Holeshot Device เรียกได้ว่าเป็นนวัตกรรมที่เห็นผลได้ชัดเจนหลังถูกติดตั้ง และมีหลายทีมเริ่มนำไปใช้มากขึ้นเรื่อยๆ สำหรับระบบกลไกกดท้ายตัวแข่ง MotoGP ให้ต่ำลงชุดนี้ที่ Ducati ได้เริ่มใช้เป็นรายแรก หลังจากนั้นไม่นานนัก ทาง Aprilia ก็เริ่มทำตาม ต่อมา Yamaha ก็เอาด้วย และล่าสุดก็เป็น Suzuki ที่จะเอากับเขาบ้าง เกี่ยวกับเรื่องนี้ เป็นนักบิดมือหนึ่งของ Suzuki Ecstar Team ที่ได้ออกมาให้สัมภาษณ์กับสื่อ Motorsport.com ว่า อันที่จริงแล้วทางต้นสังกัดของตน ก็มีการคิดค้นเรื่องระบบกลไก Holeshot กับจัวแข่งของตนเช่นกัน เพียงแต่ด้วยระยะเวลาที่ค่อนข้างกระชั้น จึงทำให้มันอาจจะยังไม่พร้อมนำมาใช้ในการแข่งจริงที่จะเริ่มขึ้นในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้านี้ ณ สนามแข่งขันลอเซล กาตาร์ “ความเป็นจริงแล้วผมควรได้ทดสอบมันที่กาตาร์, แต่ในตอนนี้เรารู้มาว่าเราจะยังไม่สามารถใช้งานมันได้ภายในการแข่งขันแรกของปีนี้, เหล่าวิศวกรกำลังวิตัยมันอยู่, แต่เราก็ยังไม่รู้อยู่ดีว่าเมื่อไหร่กันแน่ที่เราจะได้ใช้มัน” Alex Rins กล่าว อ่านข่าวสาร MotoGP เพิ่มเติมได้ที่นี่ เพื่อนๆ Bikers สามารถติดตามข่าวสารวงการล้อ ได้ทางแฟนเพจ…
Author: admin
หลังเปิดตัวกับ Yamaha ในฐานะนักบิดทดสอบตัวแข่ง YZR-M1 ให้กับทีมใน MotoGP หลายคนต่างก็สงสัยว่าเพราะเหตุใดนักบิดรายนี้ถึงยอมกลับมาอีกครั้ง ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้เขาเป็นคนกล่าวเองว่า ตนไม่มีความมั่นใจที่มากพอเพื่อจะแข่งรถต่อไป (แหยงกับการล้มจนขวัญฝ่อไปหมดแล้ว) ทว่าล่าสุดเจ้าตัวก็ได้ออกมาระบุว่า สิ่งหนึ่งสำคัญที่สุดที่ทำให้เขาเลือกกลับมาในครั้งนี้ ก็คือการที่เขาสามารถขี่ตัวแข่ง MotoGP ได้โดยไม่ต้องมีแรงกดดันเหมือนอย่างที่เคยเป็นมา “มันคือสิ่งที่ยอดเยี่ยม เพราะตอนเช้าก่อนที่ผมจะไปขี่รถ ผมไม่ได้มีความรู้สึกกังวลหรือกดดัน เพราะผมแค่ต้องพยายามเพื่อไปให้เร็วที่สุด, เพื่อให้ได้เวลาต่อรอบ, ผมรู้สึกดีที่สุดที่ได้เป็นนักบิด, ได้ขี่ตัวแข่ง MotoGP โดยไม่ต้องมีระยะทางในการวิ่ง, พันธะ, แรงกดดัน, การบาดเจ็บ, แค่พยายามขี่ให้อยู่ในลิมิต ตลอดทั้งปี” “ข้อเสนอเป็นนักบิดทดสอบมันดีมากๆ และมันเป้นเรื่องยากที่จะปฏิเสธมัน, และนอกเหนือจากนั้น ผมสามารถบิน (หมายถึงขี่รถ)โดยไม่ต้องรู้สึกปวดหัวไปกับแรงกดดันหรือความกังวลใดๆ” ขอบคุณข้อมูลจาก Motorcyclesport อ่านข่าวสาร MotoGP เพิ่มเติมได้ที่นี่ เพื่อนๆ Bikers สามารถติดตามข่าวสารวงการล้อ ได้ทางแฟนเพจ MotoRival ของเราครับ Motorival
เปิดฤดูกาลเป็นที่เรียบร้อยสำหรับการแข่งขันศึก World Superbike ปี 2020 ซึ่งหลังจากที่ช่วงเช้า การแข่งขัน Race 1 ได้จบลงไปแล้ว โดยมีผลแข่งค่อนข้างเซอร์ไพรซ์แต่ไม่น่าแปลกใจเท่าไหร่ นั่นก็คือการที่นักบิดดาวรุ่ง Toprak Razgatlioglu จากสังกัด Pata Yamaha สามารถความชัยในศึกครั้งนี้ได้ เฉือน Alex Lowes นักบิดจาก Kawasaki Racing Team (ผู้ซึ่งถูก Yamaha เขี่ยออกจากทีมเพื่อเปิดทางให้ Toprak) ไปเพียง +0.007 วินาที และด้วยเหตุที่เราไม่แน่ใจว่าจะมีเพื่อนๆกี่คนที่พลาดชมการแข่งขันดังกล่าว ดังนั้นในครั้งนี้เราจึงไม่พลาดที่จะนำคลิปย้อนหลังศึก WSBK Australian 2020 – Race 1 มาให้เพื่อนๆได้รับชมกัน ซึ่งบรรยากาสจะสนุกแค่ไหน ก็ไปชมกันได้เลยครับ อ่านข่าว WSBK เพิ่มเติมได้ที่นี่ เพื่อนๆ Bikers สามารถติดตามข่าวสารวงการล้อ ได้ทางแฟนเพจ…
เงียบหายไปพักหนึ่ง แต่ตอนนี้ก็กลับมามีข้อมูลให้ถูกกล่าวถึงอีกครั้ง สำหรับเจ้า BMW R18 Cruiser ที่มีทั้งข้อมูลในเรื่องของภาพสิทธิบัตร และภาพ Spyshot ที่ช่วยให้เราเห็นหน้าตาของมันได้อย่างชัดเจนมากยิ่งขึ้น จากถาพด้านบน นี่คือภาพกราฟฟิกของเจ้า R18 ที่ทาง BMW ใช้อ้างอิงในสิทธิบัตรก่อนดำเนินการผลิจขายจริง ซึ่งเพื่อนๆจะเห็นได้ว่าหน้าตาของมันค่อนข้างแตกต่างจากโฉมคอนเซปท์ที่เผยตัวออกมาตั้งแต่ปลายปีก่อนพอสมควร เพราะโดยรวมดีไซน์ของมันดูมีความเรียบง่ายมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะกับชุดไฟหน้า LED โคมกลมที่ไม่มีชุดกรอบวินชิลด์ชิ้นเล็กมาครอบ, เบาะนั่งที่มีการต่อช่วงด้านหลังผู้ขี่สำหรับผู้ซ้อน, และปลายท่อไอเสียที่ดูคลาสสิคกว่า นอกจากนี้ เจ้า R18 ยังจะมาพร้อมกับเวอร์ชันทัวร์ริ่ง-แบกเกอร์ ที่จะถูกแต่งหน้าทาปากใหม่อีกประมาณหนึ่ง ด้วยการใส่ชุดชิลด์หน้าบังลมขนาดใหญ่, เปลี่ยนเบาะช่วงผู้ซ้อนให้มีขนาดใหญ่ขึ้น, และเปลี่ยนรูปทรงปลายท่อไอเสียให้กลับไปเป็นแบบทรงกลม เพื่อรับกับชุดกระเป๋าข้างอีก 2 ใบที่เพิ่มเข้ามา ซึ่งถ้าหากเพื่อนๆอยากเห็นหน้าตาของรถคันจริง ที่มีช่างภาพถ่ายเอาไว้ขณะกำลังถูกทดสอบการใช้งานบนถนนสาธารณะในยุโรปก็สามารถคลิกชมภาพได้ที่นี่ ด้านข้อมูลอื่นๆที่น่าสนใจที่สุดของ BMW R18 ก็แน่นอนว่าคงไม่ใช่เรื่องอื่นใดนอกจากขุมกำลัง 2 สูบนอน ระบายความร้อนด้วยอากาศ ใช้ระบบวาล์วแบบก้านกระทุ้ง แต่มีขนาดความจุใหญ่สะใจถึง 1,800cc ซึ่งในตอนนี้ยังไม่มีใครสามารถประเมินได้ว่ามันจะถูกปรับจูนให้สามารถทำกไำลังสูงสุดได้เท่าไหร่ แต่ถ้าหากเพื่อนๆคนไหนสนใจ ก็อาจจะต้องรอกันจนถึงช่วงสิ้นปีเป็อย่างเร็ว และก็อาจจะต้องเตรียมเงินไว้สักล้านนิดๆนะครับ…
ด้วยกระแสความนิยมที่ไม่ว่าใครก็ยอมรับของ Marc Marquez จึงทำให้ไม่น่าแปลกใจเท่าไหร่นัก ที่ผู้ติดตามหรือแฟนคลับอยากมีสิ่งของบางอย่างที่สื่อถึงเจ้าตัว ซึ่งด้วยเหตุนี้จึงทำให้ทาง Honda Racing Corporation หรือ HRC เกิดปิ๊งไอเดียพิเศษ อย่างการขายชิ้นส่วนสำคัญของตัวแข่ง RC213V ที่ MM93 เคยใช้ให้สาวกที่คลั่งไคล้และโชคดีได้หาซื้อเก็บไว้เป็นคอลเลคชันส่วนตัวของตนขึ้นมา ใช่ครับ ชิ้นส่วนสำคัญของ Honda RC213V ที่ HRC จะขาย ก็คือชุดล้อแม็กนีเซียม ด้านหน้า 12 วง และด้านหลังอีก 8 วง ที่ Marc Marquez เคยใช้แข่งขันตลอดฤดูกาล MotoGP ปี 2018 โดยล้อแต่ละวง ก็จะมาพร้อมกับแพ็คเกจ แท่นวาง, ตู้ครอบอคริลิก, เอกสารรายละเอียดทางเทคนิคของล้อ, หนังสือสิ่งที่ควรรู้ในการแข่งขัน MotoGP 2018 และใบรับรองจาก HRC รวมถึงที่ตัวล้อเองก็จะมีลายเซ็นของ Marquez…
Triumph Rocket III ยังคงมีอะไรที่น่าสนใจให้เราได้นำเสนออยู่เรื่อยๆ โดยหลังสร้างเสียงฮือฮาด้วยจุดเด่นคือการพกพาเครื่องยนต์ 3 สูบเรียงขนาดใหญ่ที่มีความจุมากถึง 2,500cc มาเป็นขุมกำลังหลักแล้ว ล่าสุดทาง Triumph ยังปล่อยข้อมูลเป็นคลิปวิดีโอเพื่อโชว์อัตราเร่ง 0-96 กม/ชม สุดขนหัวลุกชนิดท้าชนกับเหล่าซุปเปอร์ไบค์ได้สบายๆเพิ่มออกมาอีก ด้วยตัวเลขเวลาเพียง 2.73 วินาที โดยจากข้อมูลในเบื้องต้น เจ้า Rocket III – R ที่เห็นอยู่ในคลิปนั้น จะเป็นตัวรถเวอร์ชันก่อนทำขายจริง ซึ่งไม่ได้มีการปรับจูนเครื่องยนต์ให้แตกต่างไปจากโฉมขายจริง ที่สามารถทำกำลังสูงสุดได้ 164.7 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที ส่วนแรงบิดก็สามารถทำได้สูงถึง 221 นิวตันเมตร ด้วยรอบเครื่องยนต์ที่ต่ำเพียง 4,000 รอบ/นาที เพียงแต่จะต่างกันในเรื่องน้ำหนักที่เบากว่าเล็กน้อย เพราะไม่ได้ใส่กระจกมองข้างกับขายึดแผ่นป้ายทะเบียนด้านหลังมาให้ และสเปคยางที่อาจจะดูดีกว่าของติดรถเล็กน้อย อย่างไรก็ดี สำหรับตัวเลขอัตราเร่ง 0-96 กม/ชม ของตัวรถเวอร์ชันวางขายจริง Rocket III -…
หลังจากที่ก่อนหน้านี้ เราได้เคยนำเสนอข้อมูลให้เพื่อนๆได้รู้จักกับความเป็นมาของยางรถมอเตอร์ไซค์แบรนด์ Aspira Premio แบบเจาะลึกถึงโรงงานผลิตในอินโดนีเซียกันไปแล้วเป็นที่เรียบร้อย ในที่สุดก็ถึงเวลาที่ทีมงาน MotoRival จะต้องมารีวิวตัวผลิตภัณ์ยางรถมอเตอร์ไซค์ 1 ใน 2 รุ่นที่พวกเขามีวางจำหน่ายในบ้านเราเสียที โดยเราจะขอเริ่มมา รีวิว Aspira Sportivo ยางสปอร์ตน้องใหม่คู่นี้กันก่อนเลยครับ อย่างที่เพื่อนๆเห็น ด้วยดีไซน์ของ Aspira Sportivo ที่มีพื้นที่ของดอกยางเทียบกับพื้นที่หน้ายางในอัตราส่วนที่น้อยกว่าพอสมควร ทำให้แทบไม่ต้องเดาว่ามันถูกออกแบบมาเพื่อให้เน้นใช้งานบนทางดำเป็นหลัก โดยฝั่งยางด้านหน้า ก็จะมีการออกแบบลายดอกยางให้เน้นในเรื่องของการรีดน้ำ และมีทิศทางของลายที่รองรับการเบรกชะลอตัวรถ ขณะที่ดอกยางด้านหลังก็จะออกแบบให้แทบไม่มีดอกยางมาแซมอยู่ตรงกลางของหน้ายางมากเท่าไหร่นัก เพื่อให้มันมีความสามารถในการยึดเกาะมากที่สุดยามเร่งออกจากโค้ง หรือขี่ทางตรงด้วยความเร็วสูงๆ นอกจากนี้ หากเจาะลึกไปที่รายละเอียดของตัวดอกยางที่อยู่ด้านข้างทั้งครึ่งฝั่งซ้ายและครึ่งฝั่งขวา เพื่อนๆก็จะสังเกตุได้ว่ามันมีความคล้ายคลึงกับตัวอักษร “A” ซึ่งอันที่จริงมันถือเป็นลายเซ็นที่ทาง Pirelli พาร์ทเนอร์สำคัญของ Aspira ช่วยออกแบบให้ ดังนั้นมันจึงไม่ได้มีแค่ความสวยงาม แต่เรายังหวังผลในเรื่องประสิทธิภาพในการใช้งานที่ดีได้ด้วย และแม้โครงสร้างภายในของตัวยางจะเป็นแบบผ้าใบ แต่ทาง Aspira ก็ได้ให้ข้อมูลกับเราว่า พวกเขาได้ทำการปรับเพิ่มความแข็งแรงของผ้าใบตรงกลางให้สูงขึ้นกว่าปกติ เพราะฉะนั้น แม้มันไม่ได้ใช้โครงสร้างเป็นแบบโครงลวดเรเดียล แต่มันก็มีความแข็งแรงมากพอสำหรับการใช้งานของรถมอเตอร์ไซค์พิกัดไม่เกิน 500cc โดยที่ราคาย่อมเยาว์กว่ายางเรเดียลสำหรับรถมอเตอร์ไซค์ช่วงพิกัดเดียวกันในท้องตลาด…
Scott Redding อดีดตนักบิด MotoGP พ่วงดีกรีแชมป์ BSB 2019 สามารถเปิดฤดูกาลอีเวนท์การแข่งขันใหม่ของตนเองได้ดี หลังหวดตัวแข่ง Ducati Panigale V4 R ทำเวลาเร็วที่สุดในการซ้อม WSBK – Philips Island 2020 ทั้งรอบเช้าและบ่าย โดยสถิติเวลาที่เขาทำได้ดีที่สุดก็คือ 1’30.436 นาที จากการซ้อมรอบ FP2 ส่วนอันดับที่ 2 ของวันนี้ เป็น Toprak Razgatliohlu ที่สามารถพาตัวแข่ง Yamaha YZF-R1 สเปคทีมโรงงานคันใหม่ของตนกดเวลาตามผู้นำมาติดๆด้วยตัวเลข +0.418 วินาที โดยมีทีมเมทสังกัดเดียวกันอย่าง Michael Van Dermark กดเวลาช้ากว่าผู้นำไปอีกนิด คือ +0.469 วินาที ด้านผลเวลาของนักบิดทั้งหมดในรอบ FP2 มีรายละเอียดดังนี้ 1) S.…
นอกจากข้อมูลในเรื่องของสถิติเวลาที่เหล่านักบิด MotoGP สามารถทำได้ในการทดสอบรอบก่อนเปิดฤดูกาลปี 2020 ที่สนามลอเซล กาตาร์ แล้ว ยังมีอีกหนึ่งตัวเลขที่น่าสนใจไม่แพ้กัน นั่นก็คือเลขความเร็วสูงสุดที่พวกเขาสามารถทำได้ ซึ่งในวันนี้เราจะขอนำข้อมูลเหล่านั้น มาเทียบกับข้อมูลเดียวกันจากรอบการทดสอบเมื่อปีก่อน เพื่อให้เพื่อนๆได้เห็นพัฒนาการที่เกิดขึ้นกับตัวแข่งในศึกนี้กันครับ โดยสำหรับภาพที่แนบไว้ด้านบนนี้ ก็คือตารางตัวเลขความเร็วสูงสุดที่วัดได้ในช่วงการทดสอบก่อนเปิดศึก MotoGP ณ สนามลอเซล กาตาร์ ฤดูกาลปี 2020 กับปี 2019 โดยเรียงลำดับตามความเร็วสูงสุดที่นักบิดแต่ละคนทำได้ในการเทสปี 2020 ทว่าสำหรับนักบิดที่เปลี่ยนตัวแข่งอย่าง Johann Zarco และนักบิดหน้าใหม่ได้แก่ Alex Marquez, Brad Binder, และ Iker Lecuona นั้นจะไม่สามารถนำข้อมูลมาเทียบส่วนต่างได้ และจากข้อมูลในตารางดังกล่าว จะเห็นได้ว่านักบิดที่สามารถทำสถิติความเร็วสูงสุดในการทดสอบปี 2020 ได้ ก็คือ Jack Miller ที่กดตัวเลขไปได้สูงถึง 355.2 กิโลเมตร/ชั่วโมง โดยมีนักบิดที่ใช้ตัวแข่งตระกูล Ducati Desmosedici คล้ายๆกันอีก…
เปิดตัวออกมาเสียทีสำหรับทีมแข่งระดับโรงงานเจ้าสุดท้ายในศึก WSBK ปี 2020 นั่นก็คือทีมแข่งของ BMW Motorrad ที่แน่นอนว่าพวกเขาจะต้องมาพร้อมกับตัวแข่ง 2020 BMW S1000RR หรือ “เจ้าฉลามเหล็กโฉมที่ 3” เช่นเคย ก่อนอื่น เราต้องเรียนตามตรงว่าทาง BMW Motorrad ยังคงเก็บข้อมูลของตัวแข่ง S1000RR – WSBK 2020 Specs เอาไว้ ไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดใดๆออกมา ทว่าหากดูคร่าวๆจากภายนอก ก็จะเห็นได้ว่า ทาง BMW ได้มีการออกแบบลวดลายภายนอกของมันใหม่ ให้ดูแตกต่างไปจากตัวแข่งปีก่อนพอสมควร โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการไล่สี Tri-Color ประจำแบรนด์ ที่จะแยกฝั่งกันให้ด้านซ้ายของตัวรถเป็นสีแดง และฝั่งด้านขวาเป็นสีน้ำเงินสำหรับชิ้นแฟริ่งหลักคู่หน้า แล้วจะสลับฝั่งสีกันอีกครั้งบริเวณแฟริ่งกลางลำตัวรถ แม้แต่ชุดตุดมดด้านท้ายเองก็เช่นกัน ส่วนชุดพาร์ทอื่นๆที่น่าสนใจก็มีทั้งชุดโช้กหน้า/หลังจาก Ohlins ที่เป็นรุ่นโปรโตไทป์หรือรุ่นต้นแบบไม่ได้เอาไว้ทำขายให้กับคนทั่วไป, ชุดระบบเบรกจาก Nissin, ท่อไอเสีย Akrapovic, และชุดล้อที่เปลี่ยนจากแบรนด์ Marchesini เมื่อปีที่แล้ว…