สิ่งหนึ่งที่เรามักได้ยินอยู่เสมอๆเวลาต้องเปลี่ยนยางรถมอเตอร์ไซค์ ก็คือ “การถ่วงล้อ” ซึ่งหลายคนอาจจะสงสัยว่าทำไปเพื่ออะไร ? แล้วทำไมถึงต้องเอาแผ่นตะกั่วมาแปะบนล้ออันเงางามของตนให้มีตำหนิ ? ซึ่งในวันนี้เราจะมาอะิบายเรื่องดังกล่าวกันครับ
ก่อนอื่นเพื่อนๆต้องทำความเข้าใจก่อนว่า แม้ล้อ 1 วง กับ ยาง 1 เส้น จะมีความกลมและดูมีหน้าตาที่สมมาตรกันทุกส่วน แต่อันที่จริงแล้ว น้ำหนักของมัน กลับไม่ได้ถูกเฉลี่ยเท่ากันในทุกๆจุดขนาดนั้น อาจจะมีจุดใดจุดหนึ่งของบริเวณเส้นรอบวงยาง หรือขอบวงล้อที่หนักกว่าด้านอื่นๆ ซึ่งแล้วผลมันจะเป็นอย่างไรกันล่ะ ?
สิ่งที่เกิดขึ้นตามมาเมื่อวัตถุวงกลมหมุนอยู่ โดยมีน้ำหนักไปกองอยู่จุดๆเดียวเป็นพิเศษ ก็คือมันจะเกิดแรงเหวี่ยงหนีศูนย์ ณ จุดๆนั้นมากกว่าจุดอื่นๆ ซึ่งถ้าหากเพื่อนๆยังนึกภาพไม่ได้ หรือนึกความรู้สึกไม่ออกว่ามันเป็นยังไง ก็ให้ลองเอานิ้วแหย่พวงกุญแจ แล้วเหวี่ยงควงดูครับ แล้วจะเห็นและรู้สึกได้ว่า ยิ่งเราพยายามควงมากเท่าไหร่ พวงกุญแจก็จะยิ่งพยายามดึงตัวเองออกจากศูนย์กลางไปตามทิศที่ดอกกุญแจหมุนไปมากขึ้นเท่านั้น
ทีนี้ถ้าหากเอาตัวอย่างนั้นมาเทียบกับชุดล้อและยางในรถมอเตอร์ไซค์ของเรา ก็จะเท่ากับว่า หากชุดล้อมีจุดที่หนักมากกว่าใครแล้วเรานำไปวิ่ง ยิ่งวิ่งด้วยความเร็วมากเท่าไหร่ ล้อก็จะยิ่งสับ, สั่น หรือส่ายมากขึ้นเรื่อยๆ ไปตามแรงเหวี่ยงที่เกิดขึ้น ซึ่งวิธีแก้ก็ง่ายๆครับ นั่นก็คือช่างจะต้องนำแผ่นตะกั่วไปติดไว้ตรงจุดใดจุดหนึ่งบนขอบล้อซึ่งจะต้องอยู่ฝั่งตรงข้ามกับจุดที่หนักที่สุดของล้อ เพื่อให้ล้อมีน้ำหนักที่สมดุลในทุกๆด้านมากที่สุดเท่าที่ได้
งั้น ถ้าถ่วงล้อไปแล้วหนึ่งครั้ง ทำไมพอเปลี่ยนยางต้องถ่วงใหม่อีก ? เพื่อนๆต้องอย่าลืมครับว่า ตัวยางเอง ก็มีจุดที่หนักที่สุดของมันด้วยเช่นกัน ซึ่งจะเป็นจุดไหนก็ไม่มีใครทราบได้ จนกว่าจะขึ้นเครื่องมือถ่วงล้อ แม้แต่โรงงานผลิตเองก็ไม่สามารถทราบได้ ดังนั้นเมื่อช่างใส่ยางเส้นใหม่เข้ากับล้อไปแล้ว จุดที่หนักที่สุดของชุดล้อ (ล้อกับยางรวมกัน) ก็ย่อมมีโอกาสที่จะคลาดเคลื่อนไปจากตำแหน่งเดิมอยู่แล้ว
นอกจากนี้จุดที่หนักที่สุดของชุดล้อ ก็มีน้ำหนักมากขึ้นกว่าเดิมหรือเบากว่าเดิมก็ได้ เพราะเรื่องนี้มันขึ้นอยู่กับว่าตำแหน่งที่หนักที่สุดของล้อ และตำแหน่งที่หนักที่สุดของยาง มันอยู่ห่างกัน, ใกล้กันแค่ไหน หรือถ้าเกิดอยู่ตรงข้ามกัน มันก็อาจจะทำให้ล้อสมดุลไปในตัวพอดีก็ได้ (แต่ก็ยาก เพราะจุดที่หนักสุดของยาง กับจุดที่หนักสุดของล้อ ก็อาจจะมีน้ำหนักไม่เท่ากันอีก) หรือถ้าโชคร้ายหน่อยก็คือจุดที่หนักที่สุดของล้อ กับจุดที่หนักที่สุดของยางดันไปอยู่ตำแหน่งเดียวกันพอดี ทำให้ช่างต้องถ่วงตะกั่วในฝั่งตรงข้ามหนักหน่อยเพื่อแก้ปํญหาตรงนี้นั่นเอง
อย่างไรก็ดี สำหรับเพื่อนๆที่ใช้รถมอเตอร์ไซค์เล็กๆ อาจจะไม่ต้องซีเรียสเรื่องการถ่วงล้อมากก็ได้ เพราะน้ำหนักของล้อ และยางรถมอเตอร์ไซค์ที่เราใช้อยู่ ไม่ได้มีผลมากมายขนาดนั้น เมื่อเทียบกับล้อและยางขนาดใหญ่ๆในรถมอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์ครับ (แต่นั่นก็หมายความว่ารถบิ๊กไบค์จำเป็นต้องถ่วงล้อจริงๆ เพราะนอกจากขนาดกับน้ำหนักชุดล้อแล้ว ต้องไม่ลืมนะครับว่ารถของพวกเราออกแบบมาให้วิ่งด้วยความเร็วสูงๆได้ ดังนั้นถ้าถ่วงมาไม่ดี หรือไม่ได้ถ่วงล้อ โอกาสล้อส่าย สับ สั่น ก็ยิ่งสูงขึ้นตามแน่นอนครับ)
ขอบคุณภาพเพิ่มเติมจาก CounterReact, Ride Apart
อ่าน Tips Trick เทคนิคที่น่าสนใจเพิ่มเติมได้ที่นี่
เพื่อนๆ Bikers สามารถติดตามข่าวสารวงการล้อ ได้ทางแฟนเพจ MotoRival ของเราครับ