Norton V4SV ซุปเปอร์ไบค์โมเดลใหม่ล่าสุด และโมเดลแรกหลังการเปลี่ยนมือของเจ้าของแบรนด์ ได้ถูกเผยโฉมออกมาแล้วในช่วงข้ามคืนที่ผ่านมา โดยในคราวนี้มันยังมาพร้อมกับนิยามใหม่ คือ “Most luxurious British superbike ever created” หรือ “ซุปเปอร์ไบค์สัญชาติอังกฤษที่หรูหราที่สุดเท่าที่เคยมีมา” อีกด้วย สำหรับข้อมูลในเบื้องต้น Norton V4SV คันนี้ ก็จะกลายเป็นตัวตายตัวแทนใหม่ของ Norton V4SS แต่มันจะยังคงมาพร้อมกับชุดเฟรมอลูมิเนียมขัดเงาแฮนด์เมด, สวิงอาร์มงานอลูมิเนียมแฮนด์เมด, ชุดช่วงล่าง ยกชุดจาก Ohlins ทั้งโช้กหน้ารุ่น NIX30 และ โช้กหลังรุ่น TTX GP, ปั๊มเบรกคู่หน้ารุ่น M50 จาก Brembo ที่ทำงานร่วมกับจานเบรก Full – Floating ขนาด 330 มิลลิเมตร ส่วนด้านหลังเป็นปั๊ม 2 ลูกสูบทำงานร่วมกับจานเบรกเดียว จากแบรนด์เดียวกันเหมือนเดิมทุกอย่าง แม้แต่ชุดแฟริ่งเปลือกนอกเองก็แทบไม่มีความเปลี่ยนแปลงมากเท่าไหร่นัก…
Author: admin
ในฐานะบริษัทรถจักรยานยนต์ที่ดำเนินการผลิตอย่างต่อเนื่องมานานที่สุดในโลก Royal Enfield สร้างรถจักรยานยนต์ทุกคันของแบรนด์ขึ้นมาให้มีดีไซน์เรียบคลาสสิค และมีเครื่องยนต์ที่ทนทาน เพื่อมอบประสบการณ์การขับขี่รถจักรยานยนต์ที่แท้จริงให้ผู้ขับขี่ทุกคน และเพราะ Royal Enfield เชื่อว่าการนำเสนอผลิตภัณฑ์/บริการที่ตรงใจลูกค้า (personalisation) คือส่วนหนึ่งของการขับขี่รถจักรยานยนต์ที่แท้จริง Royal Enfield จึงสนับสนุนนักคัสตอม และผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ให้แสดงความเป็นตัวเอง รวมถึงความคิดสร้างสรรค์ออกมาผ่านการแต่งรถจักรยานยนต์ตามความชอบของตัวเอง (customisation) มาอย่างต่อเนื่อง ในประเทศไทย วัฒนธรรมการคัสตอมนั้นสำคัญต่อการขับขี่รถจักรยานยนต์ ไม่ว่าจะเป็นการนำอุปกรณ์เสริมมาใช้เพื่อความสวยงาม และอัปเกรดประสิทธิภาพ หรือการแต่งใหม่หมด ส่งผลให้กลุ่มนักคัสตอมขยายตัว รวมถึงได้รับความนิยมมากขึ้น โครงสร้างที่แข็งแรง การออกแบบที่เรียบง่ายแต่ใช้งานได้หลากหลาย และความสวยงามเหนือกาลเวลาของรถจักรยานยนต์รอยัล เอนฟิลด์ คือสิ่งที่นักคัสตอมชื่นชอบ อีกทั้งทำให้รถจักรยานยนต์ของแบรนด์เป็นโมเดลพื้นฐานสำหรับการแต่งที่ดีเยี่ยม ข้อมูลรายละเอียดของ 2 รถจักรยานยนต์ Royal Enfield Meteor Custom คัสตอมใหม่ล่าสุด: K-Speed: Meteor Custom ‘DIABLO’ the Chopper Meteor เป็นรถจักรยานยนต์ที่มีเอกลักษณ์ในแบบของตัวเองอยู่แล้ว ดังนั้น K-Speed…
แม้จะได้ชื่อว่าเป็นแชมป์โลก MotoGP ยุคใหม่ของ Yamaha เหมือนกัน แต่ลักษณะนิสัย และบุคคลิกในการทำงานร่วมกับทีมของ Fabio Quartararo กลับต่างออกไปจาก Jorge Lorenzo อย่างสิ้นเชิง นั่นจึงทำให้ไม่ว่าใครก็ตามที่ทำงานร่วมกับแชมป์โลกคนใหม่คนนี้ ต่างก็เห็นตรงกันว่าเขาเป็นเด็กที่พร้อมจะเปิดรับ และปรับตัวกับทุกข้อเสนอแนะ ทำงานด้วยง่าย แถมยังทำให้บรรยากาศในทีมเป็นไปได้ดีอีกต่างหาก “Fabio เป็น(นักบิด)คนหนึ่งที่ทำงานด้วยง่ายมาก, ขณะที่ Jorge Lorenzo รู้ว่าเค้าต้องการอะไร, และนอกจากนั้น(ถ้าไม่อยากได้)ก็ไม่เอา” Wilco Zeelenberg ผู้จัดการทีม Yamaha SRT ที่เคยร่วมงานกับทั้ง FQ20 และ JL99 ให้ความเห็นเกี่ยวกับลักษณะนิสัยการทำงานที่แตกต่างกันชัดเจนระหว่างทั้งสองนักบิด “Fabio กลับต่างออกไป, เค้ามีแนวคิดที่เปิดกว้าง และนั่นทำให้เค้ามีพื้นที่ให้ปรับตัวได้กว้างมากๆ”, “ลองคิดดูสิ, ขณะที่เค้าก็มีอัตตาที่ต้องการจะชนะทุกคน เพราะเค้าไม่อยากจะแพ้, แต่ในขณะเดียวกันเค้าก็ยังแสดงความเคารพกับผู้อื่นมากๆ, ซึ่งมันเป็นอะไรที่พิเศษมากกับสภาพแวดล้อม(การแข่งขันสูง)แบบนี้” ด้าน Diego Gubellini หัวหน้าทีมช่างของ Fabio Quartararo…
GPX Drone ถือเป็นรถมอเตอร์ไซค์ที่สร้างกระแสตอบรับในตลองช่วงระยะเวลาขวบปีกว่าๆนับตั้งแต่มันถูกเผยโฉมออกมาได้เป็นอย่างดี และนอกจากความโดดเด่นในเรื่องสมรรถนะแล้ว งานดีไซน์หน้าตาภายนอกของมันยังโดดเด่นไม่แพ้ใครในคลาส จนเข้าตาคณะกรรมการและได้รับรางวัลงานออกแบบจากเวที Design Excellence Award หรือ DEmark 2021 ในสาขา กลุ่มสินค้าอุตสาหกรรมและดิจิทัล อีกด้วย ก่อนอื่น งาน Design Excellence Award เป็นเวทีประกวดงานออกแบบสินค้าในอุตสาหกรรมการผลิตของประเทศไทย ที่จัดขึ้นตั้งแต่ปี พ.ศ. 2551 โดยกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เพื่อเปิดโอกาสให้นักออกแบบ และผู้ประกอบการไทยได้แสดงผลงานสู่ตลาดโลก ถือเป็นประตูสู่การแข่งขันในระดับสากล โดยสินค้าที่ได้รับรางวัลจะได้รับตราสัญลักษณ์ DEmark ที่ได้การยอมรับทั้งในประเทศและต่างประเทศว่าเป็นตรา ที่แสดงถึงสินค้าที่มีการออกแบบดีเด่นเพื่อใช้เป็นเครื่องมือทางการตลาดในการสร้างความน่าเชื่อถือให้กับสินค้า โดยสินค้าที่ได้รับรางวัลจะได้รับการประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อและงานต่างๆ ให้เป็นที่รู้จักทั่วกัน แน่นอน ด้วยการออกแบบที่ตอบสนองรสนิยมของตลาดลูกค้านักขับขี่ชาวไทยและความสากล และสมรรถนะการใช้งานอย่างลงตัว ด้วยหัวใจสำคัญในการออกแบบ “Unique + Spirituality + Value” GPX Drone จึงมาพร้อมรูปลักษณ์โฉบเฉี่ยว ดุดัน ทันสมัย ใน…
Ducati Multistrada V4 Pikes Peak แอดเวนเจอร์-ทัวร์ริ่ง พันธุ์ซิ่ง เผยโฉมจริงอย่างเป็นทางการแล้วในช่วงข้ามคืนที่ผ่านมา หลังจากที่ทางค่ายได้ทำการปรับโฉม Multistrada 1260 ครั้งใหญ่ ให้เป้น Multistrada V4 ไปตั้งแต่ปลายปีก่อน หากมองโดยผิวเผิน Ducati Multistrada V4 Pikes Peak คันนี้ ก็อาจจะไม่ได้มีอะไรที่แตกต่างไปจาก Ducati Multistrada V4 รุ่นพื้นฐานเท่าไหร่นัก นอกไปจากลวดลายชุดสีของมัน ที่ปรับใหม่ให้มาพร้อมกลิ่นอายแบบเดียวกับตัวแข่ง MotoGP แต่อันที่จริงมันไม่ได้ถูกตกแต่งให้ดูมีความสปอร์ตโฉบเฉี่ยวมากขึ้น แค่เพียงชุดสีภายนอกเท่านั้น แต่ออพชันต่างๆที่ให้มายังถูกปรับแต่งใหม่ให้รองรับการใช้งานที่ “รวดเร็ว” กว่าเดิมด้วย ไล่ตั้งแต่ชุดท่อไอเสียคอไทเทเนียม-ปลายคาร์บอนของ Akrapovic ที่ช่วยให้สุ้มเสียงของเครื่องยนต์ V4 ที่เปล่งออกมามีความไพเราะเสนาะหูมากยิ่งขึ้น, ชุดฟรอนท์เฟรมอลูมิเนียมโมโนค็อกปรับใหม่ เพื่อให้องศาแกนคือขยับจาก 24.5 องศา เป็น 25.75 องศา เพื่อความนิง่ของช่วงหน้าตัวรถที่มากขึ้น, ติดตั้งชุดล้ออลูมิเนียมฟอร์จ…
ถ้าพูดถึง “แรงดันลมยาง” มันคงไม่ใช่เรื่องน่าสนใจเท่าไหร่สำหรับใครหลายๆคน เพียงแค่เติมค่าตามคู่มือก็จบ แต่เชื่อเถอะครับว่ามันสำคัญจริงๆ ไม่งั้นผู้ผลิตคงไม่ระบุมาชัดเจนทั้งในคู่มือ หรือถึงขั้นติดสติ้กเกอร์บอกไว้บนตัวรถหรอกครับ อย่างที่ทราบกัน ว่าเส้นยางดำๆที่รัดขอบล้อของเราอยู่ คือสิ่งเดียวที่เป็นตัวเชื่อมต่อระหว่างรถมอเตอร์ไซค์ที่เราขี่อยู่กับถนนหรือเส้นทางที่เราจะไป ซึ่งแรงดันลมยางเนี่ย มีผลต่อแรงยึดเกาะ, ความคล่องแคล่วในการเลี้ยว, ความเสถียร, ความนุ่มนวล, ไปจนถึงความทนทานของยาง ดังนั้นในคราวนี้เราจะมาพูดถึง “ความสำคัญของแรงดันลมยาง” กันดีกว่าครับ ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจก่อนว่า การที่เราเติมลมเข้าไปในยางแต่ละครั้ง แรงดันข้างในจะไม่อยู่ที่ค่านั้นตลอดไป เพราะโมเลกุลของอากาศที่เราอัดเข้าไป มันเล็กมากๆจนสามารถซึมผ่านโมเลกุลของยางได้ นั่นจึงเป็นที่มาของการเลือกเติมลมไนโตรเจนเข้าไป เพราะว่าโมเลกุลของก๊าซในโตรเจนอย่างเดียวนั้นใหญ่กว่าออกซิเจนพอสมควร หรือการเลือกใช้ยางประเภท Tube Less (ไม่ใช้ยางใน) แทน Tube Tire (ใช้ยางใน) เนื่องจากยางประเภทแรกมีโครงสร้างเนื้อยางที่แน่นกว่าประเภทหลัง แต่ทั้งหมดที่กล่าวมาก็แค่ทำให้มันซึมยากเท่านั้น ไม่ใช่ไม่ซึมเลย ดังนั้นระยะเวลาการตรวจเช็คลมยางที่เเหมาะคือทุกๆ 2 สัปดาห์ (หรือถ้าขยันหน่อยก็สัปดาห์ละครั้งไปเลยครับ) ส่วนเครื่องมือตรวจวัดลมยาง เราไม่แนะนำให้ใช้เกจวัดแบบดินสอ (ที่เสียบกับจุ๊บลมแล้วจะมีมาตรวัดยื่นออกมา)เท่าไหร่ เพราะไม่มีความเสถียรมากพอ ควรใช้เกจเข็มหรือดิจิตอลไปเลยดีกว่า ซึ่งเอาจริงๆแล้วพวกเกจวัดสองอย่างหลังสามารถหาใช้ได้ตามปั๊มน้ำมันได้ง่ายอยู่แล้ว (แต่ก็ใช่ว่าจะเท่ากันทุกปั๊มนะครับ อันนี้ผู้เขียนเจอมากับตัว ดังนั้นถ้าเป็นไปได้…
อย่างที่เราได้ทำการนำเสนอข้อมูลไปเมื่อวันก่อนว่าในตอนนี้ ทาง GPX ยังมีรถมอเตอร์ไซค์ที่รอให้เปิดตัวอีกหนึ่งตระกูล นั่นคือ Legend-Series ซึ่งล่าสุดพวกเขาก็มีการปล่อยทีเซอร์โฉมใหม่ของรถมอเตอร์ไซค์โมเดลนี้เป็นที่เรียบร้อย แถมมีการบอกใบ้รายละเอียดที่น่าสนใจเอาไว้หน่อยด้วย โดยสำหรับภาพที่เพื่อนๆเห็นอยู่ตอนนี้ ก็คือภาพทีเซอร์ของ GPX Legend-Series รุ่นใหม่ ที่ทางค่ายพึ่งตัดสินใจปล่อยออกมา และจากการสังเกตรายละเอียดภาพในเบื้องต้นน่าเสียดายที่ด้วยมุมภาพ ทำให้เราไม่สามารถระบุอย่างแน่ชัดได้ว่ามันคือภาพของ Legend 150 Fi หรือ Legend 250 Twin กันแน่ แต่ในคราวนี้ มันจะมาพร้อมกับบรรยากาศการตกแต่งภายใต้ธีมสหราชอาณาจักร ซึ่งนั่นอาจหมายถึงว่าในคราวนี้ มันจะไม่ได้มาพร้อมกับชุดสีใหม่แบบเรียบๆเท่านั้น แต่จะมาพร้อมกับลวดลายที่ให้กลิ่นอายแบบหมู่เกาะบริเตนใหญ่ด้วยอย่างน้อยที่สุด และด้วยความที่กำหนดการเปิดตัวจริงๆของมัน ก็จะเกิดขึ้นในวันพรุ่งนี้ ช่วงเวลา 14.30 น. แล้ว ดังนั้นหากเพื่อนๆคนไหนสนใจ ก็อาจจะไม่ต้องรอนาน แต่ขอให้ติดตามขอบจอกันให้ดี เพราะเราจะรีบนำเสนอข้อมูลของมันให้เพื่อนๆได้ทราบกันโดยเร็วที่สุดแน่นอน อ่านข่าว GPX เพิ่มเติมได้ที่นี่
ถือว่าเป็นรถมอเตอร์ไซค์อีกหนึ่งโมเดลที่น่าสนใจไม่น้อยเลทีเดียวสำหรับ Honda NT1100 รถมอเตอร์ไซค์แนว สปอร์ต-แอดเวนเจอร์ไบค์ หรือ ทัวร์ริ่งไบค์ยกสูงคันใหม่ล่าสุดของค่ายปีกนกที่พึ่งเผยโฉมได้ไม่นาน โดยราคาของมันเองก็น่าสนใจไม่แพ้กัน เพราะเปิดตัวเลขเอาไว้ถูกกว่าร่างต้นถึงเกือบ 50,000 บาท สำหรับข้อมูลในเบื้องต้น Honda NT1100 จะถูกสร้างและพัฒนามาจากพื้นฐานตัวรถ Africa Twin 1100 แต่ชุดแฟริ่งของมันจะถูกออกแบบให้รองรับการใช้งานบนทางดำมากกว่า ทั้งเส้นสายที่ดูปราดเปรียว และสปอร์ตโฉบเฉี่ยวในเวลาเดียวกัน วินชิลด์หน้าปรับระดับสูง-ต่ำได้ ชุดไฟหน้าก็เป็นแบบโคมคู่ LED หน้าตายกมาจาก X-ADV 750 ตัวใหม่ล่าสุด และแน่นอนว่าไฟเลี้ยวกับไฟท้ายเองก็เป็นแบบ Full-LED เช่นกัน และในเมื่อตัวรถถูกสร้างบนพื้นฐาน Africa Twin ดังนั้นชุดเฟรมของมัน จึงเป็นแบบ Semi-Double Cradle เหมือนกัน แต่ระบบกันสะเทือนของมันได้ถูกปรับเปลี่ยนใหม่ให้เน้นการใช้งานบนทางเรียบมากยิ่งขึ้น กับชุดล้อที่เปลี่ยนเป็นแบบอัลลอยด์หน้า-หลังขอบ 17 นิ้ว ส่วนระบบเบรกที่ให้มา ก็ไม่ได้มีความแตกต่างจากร่างต้นเท่าไหร่นัก แม้แต่ เครื่องยนต์บล็อค 2 สูบเรียง 1,084cc…
หลังจากที่ก่อหน้านี้ นักบิดเจ้าตำนานอย่าง Kevin Schwantz ได้แสดงความเห็นว่าตัว Marc Marquez จะต้องหลอนกับอาการบาดเจ็บที่เกิดขึ้นไปอีกนาน แต่ล่าสุด MM93 กลับระบุว่าอันที่จริงเขาไม่ได้หลอนกับอาการบาดเจ็บใดๆทั้งสิ้น เพราะสิ่งที่ทำให้เขาไม่สามารถขี่รถได้ดั่งใจจริงๆ ก็มีแค่เพียงอาการบาดเจ็บที่ยังคงเกิดขึ้นกับร่างกายจริงๆของเขาเท่านั้น “เอาจริงๆเลยนะ, อาการบาดเจ็บไม่ได้ทำให้ผมขี่ช้าลงเลยสักนิด” Marc Marquez กล่าว “ผมไม่ได้แข่งโดยคิดว่าผมเจ็บอยู่, แต่ความเจ็บปวด(จากบาดแผลจริงๆ)ต่างหากที่ทำให้ผมคิด, มันทำให้คุณไม่สามารถขี่ในแบบที่คุณเคยขี่เมือ่ก่อนได้, มันไม่เหมือนกับเมื่อก่อนที่ขึ่รถโดยคิดถึงแต่เรื่องรถ หรือการปรับเซ็ทรถได้, เว้นแต่ว่าเมื่อคุณทำเวลาต่อรอบที่ดีที่สุดได้ถึงสองครั้งในรอบฝึกซ้อม, และยังอีกสามครั้งในรอบอื่น เพื่อเซฟร่างกายของตนเอง” “ผมรู้สึกว่ามันต่างกันมากเลยนะ ระหว่างการขี่บนโค้งซ้ายกับโค้งขวา, และนั่นคือจุดที่ผมอยากจะแก้ไข, มันไม่ใช่ความผิดของ Honda, แต่เป็นเพราะท่าทางของผมบนตัวแข่ง, การขี่รถแบบนี้มันยากสำหรับผม, คือตอนที่ผมอยากจะขี่อย่างเป็นธรรมชาติ(แบบที่ตนเองสบายใจจะขี่), ผมก็มักจะพลาด, และในทันที ผมก็หลุดจากไลน์โค้งไป, มันน่ากระอักกระอ่วนจนคุณคิดได้ว่า, ผมพลาดล้ม เพราะผมพยายามจะขี่รถให้เร็วในแบบที่ผมเคยทำได้, แต่หลังจากนั้นในไม่ช้าผมก็รู้ตัวว่า มันเป็นไปไม่ได้หรอก(อย่างน้อยก็ในตอนนี้)” นอกจากนี้ แม้อาการบาดเจ็บหนักที่เกิดขึ้นกับ Marc Marquez ทำให้เขาต้องสูญเสียความมั่นใจในการขี่ไปพอสมควร แต่ดูเหมือนว่าอาการที่ว่านี้จะค่อยๆหายไปทีละนิดๆในทุกสนามที่ผ่านไป ซึ่งสิ่งหนึ่งที่ให้มันเป็นเช่นนั้น ก็ไม่ใช่แค่สภาพร่างกายที่ดีขึ้นเท่านั้น…
อาจจะจริงอยู่ว่า Honda CB650R ได้ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อตีตลาดรถมอเตอร์ไซค์แนวสปอร์-เน็คเก็ทไบค์ แต่ด้วยงานดีไซน์ของมันที่เน้นความร่วมสมัยแบบ Neo-Sport Cafe ดังนั้นเมื่อ Kawasaki Z650RS ถูกเผยโฉมออกมา มันเองก็สามารถชนสเป็คทางเทคนิคได้ด้วยเช่นกัน แต่ความแตกต่างของพวกมันจะเป็นอย่างไรบ้าง ? เรามาดูกันเลยครับ เครื่องยนต์ 2021 Honda CB650R : 4 สูบเรียง / 4 วาล์วต่อสูบ / DOHC / ระบายความร้อนด้วยน้ำ / กำลังอัดสูงสุด 11.6 : 1 / ขนาดกระบอกสูบ x ช่วงชัก : 67.0 มิลลิเมตร x 46.0 มิลลิเมตร / ขนาดความจุ 649cc 2022 Kawasaki Z650RS…