แม้ว่าก่อนฟน้านี้ เราจะได้นำเสนอไปว่าทาง A.P. Honda กำลังเตรียมที่จะจัดงานแถลงข่าวแผนการตลาดและเปิดตัวรถมอเตอร์ไซค์รุ่นใหม่ให้กับสื่อมวลชลในช่วงสิ้นเดือนนี้ แต่ล่าสุดเมื่อวันก่อนพวกเขาก็ได้มีการจัดงานแถลงข่าวกับเหล่าดีลเลอร์ไปแล้วเป็นที่เรียบร้อย แถมยังมีการนำเสนอแผนภาพรถมอเตอร์ไซค์รุ่นใหม่จำนวน 9 โมเดลที่พวกเขาเตรียมจะเผยโฉมในปี 2020 นี้ด้วย โดยหากให้ไล่เรียงรุ่นรถที่อยู่ในภาพจากซ้ายไปขวา ก็จะมีทั้ง Rebel 300 ที่รอปรับโฉมตาม Rebel 500 CT125 ที่กว่าจะเปิดตัวคงเป็นช่วงกลางปีตามที่สื่อญี่ปุ่นได้ให้ข้อมูลไว้ CRF250L กับ CRF250 Rally ที่ไม่ได้รับการปรับโฉมใหม่แบบ All-New มาแล้วหลายปี และอาจจะมีการปรับเครื่องยนต์ใหม่ไปใช้เทคโนโลยีระบจุดระเบิดแบบ 2 หัวเทียน Scoopy-i ที่เคยมีการเปิดตัวรถโฉมคอนเซปท์ตั้งแต่ปลายปี 2018 แต่สุดท้ายก็เงียบหายไปพักหนึ่ง CBR300R สปอร์ตไบค์สูบเดียว ที่ไม่ได้รับการปรับโฉมใหม่แบบ All-New มานานเช่นกัน และมันอาจจะถูกปรับใหญ่แบบจัดเต็มที่สุดเท่าที่ได้จนกลายเป็น CBR300RR เพื่อรับมือการมาของ Kawasaki ZX-25R ในเร็วๆนี้ Forza 300 บิ๊กสกูตเตอร์ยอดนิยมทั้งในประเทศไทย และโซนยุโรป ที่อยู่ในช่วงปลายอายุการตลาดของโฉมปัจจุบัน…
Author: admin
บริษัท คาวาซากิ มอเตอร์ เอ็นเตอร์ไพรส์ (ประเทศไทย) จำกัด จัดกิจกรรม Kawasaki Road Racing Championship 2019 สนามที่ 4 เพื่อส่งมอบประสบการณ์ที่ดีให้แก่ลูกค้าผู้ใช้รถจักรยานยนต์คาวาซากิ ซึ่งเป็นสนามปิดฤดูกาล ณ สนามช้างอินเตอร์เนชั่นแนลเซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ เมื่อวันที่ 18-19 มกราคม 2562 ที่ผ่านมา ภายในงานยังมีกิจกรรมต่างๆมากมาย อาทิ กิจกรรมการแข่งขันในแต่ละรุ่น,ทดสอบขับขี่รถจักรยานยนต์รุ่นต่างๆ นำทัพโดย Kawasaki H2 SX SE, Ninja1000, Ninja 650 ใหม่ ,Z900 ใหม่ เป็นต้น,กิจกรรม Circuit Fun Ride ที่จะช่วยเสริมสร้างพัฒนาทักษะที่ดีในการขับขี่ พิเศษสำหรับลูกค้าผู้ใช้รถจักรยานยนต์คาวาซากิ สามารถนำรถลงขับขี่ในสนามแข่งขันจริงได้ ซึ่งในครั้งนี้มีผู้เข้าร่วมกิจกรรมจำนวนกว่า 200 คัน และในช่วงเย็นวันเสาร์ที่ 18…
ขณะที่ผู้ผลิตรายอื่นมักจะอัพเดทความสดใหม่รถมอเตอร์ไซค์ของพวกเขาด้วยการปรับสี แต่ Ducati กลับไม่ค่อยทำเช่นนั้นเท่าไหร่นัก และเลือกที่จะยืนสีเดิมขายไปตลอดอายุตลาด แต่เพิ่มรุ่นย่อยใหม่ๆของโมเดลนั้นๆเข้ามาเรื่อยๆแทน ยกตัวอย่างเช่นตระกูล Scrambler ที่กำลังจะมีรหัสรุ่นย่อยใหม่ “Scrambler 1100 PROs” ในเร็วๆนี้ อย่างไรก็ดี ด้วยความที่ข้อมูลของ Ducati Scrambler 1100 PROs ในตอนนี้ มีแค่เพียงคลิปทีเซอร์ด้านบน ที่ระบุไว้ว่าทางผู้บริหารจะเปิดตัวมันในวันที่ 27 มกราคมนี้ หรือก็คือวันจันทร์หน้าเท่านั้น ส่วนหน้าตาของรถโดยคราวๆเราก็สามารถระบุได้แค่ว่ามันจะเป้นรุ่นที่ต่อยอดพื้นฐานมาจาก Scrambler 1100 – Sport แต่จะมีการเน้นตกแต่งชุดสีด้วยโทนดำ และปรับปรุงรายละเอียดรอบคันใหม่ในบางจุด นอกนั้นในเรื่องส่วนพ่วงต่างๆยังไม่สามารถสังเกตุได้ในตอนนี้ว่าเปลี่ยนไปอย่างไรบ้าง ซึ่งเราคงต้องรอติดตามกันต่อไปครับ อ่านข่าว Ducati เพิ่มเติมได้ที่นี่ เพื่อนๆ Bikers สามารถติดตามข่าวสารวงการล้อ ได้ทางแฟนเพจ MotoRival ของเราครับ Motorival
ถือได้ว่าเป็นอีกข้อมูลหนึ่งที่กำลังสร้างความน่าสนใจอย่างมากในโลกออนไลน์ขณะนี้ สำหรับเรื่องของ “สิทธิบัตรเครื่องยนต์ V-Twin พ่วงระบบซุปเปอร์ชาร์จเจอร์” ของ ที่นี่Honda ที่บางสื่อคาดการณ์ว่ามันอาจจะถูกนำไปใช้กับรถมอเตอร์ไซค์ในกลุ่ม 250cc ในเร็วๆนีั้ แต่แท้จริงแล้วมันเป็นอย่างไรนั้น เรามาว่ากันหน่อยดีกว่าครับ โดยหากเจาะรายละเอียดของเครื่องยนต์ที่ทาง Honda ใช้เพื่ออ้างอิงในเอกสารสิทธิบัตร ด้วยความที่เลย์เอาท์ของมันเป็นแบบ V-Twin จึงทำให้ตำแหน่งของตัวซุปเปอร์ชาร์จจะต้องติดตั้งอยู่จุดกึ่งกลางระหว่างเสื้อสูบหน้าหลังไปโดยปริยาย ซึ่งระบบที่ใช้ขับเคลื่อนตัวซุปเปอร์ชาร์จนั้นทางค่ายก็เลิือกที่จะใช้แบบเฟืองขับ แทนที่จะเป็นแบบโซ่ขับเหมือนกับของทางฝั่ง Kawasaki นอกจากนี้ถ้าหากเพื่อนๆคิดว่าระบบอัดอากาศดังกล่าวยังแรงไม่พอล่ะก็ พวกเค้าก็ยังออกแบบระบบหัวฉีดแบบ Direct-Injection หรือระบบหัวฉีดตรงๆเข้าห้องเครื่องไว้ด้วยเพื่อรับรองกับอากาศที่จะเข้ามามากขึ้นเรียบร้อยแล้วเพื่อเอาใจขาซิ่งทั้งหลาย ส่วนรูปโฉมของรถตัวอย่างนั้นถือว่าออกไปทางยำใหญ่อยู่พอสมควร เพราะทาง Honda เลือกใช้โครงถักเป็นตัวหลักในการยึดเครื่องยนต์ซึ่งในรถมอเตอร์ไซค์รุ่นใหญ่ๆของทางค่ายไม่ได้มีคันไหนใช้เฟรมถักแบบนี้ เว้นก็แค่เพียง VTR250, CBR250R, และ CBR300R/CB300F (เราหมายถึงว่ามันเป็นเฟรมถักเฉยๆนะครับ ไม่ได้หมายความว่ามันใช้โครงถักรูปแบบเดียวกับของในภาพอ้างอิงเป้ะๆ) ส่วนสวิงอาร์มก็เป็นแบบปีกคว่ำซึ่งชิ้นส่วนตรงนี่้ก็ไม่ได้มีรถมอเตอร์ไซค์รุ่นไหนของค่ายใช้มันอยู่เลย (เว้นแต่ตัวแข่งของโรงงาน), แต่ล้อหน้าของตัวรถอ้างอิงนั้นมองแค่ผ่านๆก็พอทราบได้ทันทีเลยว่ามันเป็นของ CBR650F/CB650F แม้กระทั่งเบาะนั่งก็เช่นกัน และจุดสุดท้ายก็คือตำแหน่งพักเท้าซึ่งอยู่เยื้องไปทางด้านหลังและวางไว้สูงมากๆถ้าเทียบจากแนวระนาบของสวิงอาร์มราวกับจะให้นั่งชันเข่าเพื่อหมอบหลบลมเต็มที่ แต่มันก็ยังขัดกับตำแหน่งแฮนด์บาร์ที่วางไว้สูงกว่าเบาะนั่งผู้ขับไปพอสมควร อย่างไรก็ดี อันที่จริงสิทธิบัตรชุดนี้ไม่ได้เป็นข้อมูลใหม่แต่อย่างใดครับ เพราะมันเป็นเอกสารที่ข้อมูลหลุดออกมาตั้งแต่ปลายปี 2017 นู่นเลย ดังนั้นนี่จึงอาจเป็นเพียงแนวคิดที่พวกเขาจดเอาไว้เผื่อสำหรับการพัฒนารถมอเตอร์ไซค์รุ่นอื่นๆในอนาคตอันไกล กรณีที่เทคโนโลยีช่วยลดมลพิษอื่นๆไม่สามารถทำให้เครื่องยนต์…
ผ่านไปเพียงเดือนเศษๆเท่านั้น หลังจากที่เราได้นำเสนอไปว่าทาง KTM และ CFmoto เลือกจับมือกันเปิดโรงงานผลิตแห่งใหม่ในประเทศจีน โดยมีเป้าหมายว่าจะตั้งมันขึ้นมาเพื่อผลิตรถมอเตอร์ไซค์ในกลุ่ม 790/890-Series โดยทางแบรนด์ผู้ผลิตสีฟ้าเจ้าดังกล่าวเองก็มีแผนจะนำรถมอเตอร์ไซค์ทั้ง 2 ซีรีย์นี้มาต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์ของตัวเองด้วย และจากข้อมูลล่าสุด ก็ดูเหมือนว่ามันจะมาไกลจนถึงขั้นกลายเป็น Prototype Bike ให้นักบิดได้ทดสอบกันแล้วเป็นที่เรียบร้อยภายในระยะเวลาอันสั้น โดยจากภาพ Spyshot ที่ถูกถ่ายเอาไว้โดยช่างภาพในประเทศจีน (คลิ๊กชมตรงนี้) เราก็จะเห็นได้ว่าเจ้า CFmoto 800MT (ชื่อสมมุติ) คันนี้ มาพร้อมกับเครื่องยนต์ 2 สูบเรียงบล็อคเดียวกับของ KTM 790/890-Series ชัดเจน ซึ่งสังเกตได้จากหน้าตาของเสื้อสูบ กับแครงก์ล่าง แม้แต่ลักษณะการเดินแนวท่อไอเสียที่หน้าตาเหมือนกันเปี๊ยบนั่นเอง ด้านระบบกันสะเทือนก็ยังจัดมาให้ค่อนข้างเต็มในแบบ CFmoto ทั้งชุดระบบกันสะเทือนหน้าแบบโช้กหัวกลับ และสวิงอาร์มหลังสีเงินที่คาดว่าคงไม่พ้นการทำขึ้นจากวัสดุอลูมิเนียม ขณะที่ชุดล้อที่น่าจะมีขนาดวง 19 นิ้วด้านหน้า กับ 17 นิ้วด้านหลังนั้น ก็มีดีไซน์ที่เหมือนจะยกมาจาก KTM 1290 Super Adventure S…
ขณะที่ในบ้านเรามีเพียงแค่ Honda CRF250L เท่านั้นที่ทางค่ายทำออกมาเพื่อตีตลาดรถมอเตอร์ไซค์แนวเอนดูโร่ ส่วนในอินโดนีเซียก็มีเจ้า CRF150L เพิ่มมาอีก 1 รุ่น เพื่อตีตลาดเดียวกันแต่ใชพิกัดเล้กกว่า ทว่าในเร็วๆนี้พวกเขาอาจจะมีรุ่นย่อยอีกหนึ่งรุ่นเช่น CRF200L (ชื่อสมมุติ) ออกมาเพื่อคันกลางตลาดตรงนี้ในพิกัดราวๆ 200cc ด้วย โดยสำหรับสิทธิบัตรเรื่องนี้ จะว่าด้วยภาพสิทธิบัตรใบล่าสุดชิ้นนี้ ที่ทางสื่ออินเดียได้ทำการขึ้นเว็บเอาไว้พร้อมระบุว่านี่คือภาพสิทธิบัตรของรถเอนดูโร่ไบค์รุ่นใหม่ของ Honda โดยทางค่ายได้ระบุรายละเอียดในเอกสารว่ามันจะมาพร้อมกับเครื่องยนต์สูบเดียว ระบายความร้อนด้วยอากาศ จ่ายน้ำมันด้วยระบหัวฉีดและมีขนาดความจุที่ราวๆ 200cc (ซึ่งมีความเป้นไปได้สูงมากว่าจะเป็นบล็อคต่อยอดจากของ CRF150L) นอกนั้นในเรื่องของชุดล้อเมื่อดูจากสัดส่วนเทียบกับขนาดรถแล้ว ก็คาดว่ามันจะเป็นวงล้อ 21 นิ้วด้านหน้า และ 18 นิ้วด้านหลัง ทำงานร่วมกับชุดโช้กหน้าหัวกลับ และโช้กหลังเดี่ยวมีกระเดื่องทดแรงกับสวิงอาร์มทรงเหล็กกล่อง นอกนั้นในส่วนแฟริ่งดูเหมือนจะเป็นการยกเอาเส้นสายดีไซน์ของ CRF150L มาใช้เกือบทุกส่วนตั้งแต่หัวจรดท้าย ส่วนกำหนดการเปิดตัวโดยคร่าวๆคาดว่าจะเกิดขึ้นในช่วงปี 2022 ซึ่งระหว่างนี้เราคงมีข้อมูลอื่นๆของมันนำมาเสนอให้เพื่อนๆได้อัพเดทกันเรื่อยๆ (หากพวกเขาไม่ยกเลิกโปรเจ็กท์ Honda CRF200L คันนี้ไปเสียก่อนล่ะก็นะครับ) ขอบคุณข้อมูลจาก Bikewale อ่านข่าว Honda เพิ่มเติมได้ที่นี่…
หลังตื่นตาตื่นใจไปกับเหล่า Benelli 800 และ Benelli 600 ที่มีรายชื่อหลุดออกมาว่าจะทยอยเปิดตัวภายในปีนี้ได้เพียงไม่กี่วัน ล่าสุดเรากลับได้ข้อมูลเพิ่มเติมอีกว่าทางค่ายสิงโตแห่งนี้กำลังพัฒนารถมอเตอร์ไซค์แนวบิ๊กทัวร์ริ่งไบค์ไซส์ยักษ์คันใหม่ภายใต้ชื่อโปรเจ็กท์ว่า “QJ1200” ของตนเองอยู่ด้วย แม้จะมีรายละเอียดระบุไว้ไม่มากมายเท่าไหร่นัก แถมส่วนใหญ่ยังเป็นการระบุได้ภาษาจีน ทว่าหากอิงจากข้อมูลของสื่อยุโรปที่ระบุเพิ่มเติมเกี่ยวกับมัน อย่างน้อยเราก็ยังพอทราบได้อยู่บ้างว่าเจ้า QJ1200 คันนี้ จะมาพร้อมกับเครื่องยนต์ 3 สูบเรียง 1,130cc ที่เคยประจำการอยู่ใน Tornado TRE 1130 กับ TNT1130R แต่ถูกปรับจูนใหม่เพื่อให้ผ่านมาตรฐานไอเสียที่เข้มงวดกว่าเดิม และเพื่อให้มันเหมาะกับการใช้งานเชิงทัวร์ริ่งมากขึ้น จนอาจจะมีพละกำลังสูงสุดอยู่ที่ราวๆ 135 HP เท่านั้น (แถมน้ำหนักตัวแบบรวมของเหลวแล้วยังสูงถึง 338 กิโลกรัม) ขณะที่ความเร็วสูงสุดก็อาจจะอยู่ที่ราวๆ 220 กิโลเมตร/ชั่วโมง ซึ่งเอาจริงๆก็ถือว่าเหลือเฟือแล้วสำหรับการใช้งาน นอกจากนี้ระบบส่งกำลังของมันยังเป็นแบบระบบเพลาขับ ซึ่งนี่เป็นครั้งแรกที่ทางค่ายเลือกใช้ระบบส่งกำลังรูปแบบดังกล่าวในรถมอเตอร์ไซค์ของตน ส่วนสุดท้ายเจ้า Benelli QJ1200 จะถูกเปิดตัวโฉมขายจริงๆเมื่อไหร่นั้น ก็ยังไม่มีสามารถระบุช่วงเวลาที่แน่ชัดได้ แต่อย่างเร็วที่สุดก็อาจจะเกิดขึ้นในช่วงปลายปีนี้เพื่อวางจำหน่ายมันต่อไปในฐานะโมเดลปี 2021 ก็ได้ครับ ขอบคุณข้อมูลจาก…
ย้อนไปเมื่อปลายปีที่แล้ว หลังจบการทดสอบนัดปิดฤดูกาล MotoGP 2019 นักบิดแชมป์โลกคนล่าสุด Marc Marquez ก็เข้ารับการผ่าตัดกับทีมแพทย์เพื่อรักษาอาการหัวไหล่ขวา (เหมือนกับที่เคยเกิดขึ้นเมื่อปลายปี 2018 แต่เป็นไหล่ซ้าย) ในทันทีตั้งแต่วันที่ 27 พฤศจิกายน และแม้ในตอนแรกแพทย์ผู้ผ่าตัดจะคาดการณ์ไว้แค่ว่าอาการของ Marquez อาจจะฟิตไม่เต็ม 100% แต่อย่างน้อยก็ยังพอลงซ้อมได้ ทว่าจากข้อมูลล่าสุดการฟื้นตัวของเขากลับช้ากว่าที่คาดการณ์ไว้พอสมควร จนเขาอาจจะไม่สามารถลงทดสอบในรอบ Pre-Season Test ที่สนามเซปังฯ ประเทศมาเลเซียได้เลย ถึงมันจะผ่านเวลามาได้ 1 เดือนกว่าก็ตาม เกี่ยวกับเรืองนี้ Marquez ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อประเทศสเปนเอาไว้ว่า “ผมจำเป็นต้องพักฟื้นเพื่อให้การฟื้นตัวดีขึ้น เพราะมันดูยุ่งยากกว่าที่คาดหวังไว้”,”ปีที่แล้วผมก็ต้องผ่าตัดหัวไหล่ซ้ายและการพักฟื้นมันแตกต่างออกไป, (ทว่า)กับครั้งนี้มันควรจะง่ายกว่าและเร็วกว่า, แต่มันก็ไม่” “ผมหวังว่าจะผ่านมันไปได้ เพื่อกลับไปพร้อมอีกครั้ง จะได้เข้าร่วมในการเทสครั้งแรกของปีที่มาเลเซีย” Nuevas estimulaciones para el hombro! Primer día de Kart!??New stimulations for the…
นอกจากศึก Dakar Rally ปี 2020 จะเป็นครั้งแรกในรอบ 19 ปี ที่แชมป์รุ่นมอเตอร์ไซค์ไม่ใช่ KTM แต่ตัวแข่ง Honda CRF450 Rally ที่จับคู่กับนักบิดมือดีอย่าง Ricky Brabec เองก็ถือเป็นคู่ผสมที่ลงตัวจนทำให้ทางค่ายปีกนกสามารถคว้าชัยจากศึกบิดอึดนี้ได้เป็นครั้งแรกในรอบ 31 ปีด้วย ดังนั้นในวันนี้เราจึงขอพาเพื่อนๆไปรู้จักกับเจ้าตัวแข่ที่ว่านี้กันหน่อยดีกว่าครับ ว่ามันจะมีจุดเด่นอะไรน่าสนใจกันบ้าง โดยอย่างที่เพื่อนๆหลายคนน่าจะพอทราบกันว่าแท้จริงแล้ว เจ้า CRF450 Rally นั้นก็คือร่างเสริมมัดกล้ามของตัวแข่งเอนดูโร่รหัส CRF450R ดังนั้นขุมกำลังหลักของมันจึงเป็นบล็อคสูบเดียว DOHC ระบายความร้อนด้วยน้ำ ขนาดความจุจริงเท่าเดิมคือ 449cc แต่ปรับขนาดลูกสูบใหญ่ขึ้น 1 มิลลิเมตรเป็น 97.0 มิลลิเมตร และลดช่วงชักลง 1.3 มิลลิเมตรเป็น 60.8 มิลลิเมตร เพื่อหวังผลในเรื่องย่านกำลังช่วงรอบปลายให้ยาวขึ้น ส่วนกำลังสูงสุดก็เคลมไว้ว่าอยู่ในช่วงไม่ต่ำกว่า 60 แรงม้า PS กับแรงบิดสูงสุดอีกราวๆ 40…
ไม่แน่ใจว่านี่จะเป็นเรื่องที่ดีต่อตัวเขาหรือไม่ แต่นับจากที่ Johann Zarco ถอยห่างจากสัญญาของ KTM ได้อย่างอิสระมากขึ้น เขาก็เริ่มที่จะแสดงความเห็นซึ่งเสี่ยงที่จะมองหน้ากับทีมสีส้มไม่ได้มากขึ้นเรื่อยๆ แถมล่าสุดยังให้สัมภาษณ์อีกว่า อันที่จริงตนไม่ได้อยากจะเลือกเซ็นสัญญากับทีมนี้แต่แรก ทว่าอดีตผู้จัดการทีม Laurent Fellon ที่พึ่งแยกทางไปตอนกลางปี 2018 ต่างหากที่เป็นคนทำให้เขามั่นใจในตัวเองเกินไปจนรีบตัดสินใจเซ็นสัญญาโดยไม่ทันคิดให้ดี “ผมไม่เสียดาย และผมต้องบอกว่าการเซ็นสัญญากับ KTM น่ะไม่ใช่ตัวเลือกผมเลยสักนิด” Zarco กล่าว “(อดีต)ผู้จัดการส่วนตัวเค้าดูแลผมตรงนี้, ผมเชื่อใจเค้ามากและมันก็อาจจะทำให้ผมมีความมั่นใจมากเกินไป ผมเลยตัดสินใจอย่างรีบร้อน” “ผมได้เซ็นสัญญา 2 ปี, แต่พอได้ตัดสินใจจากสิ่งที่เกิดขึ้น, ผมไม่สามารถไปต่อทั้งแบบนี้ได้, ผมกลัวที่จะสูญเสียทุกอย่าง (คาดว่าหมายถึงการพลาดล้มจนเจ็บหนัก), ผมเลยยอมเสี่ยงที่จะไม่ได้ขี่มอเตอร์ไซค์ต่อไป (ในปีนั้น) เพื่อที่จะหาทางเลือกใหม่ในช่วงสิ้นปี, ผมมีความสุขไม่ได้ถ้าต้องจ่ายเพื่อไม่ได้ทำอะไรสักอย่าง, ผมอยู่แบบนั้นไม่ได้” ขอบคุณข้อมูลจาก Visordown อ่านข่าวสาร MotoGP เพิ่มเติมได้ที่นี่ เพื่อนๆ Bikers สามารถติดตามข่าวสารวงการล้อ ได้ทางแฟนเพจ MotoRival ของเราครับ Motorival