เปรียบเทียบข้อมูลทางเทคนิค 2 Cafe Racer แบรนด์ไทย GPX Legend Gentleman VS Stallions Centaur Makina 250

0

อย่างที่ใครหลายๆคนทราบกันดีว่าเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาทาง Stallions ได้เปิดตัวรถมอเตอร์ไซค์โมเดลใหม่ของทางค่ายออกมานั่นก็คือ Centaur Makina 250 ซึ่งโมเดลที่ว่านี้จะเน้นไปที่ตลาด Cafe Racer ซึ่งตรงกับอีกหนึ่งมอเตอร์ไซค์แบรนด์ไทยอย่าง GPX Legend Gentleman ที่จัดอยู่ในกลุ่มรถมอเตอร์ไซค์แนวนี้เช่นกัน ดังนั้นในวันนี้เราก็จะพาเพื่อนๆไปดูข้อแตกต่าง ข้อดี ข้อได้ แบบหมัดต่อหมัดให้ได้รับชมกัน มาเริ่มเลยดีกว่าครับ

เครื่องยนต์

stallions-makina-250-highlight-04
Stallions Centaur Makina 250 : สูบเดียว 223cc / SOHC / ระบายความร้อนด้วยอากาศ / ติดตั้งระบบออยคูลเลอร์

Review-GPX-Legend-Gentleman_200_Engine_3
GPX Legend Gentleman : สูบเดียว 197cc / SOHC / ระบายความร้อนด้วยอากาศ / ติดตั้งระบบออยคูลเลอร์

ในจุดนี้จะเห็นได้ว่าโดยลักษณะทางกายภาพแล้ว ทั้งสองคันนี้มีพื้นฐานเครื่องยนต์คล้ายๆกันทั้งเป็นเครื่องยนต์สูบเดียว, แคมเดียว, ระบายความร้อนด้วยอากาศ, และมีระบบออยคูลเลอร์เหมือนกันทั้งหมด และจะไปแตกต่างตรงที่ตัวเลขความจุเครื่องยนต์ซึ่งทางฝั่ง Makina ก็ได้ให้ความจุเครื่องยนต์มาสูงกว่าราวๆ 26cc ด้วยกัน ซึ่งเอาจริงๆแล้วก็ไม่ได้ต่างอะไรมากมายนัก แต่น่าจะให้ความรู้สึกถึงพละกำลังที่ต่างกันอยู่ประมาณหนึ่ง

ระบบกันสะเทือน

Stallions-Centaur-Makina-150-250_8
Stallions Centaur Makina 250 : ด้านหน้า ตะเกียบคู่หัวกลับ (ขนาดแกน 41 มิลลิเมตร), ด้านหลัง โช้กแก๊สคอยล์โอเวอร์คู่มีซับแทงค์แยก ปรับแข็ง/อ่อนได้ 5 ระดับ

Review-GPX-Legend-Gentleman_200_32
GPX Legend Gentleman : ด้านหน้า ตะเกียบคู่หัวกลับ, ด้านหลัง โช้กคอยล์โอเวอร์เดี่ยว ปรับแข็ง/อ่อนได้ 6 ระดับ จาก YSS พร้อมกระเดื่องทดแรง

ในส่วนของระบบกันสะเทือนก็ยังคงมีความคล้ายคลึงอยู่เช่นกัน เพราะทั้งคู่ต่างก็ใจป้ำติดตั้งโช้กตะเกียบคู่หัวกลับมาให้ ในขณะที่ตัวโช้กหลังกลับต่างกันอย่างเห็นได้ชัด

stallions-centaur-150-250-lofficial-launch-64เพราะในฝั่งของน้องใหม่ Makina จะใช้โช้กแก๊สคู่มีซับแทงค์แยกปรับแข็ง/อ่อนได้ 5 ระดับซึ่งให้อารมณ์สปอร์ตคลาสสิค

Review-GPX-Legend-Gentleman_200_56ส่วนในตัว Gentleman ก็เลือกใช้โช้กเดี่ยวพร้อมกระเดื่องทดแรงซึ่งให้อารมณ์แบบสปอร์ตสมัยใหม่มากกว่า แถมตัวโช้กยังผลิตโดย YSS ซึ่งสามารถปรับความแข็ง/อ่อนได้ละเอียดกว่าเล็กน้อยคือ 6 ระดับอีกด้วย

ระบบเบรก

Stallions-Centaur-Makina-150-250_7
Stallions Centaur Makina 250 : ด้านหน้า จานเบรกคู่ทำงานคู่กับเรเดียลเมาท์คาลิปเปอร์ 4 ลูกสูบ, ด้านหลัง จานเบรกเดี่ยวทำงานคู่กับคาลิปเปอร์เบรกแบบลอยตัว

Review-GPX-Legend-Gentleman_200_Brake_3
GPX Legend Gentleman : ด้านหน้า จานเบรกคู่ทำงานคู่กับเรเดียลเมาท์คาลิปเปอร์ 4 ลูกสูบ, ด้านหลัง จานเบรกเดี่ยวทำงานคู่กับคาลิปเปอร์เบรกแบบลอยตัว

ระบบเบรกเองก็จัดเต็มด้วยระบบดิสคู่พร้อมเรเดียลเมาท์คาลิปเปอร์ 4 พอร์ท ส่วนล้อหลังก็เป็นดิสเบรกทำงานคู่กับคาลิปเปอร์ 1 พอร์ท เหมือนกันทั้งสองคัน ราวกับจะออกมาชนกันตรงๆให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย ซึ่งน่าเสียดายที่เราไม่สามารถหาข้อมูลในส่วนของขนาดจานเบรกมาให้ได้ ในขณะที่ฟีลลิ่งการขับขี่นั้นเราอาจจะต้องมาวัดกันอีกทีตอนได้ทดลองขับจริงแล้วว่าคันไหนจะให้สัมผัสการทำงานได้ดีกว่ากัน

ล้อ/ยาง

stallions-centaur-150-250-lofficial-launch-21
Stallions Centaur Makina 250 : ล้อซี่ลวดขอบ 17 นิ้ว รัดด้วยยาง iRC รุ่น iZ-S ขนาด 120/70-17 สำหรับล้อหน้า และ 160/60-17 สำหรับล้อหลัง

Review-GPX-Legend-Gentleman_200_31
GPX Legend Gentleman : ล้อซี่ลวดขอบ 17 นิ้ว รัดด้วยยาง Pirelli รุ่น Angel C.T. ขนาด 110/70-17 สำหรับล้อหน้า และ 150/70-17 สำหรับล้อหลัง

ชุดล้อยางก็ถือว่าให้มาตรงตามคอนเซปท์ Cafe Racer ด้วยกันทั้งคู่ แต่จุดแตกต่างหลักๆของทั้งสองคันนี้เลยก็คือแบรนด์ยางแลถไซส์ยาง โดยทาง Makina ได้รับการติดตั้งยางแบบกึ่งสลิกของ iRC รุ่น iZ-S ขนาด 120 และ 160 มาให้ ในขณะที่ตัว Legend ก็ใช้ยางแนวสปอร์ตถนนอย่าง Pirelli Angel C.T. ซึ่งมีขนาดเล็กกว่านิดหน่อย แต่ก็ค่อนไปทางใหญ่อยู่ดีสำหรับรถซีซีไม่เกิน 400 แบบนี้

มิติตัวรถ ( กว้าง x ยาว x สูง )

stallions-centaur-150-250-lofficial-launch-01
Stallions Centaur Makina 250 : 760 x 1,990 x 1,020 มิลลิเมตร

Review-GPX-Legend-Gentleman_200_10
GPX Legend Gentleman : 790 x 2,020 x 1,160 มิลลิเมตร

จากตัวเลขที่เราได้รับมาจะเห็นได้ว่าตัว Makina เล็กกว่าในทุกสัดส่วนไม่ว่าจะเป้นด้านกว้าง ด้านยาว หรือด้านสุง ส่งผลให้ความสามารถในการมุดช่องจราจรต่างๆย่อมทำได้สะดวกกว่า แต่ถ้าเทียบกับแล้วเอาจริงทางฝั่ง Gentleman ก็มีความกว้างเยอะกว่าแค่ข้างละ 15 มิลลิเมตร หรือเพียง 1.5 เซนติเมตรเท่านั้นซึ่งก็ไม่ได้ต่างกันจนชนิดที่ว่าถ้า Makina ไปได้ Gentleman ก็ไปไม่ได้เลย อาจจะมีเฉพาะช่องการจราจรที่แคบจริงๆเท่านั้นถึงจะเริ่มเห็นความต่าง

ระยะฐานล้อ

stallions-makina-250-highlight-10
Stallions Centaur Makina 250 : 1,380 มิลลิเมตร

Review-GPX-Legend-Gentleman_200_Cover
GPX Legend Gentleman : 1,400 มิลลิเมตร

ในส่วนของฐานล้อแม้ว่าทาง Makina จะให้ cc มาเยอะกว่า แต่กลับเซ็ทค่าฐานล้อมาสั้นกว่าถึง 20 มิลลิเมตร ทำให้ความสามารถในการผลิกตัวไปมาในโค้งน่ามุมแคบๆจะทำได้ดีกว่าพอสมควรเมื่อเทียบกับ Gentleman แต่อย่างไรก็ดีด้วยลักษณะแฮนด์ควบคุมที่ต่างกัน (Makina เป็นแฮนด์จับโช้กวางใต้แผงคอแบบสปอร์ตเรพพลิก้า ส่วน Gentleman เป็นแฮนบาร์ทรงกว้างแบบแน็คเก็ทไบค์) ทำให้ความง่ายในการสั่งเลี้ยวย่อมตกไปที่ฝ่ายหลังมากกว่า (แต่ก็ยอมรับว่าต้องแลกกับความรู้สึกสปอร์ตที่น้อยลงทันที)

ความสูงเบาะ + ตำแหน่งท่านั่ง

stallions-centaur-150-250-lofficial-launch-08
Stallions Centaur Makina 250 : 800 มิลลิเมตร

Review-GPX-Legend-Gentleman_200-Ride-Position_2
GPX Legend Gentleman : 730 มิลลิเมตร

Review-GPX-Legend-Gentleman_200-Ride-Position_1ด้านตัวเลขความสูงเบาะนี้อาจจะเป็นเพียงสิ่งเดียวที่แตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด เพราะในตัว Gentleman เรียกได้ว่ามีความสูงเบาะที่เป็นมิตรกับผู้ขับขี่ไซส์เล็กมากๆ เพราะสูงเพียง 730 มิลลิเมตรเท่านั้น ซึ่งแทบจะเทียบเท่ากับรถมอเตอร์ไซค์แม่บ้านทั่วไป แถมตัวแฮนด์ก็ยังเป็นแบบแฮนด์บาร์ทรงกว้างอีก ก็ยิ่งทำให้ท่านั่งในการขับขี่เป็นมิตรกับผู้ใช้ขึ้นไปอีก แต่ข้อเสีย คือ มันกว้างเกินไป จนทำให้ ขี่ในเมืองลำบาก และกางแขนมากไปหน่อย ซึ่งดูจะเป็นท่าการควบคุมที่ดูแปลกๆ บนรถ คาเฟ่

stallions-centaur-150-250-lofficial-launch-23ในขณะเดียวกันเมื่อมองไปทางฝั่ง Makina แล้วก็จะเห็นได้ทันทีว่าตัวเลขความสูงเบาะระดับ 800 มิลลิเมตรนี้จัดว่าเทียบเท่ากับสปอร์ตไบค์ของค่ายเจ้าตลาดทั้งหลายซึ่งเราจะบอกว่าสูงก็ไม่ใช่ แต่อาจจะต้องมีเขย่งคร่อมกันนิดหน่อยสำหรับผู้ขับขี่ไซส์เล็ก และเมื่อรวมกับแฮนด์จับโช้กที่วางไว้อยู่ใต้แผงคอ ซึ่งจากการที่เราได้ลองสังเกตุความสูงของระดับแฮนด์ก็พบว่าตัวผู้ขี่อาจจะต้องก้มขับพอสมควร ดังนั้นสิ่งที่จะเกิดขึ้นก็คือความเมื่อยล้าในช่วงแขนที่อาจจะมากกว่าปกติ แต่ก็แลกมาซึ่งท่านั่งที่เป็นสปอร์ต ตามแบบต้นฉบับคาเฟ่ ขนานแท้

น้ำหนักตัวรถ

stallions-makina-250-highlight-06
Stallions Centaur Makina 250 : 135 กิโลกรัม

Review-GPX-Legend-Gentleman_200_08
GPX Legend Gentleman : 160 กิโลกรัม

ณ จุดๆนี้คงไม่ต้องสาธยายอะไรกันมากมายนัก เพราะน้ำหนักโดยรวมของทั้งสองคันนั้นต่างกันถึง 25 กิโลกรัมเลยทีเดียว ทำให้ความรู้สึกในตอนที่ต้องลากจูงรถออกจากซองหรือออกจากบ้านอาจจะมีเหนื่อยกว่ากันเยอะ และรวมถึงภาระโหลดที่ตัวเครื่องยนต์ต้องรับไปอาจจะสร้างความต่างในเรื่องอัตราเร่งได้อีกพอสมควร

จุดเด่นอื่นๆ

stallions-makina-250-highlight-05
Stallions Centaur Makina 250 : มาตรวัดเรือนกลมคู่แสดงผลแบบอนาล็อคผสมดิจิตอล,

stallions-makina-250-highlight-02ชุดไฟหน้า LED โคมกลมมีแถบ DRL ล้อมรอบ,

Stallions-Centaur-Makina-150-250_2ไฟท้าย LED ทรงกลม, ไฟเลี้ยวทรงกลมหลอดใส้,

stallions-centaur-150-250-lofficial-launch-19กระจกปลายแฮนด์

gpx-legend-gentleman-200_34
GPX Legend Gentleman : มาตรวัดเรือนทรงกลมแสดงผลแบบฟูลดิจิตอลสามารถปรับสีได้ 7 แบบ,

Review-GPX-Legend-Gentleman_200_15ชุดไฟหน้าโคมกลมหลอดไส้ มีหลอดแถบ DRL ล้อมรอบ,

Review-GPX-Legend-Gentleman_200_36ไฟท้าย LED ทรงสี่เหลี่ยม รวมถึงไฟเลี้ยวก็เป็น LED เช่นกัน นอกจากนี้ยังให้ครอบตูดมด มาด้วยซึ่งสามารถถอดออกได้กรณีมีผู้ซ้อน

หน้าตา/เส้นสายโดยรวม

gpx-legend-vs-stallions-makina-compare-01
ในส่วนของหน้าตาโดยรวม แม้ในข้างต้นเราจะได้กล่าวไปแล้วว่าทั้งสองคันนี้มีหน้าตาในแบบ Cafe Racer เหมือนกัน แต่ถ้าดูรายละเอียดดีๆแล้วจะเห็นได้ว่าในตัว Stallions Centaur Makina 250 จะมีความเป็นคลาสสิคในรูปทรงมากกว่า ในขณะที่ GPX Legend Gentleman ก็จะเน้นไปทางลูกผสมระหว่างความ Neo และความคลาสสิค หรือร่วมสมัย ดังนั้นในจุดนี้อาจจะต้องวิเคราะห์ในความชอบส่วนตัวของเพื่อนๆกันดูนะครับ ว่าชอบแบบไหนมากกว่ากัน

ปิดท้ายด้วยภาพตารางสเปคของทั้งสองคันอีกเช่นเคย
gpx-legend-vs-stallions-makina-compare-02

อ่านข่าวสาร GPX เพิ่มเติมได้ที่นี่
อ่านข่าวสาร Stallions เพิ่มเติมได้ที่นี่

เพื่อนๆ Bikers สามารถติดตามข่าวสารวงการล้อ ได้ทางแฟนเพจ MotoRival ของเราครับ

Share.

About Author

error: Content is protected !!