รีวิว Kawasaki Eliminator 400 ครุยเซอร์คันล่าสุด ย้อนตำนาน ยุค

รีวิว Kawasaki Eliminator 400 มันคืออีกรุ่น ที่เราได้ทดสอบในสนามพีระฯ นอกเหนือจาก ZX-4R SE (อ่านได้ที่นี่)

สำหรับ Kawasaki Eliminator นั้น ไม่ใช่ Vulcan เปลี่ยนชื่อ มันมีต้นตระกูลมาตั้งแต่ปี 1985 ซึ่งไว้ เราจะมาทำประวัติ Bike History ให้ชมกันอีกที
Eliminator จัดได้ว่าเป็นรถ City ครุยเซอร์ จะเป็นพักเท้าแบบ Mid Control

สำหรับโฉม 2023 นี้ใช้เฟรมของ Z400 และ Ninja400 มาออกแบบใหม่ ให้ Low & Long มากกว่าเดิม ในสไตล์ ครุยเซอร์

ชุดไฟ Full LED ไฟหน้ากลม มีกรอบพลาสติกสีดำ และไฟท้ายทรงเรียวขนาดเล็ก

มาตรวัดถ้วยกลม Full Digital LCD บอกรายละเอียด พื้นฐานครบ ทั้งความเร็ว, วัดรอบ, อัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ย, อัตราสิ้นเปลือง Real Time
มาพร้อมระบบเชื่อมต่อ Rideology

ชุดท่อไอเสียทรงกลม ออกข้างขนานด้านขวา

ล้ออัลลอย หน้าขอบ 18″ และ หลัง 16″ โดยหน้ากว้าง 130 และ 150 ตามลำดับ

มิติรถ Eliminator 400
นน. 176 กก.
ความสูงเบาะ เพียง 735 มม. (มีออปชั่น Low Seat 715 และ High Seat 765 มม.)
ความสูงเบาะ 12 ลิตร

ท่านั่ง
เบาะสูง 735 มม. ถือว่านั่งลงหย่อนได้เต็มเท้าสบายๆ สำหรับคนตัวไม่สูง นอกจากนั้นตำแหน่งท่านั่งมันใกล้เคียงกับ Z มาก
แต่ อาจจะต่างนิดตรงที่ ท่านั่งจะดูจมกว่า เนื่องจากตำแหน่งเบาะเตี้ยกว่าและแฮนด์ยกสูงกว่านิดหน่อย แต่โดยรวมแล้วการวางพักเท้า Mid Control ทำให้มันคล้ายกับรถ Naked Bike ซึ่งก็มีทั้งคนชอบและไม่ชอบ แต่ผมชอบแบบนี้ เพราะ เน้นคอนโทรลได้สะดวก มากกว่าเน้นนั่งสบาย

นอกจากนี้ระยะแฮนด์ก็ไม่กว้างมากด้วย เป็นแฮนด์ทรงกลาง ที่ไม่กว้างยาวเกินไปในแบบรถครุยเซอร์ ที่มักจะยกสูง ยาว และงุ้มงอมาก จึงทำให้การหักเลี้ยวคอนโทรลทำได้สะดวก

ส่วนถังน้ำมัน ขนาดเรียวยาวแบน ไม่ดันช่วงเข่าเวลา หนีบ Grip Tank ทำให้หนีบถังเอียงรถเข้าได้สะดวก รวมถึง นน.ตัว สำหรับผมเป็นครุยเซอร์ที่เบามากๆ นี่คือจุดสำคัญของรถคันนี้เลย ที่ทำให้เราพลิกรถได้ง่าย

แต่ตำแหน่งพักเท้าที่อยู่ต่ำ ตามสไตล์รถครุยเซอร์ ทำให้ตั้งแต่ออกจาก Pit เลี้ยวโค้งแรกขึ้นเขา เซ็นเซอร์พักเท้าก็ครูดพื้นไปเรียบร้อย ขี่ในแทร็กแบบนี้ ครูดแทบทุกโค้งยกเว้น Chicane ถ้าใครจะเอาลงแทร็ก แนะนำขันน็อตเอาเซ็นเซอร์พักเท้าออกโลด

พละกำลังเครื่องยนต์ จากบล็อก 2 สูบ 400cc ที่วางใน Z400 และ Ninja400 มอบกำลัง 48ps@10000rpm และ 37Nm@8000rpm
มาพร้อม Assist Slipper Clutch
ต้องบอกว่า มันยังคงเป็นบล็อกเครื่องที่ขี่ได้สนุก เพราะรีดทอร์คออกมาได้ดีตั้งแต่รอบต่ำ เปิดคันเร่งแล้ว ไม่ต้องเค้นรอบสูงเหมือนตระกูล ZX ที่ได้ขี่ไปก่อนหน้า และสามารถลากรอบเล่นรอบสูงได้แบบรถสปอร์ต เพราะ Redline ถึง 12000rpm ส่วนการ Shift Down เกียร์ ก็มี Slip Assist Clutch ช่วยจึงทำให้ล้อไม่ล็อก ซึ่งรถสไตล์นี้ส่วนใหญ่ ถ้าไม่เบิ้ลเครื่องทิ้งทำ Rev Matching ผมพบว่าเจออาการล้อล็อกอยู่บ่อยครั้ง

ระบบกันสะเทือน โช้กหน้า Telescopic และ โช้กหลังคู่ ปรับสปริงได้
ภาพรวมการทำงาน ถือว่า กำลังดีพอเหมาะ มีระยะเคลื่อนตัวที่ให้ตัวได้ ต่างจากพวกครุยเซอร์ มะกัน ที่ดูจะติดแข็งไปเลย ส่วนโช้กหลังก็นั่งสบายซับแรงดี อย่างที่บอกไม่ติดแข็ง
แต่ก็อาจจะไม่ได้พลิกได้คมไวแบบโช้กหลังเดี่ยว มีระยะให้ตัวอยู่หน่อย แต่ก็ไม่ได้รู้สึกดีด จนคอนโทรลลำบากนัก
ซึ่งก็ถือว่า เหมาะสมกับสไตล์คาแรกเตอร์ของรถแล้ว

ด้านระบบเบรก โช้กหน้าและหลัง แบบจานดิสก์เดี่ยว ทำงานร่วมกับปั๊ม Nissin 2pots ทั้งหน้า-หลัง
ก็ถือว่าทำหน้าที่ได้ดีเพียงพอกับการชะลอความเร็ว พละกำลังตัวรถที่มีเหมือนๆ กับ นินจา และ Z มันไม่ได้จับจิก แต่สามารถกดไล่น้ำหนัก ได้ดี และ ABS ก็ไม่ได้ทำงานไวจนเกินไป จนรู้สึกเสียจังหวะในการเบรกควบคุมรถ

สรุป รีวิว Kawasaki Eliminator 400 เป็นครุยเซอร์ที่ น้ำหนักเบา ขี่ง่าย ขี่มันส์ การคอนโทรลรถทำได้ดีแบบ Naked Bike เลย ให้ฟีลแบบ Naked Sport แต่พักเท้าต่ำ ทำให้องศา Lean โค้งได้ไม่เยอะ ดีไซน์สวย แบบโมเดิร์น ที่มีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง ใครอยากได้รถครุยเซอร์ขี่สบาย คอนโทรลได้ดี แถมคล่องตัว เล่นรอบได้ จะมือใหม่ หรือ มือเก๋า เจ้ามือปราบจอมขบถ คันนี้ผมว่าตอบโจทย์เลย