จากคลิปทีเซอร์ล่าสุดของ Kawasaki ที่ได้มีการเปิดเผยภาพรถถูกคลุมผ้าทั้งหมด 6 คัน และหนึ่งในนั้นก็มีสื่อคาดการณ์ว่าจะเป็น Kawasaki Z1000 ที่ได้รับการปรับโฉมใหม่ในรอบ 7 ปีด้วย
เกี่ยวกับเรื่องนี้ แม้หลายฝ่ายจะมองว่าทางค่ายมี Z H2 ไว้ทำตลาดเป็นเนคเก็ทไบค์เรือธงอยู่แล้ว แต่เพื่อนๆต้องไม่ลืมว่ายังไงมันก็คือเนคเก็ทไบค์ที่อยู่ในตระกูล H2 ที่ Kawasaki ตั้งใจทำตลาดแยกออกมาจากรถมอเตอร์ไซค์ในตระกูลอื่นๆเพื่อนำเสนอความเป็นรถมอเตอร์ไซค์ที่ใช้เครื่องยนต์ซุปเปอร์ชาร์จที่ไม่มีใครเหมือน อย่างเช่น Ninja H2 ที่เป็นไฮเปอร์ไบค์เหนือกว่าซุปเปอร์ไบค์อย่าง ZX-10R, Ninja H2 SX ที่เป็นสปอร์ต-ทัวร์ริ่งไบค์ ซึ่งสมรรถนะเหนือกว่า Z1000SX หรือ Ninja 1000SX
ดังนั้นแม้ทาง Kawasaki จะมี Z H2 อยู่แล้ว แต่ยังไง Z1000 จึงไม่น่าจะถูกยุติการทำตลาดไปอยู่ดี และด้วยความที่ Ninja 1000SX ซึ่งเป็นโมเดลคู่ขนานของมันยังได้ไปต่อ ดังนั้นเจ้า “แรดพัน” จึงมีสิทธิ์จะได้ไปต่อด้วยเช่นกัน แถมในตอนนี้ ทางภาครัฐของทวีปยุโรปก็มีการบังคับใช้มาตรฐานมลพิษระดับ Euro5 อย่างจริงจังแล้วเรียบร้อย จึงทำให้มีความจำเป็นอย่างมากที่จะต้องปรับปรุงเนคเก็ทไบค์รุ่นนี้ให้รับกับมาตรฐานมลพิษใหม่สักที
ส่วนแนวทางการปรับโฉมของ Z1000 รุ่นใหม่ ก็คาดว่าจะไม่ค่อยแตกต่างไปจากโมเดลคู่ขนานอย่าง Ninja 1000SX เท่าไหร่นัก นั่นก็คือ จะยังคงมาพร้อมกับดีไซน์ที่คล้ายเดิม แต่ปรับเส้นสายใหม่เล็กน้อยให้มีความดุดันขึ้นไปอีก ขณะที่เครื่องยนต์เองก็คาดว่าจะเป็นบล็อคเดิมเช่นกัน เพียงแต่จะมีการปรับปรุงไส้ในและชิ้นส่วนอื่นๆที่เกี่ยวข้องเพื่อให้มันปล่อยมลพิษสะอาดมากพอสำหรับมาตรฐานมลพิษ Euro5
และด้วยความที่เครื่องยนต์ของมันยังคงเป็นบล็อคเดิม ดังนั้นชุดเฟรม และระบบกันสะเทือนต่างๆจึงคาดว่าจะยังคงเป็นพื้นฐานเดิมด้วยเช่นกัน หรือเต็มที่ก็อาจจะมีแค่การปรับปรุงหรือปรับเซ็ทใหม่แค่เพียงเล็กน้อยเท่านั้น และจะไปเน้นในส่วนของการเพิ่มระบบอิเล็กทรอนิกส์สำคัญอย่าง ชุดหน้าจอ TFT ที่สามารถเชื่อมต่อกับโทรศัพท์มือถือผ่านสัญญาณบลูทูธได้ รวมถึงระบบแทรคชันคอนโทรล, Power Mode, คันเร่งไฟฟ้า, และควิกชิฟเตอร์เป็นต้น
อย่างไรก็ดียังมีอีกแนวโน้มหนึ่งที่น่าสนใจไม่แพ้กันว่า เมื่อมองจากรูปทรงของรถที่ถูกคลุมเอาไว้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับช่วงท่อนล่างของตัวรถ และมิติช่วงครึ่งหน้า มันก็อาจจะเป็น Kawasaki Z H2 ที่ถูกอัพเกรดขึ้นอีกขึ้นเพื่อให้มันมีความพิเศษขึ้นไปอีกขึ้นก็ได้ เนื่องจากตัวรถในปัจจุบันอาจจะยังมีความโดดเด่นไม่มากพอก็ได้ ซึ่งแนวโน้มไหนจะเป็นแนวโน้มที่ถูกต้อง ในอีกแค่เพียง 1 สัปดาห์นับจากนี้เราก็จะได้รู้คำตอบกันแล้ว รอชมกันได้เลยครับ
อ่านข่าวสาร Kawasaki เพิ่มเติมที่ได้ที่นี่
