Tiger 850 Sport ได้ฤกษ์เผยโฉมออกมาสักทีในค่ำคืนที่ผ่านมา ในฐานะไลน์อัพใหม่ของ Tiger 900 ที่ถูกปรับออพชันให้แตกต่างจากทั้ง Tiger 900 GT กับ Tiger 900 Rally มากกว่าเดิม โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการปรับสเปคต่างๆให้ลูกค้าสามารถจับต้องได้ง่ายมากยิ่งขึ้น
แต่ถึงจะบอกว่า Tiger 850 Sport คือ Tiger 900 ที่ถูกตอนสเปคลง ทว่าในความเป็นจริงแล้ว มันก็ยังคงใช้เครื่องยนต์ 3 สูบเรียง ความจุ 888cc เช่นเดียวกับ Tiger 900 เพียงแต่ถูกปรับเปลี่ยนชิ้นส่วนภายในและปรับจูนกล่องใหม่ให้พละกำลังสูงสุดของมันเหมาะสำหรับผู้ขี่หน้าใหม่มากกว่าเดิม นั่นคือ 84 bhp ที่ 8,500 รอบ/นาที จาก 93.9bhp ที่ 8,750 รอบ/นาที และแรงบิดสูงสุดก็เหลือ 82 Nm ที่ 6,500 รอบ/นาที จาก 87 Nm ที่ 7,250 รอบ/นาที ส่วนชุดคลัทช์จะยังคงมีระบบแอสซิสต์สลิปเปอร์คลัทช์ให้อยู่เช่นเดิม
ขณะที่ในด้านระบบอิเล็กทรอนิกส์ต่างๆก็ถูกทอนสเปคลงเหมือนกัน ไม่ได้มีความหลากหลายเท่าเดิม อย่างเช่นชุดหน้าจอ TFT ที่ลดขนาดจอจาก 7 นิ้ว เหลือ 5 นิ้ว, ตัดระบบ Triumph Connect ออกไป, ไม่มีระบบควิกชิฟท์เตอร์ 2 ทาง ขึ้น/ลงมาให้ (แต่ยังเป็นคันเร่งไฟฟ้า), โหมดการขับขี่ เหลือเพียง Road/Rain, และ Traction Control ที่เหลือแค่เพียงฟังก์ชันการเปิด/ปิด
อย่างไรก็ดี ด้วยความที่ยังไง Tiger 850 คันนี้ ใช้พื้นฐานตัวรถเดียวกันกับ Tiger 900 จึงทำให้ชุดเฟรมแบบโครงเหล็ก, ชุดโช้กหน้าตะเกียบคู่หัวกลับขนาดแกน 45 มิลลิเมตร ด้านหลังโช้กเดี่ยว พร้อมสวิงอาร์มอลูมิเนียม ต่างก็เป็นของ Marzocchi เช่นเดิม เพียงแต่ด้านหน้าจะถูกตัดออพชันการปรับเซ็ทความหนืดไป และด้านหลังก็เหลือเพียงการปรับพรีโหลด
ฝั่งระบบเบรกจะยังคงจัดเต็มอยู่ เพราะยังเป็นปั๊มเบรกคู่หน้า Brembo Stylema ทำงานร่วมกับจานเบรกขนาด 320 มิลลิเมตร ด้านหลังคาลิปเปอร์เบรก Brembo เช่นกันแต่เป็นแบบ 1 พอร์ท ทำงานร่วมจานเบรกขนาด 255 มิลลิเมตร และชุดล้ออัลลอยด์เองก็ยังคงรัดด้วยยางไซส์ 100/90-19 กับ 150/70R17 ตามลำดับหน้า-หลังเช่นกัน
นอกนนั้นระบบไฟส่งสว่างรอบคันยังคงเป็นแบบ Full-LED, ชิลด์หน้าสามารถปรับระดับความสูง-ต่ำได้ 50 มิลลิเมตร, เบาะนั่งปรับความสูง-ต่ำได้ 2 ระดับ (810 มม. /830 มม.), มีพอร์ทชาร์จไฟแบบ 12v มาให้, และถังน้ำมันอีก 20 ลิตรเท่าเดิม โดยทั้งหมดที่ว่ามานี้ คาดว่าจะทำให้ Triumph Tiger 850 Sport ราคาถูกลงจาก Tiger 900 GT ตัวล่างสุดอีกราวๆ 8,000 บาท เหลือราวๆ 372,000 บาท ซึ่งนี่ยังเป็นแค่เพียงราคาสำหรับวางจำหน่ายในประเทศอังกฤษเท่านั้น ส่วนในไทยยังต้องรอติดตามข้อมุลกันต่อไปว่าทาง Triumph Motorcycle จะมีการนำมันมาวางจำหน่ายในประเทศไทยหรือไม่ ?
อ่านข่าว Triumph เพิ่มเติมได้ที่นี่
