Yamaha Xmax 2022 ราคา 179,000 บาท บิ๊กสกู๊ตเตอร์ยอดนิยมเบอร์ต้นของไทย ถูกเผยโฉมแล้วในวันนี้ พร้อมเฉดสีใหม่และงานตกแต่งภายนอกที่ต่างไปจากเดิม Yamaha Xmax 2022 ยังมาพร้อมกับหน้าตาสปอร์ตโฉบเฉี่ยวอันเป็นเอกลักษณ์ทั้งใช้มาตั้งแต่ปี 2017 แต่เพื่อให้ตัวรถมีความสดใหม่มากขึ้น ทาง Yamaha จึงได้ทำการเปลี่ยนเฉดสีตัวรถใหม่ทั้งหมดสำหรับการวางจำหน่ายในปีนี้ แถมบางเฉดยังมีการใส่ระละเอียดเล็กน้อยๆเข้าไปอีกด้วย เริ่มจากตัวรถ สี Milky White หรือ สีขาวมุก-ล้อดำ, ตามด้วย Dark Petrol สีเขียวหัวเป็ด-ล้อทอง, Icon Blue สีน้ำเงิน ล้อน้ำเงิน แบบเดียวกับ Yamaha YZF-R Series, และ Redline สีแดงล้อดำ แต่มีการเพิ่มแถบสติ๊กเกอร์ด้านข้าง และเดินตะเข็บด้ายเบาะนั่งสีแดง เพื่อความโฉบเฉี่ยว (ซึ่งตัวหนังหุ้มเบาะมีการเปลี่ยนพื้นผิวใหม่ คาดว่าไม่ได้แค่เพื่อความสวยงาม แต่เพื่อลดการลื่นไถลของผุ้ขี่และผู้ซ้อนขณะใช้งานด้วย) และอย่างที่เกริ่นไว้ข้างต้นว่า Xmax 300 2022…
Author: admin
Indian FTR Champ Edition ครุยเซอร์สเป็คพิเศษ ถูกเผยโฉมอย่างเป็นทางการแล้วในช่วงข้ามคืนที่ผ่านมา เพื่อฉลองวาระสำคัญ นั่นคือการคว้าแชมป์การแข่งขันรถมอเตอร์ไซค์แนวแฟล็ทแทร็คระดับประเทศของสหรัฐอเมริกาได้ถึง 5 ปี ติดต่อกัน แม้จะไม่ใช่ตัวรถที่อยู่ในการแข่งขันจริงอย่าง FTR750 แต่ Indian FTR Champ Edition คันนี้ ก็ได้ถูกสร้างขึ้นบนพื้นฐานตัวรถเดียวกันกับ Indian FTR Carbon แต่ได้รับการตกแต่งด้วยกลิ่นอายและแรงบันดาลใจจากตัวแข่งมาอย่างเต็มขั้น ตั้งแต่การเปลี่ยนใช้ชุดบอดี้พาร์ทที่ทำขึ้นจากวัสดุคาร์บอนเกือบทั้งคัน ไม่ว่าจะเป็นบังโคลนหน้า, กรอบไฟหน้า, ตูดมดด้านท้าย, ขณะที่ถังน้ำมันซึ่งถูกครอบด้วยชิ้นงานคาร์บอนเอง ก็มาพร้อมเพลทลายฉลองแชมป์การแข่งขันแฟลทแทร็ค 5 สมัยซ้อนด้วย และยังเสริมความสะดุดตาให้กับตัวรถอีกนิดด้วยการใช้ชุดเฟรมโครงเหล็กถักสีแดง เช่นเดียวกับชุดล้อหน้า-หลัง ที่ไม่ได้มีความแตกต่างจากการทำสีแดงเท่านั้น แต่ยังถูกขยายขนาดจากขอบ 17 นิ้วหน้า-หลัง เป็นขอบ 19 นิ้วด้านหน้า และขอบ 18 นิ้งด้านหลัง แบบเดียวกันกับตัวแข่งร่างต้นด้วย ด้านรายละเอียดทางเทคนิคอื่นๆของตัวรถ อันที่จริงก็แทบไม่แตกต่างไปจาก Indian FTR Carbon…
นอกจากกการเผยโฉมรถมอเตอร์ไซค์ New Model เมื่อวันก่อน ในการเปิดตัวรถมอเตอร์ไซค์ครั้งเดียวกันทาง Harley-Davidson ยังได้ทำการเปิดตัวรถมอเตอร์ไซค์โมเดลปรับสีและปรับสเป็คใหม่สำหรับทำตลาดในปี 2022 ที่ประเทศไทยของเราออกมาด้วย นั่นคือ Harley-Davidson Sportster™ S 2022 และ Harley-Davidson Pan America 1250 2022 รถมอเตอร์ไซค์รุ่น Sportster S 2022 รถมอเตอร์ไซค์ Sportster™ S จาก Harley-Davidson® เป็นรถครุยเซอร์สมรรถนะสูง ที่ได้ผสมผสานพลังอันน่าทึ่งเข้ากับเทคโนโลยีที่ทันสมัย และสไตล์อันเป็นอมตะ Sportster™ S นี้ ถูกขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ Revolution™ Max 1250T ขนาด 121 แรงม้า ซึ่งทำให้ผู้ขับขี่ Sportster™ S สามารถควบคุมแรงบิดตามความต้องการ แชสซีของรถคันนี้นั้นมีน้ำหนักเบา ส่วนระบบกันสะเทือนระดับพรีเมียมนั้นช่วยให้รถมีการตอบสนองฉับไว และช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถควบคุมรถได้อย่างเป็นธรรมชาติ และสำหรับปี…
จากผลงานที่แทบไม่มีใครสามารถพาตัวแข่ง Honda RC213V ขึ้นโพเดี้ยมได้เลยในช่วงสองปีนี่ผ่านมา ทำให้ในการแข่งขัน MotoGP 2022 ทาง Honda ต้องทำการปรับสเป็คตัวแข่งของตนใหม่ทั้งหมด ซึ่งมันใหม่จน Marc Marquez รุ้สึกว่ามันเหมือนกับเป็นรถที่ถูกทำโดยค่ายอื่นซึ่งไม่ใช่ต้นสังกัด “มันต่างจากปีก่อนๆ” Marc Marquez กล่าวในการให้สัมภาษณ์กับสื่อ Crash.net เกี่ยวกับความรู้สึกของเขาต่อตัวแข่ง Honda RC213V สเป็คปีล่าสุด หลังจากที่เจ้าตัวสามารถจบการแข่งขันนัดเปิดฤดูกาลได้ด้วยอันดับห้า “มันแทบจะเหมือนกับเปลี่ยนผู้ผลิตเลย, มันต่างกันอย่างสิ้นเชิง(จากตัวแข่งคันก่อนๆ), แต่อย่างไร้ข้อสงสัย, เรายังต้องปรับตัวเข้ากับมัน, และมันคือความท้าทายใหม่” “เราได้ลองอะไรหลายๆอย่างกับตัวแข่งคันใหม่, และหลังจากที่ผมได้เริ่มการทดสอบแรก เราก็พัฒนาขึ้น, โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่มันดาลิกา”, “คือที่กาตาร์ เราไม่ได้แตะต้องอะไรตัวรถมากนัก, เพราะมันคือการแข่งสนามแรก และผมไม่อยากจะหลงทาง, เราทำแค่ตั้งใจกับการวางไลน์แล้วก็ยางแค่นั้น, และที่มันดาลิกา เราก็จะทำเหมือนเดิมเพื่อทำปรับให้รถเข้ากันกับสไตล์การขี่ของผม” “มันเป็นความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่, วิธีการขี่รถนั้นแตกต่างออกไป, แต่รถมันมีศักยภาพอยู่แล้ว” อ่านข่าว MotoGP เพิ่มเติมได้ที่นี่
Harley-Davidson Street Glide ST ราคาเริ่ม 1,579,900 บาท และ Road Glide ST ราคาเริ่ม 1,649,900 บาท Harley-Davidson Street Glide ST และ Road Glide ST สองคู่หูครุยเซอร์มาดเข้มสุดทรงพลังรุ่นใหม่ล่าสุด ถูกเผยโฉมอย่างเป็นทางการในการในไทยแล้ววันนี้ และความพิเศษของมัน ก็ไม่ได้มีแค่เพียงการตกแต่งภายนอกเท่านั้น แต่ยังมาพร้อมกับเครื่องยนต์บล็อคใหม่ Milwaukee-Eight 117 ใหญ่กว่าเดิมตั้งแต่ออกโรงงานด้วย รถมอเตอร์ไซค์รุ่น Street Glide® ST ราคา วางจำหน่ายเริ่มต้น 1,579,900 บาท พบกับความเร็วเหนือชั้นจากรถมอเตอร์ไซค์ Harley-Davidson® ที่ทรงพลังและเต็มเปี่ยมด้วยสไตล์แบบตะวันตกเพื่อให้ผู้ขับขี่ที่กระหายความเร็วไม่รู้จบ ซึ่งรถมอเตอร์ไซค์รุ่น Street Glide® ST ได้ผสมผสานพลังของเครื่องยนต์ Milwaukee-Eight 117 กับสไตล์ที่ดุดันแบบตะวันตกและสีเข้มและบรอนซ์อย่างลงตัว แฟร์ริ่งรูปทรงปีกค้างคาวอันเป็นเอกลักษณ์ของ…
ขณะที่ชาวไทยกำลังรอคอยการเปิดตัวของ Honda ADV350 ในบ้านเราอย่างใจจดใจจ่อ จากกระแสข่าวที่ระบุว่ามันกำลังจะเกิดขึ้นในอีกไม่กี่วันข้างหน้า ล่าสุดเรากลับได้รับข้อมูลว่าทาง Honda ประเทศอินโดนีเซียเอง ก็กำลังเตรียมแผนที่จะเปิดตัวโมเดลคู่ขนานของมันด้วยเช่นกัน แถมยังมีกำหนดว่าจะเกิดขึ้นก่อนการเปิดตัวในไทยอีกด้วย เกี่ยวกับเรื่องนี้ เป็นข้อมูลจากสื่อฯอินโดนีเซียหลายแหล่งที่ต่างระบุเป็นเสียงเดียวกันว่าในขณะนี้ ทาง Astra Honda ได้มีการเคาะกำหนดวันเตรียมจัดงานเปิดตัวรถมอเตอร์ไซค์รุ่นใหม่ของทางค่ายในประเทศของตนเองให้เหล่าสื่อมวลชนได้เตรียมความพร้อมกันแล้ว นั่นคือภายในวันที่ 14 มีนาคม ที่จะถึงนี้ และถึงแม้ทางค่ายจะไม่มีการระบุว่ารถมอเตอร์ไซค์โมเดลใหม่ที่พวกเขาเตรียมจะเปิดตัวนั้นคือโมเดลใด แต่ทางสื่อท้องถิ่นเองก็ดูเหมือนจะมีคำตอบในใจพวกเขาเองอยู่แล้ว และคำตอบนั้นก็คือ Honda ADV250 ที่จะเป็นรถมอเตอร์ไซค์โมเดลคู่ขนานของ ADV350 เนื่องจากเมื่อไม่กี่วันก่อนหน้านี้ทางสื่อฯท้องถิ่นได้พบกับหลักฐานสำคัญเป็นชุดภาพสิทธิบัตรของรถมอเตอร์ไซค์รุ่นดังกล่าวในเว็บไซต์ของหน่วยงานภาครัฐอินโดนีเซียหลังจากที่ทางค่ายพึ่งยื่นจนไปได้ไม่นานนัก (คาดว่าจะเมื่อวันที่ 5 มีนาคม ที่ผ่านมานี้เอง จากที่เห็นในภาพ) ดังนั้นมันจึงไม่มีรถมอเตอร์ไซค์รุ่นอื่นใดอีกต่อไปแล้วที่จะประจวบเหมาะสำหรับการเปิดตัวในวันจันทร์หน้ามากกว่านี้ ส่วนรายละเอียดทางเทคนิคอื่นๆของตัวรถ Honda ADV250 ที่จะเปิดตัวในประเทศอินโดนีเซียเร็วๆนี้ อันที่จริงก็ไม่น่าจะใช่สิ่งที่ต้องคาดเดากันยากเท่าไหร่นัก เพราะหากว่ากันตามตรงมันก็จะต้องมาพร้อมกับทั้งหน้าตา และออพชันที่เหมือนกันกับ Honda ADV350 ทุกประการ เว้นเพียงอย่างเดียวคือเรื่องเครื่องยนต์ eSP+ ที่เปลี่ยนจากบล็อค 327cc เป็นบล็อค 249cc…
2022 Ducati Panigale V4 SP2 เผยโฉมออกมาเรียบร้อยแล้วในตอนนี้ และความพิเศษของมันก็ยังคงเป็นการเสริมสมรรถนะตัวรถในภาพรวมให้สูงขึ้นกว่า Panigale V4 S เดิมๆ จนเหนือกว่าแม้กระทั่ง Panigale V4 R สำหรับข้อมูลในเบื้องต้น Ducati Panigale V4 SP2 คันนี้ หลักๆแล้วก็จะถูกทำขึ้นด้วยคอนเซปท์ที่ไม่แตกต่างจาก Panigale V4 SP รุ่นแรกเลยแม้แต่น้อย นั่นคือมันจะเปรียบเสมือนกับ Panigale V4 S ที่ถูกอัพเกรดให้มีออพชันจัดเต็มมากขึ้น เพื่อรองรับการใช้งานในสนามกว่าเดิม ไล่ตั้งแต่การใช้ ชุดสีรอบคันสีดำด้าน ตัดโทนด้วยเส้นสติ๊กเกอร์สีแดงใต้แนวไฟคู่หน้า กับตูดมดด้านหลัง และอกล่างบริเวณท่อไอเสีย, วิงเล็ทใหม่แบบเดียวกับ Panigale V4 MY2022 แต่เปลี่ยนวัสดุการขึ้นรูปจากพลาสติกเป็นคาร์บอน พร้อมแปะสติ๊กเกอร์ลายธงชาติอิตาลี, ถังน้ำมันไม่ทำสีแต่โชว์ให้เห็นเนื้ออลูมิเนียมเพียวๆ แบบตัวแข่ง Winter Test ในศึก WSBK, เบาะนั่งหุ้มหนังอัลคันทาร่า,…
หลังจากที่เราได้ทำการอธิบายหลักการทำงานของกลไก Holeshot Device เพื่อช่วยการออกตัวของรถแข่ง MotoGP กันไปแล้ว ซึ่งดูเหมือนว่าเรื่องนี้อาจเป็นสิ่งที่ดูไกลตัวพวกเราอยู่มาก ดังนั้นในวันนี้เราจึงขอพาเพื่อนๆไปรู้จักกับอีกสิ่งหนึ่งที่ช่วยในเรื่องของการออกตัวเช่นกัน และยังถูกตั้งตั้งในรถโปรดักชันไบค์ให้คนทั่วไปได้ใช้งานกันมาตั้งนานแล้วอย่างระบบ “Launch Control” สักหน่อยดีกว่า ว่ามันช่วยในการออกตัวของรถให้มั่นคงได้อย่างไร ? โดยสำหรับหลักการทำงานในเบื้องต้น พื้นฐานที่สุดแล้ว ระบบ Launch Control จะต้องมีการจำกัดรอบในการออกตัวไว้ แทนการที่ผู้ใช้ต้องมาประมาณคันเร่งเองว่าบิดไปเท่าไหร่ถึงจะได้รอบที่ต้องการและมันเหมาะสมกับการออกตัว ซึ่งหากเพื่อนๆคนไหนเคยฝึกออกตัวกันมา คงทราบกันดีว่าถ้าไม่รู้ ไม่ชินจังหวะและความสัมพันธ์ในการคลอคันเร่งกับเครื่องยนต์แล้ว การจะทำให้รอบนิ่งไม่กระดิกขึ้นลงจากที่ตั้งใจไว้เลยเป็นอะไรที่ยากมาก แล้วยังไม่พอต้องมาเกลี่ยแรงมือซ้ายที่ใช้กำคลัทช์อีกก็ยิ่งหนักหัวไปกันใหญ่ ดังนั้นถ้ามีการล็อครอบออกตัวไว้ ที่ไม่ว่าผู้ใช้จะบิดแค่ไหนรอบก็ค้างอยู่อย่างนั้น ย่อมสะดวกสบายกว่าเป็นไหนๆอยู่แล้ว เพราะผู้ใช้มีหน้าที่แค่คอนโทรลมือคลัทช์ในจังหวะกระชากออกตัวเพียงอย่างเดียว อย่างไรก็ดีหลังจากที่ออกตัวไปแล้ว ก็ใช่ว่ามือฝั่งคันเร่งจะสบายไปเลย เพราะถ้ายังบิดสุดอย่างนั้นล้อหน้าอาจจะลอยแล้วหงายไปดื้อๆได้ ดังนั้นถ้าหากจะให้แอดวานซ์ขึ้นไปอีกขั้น ในรถมอเตอร์ไซค์ระดับ Superbike 1000cc ขึ้นไป ที่มีแรงบิดพร้อมจะดึงหน้ารถลอยได้ทุกเมื่อ ระบบ Launch Control ที่ว่านี้ จะทำงานร่วมกับระบบป้องกันล้อยก หรือ Wheelie Control อีกหนึ่งอย่าง หรือในบางคันบางรุ่น ก็อาจจะมีการปรับกราฟเครื่องยนต์…
หลังเงียบหายไปพักใหญ่ สำหรับการเปิดตัวรถมอเตอร์ไซค์โมเดลใหม่ของปี 2022 ล่าสุดเราก็ได้ข้อมูลใหม่มาแล้วว่าทาง Honda กำลังเตรียมแผนที่จะเปิดตัวรถมอเตอร์ไซค์โมเดลใหม่ ในระยะเวลาเพียงไม่ถึงหนึ่งสัปดาห์นับจากนี้ เกี่ยวกับเรื่องนี้ เป็นข้อมูลใหม่สดๆร้อนๆจากทาง Honda ที่ได้ออกมายื่นจดหมายเชิญสื่อฯให้เข้าชมการเปิดตัวว่าที่รถมอเตอร์ไซค์รุ่นใหม่ของทางค่าย ในวันที่ 16 มีนาคม ที่จะถึงนี้ ช่วงเวลา 17.00น. – 18.00 น. โดยจุดน่าสนใจก็คือหลังจากวันเปิดตัวรถมอเตอร์ไซค์คันดังกล่าวไม่นาน พวกเขาก็ยังมีการนัดหมายสื่อมวลชนให้เข้ารวมการทดสอบมันด้วยในอีกไม่กี่วันหลังจากนั้น ซึ่งปกติแล้วจะเป็นรูปแบบการจัดงานสำหรับรถมอเตอร์ไซค์ที่เป็นรุ่นปรับโฉมใหญ่ หรือไม่ก็โมเดล All-New เท่านั้น โดยสำหรับรถมอเตอร์ไซค์ที่มีแนวโน้มว่าจะถูกเผยโฉมในช่วงต้นปีนี้ของ Honda อันที่จริงก็มีอยู่หลายรุ่นด้วยกัน และหนึ่งในนั้นก็คือ Honda ADV350 บิ๊กสกู๊ตเตอร์แนวลูกผสมกึ่งลุย ที่ถูกเปิดตัวเป็นครั้งแรกในโลกตั้งแต่ช่วงปลายปีก่อน และตอนนี้มันก็กำลังถูกโหมกระแสหนักมากว่าใกล้ที่จะได้เวลาถูกนมาเปิดตัวในประเทศไทยของเราไปทุกที ซี่งข้อเท็จจริงจะเป็นอย่างไร อาทิตย์หน้า มารมชมคำตอบไปพร้อมๆกันครับ อ่านข่าว Honda เพิ่มเติมได้ที่นี่
แม้ว่าความเดิม ตัวแข่ง Yamaha YZR-M1 จะมีข้อเสียเปรียบคู่แข่งในเรื่องพละกำลังและความเร็วสูงสุดมากพอแล้ว แต่ในการแข่งขัน QatarGP 2022 ครั้งล่าสุด เหล่านักกบิดของทีมส้อมเสียงกลับพบปัญหาในเรื่องของยางเพิ่มเข้ามาอีก และที่หนักกว่านั้นก็คือ จนตอนนี้ทางทีมเองก็ยังไม่สามารถหาคำตอบได้ว่าปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นเพราะอะไร ? “ในตอนเริ่มการแข่งขัน เรามีปัญหาบางอย่างเกี่ยวกับแรงดันลมยาง(หน้า)” Andrea Dovizioso กล่าวในการให้สัมภาษณ์กับสื่อ Motorsport.com หลังเจ้าตัวทำผลงานในการแข่งขัน QatarGP 2022 ได้ไม่ดีเท่าไหร่นัก เนื่องจากตัวแข่งของเขามีปัญหา เช่นเดียวกับตัวแข่งของนักบิดทีมโรงงานรายอื่นๆอย่าง Quartararo และ Morbidelli “มีบางอย่างเกิดขึ้น, Yamaha ต้องทำความเข้าใจให้ได้, แต่รถทุกคันก็มีปัญหานี้” “ล้อหน้ามันล็อคในจุดที่แปลก, ผมไม่เข้าใจ, ผมสูญเสียการควบคุมที่ล้อหน้าไปสองครั้ง, ผมหลุดออกนอกนสนามไป และพอผมได้เห็นค่าแรงดันลมยาง(หลังจบการแข่งขัน) ผมก็เข้าใจว่าทำไม”, “นี่พึ่งเริ่มต้น ซึ่งมันก็แย่ แย่มากๆ, ผมเสีย(อันดับ)ไปเยอะมาก”, “หลังจากนั้น ผมก็สามารถขี่คนเดียวได้ และผมก็สามารถจะขี่ได้ปกติแล้ว, และเวลาต่อรอบก็อยู่ในเกณฑ์ที่รับได้คือราวๆ 1’55.5 นาที, 1’55.4 นาที,…
