รีวิว Honda Transalp 750 (XL750) มิดไซส์ 2สูบ สายแอดเวนเจอร์ ที่ลืมภาพลักษณ์ ผู้ดีฮอนด้า

XL750 หรือ Transalp ถือเป็นรถ พิกัดช่วง 750cc 2 สูบ ฝาแฝด Hornet (CB750) ในร่าง ADV ที่ลบภาพคาแรกเตอร์ แบบขี่นิ่มๆ สบายๆ ของ Honda ไปได้เลย เพราะมันดิบดุ มาก กว่าที่เคยเป็นมา

รูปลักษณ์ บอกเลยว่า ดูเผินๆ เหมือน CB500X โดยเฉพาะไฟหน้า

แต่ไฟท้าย ปรับทรง จากแหลมๆ เป็นทรงเหลี่ยมมากขึ้น ส่วนไฟเลี้ยว LED สหกรณ์ จากรุ่นเล็ก ยัน BigBike

วินชิลด์หน้า ปรับระดับไม่ได้

บั้นท้ายมือจับกันตกให้มาเป็น Rack หลังในตัว

จอสี TFT 5″ รองรับการเชื่อมต่อ Smartphone ปรับ Interface การแสดงผลได้
และ ปรับโหมดขับขี่ได้ 5 แบบคือ Sport/Standard/Rain/Gravel และ User ที่จะปรับค่า Power Mode เองได้ 3 ระดับ, Engine Brake Control 3 ระดับ และ Traction Control 3 ระดับ (+Off)
รวมถึง ABS 2 ค่า + Off

สวิทช์ไฟซ้าย มีปุ่ม Mode, Fn และ Joystick ใช้ควบคุมหน้าจอ

ล้อซี่ลวดหน้า-หลังขนาด 90/20-21 และ 150/70-18 พร้อมลุย

รวมถึงพักเท้าสามารถถอดยางหุ้มเป็นพักเท้าหนาม พร้อมลุยได้

มิติ Transalp 750 (XL750)
ความสูงเบาะอยู่ที่ 850 มิลลิเมตร
นน. 208 กก. (Wet))
ถังน้ำมัน 16.9 ลิตร

ท่านั่ง
เบาะสูง 850 มม. ตามสไตล์รถ ADV ล้อซี่ลวด ก็ต้องถือว่าหนักพอควร แต่ผมเองสูง 175 ซม. สวมผ้าใบ ก็ยังพบว่าเขย่งปลายเท้า นิดหน่อย
เพราะ ช่วงโช้กด้านหลังนั้นมันมีระยะให้ตัวค่อนข้างมาก และยุบลงพอควรเลย ไม่ถึงกับบัลเลต์ มากจนเกินไป

แฮนด์ Fatbar ทรงเตี้ย ความยาวกำลังดี กับการคอนโทรล และยืนขี่แล้วก็ยังสบายอยู่ ซึ่งแตกต่างจาก CB750 Hornet ที่เป็นแฮนด์บาร์ 22 มม. ปกติ และ มันขี่แล้วเมื่อยกว่าอย่างชัดเจน

ส่วนพักเท้าก็วางลงตรงๆ ทำให้ระยะเข่า กำลังหย่อนสบาย ไม่เมื่อยเกิน

เบาะนั่งชิ้นเดียวแบ่ง 2 Steps ก็นั่งได้สบายกำลังดี

ขุมกำลัง 2 สูบเรียง SOHC ระบายความร้อนด้วยน้ำ ขนาด 755cc เอกลักษณ์ของมิดไซส์สองสูบยุคนี้ คือ เพลาข้อเหวี่ยง 270 องศา
ให้ความดุดัน ตามสไตล์ V-Twin แต่ได้ขนาดเครื่องที่คอมแพ็คกว่า และ ไม่มีปัญหาสูบหลังร้อน อยู่สูบเดียว
เครื่องบล็อกนี้ แรงพอตัว ให้พละกำลัง 90.6 Hp @ 9,500 rpm และแรงบิดสูงสุด 75 Nm @7,250 rpm
มีระบบ Slipper Clutch แต่ ไม่มี QS มาให้ เพราะ ต้องซื้อเป็นออปชั่นเสริม
ส่วนตัวหลายคนคงบอกว่า มันไม่จำเป็นกับรถสายลุยสักเท่าไร แต่ ส่วนตัวผมมองว่า ถ้าเป็นรถ Hi Performance นั้น น่าจะให้มาเป็นสเป็กติดรถเลยก็ดี เพราะ การขี่เค้นสมรรถนะ มันจะได้ความต่อเนื่องดีกว่า
แต่ก็เข้าใจได้ ที่ Honda เน้นทำราคา จึงตัดออกไว้เป็นออปชั่นเสริม

ภาพรวมการขับขี่ นั้น คือ เอาจริงๆ ถ้าขี่โหมด Std ขี่ธรรมดา ค่อยๆ ไป ก็รู้สึกว่ามันก็ไม่ได้ ขี่รคุมคันเร่งยากเย็น แต่ถ้าปรับสปอร์ตโหมด และกระแทกคันเร่งออก นี่ ต้องบอกว่า เอาเรื่อง! มือใหม่ ไม่แนะนำเป็นอย่างยิ่ง
ขนาดบางจังหวะที่ผมพยายามจะเร่งแซง หรือ เค้นสมรรถนะ คิดว่า กระแทกช่วงรอบไม่สูงมาก ประมาณ 4,000rpm ยังดีด จนแฮนด์สะบัด ก็มี จุดนี้ผมมองว่า ใครไม่คุ้นชิน รถทอร์คจัด แบบนี้ ไม่ควรปิด TC เปิดไว้สัก 1 ก็ยังดี

อัตราเร่ง ผมว่า มันทำได้โหดเอาเรื่องเลย ในคันนี้ผมไม่ได้มีโอกาสลองเทส TopSpeed Test แต่ ก็รู้สึกเหมือนมันจะล็อก 200kmph
น่าเสียดาย เพราะ ตอนผทดสอบ TopSpeed Hornet 750 พบว่ามันไหลได้ มากกว่านี้

ระบบกันสะเทือน
ด้านหน้า โช้กอัพ USD ขนาดแกน 43 มิลลิเมตร จาก Showa ระยะยุบ 200 มิลลิเมตร
ด้านหลัง โช้กเดี่ยว Showa ปรับพรีโหลดได้ ระยะยุบ 190 มิลลิเมตร มาพร้อมกระเดื่อง Pro-Link อันเป็นเอกลักษณ์
การใช้งาน ต้องบอกว่าแม้จะปรับอะไรไม่ได้มาก แต่จากการใช้งานแล้ว ผมว่า มันทำหน้าที่ได้ดีเลย กับการใช้งานทางดำ และไม่ได้ ต้องการขี่ Enduro จริงจังอะไรมาก
ภาพรวมก็ยังซับแรงสะเทือนได้ดี และ เฟิร์มพอตัว

กับ นน. ตัวที่ถือว่าค่อนข้างเบา เมื่อเทียบกับคู่แข่ง จึงทำให่มันพลิกคอนโทรลรถได้ดีไม่แพ้กันเลย

ระบบเบรก จานดิสก์คู่ทรง Wavy Disc ขนาด 310 มิลลิเมตร ทำงานร่วมกับปั๊ม Nissin 2pots
ด้านหลังจานเดี่ยวขนาด 256 มิลลิเมตร ทำงานร่วมกับปั๊ม 1 pot พร้อมระบบ ABS 2 Channel โดย โหมด Gravel จะสามารถปิด ABS ด้านหลังได้

จากภาพรวมปะสิทธิภาพการใช้งาน ผมมองว่า มันก็ดูจะพอเหมาะกับการใช้งานเดินทางทั่วๆไป และ รถใน Segment นี้ ที่เป็นล้อซี่ พร้อมลุย ก็ให้สเป็กเบรกมาประมาณนี้อยู่แล้ว
ถามว่าใช้งานทั่วไป ก็เพียงพอล่ะ แต่จากการที่ผมทดสอบ คือ เน้นหวดหนักๆ ขี่เร็วบนท้องถนน ยังไงก็ยังรู้สึกว่า อยากได้ปั๊มคาลิปเปอร์ ที่ทรงพลังกว่านี้

สรุป รีวิว Honda Transalp 750 (XL750) ถือได้ว่าเป็นรถสายลุย มิดไซส์ ที่น่าสนใจ ทั้งเทคโนโลยีที่ให้มาก็พอเหมาะ พละกำลังในการเดินทางไกล สำหรับผม ถือว่าเพียงพอแล้ว ทั้งอัตราเร่งแซง และยืนพื้นความเร็วสูงๆ ระดับ 160kmph+ ได้สบายๆ
จะลุยก็ได้ ทำราคามาดีกว่าคู่แข่งที่นำเข้าจากญีปุ่่นอยู่พอสมควร ถ้าเสียนิดหน่อย ก็คงแค่ ต้องไปติด QS เองกับ หน้าตามันที่ดูจะคล้าย CB500X มากเกินไปหน่อย