แม้ว่าในปัจจุบันทาง Yamaha จะมีการจำหน่ายเจ้า Tracer 700 และ Tracer 700 GT ที่เป็นรถมอเตอร์ไซค์แนว สปอร์ต-แอดเวนเจอร์ ให้ลูกค้าที่สนใจได้เลือกซื้ออยู่แล้ว แต่ก่อนหน้าที่ทางค่ายจะทำสองโมเดลนี้ออกมา สำนักแต่งจากประเทศอิตาลีนามว่า AD Koncept ได้มีแนวคิดที่อยากจะทำให้ 2015 MT-07 ซึ่งเป็นสปอร์ต-แน็คเก็ทไบค์ในขณะนั้น ให้กลายเป็น สปอร์ต-แอดเวนเจอร์ ก่อนผู้บริหารซะอีก จึงทำให้พวกเขาเลือกที่จะรีบู้ทหน้าตาของมันใหม่จนกลายเป็น MT-07 “Diversion-F” ที่เราเห็นกันอยู่ในขณะนี้ และอย่างที่กล่าวไว้ข้างต้นว่าเหมือนทาง AD Koncept จะอยากให้เจ้า MT-07 มีความเป็นสปอร์ต-แอดเวนเจอร์มากขึ้น ดังนั้นพวกเขาจึงหลักเลี่ยงไม่ได้ที่จะเอาชุดแฟริ่งหน้าของซุปเปอร์ไบค์เรือธงของ Yamaha นั่นก็คือ YZF-R1 มาสวมเข้าไป ขณะที่ตัวแฟริ่งข้างเองยังมีความคล้ายคลึงกับเจ้ากระเบนไม่น้อย แต่ถูกยืดยาวออกพอสมควรเพื่อรับกับสัดส่วนตัวรถ ไม่เพียงเท่านั้น ทางสำนักยังไม่ลืมที่จะแปะกาบแฟริ่งที่ดูเหมือนท่อแรมแอร์ไว้ด้านข้าง เพื่อบ่งบอกว่าร่างที่แท้จริงของมันคือแน็คเก็ทไบค์พิกัด 689cc จากตระกูล MT-Series ก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งไอเดียที่น่าสนใจไม่น้อย เพราะดูโดยรวมแล้ว มันออกจะสวยกว่า Tracer…
Author: admin
อาจจะยังไม่มีข้อมูลใดๆเกี่ยวกับตัวรถหลุดออกมาจากวงใน แต่ด้วยความเป็นไปต่างๆแล้ว New Yamaha MT-03 คงไม่น่าจะเปิดตัวเกินปลายปี 2019 เนื่องจากคู่แฝดของมันอย่าง YZF-R3 ได้เปิดตัวโฉมใหม่ไปแล้วเป็นที่เรียบร้อยในปีนี้ และด้วยเหตุนี้จึงทำให้ไม่น่าแปลกใจที่เหล่าสำนักออกแบบต่างๆ พยายามที่จะสรรค์สร้างหน้าใหม่ของ MT-03 ออกมาเพื่อนำเสนอความคิดของตนเอง ซึ่งชุดภาพล่าสุดที่เราได้นำเอามาให้เพื่อนได้รับชมอยู่ขณะนี้ก็คือผลงานของ Julak Sandie Design สำนักออกแบบเจ้าประจำจากประเทศอินโดนีเซียนั่นเอง หากมองในภาพรวม จะเห็นได้ว่า MT-25 (ซึ่งจริงๆก็คือ MT-03 ในบ้านเราที่ถูกปรับลด cc ลงตามกฏหมายของประเทศอินโดนีเซีย) ที่ทาง JLS ได้ออกแบบไว้นั้น ยังคงอิงพื้นฐานตัวรถหลายจุดจาก MT-03 รุ่นปัจจุบันอยู่ แต่มีการปรับรายละเอียดยิบย่อยอื่นๆให้ตรงกับพี่น้องตระกูล MT-Series มากขึ้น ซึ่งส่วนใหญ่แล้วจะคล้ายกับการปรับโฉม M-Slaz ให้กลายเป็น MT-15 ที่ Yamaha เคยทำเอาไว้ทั้ง การเอาชุดกรอบ, โคมไฟหน้า แบบพี่รอง MT-09 มาใส่เข้าไป, เปลี่ยนชุดเบาะนั่งให้เป็นแบบตอนยาวตอนเดียว แทนที่จะเป็นแบบ…
ย่างเข้าสู่ปีที่ 5 นับตั้งแต่การเปิดตัว Kawasaki Ninja H2R ครั้งแรกเมื่อปลายปี 2014 จนกระทั่งตอนนี้เรายังไม่เห็นวี่แววเลยว่าทางค่ายแตนเขียวแห่งนี้มีความสนใจที่จะดัดแปลงไฮเปอร์-สปอร์ตไบค์คันนี้ให้กลายเป็น สุดยอดไฮเปอร์-แน็คเก็ทไบค์เพื่อตามกระแสตลาดเสียที ซึ่งด้วยเหตุนี้เองจึงทำให้ทาง AD Koncept สำนักออกแบบจากประเทศอิตาลีเลือกออกแบบ Kawasaki H2n (ที่จริง ADK ตั้งชื่อไว้ว่า H2R แต่เพื่อให้เข้ากับตัวรถมากขึ้นทางทีมงาน MotoRival จึงตั้งให้ใหม่เป็น H2n เพื่อล้อกับตัว ER-6n ที่ดูจะเข้าท่ากว่า) เพื่อหวังเรียกเสียงฮือฮาจากเหล่าสาวกที่กำลังฝันถึงโมเดลนี้อยู่ และในเมื่อทาง ADK อยากให้เจ้า H2R กลายเป็นไฮเปอร์-แน็คเก็ทไบค์ ดังนั้นแฟริ่งครึ่งหน้าของมันจึงถูกถอดทิ้งออกทั้งหมดไม่เหลือแม้แต่ชิ้นส่วนเดียว และจะเหลือไว้แค่ชิ้นส่วนที่จำเป็นไว้ให้พอเป็นรถมอเตอร์ไซค์สำเร็จรูปหนึ่งคันเท่านั้น นั่นก็คือชุดไฟหน้า ที่มีการเสริมล้อมเครารีดอากาศไว้ด้านล่าง แล้วล้อมชิ้นส่วนพลาสติกอันจิ๋วกับลังดีรอบข้าง/ด้านบน และเปลี่ยนแฮนด์จับโช้กเป็นแฮนด์บาร์ รวมถึงการย้ายปลายท่อไปไว้ออกท้ายรถ (ใต้เบาะคนซ้อน) แน่นอนว่าเอกลักษณ์สำคัญที่สุดของการเป็นรถมอเตอร์ไซค์ซีรี่ย์ “H2” ก็คือ เครื่องยนต์ที่มีระบบอัดอากาศแบบซุปเปอร์ชาร์จเจอร์ ดังนั้นทาง ADK จึงลืมไม่ได้เด็ดขาดที่จะยังคงติดตั้งชุดท่อแรมแอร์ขนาดใหญ่ยักษ์เอาไว้ข้างลำตัวรถฝั่งซ้าย (ใช่ครับมีแค่ฝั่งเดียว เพราะปากไอดีซุปเปอร์ชาร์จเจอร์อยู่ด้านนี้เพียงด้านเดียว)…
ก่อนหน้านี้ทางทีม MotoRival เราได้มีการวิเคราะห์เกี่ยวกับประเด็นที่ว่า “ทำไม A.P. Honda ถึงไม่จำหน่าย CBR250RR ในไทยสักที ?” (คลิ๊กอ่านได้ที่นี่) กันไปแบบพอหอมปากหอมคอ มาตอนนี้ด้วยกระแสหลายๆอย่างที่เกิดขึ้นเราจึงาวิเคราะห์กันหน่อยดีกว่าครับว่า แล้วถ้าหากทางผู้บริหารจะขายโมเดลนี้ในไทยจริงๆ มันจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่กันแน่ ? โดยหากอิงจากข้อมูลที่เรากล่าวถึงในบทความก่อนหน้าที่เราได้ระบุไว้ว่า ตลอด 2-3 ปีมานี้ ทาง Honda Global ได้ทยอยเปิดตัวตั้งแต่โมเดลเล็กสุด CB150R ต่อด้วย CB125R (CB150R เวอร์ชันตลาดโลก) , CB300R และ CB1000R แทบจะรวดเดียวในช่วงปี 2017 รวมถึงน้องใหม่ที่พึ่งเปิดตัวไปไม่นานมานี้อย่าง CB650R เพราะพยายามที่จะดันตลาดในกลุ่ม Neo Sport Cafe (NSC) ค่อนข้างหนัก แต่จากความเคลื่อนไหวล่าสุดที่เกิดขึ้นสดๆร้อนๆในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา จะเห็นได้ว่าทาง Honda เปิดตัวทั้ง 2019 CBR500R…
จากการอัพเดทข้อมูลก่อนหน้าที่ว่าด้วยเรื่อง “กรมจนส่งทางบก เตรียมจับมือ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เชื่อมข้อมูลใบสั่ง” โดยคาดว่าจะเริ่มบังคับใช้ไตรมาส 2 ปีหน้านั้น ดูเหมือนว่าด้วยการเดินระบบต่างๆแล้วจะไม่สามารถทำให้มันใช้ได้จริงในเร็ววันนี้ตามที่คาดการณ์ไว้ตอนแรก และต้องเลื่อนออกไปในที่สุด โดยจากข้อมูลล่าสุดที่ นายกมล บูรณพงศ์ รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก(ขบ.) ได้กล่าวเกี่ยวกับเรื่องนี้ มีใจความว่า “หากขั้นตอนทั้งหมดเสร็จสมบูรณ์พร้อมออกประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว กว่าจะมีผลบังคับใช้จริงต้องเป็นปี 2563 หรือรอไปอีกหนึ่งปี เนื่องจากต้องมีห้วงเวลาของการเปลี่ยนถ่ายระบบต่างๆควบรวมเข้าสู่ถังข้อมูลเดียวกัน อาทิ ระบบใบขับขี่ ระบบทะเบียนรถ ไปจนถึงเรื่องการปรับใบอนุญาตรถเดิมเป็นต้น ดังนั้นเมื่อประกาศแล้วจะยังไม่มีผลในทันทีจนกว่าจะถึงเวลาทีเหมาะสม” อย่างไรก็ดี ขณะนี้ทางกรมขนส่งได้มีการพัฒนาระบบเชื่อมข้อมูลใบสั่งกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติไว้เรียบร้อยแล้ว และอยู่ในระหว่างรอความพร้อมในการเชื่อมข้อมูล ขณะที่เรื่องของตัวพรบ.ฉบับใหม่นั้น อยู่ระห่างรอเสนอให้สภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สตช.) พิจารณาการแปรญัตติเพื่อออกเป็นข้อบังคับต่อไป ส่วนประเด็นสำคัญของการควบรวมกฎหมายที่จะบังคับใช้ในปี 2563 นั้นประกอบด้วย การเพิ่มโทษปรับใบขับขี่ การขยายความผิดไปยังผู้ประกอบการผลิตรถยนต์ การควบรวมทุกประเภทบังคับใช้กฎหมายเดียวกัน รวมถึงการรวมระบบใบขับขี่เป็นมาตรฐานเดียวกันและการออกใบรับรองพิเศษแยกประเภทเพื่อใช้คู่กับใบขับขี่คล้ายโมเดลในประเทศยุโรป เช่น รถบรรทุกน้ำมันหรือรถสาธารณะเป็นต้น ขอบคุณข้อมูลจาก Thaipost เพื่อนๆ Bikers สามารถติดตามข่าวสารวงการล้อ ได้ทางแฟนเพจ MotoRival ของเราครับ Motorival
จากสถิติการเถลิงแชมป์ MotoGP ได้ถึง 7 สมัย และกว่า 5 สมัยนั้นเป็นการคว้าแชมป์ในรุ่น MotoGP นั่นจึงทำให้ในปีหน้าถึงเวลาแล้วที่ Marc Marquez จะต้องใช้เบอร์แห่งแชมป์เปี้ยนที่จำกัดเอาไว้ให้แต่แชมป์ฤดูกาลล่าสุด อย่าง “เบอร์ 1” อย่างเป็นทางการสักที โดยตลอดเวลาที่ผ่านมา ปกติแล้ว Marc Marquez จะใช้เบอร์ 93 ซึ่งเป็นเบอร์หลักของเจ้าตัวเท่านั้นในการแข่งขันระดับ World Grand Prix ส่วนเบอร์ 1 ที่สงวนไว้ให้แชมป์ เจ้าตัวจะเอาแปะไว้ตามจุดเล็กๆอื่นๆบนตัวรถเท่านั้นเวลาที่ตนเองได้แชมป์ ดังนั้นนี่จึงเป็นครั้งแรกที่ MM93 เลือกใช้เบอร์ 1 เป็นเบอร์หลักแปะไว้หน้ารถ และหน้าชื่อตัวเองบนตารางคะแนน อย่างไรก็ดี จากสถิติที่ผ่านมา มีนักบิดระดับแชมป์เปี้ยนน้อยรายมากที่จะสามารถรักษาแชมป์ต่อได้ในปีที่ตนเองเลือกใช้หมายเลข 1 เป็นเลขประจำตัวของตนเอง ซึ่งเราคงต้องมาลุ้นกันต่อว่า Marc Marquez จะสามารถทำลายอาถรรพ์นี้ได้หรือไม่ในการแข่งขัน MotoGP 2019 กันต่อไปครับ อ่านข่าวสาร…
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่านอกจากการเปิดตัวเหล่ารถมอเตอร์ไซค์ที่ใช้ขุมกำลังแบบเครื่องยนต์สันดาปภายในแล้ว ในปี 2018 ที่ผ่านมายังเป็นปีแห่งรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าอีกด้วย เนื่องจากมันีมการเปิดตัวใหม่ค่อนข้างเยอะมาก แต่จากทั้งหมดที่ว่ามานั้นจะมีคันไหนที่น่าสนใจบ้าง มาดูกันครับ Harley-Davidson LiveWire= ว่าที่รถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าคันแรกของ Harley-Davidson โดยมันได้ปรากฏตัวออกมาครั้งแรกเพื่อใช้โปรโมทในภาพยนต์ The Avengers : Age Of Ultron หลังจากนั้นก็เงียบหายไปพักหนึ่งจนกระทั่งมีการประกาศเมื่อไม่นานมานี้ว่ามันเตรียมถูกผลิตเพื่อขายจริงภายในปี 2019 Arc Vector มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าราคาสูงถึง 90,000 ปอนด์ หรือราวๆ 3,700,000 บาทไทย โดดเด่นด้วยดีไซน์ล้ำสมัยกว่าใคร พร้อมขุมกำลังมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังขับ 399 โวลท์ ทำแรงม้าได้สูงสุด 133 HP กับแรงบิดที่ปั่นได้สูงถึง 396 นิวตันเมตร Kymco SuperNEX ซุปเปอร์สปอร์ตไบค์หน้าตาดีจนซุปเปอร์ไบค์ขุมกำลังสันดาปภายในแท้ๆยังเขิน นอกจากนี้มันยังมีจุดเด่นที่น่าสนใจอื่นๆอีกมากมายโดยเฉพาะในเรื่องของสมรรถนะที่สามารถทำอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ได้ในเวลา 2.9 วินาที, 0-200 กิโลเมตร/ชั่วโมง ใน…
เหลืออีกเพียงไม่กี่วันก็จะเข้าสู่ช่วงศักราชใหม่กันแล้ว แต่ในปีที่ผ่านมาเราก็ได้เห็นมอเตอร์ไซค์จากผู้ผลิตต่างๆเปิดตัวกันออกมาหลากหลายรุ่น ซึ่งจะมีสักกี่คันจากในสิบในร้อยที่เปิดตัวออกมาพร้อมหน้าตาอันโดดเด่นและเป็นเอกลักษณ์ ดังนั้นในวันนี้เราจึงขอรวบรวมเหล่ามอเตอร์ไซค์หน้าแหวกแห่งปี 2018 มาให้เพื่อนๆได้รับชมกัน และมันจะมีคันไหนบ้าง มาว่ากันเลยดีกว่าครับ – Arch Vector มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าราคาสูงถึง 90,000 ปอนด์ หรือราวๆ 3,700,000 บาทไทย โดดเด่นด้วยดีไซน์ล้ำสมัยกว่าใคร พร้อมขุมกำลังมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังขับ 399 โวลท์ ทำแรงม้าได้สูงสุด 133 HP กับแรงบิดที่ปั่นได้สูงถึง 396 นิวตันเมตร – Arch Method 143 อีกหนึ่งมอเตอร์ไซค์คันงามจาก Arch ผู้ผลิตสัญชาติอังกฤษ แปลกด้วยรูปลักษณ์ที่สะดุดตากว่าใคร แถมไม่พอ ขุมกำลังของมันยังเป็นแบบ V-Twin ขนาดความจุใหญ่ยักษ์ถึง 2,343cc ขณะที่ชิ้นส่วนเสริมอื่นๆก็จัดเต็มทั้งชุดโช้กหน้าหลังรุ่นเกือบท็อปสุดจาก Ohlins และชุดล้อคาร์บอนจาก BST – Allen Millyard “Honda RC174” replica…
ในช่วงต้นเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ทาง Royal Enfield สามารถสร้างเสียงฮือฮาจากเหล่าสาวกได้เป็นอย่างดีที่เดียวหลังจากที่พวกเขาได้ทำารเปิดตัวรถต้นแบบที่มีชื่อว่า “Concept KX” และจากการที่มันได้รับความสนใจอย่างมาก ทำให้ทางผู้บริหารของ Royal Enfield ต้องหนักใจกันยกใหญ่ เพราะตอนแรกพวกเขาต้องการสร้างมันขึ้นมาเพื่อเป็นต้นแบบไว้สร้างสีสันในงาน EICMA 2018 เท่านั้น แต่ดูเหมือนว่าตอนนี้พวกเขาต้องทบทวนความคิดนี้ใหม่ และเริ่มจริงจังกับมันมากขึ้น ซึ่งเมื่อคืนที่ผ่านมาเราได้เห็นบทสัมภาษณ์ของ Siddhartha Lal ที่เปิดเผยเกี่ยวกับแนวทางต่อไปของเจ้ารถคอนเซปท์คันนี้เอาไว้ว่า “ตัวรถคอนเซปท์ KX ที่เราได้นำไปจัดแสดงใน EICMA ยังคงเป็นแค่คอนเซปท์, ตอนนี้เรากำลังประเมินการตอบรับของลูกค้า ซึ่งถ้าหากเราทำขายจริง มันจะเป็นมอเตอร์ไซค์รุ่นใหญ่ว่าที่เป็นในตอนนี้, แต่ยังไงเราก็ยังไม่ได้ตัดสินใจอยู่ดี” โดยจะเห็นได้ว่า เจ้า Concept KX คันนี้เป็นรถต้นแบบแนวครุยเซอร์ที่มีการเอาดีไซน์ของรุ่นพี่ในตำนานอย่าง Royal Enfield Model KX รุ่นปี 1936 มารีบูธใหม่ให้ดูโดดเด่น สวยงาม และล้ำสมัยมากขึ้น ขณะที่เครื่องยนต์ V-Twin ขนาดความจุ 838cc ถูกออกแบบขึ้นใหม่โดย…
ย้อนไปเมื่อเกือบ 2 เดือนก่อน ทาง Honda ได้เปิดตัวคอนเซปท์ไบค์รุ่นใหม่ซึ่งได้รับความสนใจไม่แพ้รุ่นใหญ่อย่าง 650-Series และ 500 Series ที่เปิดตัวในงานเดียวกัน และนั่นก็คือเจ้า CB125M คอนเซปท์รถมอเตอร์ไซค์แนวซุปเปอร์โมโตรุ่นเล็กที่มาพร้อมกับเครื่องยนต์ 125cc ซึ่งดูเหมือนว่ามันน่าจะเป็นอีกหน่ึ่งในโมเดลใหม่ที่จะได้รับการเปิดตัวเพื่อทำขายจริงในอนาคตอันใกล้นี้ และด้วยเหตุนี้เองจึงทำให้ทางสำนักเรนเดอร์จากอินโดนีเซียที่เราคุ้นเคยกันดีอย่าง Julak Sandie Design เลือกที่จะเสนอไอเดียว่าหากเจ้า CB125M คันนี้ถูกผลิตจริงขึ้นมา จะมีหน้าตาอย่างไรบ้าง ผ่านชุดภาพที่เรานำมาให้เพื่อนๆชมในขณะนี้ โดยหากมองจากลักษณะของ CB125M ที่ Julak ได้ออกแบบไว้ จะเห็นได้ว่าภาพลักษณ์โดยรวมของมันยังคงเหมือนกับร่างต้น แต่มีการเสริมไฟหน้าของ CB125R (CB150R ในบ้านเรา) ซึ่งก็คือรุ่นพื้นฐานแท้ๆของมันเข้าไป และตกแต่งกาบข้าง กับชุดครอบแฟริ่งท้ายให้ดูสมกับเป็นโปรดักชันไบค์มากขึ้น รวมถึงการเสริมชุดกันดีดด้านท้าย พร้อมใส่ไฟเลี้ยวเข้าไปที่ด้านท้ายของตัวรถ (แต่ไม่ยักกะใส่ด้านหน้าให้ซะอย่างงั้น) ทีนี้หากถามเราว่ามันมีโอกาสจะเกิดขึ้นจริงแค่ไหนล่ะก็ เราคงต้องบอกว่าไม่สามรถยืนยันได้ 100% แต่หากมองจากก่อนหน้านี้ที่ครั้งหนึ่งทาง Honda ได้เคยทำคอนเซปท์ 150 SS Racer…