ประเทศไทยเตรียมเปิดบ้าน ในฐานะเจ้าภาพศึกสองล้อรายการที่ใหญ่ที่สุดของเอเชีย รายการ “เอเชีย โร้ด เรซซิ่ง แชมเปี้ยนชิพ 2023” สนามสุดท้ายของฤดูกาล “ทัพนักแข่งไทย-ดาวดังทั่วเอเชีย” เตรียมความพร้อมช่วงโค้งสุดท้ายอย่างเข้มข้น เพื่อครองเจ้าบัลลังก์ความเร็วแห่งทวีป พร้อมพิธีฉลองแชมป์สุดยิ่งใหญ่ ชิงชัยกันสุดสัปดาห์แรกของธันวาคมนี้ ที่สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์
ความเคลื่อนไหวการแข่งขันรถจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์ทวีปเอเชีย รายการ “เอเชีย โร้ด เรซซิ่ง แชมเปี้ยนชิพ 2023” ภายใต้แนวคิด The Battle of Asia จัดขึ้นทั้งสิ้น 6 สนามใน 5 ประเทศได้แก่ ไทย, มาเลเซีย, ญี่ปุ่น, จีน, อินโดนีเซีย โดยประเทศไทยได้รับเลือกให้เป็นเจ้าภาพ 2 สนามด้วยกัน ได้แก่ สนามที่ 1 เปิดฤดูกาล วันที่ 24-26 มีนาคมที่ผ่านมา และกลับมาตัดสินแชมป์-ฉลองแชมป์ในสนามสุดท้ายในประเทศไทย วันที่ 1-3 ธันวาคมนี้ ที่ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์
สถานการณ์ลุ้นแชมป์เอเชียก่อนเข้าสู่สนามสุดท้ายที่ บุรีรัมย์ มีความเข้มข้นอย่างมาก โดยในรุ่นใหญ่ที่สุดอย่าง เอเชีย ซูเปอร์ไบค์ 1,000 ซีซี แม้ว่า มาร์คุส ไรเตอร์แบร์เกอร์ อดีตนักบิดเวิลด์ซูเปอร์ไบค์ชาวเยอรมันจาก วันซ็อกซ์ บีเอ็มดับเบิลยู ทีเคเคอาร์ ทีม จะคว้าแชมป์ประจำปีไปแล้วด้วยคะแนนมากถึง 205.5 แต้ม
ทว่าการชิงอันดับ 2 ระหว่าง ซัควาน ไซดี้ นักบิดมาเลเซียจาก ฮอนด้า เอเชีย-ดรีม เรซซิ่ง วิท โชวะ และทีมเมทชาวอินโดนีเซียอย่าง แอนดี้ อิซดิฮาร์ รวมถึง อาซลัน ชาร์ จอมเก๋าชาวมาเลเซียจาก วันซ็อกซ์ บีเอ็มดับเบิลยู ทีเคเคอาร์ ทีม ก็ยังต้องไปลุ้นในสนามสุดท้าย เพราะทั้ง 3 คนมีแต้มห่างกันเพียง 24.5 คะแนนเท่านั้น ขณะที่นักบิดไทยที่มีอันดับสูงสุดได้แก่ “บอล” จักรกฤษณ์ แสวงสวาท จาก อีสต์ เอ็นเจที เรซซิ่ง ทีม มีทั้งสิ้น 63.5 คะแนน
ส่วนการชิงบัลลังก์แชมป์ในรุ่น ซูเปอร์สปอร์ต 600 ซีซี เป็นรุ่นที่แฟนชาวไทยต้องติดตามอย่างใกล้ชิด เมื่อยอดนักบิดไทยอย่าง “ชิพ” นครินทร์ อธิรัฐภูวภัทร์ จาก ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์ พลิกกลับมามีลุ้นแชมป์ในรุ่นนี้อย่างเต็มตัว จากผลงานร้อนแรงในสนามที่ผ่านมาที่ ประเทศจีน ส่งผลให้ทำแต้มจี้จ่าฝูงอย่าง ไครูล อิดฮาม ปาวี นักบิดมาเลเซียจาก บุนซิว ฮอนด้า เรซซิ่ง ทีม เข้ามาเหลือเพียง 7 คะแนนเท่านั้น
ขณะเดียวกันยังมี โซอิชิโร มินามิโมโตะ นักบิดญี่ปุ่นจาก ยามาฮ่า เจน บลู เรซซิ่ง ทีม เอเชียน เป็นหนึ่งในตัวแปรสำคัญ ตามหลังจ่าฝูง 7 คะแนนเท่ากัน รวมถึง เฮลมี ฮัซมาน นักบิดมาเลเซียจาก บุนซิว ฮอนด้า เรซซิ่ง ทีม ซึ่งตามหลังจ่าฝูงเพียง 14 คะแนน โดยทั้ง 4 คน จะต้องไปลุ้นแชมป์กันใน 2 เรซสุดท้ายที่ บุรีรัมย์
ด้านการลุ้นแชมป์ในรุ่น เอเชีย โปรดักชั่น 250 ซีซี สองนักบิดไทยอย่าง ข้าวกล้อง” จักรีภัทร พฤฒิสาร จาก ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์ และทีมเมทสาวแกร่งอย่าง “มุกข์” มุกข์ลดา สารพืช ลงต่อสู้ เพื่อชิงตำแหน่งผู้ชนะในโฮมเรซต่อหน้าแฟนชาวไทย โดยจ่าฝูงอย่าง เรซ ดานิก้า อาห์เรน ดาวรุ่งชาวอินโดนีเซียจาก แอสตร้า ฮอนด้า เรซซิ่ง ทีม จะต้องสู้กับทีมเมทอย่าง เฮอร์จุน แอทนา เฟอร์ดาอุส ซึ่งทั้งคู่มีคะแนนห่างกัน 23 แต้ม
นายตนัยศิริ ชาญวิทยารมณ์ กรรมการผู้อำนวยการ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ กล่าวว่า “เป็นอีกครั้งที่ สนามช้างฯ ได้รับความไว้วางใจให้เป็น สนามแรก และ สนามสุดท้ายของฤดูกาล ซึ่งมีความหมายต่อการลุ้นแชมป์ประจำฤดูกาลทุกรุ่น ในปีนี้การแข่งขันทุกคลาสมีการขับเคี่ยวอย่างหนักตลอดทั้งปี นั่นทำให้สุดสัปดาห์ดังกล่าวมีความน่าสนใจอย่างมาก”
“โดยเฉพาะนักบิดไทย ซึ่งจะได้ลงแข่งต่อหน้าแฟนๆ ในโฮมเรซส่งท้ายปี นอกจากนี้ยังมี “ชิพ” นครินทร์ นักแข่งไทยที่ยังคงมีลุ้นแชมป์เอเชียในรุ่น ซูเปอร์สปอร์ต 600 ซีซี ซึ่งมีคะแนนตามหลังจ่าฝูงเพียง 7 แต้ม ทำให้ได้ลุ้นกันอย่างสนุก และจะเป็นสุดสัปดาห์ที่น่าจดจำอย่างมาก ผมจึงอยากให้แฟนชาวไทยเดินทางเข้าชมในสนาม เพื่อส่งกำลังใจให้นักแข่งไทยกันเยอะๆ ครับ” นายตนัยศิริ กล่าว
ทั้งนี้ ศึก เอเชีย โร้ด เรซซิ่ง แชมเปี้ยนชิพ 2023 สนามสุดท้ายจะเข้าสู่โปรแกรมการซ้อมในวันศุกร์ที่ 1 ธันวาคมนี้ ก่อนจะจับเวลารอบควอลิฟาย เพื่อจัดอันดับสตาร์ตในวันเสาร์ที่ 2 ธันวาคมนี้ และดวลความเร็วเรซแรกในวันเดียวกัน จากนั้นจะแข่งขันเรซที่ 2 ซึ่งเป็นเรซสุดท้ายของปีในวันอาทิตย์ที่ 3 ธันวาคมนี้
มาร่วมเชียร์นักบิดไทยให้เป็นแชมป์เอเชีย เปิดขายบัตรแล้ววันนี้ ที่ Counter Service All Ticket ในร้าน 7-Eleven ทุกสาขา หรือสั่งซื้อออนไลน์ได้ที่ https://www.allticket.com/event/ARRC
อ่านข่าว ARRC เพิ่มเติมได้ที่นี่
