รีวิว Royal Enfield Meteor 350 Super Nova ตัวท็อปสูบเดี่ยว ขี่ดี คอนโทรลง่าย ลบภาพจำ Classic 500 ไปเลย

รีวิว Royal Enfield Meteor 350 Super Nova สูบเดี่ยว ยุคใหม่ เพิ่มเติมเทคโนโลยี และแฝงสไตล์โมเดิร์น

รีวิว Royal Enfield Meteor 350 Super Nova เดินทางขี่สบาย ไม่เครียดเค้น

หลังจากที่ Royal Enfield Meteor 350 เปิดตัวไปเมื่อเดือนที่ผ่านมา ก่อนเข้างาน Motor Expo 2020 ล่าสุดทาง MotoRival เราก็ได้รับมันมาทดสอบเป็นที่เรียบร้อย กับ สูบเดี่ยว ที่แฝงความโมเดิร์น ซึ่งนับได้ว่าเป็นคันแรกของ Royal Enfield ที่ใส่เทคโนโลยี เพิ่มเติมเข้ามาลบภาพเพียวคลาสสิค จะมีอะไรที่น่าสนใจบ้าง และมันจะขี่ดีหรือไม่ เรามาว่ากันครับ

ต้องนับได้ว่า 350 Meteor ถือเป็นรุ่นแรก ของ RE ที่หันมาใช้ไฟ LED แล้วในโฉมขายจริง (ไม่นับ KX Concept)

เริ่มที่ชุดโคมไฟหน้ายังใช้หลอดฮาโลเจน แต่มีไฟ DRL เป็นวงแหวน LED ล้อมรอบ

ไฟท้ายทรงกลมขนาดเล็กแบบ LED
ส่วนไฟเลี้ยวเป็นทรงกลมแบบหลอดฮาโลเจน ทั้งหน้า-หลัง

ชุดมาตรวัดถ้วยกลม ดิจิตอล ผสม อนาล็อก บอกความเร็วเป็นสเกลโดยรอบ ทั้งหน่วย kmph และ mph
จอ Digital ตรงกลาง จะแสดงผล เกจ์น้ำมัน, นาฬิกา, เลขบอกเกียร์, Odo Trip A-B น่าเสียดายไม่มีวัดรอบเครื่องมาให้

จอทรงกลมด้านข้างกันเป็นจอสีดิจิตอล โดยจะต้องเชื่อมต่อแอป Royal Enfield Tripper เพื่อดึงข้อมูลมาจาก Google Maps
การแนะนำ Navigation เป็นแบบ Turn by Turn แสดงผลบนหน้าจอ MID แบบพวกรถยนต์ยุโรป คนไทย อาจจะไม่คุ้นชิน แบบนี้นัก อาจจะชินกับการใช้ตัวบาร์จับมือถือ และดูเป็นเส้นทางจาก Google Map ซื้อตัวจับมือถือหนีบ เปิด google map ที่จะมีเส้นบอกตำแหน่งปัจจุบัน ของเรา แต่อย่างไรก็ดี อันนี้ถือเป็นระบบมาตรฐานสากล และให้ความปลอดภัยได้สูงกว่าเพราะเพื่อนๆ เพียงแค่เชื่อมต่อมือถือและเก็บโทรศัพท์เข้ากระเป๋าไปได้เลย

นอกจากนี้ ยังสามารถชาร์จไฟได้ผ่านช่อง USB ที่อยู่ใต้ก้านคลัทช์
ชุดสวิทข์ไฟรูปแบบใหม่ เป็นทรงกลม

ฝั่งซ้าย บิด เปิดไฟสูง-ไฟ Pass ด้านบนนิ้วชี้ เป็นปุ่มกดปรับ Trip
ฝั่งขวา นอกจากบิด Engine Start แล้ว ด้านล่างให้ไฟ Hazard มาด้วย

ฝาถังน้ำมันโครเมียม แบบบานพับ ไม่ต้องมาคอยถือเวลาเติมน้ำมัน

คันเกียร์ จะเพิ่มที่กดส้นเท้า ใช้กดแทน งัดเกียร์ขึ้น

และสำหรับคันนี้ รุ่นท็อป Super Nova ก็จะมีไฮไลท์ เพิ่มเข้ามา อาทิ

ติดตั้งวินชิลด์หน้า

โลโก้ถังน้ำมัน แบบพรีเมี่ยม, ชุดสีเป็นแบบทูโทน

แฮนด์โครเมียม, ก้านเบรก/คลัทช์ สีเงิน

ครอบลิ้นเร่ง สีโครเมียม

ชุดท่อไอเสียสีโครเมียม

เบาะเป็นสีน้ำตาล และตัด Trim ด้ายเทา พร้อมมีพนักพิงหลัง

ล้ออัลลอย จะมิลลิ่งกัดลายให้เห็นเนื้ออัลลอย
โดยสวมยางไซส์ 100/90-19 หน้า และ 140/70-17 หลัง

มิติรถ Meteor 350
ยาวxสูง = 2,140×1,140 มม.
นน. 191 กก.
ความสูงเบาะ 765 มม.
ความจุถังน้ำมัน 15 ลิตร

ท่านั่ง
ความสูงเบาะ 765 มม. ดูเตี้ย แต่ด้วยสไตล์ครุยเซอร์ เบาะอาจจะดูหนานิดหน่อย แต่ยังไงผมยังเหยียบลงได้เต็มเท้า และหย่อนเข่าได้สบายๆ

ตำแหน่งวางเท้าเป็น Mid Forward Control คือ ไม่ถึงกับ Forward จ๋า ที่เหยียดขาไปด้านหน้า ซึ่งคันนี้ ตำแหน่งวางเท้าดีมากๆ ทั้งนั่งสบาย และก็ยังให้การคอนโทรลได้ดีเยี่ยม

ตัวคันเกียร์เพิ่มที่กดส้นเท้า ใช้กดแทน การงัดเกียร์ขึ้น ซึ่งสำหรับผมแล้วค่อนข้างชอบ เพราะว่า หลายคนที่ใส่รองเท้าผ้าใบ อาจจะรู้สึกไม่ชอบการงัดเกียร์ขึ้น เพราะทำให้รองเท้าสกปรก และขาดได้ง่าย เราก็แค่ใช้ส้นเท้ากดเข้าไปแทน

แฮนด์บาร์ ค่อนข้างกว้างสไตล์ ครุยเซอร์ นั่งได้หลังตรง สบาย ไม่เมื่อย การหักเลี้ยว ลัดเลาะ ผมถือว่ายังสะดวก แต่ถ้าต้องขี่ไปที่รถติดหนักๆ ก็อาจจะซอกแซกลำบากนิด เพราะว่า ช่วงแฮนด์ จะกว้าง และระนาบจะอยู่ในตำแหน่งเดียวกับรถยนต์ รวมถึงตัวกระจกก็จะอยู่ในระนาบพวกรถยกสูง

สำหรับภาพรวมการ ขี่ใช้งานในเมืองผมถือว่า ขี่ได้ง่าย กว่าที่คิด คล่องตัวใช้ได้เลย น้ำหนักต 191 กก. ก็ต้องถือว่พอประมาณ สำหรับรถประเภทนี้ แต่สำหรับผมเองไม่ถือเป็นอุปสรรค นะ เข็น อะไรก็ไม่ลำบากมาก แต่ ติดตรงเรื่องของช่วงแฮนด์นิด ที่อาจจะกว้างไปหน่อย ถ้าต้องซอกแซกรถติดหนักๆ

ตำแหน่งผู้ซ้อน ต้องบอกว่า นั่งได้ไม่เต็มก้นดีนัก แต่ตัวเบาะก็ยังมีความหนานั่งได้สบายดีอยู่
และโชคดีที่คันนี้ มีพนักพิงหลังมาให้ ทำให้ไม่จำเป็นต้องจับมือจับหลังก็ได้ ส่วนมือจับหลัง ขนาบกับตัวเบาะ อาจจะจับได้ไม่กระชับเท่าที่ควร

เครื่องยนต์ลูกใหม่ สูบเดียว SOHC ระบายความร้อนด้วยอากาศ
รหัส “UCE350” ความจุ 349cc
มีกำลัง 20.2 bhp@6,100rpm แรงบิด 27 Nm@4,000rpm
ส่งกำลังด้วยเกียร์ 5 Speed

จากการใช้งานจริง สำหรับผม ถือว่าทำได้ดีตามที่คาดหวัง
สูบเดี่ยว ชักยาว อัตราเร่งช่วงต้น-กลาง ถือว่า ok เลย
แต่ช่วงปลายก็ต้องบอกว่าไม่ดีมากนัก คันนี้ทำได้ที่ 120 กม./ชม. ซึ่งที่ผมสงสัย คือ เมื่อเข็มทะลุ 120 ลงไปเล็กน้อย จะถูกตีกลับมา 120 และเท่าที่ดูเหมือนกำลังยังพอมีเหลือน่าจะไปต่อได้อีก จากที่ผมสอบถามทาง Royal Enfield ได้รับการยืนยันว่าถูกล็อก ความเร็ว ตามข้อกฎหมายของรถพิกัดนี้ ของทางประเทศอินเดีย

ซึ่งผมได้ทำคลิปทดสอบอัตราเร่ง- TopSpeed แล้ว ตามคลิปนี้ครับ

ขณะที่เรื่องการสั่นสะเทือน ให้ลืม สูบเดี่ยว 500 ตระกูล Classic/Bullet ไปได้เลย คือ อาการสะท้านขึ้นมือ หรือ เท้าไม่มีอีกต่อไป สมูทขึ้น ขี่ได้สบายๆ แต่ด้วยความที่เป็นสูบเดี่ยว ก็อาจจะต้องมีสั่นอยู่บ้าง แต่โดยรวมสำหรับผมแล้ว ไม่เป็นปัญหา ครับ

จุดที่ถือเป็นข้อสังเกตุ ด้วยการที่ไม่มีวัดรอบให้ เวลาเปลี่ยนเกียร์ ต้องกะจังหวะรอบเครื่อง หรือ ดูจากความเร็วเอาเอง

อัตราสิ้นเปลืองก็ ถือว่าใช้ได้ระดับ 32-33 กม./ลิตร บิดแบบแช่ยาวๆ ซัดเต็ม 120 กม./ชม.

ระบบกันสะเทือน ด้านหน้าแบบ
โช้กหน้าหัวตั้ง ขนาดแกน 41 มม. มีช่วงยุบ 130 มม. และ โช้กคู่ด้านหลังปรับ Preload ได้ 6 Step

ด้านหน้า ถือว่า กำลังดีใช้ได้เลย นุ่มซับแรง และมีความหนืด ที่พอเหมาะ รวมไปถึงล้อหน้าขอบ 19″ โดยรวม ให้การพลิกเลี้ยวที่คล่องแคล่ว เลี้ยวคอนโทรลง่าย ส่วนกริปยาง ก็ถือว่า ok แล้ว
ด้านหลัง การเซ็ทติ้งเดิมๆ จากโรงงาน สำหรับผม ยังดูไม่นุ่มสบายเท่าไร ถ้ามองว่าเป็น ครุยเซอร์ อยากให้มัน ยืดหยุ่นกว่านี้หน่อย เพราะ คันนี้ เซ็ทออกตึงๆ ไปสักนิด คนซ้อนท้าย ยังแอบรู้สึกสะเทือนอยู่หน่อย

ระบบเบรก ABS
ด้านหน้าขนาดจานดิสก์ 300 มม. คาลิปเปอร์ 2 ลูกสูบ
ด้านหลัง 270 มม. คาลิปเปอร์ 1 ลูกสูบ

สำหรับสไตล์เบรก ต้องบอกว่าออกแนวมานิ่มๆ เลย ต้องไล่น้ำหนักลงไปเยอะเสียหน่อย
แต่ถ้าถามว่าเอาอยู่ไหม ผมต้องบอกว่า มันให้สเป็กเบรกมาพอเหมาะกับสไตล์ของรถแล้ว
แต่ถ้าใครสายซัดตลอด อันนี้ ก็คงต้องแนะนำว่าให้เผื่อระยะกันหน่อยล่ะครับ

สรุป รีวิว Royal Enfield Meteor 350 ถือเป็น Easy Cruiser
พิกัดเล็ก ไซส์เริ่มต้นที่จำหน่ายในบ้านเรา

เครื่องยนต์ ดีตามคาด อัตราเร่งใช้ได้ แต่ปลายอาจจะไม่มี
แต่จุดที่ผมประทับใจ เรื่องของฟีลลิ่งการขี่ การควบคุม คือ มันสบายมากกว่าที่คิด การเลี้ยวก็พลิกเลี้ยวได้ง่าย คือ ขี่ง่ายสบายๆ
จะใช้งานในเมือง หรือ เดินทางไกลก็ได้ แต่ ถ้ารถติดหนักๆ ก็อาจติดติดตรงเรื่องของช่วงแฮนด์นิดหน่อย

ส่วนราคา ตั้งอาจจะดูสูง แต่ ก็อยาให้เพื่อนๆ มองเรื่องดอกเบี้ยเป็นดอกรถใหญ่ ซึ่งถ้าเป็นรถพิกัดประมาณนี้ ในตลาดทั่วไป อาจจะเป็นดอกรถเล็ก โดยรวมแล้วยอดที่จ่ายทั้งหมด
น่าจะถูกกว่าพวกรถ 300 ที่ต้องซื้อตามร้านเล็กๆ อีก

2021 Royal Enfield Meteor 350 มีด้วยกัน 3 รุ่น 3 ราคา
Meteor 350 Fireball เริ่ม 1.5 แสนบาท มากับสีเหลือง, แดง
Meteor 350 Stellar รุ่นกลาง 1.55 แสนบาท มีสี น้ำเงิน, แดง, ดำด้าน
Meteor 350 Supernova รุ่นท็อป คันนี้ 1.595 แสนบาท มีสี น้ำตาลทูโทน และสีฟ้าทูโทน