urban กันก่อน ขี่ง่ายดี ไม่น่ากลัวนักในจังหวะเปิดคันเร่ง ขี่แบบสายชิล หรือ ขี่ในเมืองที่ค่อยๆ ไป สบายๆ ไม่เครียด
  • เริ่มชินแล้วปรับมา Touring สัมผัสได้ถึงกำลังที่แรงขึ้น ในขณะที่การเปิดคันเร่งนั้นยังคงสมูท นุ่มนวล ตึงมือนิดๆ แต่ก็ยังถือว่าคุมคันเร่งได้ง่าย
  • จบที่ Sport สุดท้าย รู้สึกเลยว่า บิดติดมือ ราวกับระเบิดมือขนาดย่อมที่อยู่ในข้อมือพร้อมเขวี้ยงออกไป ให้รถกระโจนกระชากไปข้างหน้าได้ตลอดเวลา คันเร่งตอบสนองรวดเร็วฉับไว การใช้งานในเมืองดูจะต้องระวังการเปิดคันเร่งให้เนียน นอกจากนี้หากไม่จับแฮนด์ให้ดี หรือ ขาหนีบถัง มีเหวอได้ง่าย กับแรงบิดเกือบๆ 130 Nm ในช่วงรอบเครื่องราวๆ 5,000rpm ซึ่งถ้ามีผู้ซ้อนแนะนำเกาะให้ดี ไม่งั้นอาจตกรถได้ง่ายๆ

Ducati-XDiavel-S_RSD-Full-Muscle_34
อีกจุดที่จะต้องพูดถึง คือ ฟีลลิ่งของการใช้สายพาน เป็นครั้งแรกของ Ducati มันมีข้อดีมากมาย ทั้ง เสียงโซ่ที่ไม่มากวนใจอีกต่อไป มีแต่เสียงท่อลั่นๆ ดังก้องอยุ่ในโสตประสาทอยู่ตลอดเวลา

Ducati-XDiavel-S_RSD-Full-Muscle_22
การเดินคันเร่งดูสมูทเนียนขึ้นกว่าเดิม และแรงดึง Engine Brake ไม่หนัก ทำให้คุมรถง่าย ไม่มีอาการล้อปัดล้อล็อกให้เห็น (ส่วนหนึ่งอานิสงค์จาก Slipper Clutch ด้วย)
นอกจากนี้ยังมีดีในเรื่องของการดูแลรักษาที่ง่าย และอายุการใช้งานที่ยาวนานกว่าโซ่ แต่ก็ต้องระวังเรื่องไม่ให้ถูกอะไรมาบาดสายพานขาดด้วยเช่นกัน

Ducati-XDiavel-S_RSD-Right-Switch
สำหรับอีกไฮไลท์ คือ Ducati Power Launch (DPL) ช่วยให้การออกตัวแบบรถ Drag Racing เปี่ยมประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
โดย DPL จะมี 3 ระดับ ให้เลือก แต่ละระดับจะล็อกรอบสูงสุดที่ต่างกันไป (LV1 จะล็อกที่ 8,500rpm)
เลือกเสร็จหน้าจอบอกให้ทำตามขั้นตอน บีบคลัทช์ – เข้าเกียร์ 1 – บิดหมดปลอก
เมื่อปล่อยคลัทช์ รถก็จะพุ่งออกตัวไปอย่างรวดเร็วเต็มกำลัง ราวกับ ตอปิโดบก

Ducati-XDiavel-S_RSD-Full-Muscle-Termignoni_2
*ในการใช้โหมดนี้ ต้องระมัดระวังให้ดี ด้วยล่ะครับ ยิ่งใส่ท่อ Termignoni ลั่นๆ แบบนี้ ไปเปิดเล่นออกตัวไฟเขียว คงโดนกล่าวถึงบรรพบุรษ เป็นแน่ อีกทั้งการควบคุม แฮนด์ที่กว้างเช่นนี้ ควรระมัดระวังให้ดี นอกจากนี้ควรดูเรื่องพื้นผิวถนน หรือ Track ที่ทดลองอีกด้วย ทางที่ดีน่าจะไปลองในสนามหรือที่ปิดจะดีกว่า

อัตราสิ้นเปลือง Ducati เคลมไว้ที่ 18.87 กม./ลิตร ซึ่งการวิ่งเดินทางไกล น่าจะพอได้ในเกณฑ์นี้ แต่ถ้าใช้ในเมือง จะอยู่ที่ราว 15-16 กม./ลิตร

Ducati-XDiavel-S_RSD-Front-Shock
ระบบกันสะเทือน โช้กหน้า UpSideDown ขนาดแกนใหญ่ถึง 50 มม. ปรับ Compression ได้ทางแกนฝั่งซ้าย และ Rebound ได้ทางแกนฝั่งขวา

Ducati-XDiavel-S_RSD-Full-Muscle_33
โช้กอัพหลังเดี่ยว Monoshock จาก Sachs วางทแยงนอน ปรับ Preload และ Rebound ได้

Ducati-XDiavel-S_RSD-Full-Muscle_11
การใช้งาน ถือได้ว่าเป็นรถครุยเซอร์ สไตล์สปอร์ต ที่มอบทั้งความหนึบ และซับแรงได้ดีพอตัว แม้มันจะไม่ได้นุ่มนวลเสียทีเดียว แต่ก็ไม่กระด้าง เมื่อผ่านทางขรุขระ ซึ่งจากการประเมินด้วยสายตาของการวางโช้กอัพหลังแบบนี้ น่าจะกระด้างแข็ง แต่ XDiavel S คันนี้ ไม่ได้ให้ความรู้สึกแข็งกระด้างอย่างไร แถมแน่นหนึบสไตล์รถซิ่งไว้เอาไปอัดแข่ง Dragster ได้อีกด้วย

Ducati-XDiavel-S_RSD-Full-Muscle_07
ระบบเบรก จานดิสก์หน้าคู่ขนาด 320 มม. ปั๊มเบรกหน้า Brembo M50 ซึ่งเป็นแบบ Radial Monobloc 4 สูบ มาพร้อมระบบ Cornering ABS จาก Bosch

Ducati-XDiavel-S_RSD-Full-Muscle_14
ด้านหลังจากดิสก์เดี่ยวขนาด 265 มม. คาลิปเปอร์ Brembo 2 สูบ ซึ่งอยู่ทางฝั่งซ้าย หลบซ่อนอยู่ด้านในสายพาน มาพร้อมระบบ Cornering ABS จาก Bosch เช่นเดียวกัน

Ducati-XDiavel-S_RSD-Full-Muscle_37
ด้วยการใช้ปั๊มเบรกหน้า-หลัง แบบที่พบให้รถ Superbike ตัวแรงทั้งหลาย ซึ่งผู้เขียนคงไม่ต้องบรรยายสรรพคุณอะไรมาก เพราะมั่นใจได้เต็มพิกัด ทุกครั้งที่เบรกหนักๆ ทั้งหน้าและหลัง

โดยเฉพาะอย่างยิ่งระบบ Cornering ABS ซึ่งเข้ามาทำงานร่วมกับ ระบบจับองศารถ และ DTC อีกระบบ จึงช่วยให้การเบรกหนักๆ ในโค้งปลอดภัยขึ้น ไม่มีการปัด, พับในโค้ง หรือ บานโค้งออกไป เหมือน ABS ปกติที่ไม่ใช่ Cornering ABS

Ducati-XDiavel-S_RSD-Full-Muscle_Night-Light_3
สรุป Ducati XDiavel S RSD Full Muscle รถเทคโนครุยเซอร์ ที่มอบความสปอร์ตสไตล์รถ Dragster แบบเต็มตัวคันแรกของ Ducati ที่หันมาใช้ระบบส่งกำลังสายพาน ซึ่งข้อดีมีไม่น้อยเลย ทำให้เจ้า XDiavel S จะเอาไปใช้ขี่สบายหวานเย็น หรือ จะเอาแข่ง Drag Race ก็ทำได้สบายๆ หรือ อยากขี่ซิ่งสนุกๆ แบบสปอร์ต กำลังเครื่องยนต์ และทอร์คก็มีให้ใช้แบบ เหลือๆ

เทคโนโลยีอัดแน่นจัดเต็ม ยิ่งกว่ารถยนต์เสียอีก Ducati XDiavel S จึงสมกับรถ 2 ล้อ ราคาหลักล้านจริงๆ

และในคันนี้ที่มากับชุดแต่ง RSD คุณไม่ต้องไปทำอะไรต่อแล้วล่ะ หล่อสุดๆ ขี่ไปไหนจอดติดไฟแดงมีแต่คนเหลียวแน่นอน

Ducati-XDiavel-S_RSD-Full-Muscle_Night-Light_1
สำหรับราคา และรุ่นย่อยนั้น มีให้เลือกหลากหลาย ได้แก่
XDiavel ราคา 898,000 บาท
XDiavel Carbon ราคา 946,800 บาท
XDiavel RSD Full Muscle ราคา 1,046,500
XDiavel Xtraordinary Rosso (แดง) และ Oceano (น้ำเงิน) ราคา 1,058,000 บาท
XDiavel Xtraordinary Nero (ดำ) RSD Package ราคา 1,150,000 บาท
Ducati XDiavel S ราคา 1,058,000 บาท
XDiavel S Carbon ราคา 1,106,800 บาท
Ducati XDiavel S RSD Full Muscle ราคา 1,206,500 บาท

Ducati-XDiavel-S_RSD-Full-Muscle_Night-Light_5
จุดเด่น

  • รูปลักษณ์ที่โดดเด่น มีสไตล์การันตีด้วย Red Dot Award 2016
  • ระบบขับเคลื่อนที่ทรงพลัง และการหันมาใช้สายพานเป็นโมเดลแรกของ Ducati
  • เทคโนโลยีครบครัน Launch Mode, Cruise Control, Keyless, Pin Code, Bluetooth และ Infotainment

Ducati-XDiavel-S_RSD-Full-Muscle_Night-Light_2
ข้อสังเกต

  • ท่านั่งที่ดูจะต้องเอื้อมมือ และพักเท้าที่ดูจะไกลไปหน่อย จึงลำบากกับผู้ขี่ที่มีสรีระไม่สูงนัก
  • เบาะหลังสไตล์รถ Dragster ท้ายสั้นโล่ง คนนั่งซ้อนลำบากหน่อย และนั่งได้เฉพาะสาวเอวบางร่างเล็ก รวมถึงถ้าไม่ติดพนักกันตก ผู้ซ้อนหลังต้องนั่งระมัดระวังเพราะรถแรงจนอาจร่วงตกรถได้

Ducati-XDiavel-S_RSD-Full-Muscle_47
ภณ เพียรทนงกิจ Test Driver, Photo + VDO
สุภิญญา ชำนาญกุล VDO
วีรชัย พงษ์กิตติพันธ์ Photo + VDO
ขอขอบคุณ Ducati  Thailand สำหรับ Ducati XDiavel S RSD Full Muscle คันนี้

อ่านรีวิว อื่นๆ เพิ่มเติมได้ที่นี่
อ่านข่าวสาร Ducati เพิ่มเติมที่ได้ที่นี่

เพื่อนๆ Bikers สามารถติดตามข่าวสารวงการล้อ ได้ทางแฟนเพจ MotoRival ของเราครับ

รีวิว Ducati Xdiavel S RSD Full Muscle เทคโนครุยเซอร์ + Dragster สุดหรู ที่สายลั่นต้องลองสักครั้ง

8.1 เทคโนครุยเซอร์ + Dragster สัญชาติอิตาลี

รีวิว Ducati Xdiavel S RSD Full Muscle เทคโนครุยเซอร์ + Dragster สุดหรู ที่สายลั่นต้องลองสักครั้ง

  • รูปลักษณ์ 10
  • เครื่องยนต์ 8.5
  • การควบคุม 6
  • เทคโนโลยี 9
  • ความคุ้มค่า 7
  • User Ratings (6 Votes) 5.2
Share.

About Author

Background EXP in Automotive journalists more than 10 Years Writer & Test Driver @Pantip Garage 2018-Present @9carthai 2015- 2017 @Torque & VIPStyle Magazine 2015 @Autospinn 2012-2015 @GTmania.tv 2009-2010

error: Content is protected !!