2024 BMW R12 รถมอเตอร์ไซค์คลาสสิกครุยเซอร์รุ่นใหม่จากค่ายบาวาเรีย BMW ที่มีข่าวลือให้แฟนคลับรอมานาน ในที่สุดก็ถูกเปิดตัวสักได้สักที เพื่อมาทำหน้าที่เป็นรถสายย่อตัวเริ่มต้น(เรียกว่าเริ่มต้นได้ไหม?) สำหรับลูกค้าที่คิดว่ายักษ์ใหญ่อย่าง R18 ที่เป็นตัวสุดของค่ายนั้นสุดเกินการใช้งานทั่วไปมากไปหน่อย และต้องการรถครุยเซอร์ที่สามารถใช้งานในเมืองได้อย่างไม่เทอะทะ
2024 BMW R12 นั้นถูกสร้างอยู่บนพื้นฐานเดียวกับฝาแฝดร่าง Roadster อย่าง R12 nineT ที่เผยโฉมไปก่อนหน้านี้ มันยังคงใช้เครื่องยนต์แบบระบายความร้อนด้วยอากาศและน้ำมัน 2 สูบนอน 1,170 ซีซี ลูกเดิมที่ใช้มาตั้งแต่ R nineT รุ่นเดิมแต่ถูกปรับจูนพละกำลังสูงสุดให้อยู่ที่ 95 Hp ที่ 6,500 รอบ/นาที และแรงบิดสูงสุด 110 Nm ที่ 6,000 รอบ/นาที ส่งกำลังด้วยเกียร์ 6 จังหวะ ขับเคลื่อนล้อหลังด้วยเพลา
ชุดเฟรมหลักนั้นเป็นเฟรมเหล็กท่อรุ่นใหม่ แบบเดียวกับที่ใช้อยู่ใน R12 nineT แต่ในส่วนของซับเฟรมถูกย่อลงมาให้เหมาะกับท่านั่งแบบรถครุยเซอร์, ถังน้ำมันขนาด 14 ลิตร, น้ำหนักตัว 226 กิโลกรัม, ความสูงเบาะนั่ง 755 มิลลิเมตร
ระบบกันสะเทือนด้านหน้าแบบหัวกลับ ขนาดแกน 45 มิลลิเมตร ระยะยุบ 90 มิลลิเมตร ที่สามารถปรับค่า rebound และ compression ด้านหลังแบบสปริงเดี่ยว ระยะยุบ 90 มิลลิเมตร ที่สามารถปรับค่า rebound และ damping, ระบบเบรกด้านหน้าแบบดิสก์คู่ ขนาดจาน 310 มิลลิเมตร ทำงานร่วมกับคาลิเปอร์เรเดียลเม้าท์ Brembo ด้านหลังแบบดิสก์เดี่ยว ขนาดจาน 265 มิลลิเมตร ทำงานร่วมกับคาลิเปอร์แอ็กเซียลเม้าท์, ชุดล้อมีให้เลือกทั้งแบบอัลลอยด์และซี่ลวด(ขึ้นอยู่กับรุ่นย่อย) ด้านหน้าขนาด 19 นิ้ว และด้านหลังขนาด 16 นิ้ว
ระบบไฟส่องสว่างรอบคันแบบ LED, หน้าจอแสดงผลแบบเข็มผสมดิจิตอล LCD แต่ลูกค้าสามารถเปลี่ยนเป็นหน้าจอแบบสี TFT แบบบางขนาด 3.5 นิ้ว ที่ช่วงซ่อนมันจากรูปลักษณ์ภายนอกของตัวรถ สำหรับคนที่ต้องการแต่งรถ, โหมดการขับขี่ Roll/Rock, Cornering-ABS, Traction Control, USB-C, Keyless โดยรวมก็ถือว่าเรียบง่ายตามสไตล์ ไม่ได้มีอะไรโดดเด่นเป็นพิเศษในด้านเทคโนโลยี
2024 BMW R12 มาพร้อมกับสามรุ่นย่อย สามสไตล์ที่มากับสีที่แตกต่างกันคือ Blackstorm metallic(ร่างพื้นฐาน), Aventurine Red metallic(ร่างทัวริ่ง), Avus Silver metallic(Option 719) โดยมีราคาจำหน่ายเริ่มต้นในสหราชอาณาจักรอยู่ที่ประมาณ 5.34 แสนบาท
อ่านข่าวสาร BMW เพิ่มเติมได้ที่นี่
