หลังจากที่ได้มีการประกาศแจ้งให้ประชาชนมาแล้วพักหนึ่ง ในที่สุด เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม ที่ผ่านมา ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจังหวัดเชียงใหม่ก็ได้มีการเปิดใช้กล้องวงจรปิดที่มาพร้อมกับระบบ AI ตรวจจับผู้ฝ่าฝืนกฏจราจรไม่สวมหมวกนิรภัย ซึ่งจากรายงานเมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา พบว่าสถิติในวันแรกระบบตรวจจับผู้กระทำผิดไปได้นับร้อยรายเลยทีเดียว
สำหรับข้อมูลในเบื้องต้น การใช้กล้องวงจรปิดพร้อมระบบ AI ตรวจจับผู้กระทำผิดกฏจราจรในครั้งนี้ เป็นนโยบายของผู้บัญชาการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ ที่หวังให้มีการใช้เทคโนโลยีช่วยตรวจสอบผู้ฝ่าฝืนกฏจราจรไม่สวมหมวกนิรภัยตลอด 24 ชั่วโมง ด้วยความแม่นยำสูงถึง 98% โดยในขั้นแรกจะครอบคลุมพื้นที่อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ และอำเภอรอยต่ออีก 4 อำเภอ ได้แก่ อำเภอแม่ริม, อำเภอสันทราย, อำเภอสารภี, และอำเภอหางดง รวมทั้งหมด 5 อำเภอ เนื่องจากพบว่าเป็นพื้นที่อำเภอที่มีอัตราการเกิดอุบัติเหตุสูงมาก
นอกจากนี้ทางเจ้าหน้าที่ยังระบุอีกว่าหากกล้องพบการปกปิด หรือซ่อนเร้นแผ่นป้ายทะเบียน ตัวผู้กระทำผิดก็จะถูกแจ้งข้อหาเพิ่มทันทีตามกฏหมายที่มีบังคับใช้อยู่แล้ว ส่วนการปรับข้อหาไม่สวมหมวกนิรภัยหากเป็นผู้ขี่จะโดนโทษปรับที่ 400 บาท และในส่วนของผู้ซ้อนก็จะโดนโทษ 2 เท่า เป็น 800 บาท โดยการแจ้งข้อหาจะเป็นการส่งหมายสั่งไปยังที่พักอาศัยตามชื่อเจ้าของรถ
อย่างไรก็ดี การตั้งกล้องวงจรปิดพร้อมระบบ AI ตามนโยบายนี้ ไม่ได้เป็นการตั้งกล้องเอาไว้ถาวร จะมีการสับเปลี่ยนตำแหน่งตามสถิติการเกิดอุบัติเหตุของแต่ละท้องที่ในจังหวัดเชียงใหม่ ดังนั้นผู้ใช้รถจักรยานยนต์จึงควรสวมหวกนิรภัยตลอดเวลา ไม่ว่าจะเดินทางไปที่ใดก็ตามเพื่อความปลอดภัยของตนเอง
ขอบคุณข้อมูลจาก CM108