ปฏิเสธไม่ได้จริงๆว่านับวัน ผลงานของ Yamaha ในเวที MotoGP ก็มีแต่จะน่าเป็นห่วงขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับในปีนี้ที่เครื่องยนต์มีปัญหาอย่างมากในเรื่องความคงทน ซึ่งต่างกับ Suzuki MotoGP ที่ใช้เครื่องยนต์รูปแบบคล้ายๆกันแต่ผลงานกลับดีวันดีคืน จนถึงขนาดที่ Valentino Rossi เองก็อยากให้ต้นสังกัดของตนเอาแบบนี้บ้าง
“ผมเปิดคันเร่งตอนออกจากโค้ง 4 แล้วจู่ๆรถก็เงียบไป, ผมไม่ได้โมโหเลยนะ, ผมรู้สึกหัวเราะด้วยซ้ำ” Rossi กล่าวถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในการแข่งขันเรซล่าสุด ณ ศึก EuropeanGP 2020 กับสื่อ GPone.com “พวกเค้าบอกผมว่าผมเจอปัญหาที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในรอบสิบสองปี, แต่เครื่องยนต์ไม่ได้พังนะ”
งั้นนี่ก็เป็นแการแข่งแห่งหายนะของ Yamaha ? (เพราะนักบิดแต่ละคนต่างก็ทำอันดับได้ไม่ดีเท่าที่ควรกันหมด)
“ผมคิดว่าเรามีหลายสิ่งที่ต้องเรียนรู้จาก Suzuki, นับตั้งแต่เราใช้เครื่องยนต์ 4 สูบเรียง, พวกเค้าก็บอกว่ามันเป็นแนวทางดั้งเดิม, แต่พวกเค้าก็พิสูจน์ว่านั่นไม่ใช่ปัญหา, การแข่งขัน MotoGP มันเปลี่ยนไปมากในช่วงห้าหรือหกปีที่ผ่านมา, ในบางที, มันก็เหมือนๆกับ Formula 1, แต่ Yamaha ไม่ได้ขยับไปข้างหน้าเลย, วิศวกรที่ทำงานกับเครื่องยนต์ใน Yamaha ต้องเข้าใจในสิ่งนี่, คู่แข่งของเราไม่ได้แค่เหนือกว่าในทางเทคนิคเท่านั้น แต่ยังเหนือกว่าตั้งแต่ในด้านวิศวกรรมด้วย”
แต่วันก่อนคุณบอกว่าปัญหาใหญ่ที่สุดของคุณคือเครื่องยนต์ ?
“มันมีบางอย่างผิดปกติ, เพราะปกติแล้ว, ถ้าคุณเร็ว เครื่องยนต์ก็จะเปราะ, หรือถ้าคุณช้า เครื่องยนต์ก็จะเหนียว, แต่ของเรามันทั้งช้าทั้งเปราะ, เรามีปัญหาทั้งคู่เลย, แล้วไม่ใช่แค่นั้น, จุดแข็งอย่างหนึ่งของ Yamaha ที่เป็นมาตลอดคือความนุ่มนวลในการเรียกแรง, แต่ตอนนี้คู่แข่งของเราทำได้ดีกว่าเราในด้านนี้ด้วย, พอรวมปัญหาทั้งหมดนี้ไว้ด้วยกัน เราก็เข้าใจว่าทำไมเราถึงอยู่ตรงนี้”
แต่การพัฒนาเครื่องยนต์ในปีหน้าจะถูกแช่แข็ง (ห้ามพัฒนาเครื่องยนต์) แล้วคุณจะทำยังไง ?
“เรื่องนี้ไม่ใช่ข้ออ้าง, ใน MotoGP คุณสามารถปรับปรุงในด้านอื่นได้, ยกตัวอย่างเช่นระบบอิเล็กทรอนิกส์, ระบบหล่อเย็น, ท่อไอเสีย, ไอ้นู่น, ไอ้นี่, ถ้า Yamaha ทำได้ดี และทำในทางที่ถูก, เราก็ไปต่อได้”
อ่านข่าวสาร MotoGP เพิ่มเติมที่ได้ที่นี่
