รีวิว Honda PCX160 eSP+ รหัสนี้แรงมาจากโรงงาน

รีวิว Honda PCX160 ยกระดับมาตรฐานเรื่องความแรง

หลังจากที่ทีมงาน MotoRival เราได้ทำการทดสอบ รีวิว PCX160 แบบ 1st impression กันไปแล้ว ตั้งแต่ต้นปี
ทางทีมงานเราได้มีโอกาสกลับมาทดสอบเต็มๆ อีกครั้งกับ เครื่องยนต์ eSP+ ใหม่ ที่ต้องบอกว่า แรงจัดจ้านทุกย่าน จริงไหม เดี๋ยวเรามาว่ากันครับ

เริ่มที่รูปลักษณ์ ถ้าดูเผินๆ หลายคนมองว่า PCX160 ดูไม่ค่อยต่างจาก PCX150 แต่ในความเป็นจริงมันปรับใหม่ ทั้งหมด
ตั้งแต่แฟริ่ง เส้นสายก็จะดูมีมิติมากขึ้น

ชุดไฟหน้า และไฟเลี้ยว จะเป็นเส้นสายแนวเดียวกันไม่ได้แบ่งออกเป็น 2 ชั้นเหมือน PCX150

ชุดไฟท้าย รีดีไซน์ให้มีความกระทัดรัดขึ้น

ส่วนวินชิลด์หน้ายังคงเป็นสีดำสั้นเช่นเดิม

ตัวกุญแจเป็นระบบ Honda Smart Key
ซึ่งจะมีปุ่มเรียกรถ และสัญญาณกันขโมย

ทางเก๊ะฝั่งซ้ายลึกพอประมาณ เก็บกระเป๋าสตางค์ + โทรศัพท์ + กุญแจ และของจุกจิกได้สบาย
มาพร้อม Port USB Type C

มาตรวัดเป็น จอ LCD Backlight ซึ่งจะมีสถานะไฟสัญลักษณ์ขึ้นที่ กรอบซ้าย-ขวา
ตรงกลาง บอกความเร็วเป็นตัวเลข, เกจ์น้ำมันเป็นสเกล, นาฬิกา, อัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ย, Odo, Trip, HSTC สามารถปิดได้ ด้วยการกดปุ่มด้านขวาค้างไว้
ในจอตัวนี้จะพบข้อสังเกตุ ตรงแถบไฟเลี้ยว จะขึ้นเป็นสีเขียว ซึ่งถ้าขี่ในกลางคืนจะรู้สึกสว่างวาบเข้าตาพอสมควร สาเหตุหนึ่งนั้นก็คือ เพื่อป้องกันลืมเปิดไฟเลี้ยวค้างไว้

ตัวแฮนด์บาร์ องศางุ้มเข้าหาลำตัว ส่วนตุ๊กตาแฮนด์ออกแบบมาให้ขยับให้ตัวได้ เพื่อซับแรงในเวลารถล้ม
ชุดสวิทช์แฮนด์ทั้งซ้าย-ขวา รุปแบบพิมพ์นิยม ฝั่งขวามีไฟ Hazard มาด้วย

ถังน้ำมันกลางลำตัวมีความจุ 8.1 ลิตร

เบาะนั่งแยก 2 Step ผู้ขี่และผู้ซ้อน ซึ่งในรุ่น ABS นี้จะเป็นทูโทน ตัดด้วยสีน้ำตาล

ส่วน U-Box ความจุ 30 ลิตร มาพร้อม Seat Stopper สามารถะวางหมวกเต็มใบได้ 1 ใบ

ท่อไอเสียออกข้าง ปรับทรงใหม่ พร้อมเพิ่มครอบปลายท่อ

ชุดล้ออัลลอย สวมยาง 110/70-14 ด้านหน้า และ 130/70/13 ด้านหลัง (ขนาดล้อหลังเล็กลง 1″ ส่วนไซส์ยางกว้างขึ้น 1 เบอร์)

มิติรถ PCX160
กว้างxยาวxสูง = 742 x 1,935 x 1,108 มม.
ระยะ Ground Clearance 134 มม.
ความสูงเบาะ 764 มม.
นน.ตัว 131 กก.
ความจุถังน้ำมัน 8.1 ลิตร

ท่านั่ง
เริ่มที่ความสูงเบาะ 764 มม. ผมสูง 175 ซม. สวมรองเท้าผ้าใบก็เหยียบได้เต็มขาสบายอยู่ เพราะช่วงปลายเบาะจะค่อนข้างแคบเข้ามา ส่วนช่วงแฮนด์ ที่องศาจะออกงุ้มเข้าหาลำตัวสักหน่อย และไม่กว้างมาก ระยะตรงนี้ดูจะใกล้กับลำตัวเกินไป เวลาหักเลี้ยววงแคบ ศอกจะติดยิ่งเวลามีผู้ซ้อนด้วยแล้วจะค่อนข้างติดแขน จุดนี้อาจแก้ไขได้ด้วยการขยับปรับองศาแฮนด์บิดไปด้านหน้า หรือ อาจจะเปลี่ยนแฮนด์/เสริมตุ๊กตาแฮนด์เยื้องก็ช่วยได้

ตัวเบาะแยก 2 Step เป็นเหมือน Lumbar Support ในตัว แต่ก็จะมีข้อเสียตรงที่ไม่สามารถเขยิบร่นก้นไปทางด้านหลังได้ไกลกว่านี้

ด้านตำแหน่งเบาะคนซ้อน
ต้องถือว่านั่งได้สบายพอสมควรเลย คือ แฟริ่งหลังจะไม่มีมุมเหลี่ยมยื่นออกมาดันน่องเหมือน Forza350

พักเท้าขนาดใหญ่ ใช้ส้นเท้าเกี่ยวออกมาได้ และเหยียบได้เต็มฝ่าเท้า จึงไม่เมื่อย
ส่วนมือจับนั้นด้วยดีไซน์ติดตั้งอยู่ด้านบนชุดบั้นท้าย ขนาดค่อนข้างใหญ่ สาวๆ มือเล็กอาจจะโอบจับไม่ได้เต็มมือนัก

ขุมพลังเครื่องยนต์ eSP+ ใหม่ SOHC 4 วาล์ว ต้องเรียกได้ว่าใหม่ หมดจดจริงๆ

ทั้งลูกสูบขนาดใหญ๋ขึ้น ทำให้ความจุเพิ่มเป็น 157cc

มีการขยายลิ้นเร่งจาก 26->28 มม., ปรับหม้อกรองอากาศใหม่ ขนาดทั้งขนาดใหญ่ขึ้นเป็น 4.9 ลิตร และปรับทิศทางการไหลของอากาศให้ดีขึ้น จึงทำให้อากาศไหลเข้าห้องเผาไหม้ได้มากขึ้น

หัวฉีดน้ำมันเครื่องใต้ลูกสูบ ใหม่ Piston Oil Jet ออกแบบเพื่อลดแรงเสียดทานลูกสูบให้ลูกสูบ และเพิ่มประสิทธิภาพการระบายความร้อน และยังช่วยยืดอายุเครื่อง รวมถึงลดเสียงเครื่องลงด้วย

นอกจากนี้ การปรับเปลี่ยนใหม่ในอีกหลายส่วน ทั้งชุดตัวดันโซ่ไทมมิ่งไฮโดรลิคใหม่ ออกแบบชุดเพลาข้อเหวี่ยงใหม่ที่เพิ่ม Roller Bearing และ เพิ่มบาลานเซอร์ จึงช่วยให้เครื่องยนต์เดินเรียบ ลดการสั่นสะเทือนลง

ซึ่งฟีลลิ่งในการขับจริง ต้องบอกว่าแรงจริงจัง ตั้งแต่เปิดคันเร่งออกตัว กำลังมีมาให้ใช้ทันทีเมื่อกระแทกคันเร่ง ความเร็วขึ้นเรื่อยๆแบบลื่นๆ ไม่ถึงกับกระชากยังขี่ได้สบาย
มีกำลังไหลต่อเนื่องในทุกย่านต้น-ปลาย เรียกได้ว่าแรงเป็นแถวหน้าของรถ AT150 แน่นอน

จากที่บอกไปว่า การปรับเปลี่ยนจากเครื่องยนต์ eSP ใน PCX150 มาเป็น eSP+ ใน PCX160 นี้ทำให้เกิดผลลัพธ์ ในเรื่องสมรรถนะที่ดีขึ้นอย่างชัดเจน ตัวเลขแรงม้า 15.8 แรงม้า ถือว่าสูงสุดในคลาส ซึ่งก็สอดคล้องเหมือนกับตัว Forza 350 ที่เราได้บอกไปว่า มีการพัฒนาขุมกำลังเครื่องยนต์มาใช้เป็น eSP+ เหมือนกัน เรียกได้ว่า เครื่องบล็อกนี้ ขี่สนุก #เร่งมันส์ต้นยันปลาย

โดยเพื่อนๆ สามารถดูพิสูจน์ อัตราเร่ง-Topspeed ได้ที่คลิปด้านล่างนี้

และถ้าเพื่อนๆ ยังมองว่าตัวเลขตามหน้าปัด 117 กม./ชม. ยังไม่เพียงพอ หรือ อยากได้จัดจ้านกว่านี้ ก็ต้องบอกว่า สามารถโมดิฟาย ต่อได้สบายๆ

ด้านอัตราสิ้นเปลือง ก็ถือว่าทำได้ดีเพราะ ถ้าขี่แบบปกติ จะทำได้ระดับ 40 กม./ลิตร สบายๆ แต่ถ้าบิดกระแทกคันเร่ง เน้น Performance จะได้ 34-5 กม./ลิตร ซึ่งก็ถือว่าประหยัดพอตัวเลยเมื่อเทียบกับความแรงที่ได้

ระบบกันสะเทือน
โช้กหน้าหัวตั้งเทเลสโคปิก, ด้านหลังโช้กอัพคู่ ปรับระดับไม่ได้

นอกจากนี้ เฟรมก็ปรับใหม่ เบาขึ้น แต่เคลมว่าแข็งแรงกว่าเดิม

สำหรับภาพรวมในการขับขี่
ผมเริ่มที่ด้านหน้า ถ้าขี่แบบทั่วๆไป ถือว่า ok เลย แต่เมื่อได้ลองเบรกหนักๆ พบว่าแฮนด์บาร์ ที่สามารถขยับตัวได้
ทำให้อาจมีอาการเหวอได้ ในการควบคุมเนื่องจากมันขยับตัว

ส่วนด้านหลัง ก็ถือว่า เด้งสะเทือน พอตัวเลยเวลาขี่บนพื้นผิวที่ไม่เรียบ
ซึ่งถ้ามีคนซ้อนจะรู้สึกช่วงล่างดีดตัวมากขึ้น
ก็ต้องบอกว่า รถมอเตอร์ไซค์ AT ส่วนใหญ่ โช้กหลังเดิมๆ มักเจอปัญหานี้ แก้ง่ายๆ โดยการเปลี่ยนโช้กแต่ง ซึ่งผมเชื่อว่าการเปลี่ยนโช้กหลังถือเป็นของแต่งลำดับต้นๆ ที่คนใช้ AT ส่วนใหญ่เปลี่ยนกันอยู่แล้วล่ะ

ระบบเบรก ด้านหน้าจานดิสก์เดี่ยวขนาด ทำงานร่วมกับคาลิปเปอร์ 2 สูบ ให้ระบบ ABS มาเฉพาะล้อหน้า
ด้านหลังให้มาเป็นดิสก์เบรก

สเป็กเบรกนั้้นเหมือนตัว ADV150 เลย ฟีลลิ่งภาพรวมการเบรกก็ยังถือว่าเบรกทำงานได้ดีไม่แพ้ ตัว PCX150 ที่ให้ด้านหน้าปั๊ม 3 pot
แต่คาแรกเตอร์ต่างจาก ตัว PCX150 คือ PCX150 จะไล่น้ำหนักได้นิ่นวลกว่า
ใน PCX160 จะเบรกจับไวไม่ต้องลงน้ำหนักเยอะ เพื่อให้มันจตอบสนองได้ทันท่วงที สัมพันธ์กับความแรงที่มากขึ้น

แต่มีข้อสังเกตุ ด้วยความที่ ABS มีเฉพาะด้านหน้า ถ้ากำเบรกพร้อมกันซ้าย-ขวา ตอนที่พื้นถนนลื่นๆ ล้อหลังอาจล็อก เลื้อยได้ ซึ่งต้องระมัดระวังกันหน่อยล่ะครับ

นอกจาก ABS ยังมีอีกระบบความปลอดภัย ก็คือ Honda Selectable Torque Control (HSTC) หรือ Traction Control ซึ่งในการใช้งานจริงเมื่อเจอพื้นลื่นๆ ระบบนี้ทำงานค่อนข้างไว พอสมควร ไม่ปล่อยให้เราต้องมาพบอาการลื่นไถลเสียการควบคุม

สรุป รีวิว Honda PCX160 ถือได้ว่าเป็นรถ Premium AT150 ที่แรงเป็นเบอร์ต้น แถวหน้าของคลาสเลย ไม่เพียงเท่านั้นถ้าใครต้องการความเร็วปลายก็สามารถไปโมดิฟายต่อได้ ด้วยพละกำลังเครื่องที่ยังมีกำลังเหลือๆ
ส่วนเทคโนโลยีที่ให้มาก็ถือว่าให้มาเพียงพอ ต่อการใช้งานในรถคลาสนี้ แล้ว