2026 Honda ADV160 รถมอเตอร์ไซค์สกู๊ตเตอร์สายลุย จากค่ายปีกนก Honda ที่ลือมานาน รอมานาน ในที่สุดก็ได้ทำการเปิดตัวอย่างเป็นทางการสักทีในประเทศอินโดนีเซีย แน่นอนว่าไฮไลท์ของรถโฉมใหม่คงหนีไม่พ้นหน้าจอสี TFT และระบบเชื่อมต่อ Roadsync แบบเดียวกับที่มีอยู่ใน PCX160

เริ่มกันที่ในส่วนของรูปลักษณ์ภายนอก บอกเลยว่าถ้าไม่ดูให้ดีก็คงแยกไม่ออกว่ามันใหม่ยังไง เพราะรูปทรงในภาพรวมของมันนั้นแทบไม่ต่างจากรถโฉมเดิม โคมไฟหน้า ไฟท้าย ไฟเลี้ยว หรือแม้แต่แฟริ่งรอบคันแล้วแต่เป็นของเดิมทั้งหมด จะต่างออกไปก็แค่ในส่วนของ แฟริ่งด้านข้างส่วนหน้า ในตำแหน่งแก้มเท่านั้นที่มีการเพิ่มรายละเอียดเข้าไปเล็กน้อย

ระบบไฟส่องสว่างรอบคันแบบ LED พร้อมระบบไฟ DRL จุดเด่นในรุ่นใหม่คือหน้าจอแสดงแสดงผลแบบสี TFT ขนาด 5 นิ้ว รุ่นสหกรณ์ที่แชร์ร่วมกับรถมอเตอร์ไซค์หลายรุ่นของ Honda ไล่ไปตั้งแต่รุ่นเริ่มยันตัวท็อป แน่นอนว่ามีการเพิ่มระบบเชื่อมต่อกับโทรศัพท์มือถือ Roadsync ที่ควบคุมผ่านปุ่มบนประกับแฮนด์ด้านซ้ายแบบใหม่ สามารถควบคุมได้ทั้งแผนที่แบบ Turn-by-Turn, การรับโทรศัพท์, การเปิดเพลง และอื่น ๆ

พื้นที่เก็บของใต้เบาะขนาดใหญ่ 30 ลิตร สามารถใส่หมวดนิรภัยได้ 1 ใบ, ช่องใส่โทรศัพท์ด้านหน้าของตัวรถ มีการติดตั้งพอร์ตชาร์จไฟ USB-C, ชิลด์หน้าปรับได้ 2 ระดับ, ตัวช่วยความปลอดภัยเสริมก็มีทั้ง ระบบเบรก ABS, Traction Control และไฟเบรกฉุกเฉิน ที่จะทำงานเมื่อเบรกแรงในความเร็วสูง

ในส่วนของเครื่องยนต์นั้นถือเป็นลูกเดิม และลูกเดียวกับที่ใช้อยู่ใน PCX160 แบบระบายความร้อนด้วยน้ำ 1 สูบ 4 วาล์ว ปริมาตรกระบอกสูบ 157 ซีซี ให้พละกำลังสูงสุด 16 PS ที่ 8,500 รอบต่อนาที และแรงบิดสูงสุด 14.7 Nm ที่ 6,500 รอบต่อนาที ส่งกำลังด้วยสายพาน ผ่านระบบเกียร์ CVT

ระบบกันสะเทือนด้านหน้าแบบเทเลสโคปิคหัวตั้ง ด้านหลังแบบสปริงคู่แบบมีซับแทงค์, ระบบเบรกทั้งด้านหน้าและหลังแบบดิสก์เดี่ยว ทำงานร่วมกับคาลิเปอร์แอ็กเซียลเม้าท์, ชุดล้ออัลลอยด์ รัดด้วยยางกึ่งลุยขนาด 110/80-14 และ 130/70-13, ความสูงเบาะนั่ง 780 มิลลิเมตร, ความจุถังน้ำมัน 8.1 ลิตร, น้ำหนักตัวรถแบบรวมของเหลว 133 กิโลกรัม (ในรุ่นที่ไม่มี Roadsync) และ 134 กิโลกรัม (ในรุ่นที่มี Roadsync)

2026 Honda ADV160 เปิดตัวในประเทศอินโดนีเซีย ในรุ่นเริ่มต้นที่ไม่มีทั้งจอสี ระบบเชื่อมต่อ แม้แต่ ABS จะมีค่าตัวอยู่ที่ประมาณ 72,500 บาท ส่วนรถรุ่นท็อปที่คาดว่าจะมาไทย จะมีค่าตัวอยู่ที่ประมาณ 81,500 บาท โดยในรุ่นท้อปจะมีสีชูโรงสีเดียวให้เลือกคือ SUV Brown ที่จะเป็นสีน้ำตาลตลอดทั้งคัน รวมถึงชุดล้อและแฮนด์บาร์ด้วย


กำหนดการเปิดตัวในประเทศไทย คาดว่าจะมีขึ้นภายในปลายปีนี้เป็นอย่างเร็ว หรือต้นปีหน้าเป็นอย่างช้า
อ่านข่าวสาร Honda เพิ่มเติมได้ที่นี่