Suzuki Hayabusa 2022 เปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้วเรียบร้อยในไทยเมื่อวันศุกร์ ที่ 23 กรกฏาคมที่ผ่านมา ในวันนี้เราจึงขอพาเพื่อนๆมาดุกันสักหน่อยดีกว่าครับว่า เจ้าเหยี่ยวอ้วนรุ่นที่ 3 คันนี้ ได้รับการปรับปรุง หรือปรับเปลี่ยนไปมากมายขนาดไหนกัน ?
โดยสำหรับการปรับโฉม Hayabusa 2022 ในครั้งนี้ หลักๆแล้วก็จะเริ่มจากการปรับเปลี่ยนชุดแฟริ่งภายนอกใหม่ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นการใช้ชุดระบบไฟส่องสว่างรอบคันแบบ LED ทั้งในส่วนของไฟหน้ากรอบคล้ายเดิม แต่แบ่งส่วนกันระหว่างช่องไฟ LED ด้านบนกับดวงโปรเจ็กเตอร์ด้านล่าง, ไฟกรอบปากท่อ RAM-AIR แบบมีแถบไฟ DRL, และไฟท้ายที่ออกแบบใหม่ให้มีความกว้าง และดูมีมิติมากกว่าเดิม
ส่วนเส้นสายหลักของตัวรถต่างๆก็จะยังคงคล้ายเดิม แต่มีการเพิ่มรายละเอียดใหม่ๆเข้าไปเพื่อให้ตัวรถดูมีความโฉบเฉี่ยวมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับชิ้นแฟริ่งข้างแบบมีแถบวิงเล็ทซ่อนไว้ด้านใน ช่วยในการระบายความร้อน เสริมด้วยกรอบโครเมียมเพื่อความสะดุดตา ตูดมดด้านหลังออกแบบใหม่ให้มีช่องไล่อากาศ แม้แต่ท่อไอเสียเองก็ยังปรับทรงใหม่ให้มีความเรียวแหลม เพื่อการลู่ลม และหลบองศาตอนเข้าโค้งได้อย่างพอดิบพอดี
ด้านชุดเฟรมของมันก็ยังคงเป็นแบบอลูมิเนียมทวินสปาร์แบบเดิมที่ถูกพัฒนามาอย่างยาวนานตั้งแต่ Hayabusa รุ่นแรก โดยมันจะทำงานร่วมกับชุดระบบกันสะเทือนด้านหน้าแบตะเกียบคู่หัวกลับจาก KYB ใช้แกนเคลือบสาร DLC ขนาด 43 มิลลิเมตร สามารถปรับเซ็ทได้ทุกค่า และโช้กหลังเองก็เป็นของ KYB เช่นกัน โดยจะเป็นแบบโช้กแก๊สต้นเดียว ปรับเซ็ทได้ทุกค่าทำงานร่วมกับกระเดื่องทดแรงและสวิงอาร์มอลูมิเนียมแขนคู่ขนาดใหญ่, ชุดระบบเบรกด้านหน้าจัดเต็มด้วยเรเดียลเมาท์คาลิปเปอร์ Brembo Stylema ทำงานร่วมจานเบรกคู่ขนาดใหญ่, ระบบเบรกด้านหลังเป็นโฟลทติ้งเมาท์คาลิปเปอร์จาก Nissin, และชุดอัลลอยด์ก็รัดด้วยยางไซส์ 120/70ZR17 กับ 190/50ZR17 ตามลำดับหน้า-หลัง
ขุมกำลังของ Hayabusa 2022 สรุปแล้วจะยังคงเป็นบล็อค 4 สูบเรียง ความจุ 1,340cc ลูกเดิมกับ Hayabusa Gen.2 แต่ด้วยยุคสมัยที่เปลี่ยนไป จึงทำให้ทาง Suzuki ไม่พลาดที่จะปรับจูนชิ้นส่วนภายในของมันใหม่ให้ทำงานได้อย่างราบลื่นยิ่งขึ้น ทั้งปรับองศาแคมชาฟท์ใหม่, ลดขนาดปากลิ้นเร่งลงเพื่อเพิ่มแรงดันของอากาศขาเข้า, ยืดความยาวปากแตรอีก 12 มิลลิเมตร เพื่อเพิ่มแรงบิดในช่วงรอบต้น-กลาง, หัวฉีดคู่แบบใหม่, ปรับปรุงทางเดินน้ำมันเครื่องภายในเพลาข้อเหวี่ยงเพื่อความทนทานที่มากขึ้น (แม้ของเดิมจะจัดว่าถึกอยู่แล้ว), พร้อมปรับไอเสียให้ผ่านมาตรฐานมลพิษระดับ Euro5 พร้อมเคลมกำลังสูงสุด 140 กิโลวัตต์ หรือ 187.7 แรงม้า ที่ 9,700 รอบ/นาที กับแรงบิดสูงสุดอีก 150 นิวตันเมตร ที่ 7,000 รอบ/นาที และมีการอัพเกรดระบบเกียร์ Slipper-Clutch มาให้แล้ว
และแม้ในเรื่องชิ้นส่วนโครงสร้างหลักๆทั้งหมดที่ไล่เรียงมา เอาจริงๆแล้วจะแทบไม่ต่างจาก Hayabusa รุ่นก่อน (เพราะค่อนไปทางการปรับปรุงแบบต่อยอดมามากกว่า) แต่ในด้านระบบอิเล็กทรอนิกส์ต่างๆที่ให้มา ต้องบอกว่า Hayabusa รุ่นล่าสุดนี้ ถูกใส่ไข่มาเต็มขั้น ไม่ว่าจะเป็นชุดคันเร่งไฟฟ้า, ชุดเซนเซอร์วัดแรงเฉื่อย IMU แบบ 6 แกน, Power Mode 3 ระดับ, Anti-lift Control system 10 ระดับ (ปิดได้), Engine Brake Control system 3 ระดับ (ปิดได้), Motion Track Traction Control System 10 ระดับ (ปิดได้), Quick-Shifter 2 ทาง, Launch Control System 3 ระดับ, Emergency Stop Signal, Slope Dependent Control System, Hill Hold Control System, Active Speed Limiter (ระบบล็อคความเร็วสูงสุด), Cruise Control System, และ Motion Track Brake System, Cornering-ABS ซึ่งทั้งหมดนี้จะถูกแสดงผลบนหน้า TFT ตรงกลางคอนโซลรถทั้งหมด โดยยังคงมีชุดมาตรวัดแบบเข็มกวาด 4 วง อันเป็นเอกลักษณ์ของเจ้าเหยี่ยวอ้วนมาให้ตามเดิม
ด้านตัวเลขราคา Suzuki Hayabusa 2022 ยังคงไม่มีการเปิดเผยข้อมูลจุดนี้ออกมาใดๆทั้งสิ้น แต่คาดว่าจะถูกประกาศออกมาในเร็วๆนี้ ส่วนทาง Suzuki Motorcycles ประเทศไทยจะมีการนำเข้าแล้วเอาตัวรถ เหยี่ยวอ้วน รุ่นนี้มาวางจำหน่ายในบ้านเราหรือไม่ ? ก็ยังไม่มีใครสามารถระบุข้อมูลที่แน่ชัดได้เช่นกัน แต่นั่นไม่ได้หมายความว่ามันจะเป็นไปไม่ได้
อ่านข่าวสาร Suzuki เพิ่มเติมได้ที่นี่
