2025 Yamaha Tracer 7 รถมอเตอร์ไซค์สปอร์ตแอดเวนเจอร์คลาสกลาง จากค่ายส้อมเสียง Yamaha ร่างอัพเดตสเปค และรูปลักษณ์ภายนอกใหม่ ให้มีความจัดเต็ม ทันสมัยตามพี่น้องสปอร์ตเปลือยอย่าง MT-07 และไม่ดูเป็นรถลูกเมียน้อยของค่ายอีกต่อไปแล้ว

ตัวรถรุ่นใหม่นั้นจะยังคงถูกสร้างขึ้นบนพื้นฐานของรถรุ่นเดิม เครื่องยนต์แบบระบายความร้อนด้วยน้ำ CP2 2 สูบเรียง 4 วาล์ว เพลาข้อเหวี่ยง Cross Plane Crankshaft 270 องศา ปริมาตรกระบอกสูบ 689 ซีซี ให้พละกำลังสูงสุด 74.5 Hp ที่ 8,750 รอบต่อนาที และแรงบิดสูงสุด 68 Nm ที่ 6,500 รอบต่อนาที ตัดต่อกำลังด้วยเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ ขับเคลื่อนล้อหลังด้วยโซ่ แต่สิ่งที่น่าแปลกใจคือมันไม่มีระบบเกียร์ Y-AMT เป็นตัวเลือกเสริมแบบ MT-07 ทั้งที่สไตล์ของรถนั้นเหมาะสมเป็นอย่างมาก

ชุดเฟรมแบบเหล็กท่อที่แชร์ร่วมกับรถรุ่นอื่นในคลาสเดียวกัน แต่ในรุ่นใหม่นี้มีการปรับจูนเฟรมให้มีความแข็งมากกว่าเดิม เพิ่มภาพลักษณ์ความสปอร์ต ระบบกันสะเทือนด้านหน้าถูกเปลี่ยนเป็นแบบหัวกลับ ปรับค่าได้(แต่ไม่ได้บอกว่าปรับค่าอะไรได้บ้าง) ขนาดแกน 41 มิลลิเมตร ระยะยุบ 130 มิลลิเมตร

ด้านหลังแบบสปริงเดี่ยว พร้อมซับแทงค์ ปรับได้ทุกค่า ระยะยุบ 139 มิลลิเมตร ทำงานร่วมกับสวิงอาร์มที่ยาวกว่าเดิม 40 มิลลิเมตร Yamaha บอกว่าระบบกันสะเทือนใหม่นั้นจะแน่นขึ้น และเอาใจสายเที่ยวมากกว่าเดิม

ระบบเบรกด้านหน้าแบบดิสก์คู่ ขนาดจาน 298 มิลลิเมตร ทำงานร่วมกับคาลเปอร์เรเดียลเม้าท์ ด้านหลังแบบดิสก์เดี่ยว ขนาดจาน 245 มิลลิเมตร ทำงานร่วมกับคาลิเปอร์แอ็กเซียลเม้าท์ มาพร้อมระบบเบรก ABS Dual Channel, ชุดล้ออัลลอยด์ รัดด้วยยางขนาด 120/70-17 และ 180/55-17

เบาะนั่งสูง 830 มิลลิเมตร แต่สามารถปรับเพิ่มความสูงให้เป็น 850 มิลลิเมตร, ความสูงใต้ท้องรถ 140 มิลลิเมตร, ความจุถังน้ำมัน 18 ลิตร, น้ำหนักตัวรถแบบรวมของเหลว 203 กิโลกรัม มาพร้อมชิลด์หน้าปรับระดับได้ด้วยมือ และการ์ดแฮนด์

ตัวรถมาพร้อมระบบไฟส่องสว่างรอบคันแบบ LED ไฟหน้าเป็นแบบโคมโปรเจคเตอร์คู่ ตามสไตล์เส้นสายของรถในค่าย Yamaha พร้อมแถบไฟ DRL, หน้าจอแสดงผลแบบสี TFT ขนาด 5 นิ้ว ที่สามารถเชื่อมต่อกับโทรศัพท์มือถือ และแสดงระบบนำทางเป็นแผนที่เต็มรูปแบบจาก Garmin, Engine Mode, Thottle Mode, Traction Control แบบปรับระดับได้, Cruise Control เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน

นอกจากนี้ยังมีรุ่นพร้อมเที่ยวอย่าง 2025 Yamaha Tracer 7 GT ที่จะมาพร้อมกับกระเป๋าเดินทางแบบแข็งขนาดใหญ่, แฮนด์อุ่น และขาตั้งคู่ติดตั้งมาให้จากโรงงาน โดยตัวรถรุ่นมาตรฐานจะมาพร้อมค่าตัวประมาณ 389,000 บาท ในส่วนของรุ่นพร้อมเที่ยวจะมาพร้อมค่าตัวประมาณ 443,000 บาท
แต่รถรุ่นนี้จะมาไทยไหม ก็เป็นเรื่องที่ต้องติดตามกันต่อไป เนื่องจากรถรุ่นเก่าก็ไม่ถูกนำเข้ามาในไทย เพราะเป็นรถที่ถูกผลิตในยุโรป ทำให้เสียเปรียบด้านค่าตัวเมื่อเทียบกับคู่แข่ง เนื่องจากเจอภาษีนำเข้าที่สูง ต่างกับรถที่ผลิตในญี่ปุ่นหรืออาเซียน
อ่านข่าวสาร Yamaha เพิ่มเติมได้ที่นี่