ย้อนไปเมื่อราวๆ 2 เดือนที่แล้ว เราได้เคยนำเสนอภาพของ Yamaha YZF-R15 คันหนึ่งที่มาพร้อมกับเฉดสีแปลกตาจากที่เราเคยเห็นนั่นก็คือ เฉดสีดำ/ทอง ซึ่งเราก็ได้แต่สงสัยกันว่าสิ่งที่เรากำลังเห็นอยู่ในตอนนั้น คือเฉดสีใหม่ของเจ้า R15 ที่จะใช้ทำตลาดในปี 2018 หรือเป็นเพียงแค่สีคัสตอมที่ทางดีีลเลอร์ทำขึ้นมาเพื่อเรียกลูกค้าเท่านั้น แต่ถ้านั่นยังงงไม่พอ วันนี้เราก็จะพาเพื่อนไปชมอีกหนึ่ง YZF-R15 ที่ได้รับการตกแต่งด้วยลายคล้ายๆกับของทีมแข่ง MotoGP อย่าง Yamaha Tech3 โดยยึดพื้นฐานเฉดสี ดำ/ทอง ของตัวรถคันก่อนหน้า แต่ในคราวนี้ดูเหมือนว่าทางดีลเลอร์เจ้าดังกล่าวจะเพิ่มพื้นที่สีทองให้มากขึ้นจากเดิมที่เคยมีเพียงบริเวณชุดล้อ, และเส้นสติ้กเกอร์บริเวณบังโคลนและตามชิ้นส่วนต่างๆเล็กๆน้อยๆเท่านั้น ส่วนเจ้า R15 Tech3 Edition นี้ได้รับการเพิ่มชิ้นส่วนสีทองขึ้นอีกหลายจุดพอสมควรทั้งชุดคาวลิ่งใต้ไฟหน้า, อกไก่, และถังน้ำมัน เสริมด้วยการแปะสติ้กเกอร์สัญลักษณ์เครื่องดื่มแบรนด์ดัง Monster และบริษัทเครื่องมือช่าง Stanley ที่เป็นผู้สนับสนุนหลักของทางทีมแข่ง Tech3 งานนี้เพื่อนๆคนไหนที่กำลังครอบครองหรือมีแผนที่จะซื้อเจ้า Yamaha YZF-R15 อยู่ และมีความรู้สึกว่าอยากได้ความต่างจากชาวบ้านล่ะก็ ไอเดียการทำสีแบบนี้ก็น่าสนใจทำตามไม่น้อยเลยทีเดียว ขอบคุณภาพจาก TMCblog อ่านข่าวสาร Yamaha…
Author: admin
สำหรับรางวัล Rookie Of The Year ประจำการแข่งขัน MotoGP ฤดูกาลปี 2017 นั้นคงเป็นของใครไปไม่ได้เลยนอกจาก “บักสีดาซิ่ง” Johan Zarco จากทีม Tech3 Yamaha ซึ่งหนึ่งในผู้ที่ช่วยซัพพอร์ทให้นักบิดรายนี้สามารถทำผลงานได้ดีเกือบทั้งฤดูกาลนั้นก็คือหัวหน้าทีมช่างอย่าง Guy Coulon ที่อยู่กับทีมมาตั้งแต่ปี 1989 ส่งผลให้เค้าเป็นหนึ่งในคนที่เข้าใจในตัวรถ YZR-M1 เป็นอย่างดีไม่แพ้กับช่างทีมโรงงาน และนอกจากความเข้าใจในตัวรถแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่ Coulon เป็นสาเหตุว่าทำไมนักบิดหมายเลข 5 สามารถทำได้ดีกับการแข่งขันได้ขนาดนี้นั้นเป็นเพราะว่าเค้าคือนักบิดที่สามารถบอกรายละเอียดเกียวกับความรู้สึกของตัวรถได้ดี แถมยังเป็นคนที่ยอมรับและปฏิบัติตามคำแนะนำของช่างทุกอย่าง ซึ่งมันช่างคล้ายกับอดีตลูกทีม Andrea Dovizioso ที่เค้าเคยร่วมงานด้วยเมื่อปี 2012 ยกตัวอย่างเช่นการสั่งให้ พวกเค้าต้องขับรถต่อเนื่องอย่างน้อย 4 หรือ 5 รอบแล้วค่อยกลับมาตัดสินใจว่าการเซ็ทอัพนั้นดีหรือไม่ พวกเค้าก็เลือกที่จะทำตามอย่างนั้นเป๊ะๆ พร้อมกับอธิบายความรู้สึกที่เกิดขึ้นอย่างตรงไปตรงมากับทีมช่างซึ่งส่งผลดีอย่างมากเกี่ยวกับการทำงานแบบทีมเวิร์ค แต่ถ้าให้เทียบกับนักบิดรายอื่นแล้วล่ะก็ หลังพวกเค้าบิดออกไปแล้วพบว่าการเซ็ทอัพนั้นผิดปกติเค้าก็จะกลับมาในทันทีทั้งๆที่ขับยังไม่ครบจำนวนรอบที่กำหนด ซึ่ง Coulon อธิบายไว้ว่านักบิดไม่ควรทำอย่างนั้น เพราะบางทีทีมช่างอาจจจะเซ็ทรถไว้เพื่อให้มันสามารถขับได้ดีเมื่อผ่านเวลาไปซักระยะหนึ่ง…
แม้ว่าจากข้อมูลก่อนหน้านี้จะระบุไว้ว่าทาง Yamaha กำลังมีแผนที่จะยุบสายการผลิตของยอดคลาสสิคไบค์ในตำนานอย่าง SR400 ก็จริง แต่ดูเหมือนว่าแท้จริงแล้ว พวกเค้าเพียงแค่ต้องการปิดการผลิตดีไซน์เดิมๆของเจ้านี่ไปเท่านั้น โดยภาพนี้ All New Yamaha SR400 ได้มีการปรับเปลี่ยน แล้วปรับเปลี่ยนดีไซน์ใหม่ให้เป็นดูมีความเป็นโมเดิร์นมากขึ้นตามยุคสมัยแทนที่จะดองหน้าตาไว้กว่า 40 เหมือนอย่างที่เคยเป็นมา โดยจากข้อมูลภาพเรนเดอร์ชุดล่าสุดที่ทาง Young Machine ปล่อยออกมานั้นได้ปรากฏภาพของ All-New Yamaha SR400 ซึ่งแม้ว่ามันจะมีหน้าตาบริเวณช่วงหลังตัวรถคล้ายๆเดิม แต่ชุดระบบกันสะเทือนหน้า ระบบเบรก และโคมไฟเป็นดีไซน์ใหม่ที่น่าจะอ้างอิงเส้นสายของ XSR700 มาใช้ในการตัดแปะ ดังนั้นจึงหมายความว่าเจ้า SR400 รุ่นถัดไป น่าจะปร่ากฏตัวในฐานนะรถมอเตอร์ไซค์แนวโมเดิร์นคลาสสิค อย่างไรก็ตามจากภาพจะเห็นได้ว่าตัวเครื่องยนต์นั้นยังคงมีหน้าตาเหมือนกับเครื่องยนต์ลูกปัจจุบันที่เป็นแบบสูบเดียว 399cc ที่ติดตัวเจ้า SR400 คันนี้มาตั้งแต่โฉมแรก ซึ่งเอาจริงๆแล้วเจ้าเครื่องยนต์ลูกนี้ต่างหากที่เป็นปัญหาหลักทำให้ทาง Yamaha คิดหนักในการทำตลาดต่อไป เพราะเริ่มไม่รองรับกับกฏหมายมลพิษที่เข้มงวดขึ้นเรื่อยๆ เว้นเสียแต่ว่าพวกเค้าจะออกแบบเครื่องยนต์บล็อคใหม่ All New Yamaha SR400 ที่มีหน้าตาคล้ายๆเดิมได้นั่นเอง ขอบคุณภาพจาก Young-Machine…
หลายคนรอจนแล้วจนเล่า จนน้องเล็กที่ปรับโฉมทีหลังอย่าง PCX 150 มีโฉมใหม่เปิดตัวไปก่อนหน้านี้ ก็ยังไม่มีวี่แววว่า Honda จะเข็นหน้าใหม่ของ Forza 300 ออกมาซักที แต่ล่าสุดก็ได้มีข้อมูลแจ้งจากสื่ออินโดนีเซียออกมาว่าในตอนนี้ทาง Astra Honda Motors ได้เริ่มทำอะไรบางอย่างเกี่ยวกับโมเดลใหม่ของเจ้านี่กันบ้างแล้ว โดยสำหรับข้อมูลที่ทางสื่ออินเดียได้ลงไว้นั้น ระบุไว้ว่าในตอนนี้ทาง Astra Honda มีแผนที่จะวางจำหน่ายเจ้า Forza 300 ภายในประเทศของพวกเค้าในลักษณะของรถนำเข้าเนื่องจากการขึ้นไลน์อัพใหม่นั้นจะต้องใช้เงินทุนมหาศาลอย่างมาก และดูเหมือนว่าการขายเจ้า Forza คันนี้นั้นก็ดูจะไม่ใช่เรื่องที่คุ้มทุนเท่าไหร่หากพวกเค้าต้องผลิตขึ้นเอง ดังนั้นผู้ผลิตที่ทางฮอนด้าอินโดนีเซียจะต้องติดต่อเพื่อนำเข้าไปวางจำหน่ายในประเทศของตนเองนั้นจะต้องเป็นประเทศไทยของเรา แล้วอะไรล่ะที่ทำให้ทาง AHM ยังไม่ตัดสินใจสั่งนำเข้าไปซักที ? ใช่แล้วครับ สำหรับปัญหาหลักๆที่พวกเค้ากำลังพิจารณาอยู่ตอนนี้ก็คือการที่ Forza 300 รุ่นปัจจุบันนั้นดูจะไม่น่าตีตลาดได้ดีเท่าไหร่นักโดยอ้างอิงจากยอดจำหน่ายในบ้านเรา ซึ่งถ้าหากว่าทาง Astra Honda มีแผนที่จะวางจำหน่ายเจ้าสกูตเตอร์รุ่นนี้ในบ้านเค้าจริงโดยที่ไม่อยากขึ้นสายการผลิตเอง พวกเค้าจะต้องเร่งให้ทาง A.P.Honda รีบปรับปรุงหรือปรับเปลี่ยนตัวรถใหม่ให้เร็วที่สุดเพื่อให้มันสามารถต่อกรกับ Yamaha X-Max ได้ซะก่อน หรือไม่แน่ว่าทาง Honda บ้านเราเองอาจจะเริ่มดำเนินงานออกแบบเจ้านี่ไปแล้วก็ได้…
กว่า 20 ปีเข้าไปแล้วนับตั้งแต่ที่ Valentino Rossi สามารถซดแชมป์โลกครั้งแรกในชีวิตของเค้าได้ ขณะทำการแข่งขันในรุ่น 125cc และเพื่อเป็นการเฉลิมฉลองวาระครบรอบนั้นทาง AGV ผู้สนับสนุนหมวกกันน็อคคู่บุญของ “The Doctor” จึงได้ทำการเปิดตัวหมวกรุ่นพิเศษขึ้นมาโดยใช้ชื่อว่า Pista GP-R Carbon “Valentino Rossi 20 Years” สำหรับพื้นฐานของหมวกพิเศษรุ่นนี้นั้นก็ยังคงเป็นหมวกกันน็อครุ่นท็อปสุดเท่าที่ AGV มีในตอนนี้ นั่นก็คือ Pista GP-R Carbon แต่ความพิเศษของเจ้าหมวกฉลองครบรอบ 20 ปีใบนี้ก็คือ มันถูกสกรีนทับด้วยลวดลาย “พระจันทร์-พระอาทิตย์” แบบดั้งเดิมหรือแบบเดียวกันกับหมวกที่ Rossi ใช้เมื่อ 20 ปีก่อนอย่าง AGV X-Vent โดยแบ่งซีกกันชัดเจนระหว่าง พระอาทิตย์ลำแสงสีส้มมีพื้นหลังสีเหลืองด้านขว ส่วนฝั่งซ้ายก็มีดวงจันทร์เสี้ยวพื้นหลังสีน้ำเงิน และไม่ลืมที่จะปล่อยช่วงคางของหมวกให้เป็นแบบเรซิ่นไสเพื่อโชว์ลายวัสดุคาร์บอนซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของหมวกรุ่นนี้ ก่อนที่จะประทับตราฉลองวาระครบรอบ 20 ปีแชมป์แรกไว้ที่หน้าหมวก สำหรับราคาค่าตัวของหมวก AGV Pista…
จากการที่ทาง BMW ยังคงมีความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับเจ้า G310RR (Mini-S1000RR) เพียงน้อยนิดเท่านั้น ทั้งๆที่เปิดตัวเจ้า G310R (Mini-S1000R) มาได้กว่า 2 ปีเข้าไปแล้ว ทำให้ทางค่ายรถจากจีนเห็นช่องว่างดังกล่าวและจัดการเปิดตัวเจ้า “ฉลามน้อย” ที่มีชื่อหรือรหัสประจำรุ่นว่า BD350-5A ซึ่งเราบอกได้เลยว่างานสร้างแรงบันดาลใจคราวนี้นั้นเนียนระดับ “AAAAA” สมกับชื่อท้ายของเค้าจริงๆ เริ่มจากชิ้นส่วนแฟริ่งชุดหน้าที่ทางพี่จีนน่าจะลอกโมลเดิมๆของ BMW S1000RR มาทุกเส้นสาย ทุกระเบียดนิ้ว มาครบหมดทั้งจงอยแฟริ่งด้านหน้า, ช่องแรมแอร์(หลอก), แม้กระทั่งช่องระบายลมด้านข้างวินชิลด์ก็ยังจัดมาให้ แน่นอนว่าตัวแฟริ่งข้างซ้ายก็มีรอยครีบเอกลักษณ์มาให้, ส่วนแฟริ่งด้านขวาก็มีช่องว่างระบายอากาศ, ด้านแฟริ่งท้ายเองก็ลอกแบบมาครบทั้งหมด แม้แต่ตัวเบาะนั่งคนซ้อนเองก็ยังมีขยักด้านข้างเหมือนเป้ะ จะมีก็แค่เพียงชุดโช้กคู่หน้า ล้อ และจานเบรกเท่านั้นที่ทำมาไม่เหมือนกับรถต้นแบบ ส่วนท่อไอเสียนั้นพี่แกก็เอาดีไซน์ของท่อไอเสียแต่งค่ายดัง Akrapovic ทรง Shorty มาอแดปใหม่จนเข้ารูปเข้ารอยพร้อมสรรพ ด้านเครื่องยนต์นั้นแม้เราไม่ได้รับข้อมูลใดๆเกี่ยวกับพละกำลังแรงม้าและแรงบิด แต่จากการที่พื้นฐานเครื่องยนต์เดิมๆของเจ้า BD350-5A คันนี้เป็นแบบ 2 สูบเรียง 332cc ระบายความร้อนด้วยน้ำ ทำให้มันน่าจะพอมีพิษสงในการไล่กัดตูดรถมอเตอร์ไซค์พิกัดเดียวกันได้บ้าง แม้ว่าเอาจริงๆแล้วมันจะยังจ่ายน้ำมันด้วยระบบคาร์บูเรเตอร์ที่ดูล้าสมัยไปหน่อยก็ตามที ขอบคุณข้อมูลจาก…
กว่า 20 ปีเข้าไปแล้วสำหรับธรรมเนียมการปล่อยมอเตอร์ไซค์กระดาษในช่วงสิ้นปีของทาง Yamaha ที่พวกเค้าได้เริ่มขึ้นตั้งแต่ปี 1997 โดยใช้ครุยเซอร์ยอนิยมในช่วงเวลานั้นอย่าง V-Max มาทำเป็นโมเดลกระดาษคันแรก หลังจากนั้นนอกจากรถมอเตอร์ไซค์แล้วพวกเค้าก็ยังสร้างสัตว์กระดาษขึ้นมาด้วย จนกระทั่งในปี 2017 นี้นั้นก็ถึงคราว รถมอเตอร์ไซค์รุ่นแรกอย่าง 1955 YA-1 ที่จะถูกนำมาทำเป็นรถมอเตอร์ไซค์กระดาษกันซักที สำหรับรายละเอียดของ Yamaha YA-1 เวอร์ชั่นกระดาษ นั้นทางค่ายได้ระบุไว้ว่าความละเอียดในชิ้นงานนั้นจัดว่าอยู่ในระดับ Ultra-Realistic หรือ เสมือนจริงสุดๆแบทุกรายละเอียด โดยมีขนาดตัวรถหลังขึ้นรูปเสร็จแล้วอยู่ที่ 24.5 เซนติเมตร ซึ่งถือว่าใหญ่ที่สุดเท่าที่ทางค่ายเคยทำมา และถ้าหากเพื่อนๆคนไหนสนใจอยากลองทำเล่นกันบ้างก็สามารถคลิกเข้าไปได้ที่ลิ้ง ตรงนี้ โดยนอกจากเพื่อนๆสามารถดาวน์โหลด Yamaha YA-1 เวอร์ชั่นกระดาษได้แล้ว เพื่อนๆยังสามารถดาวน์โหลดแปลนมอเตอร์ไซค์กระดาษคันอื่นๆที่น่าสนใจได้อีกมากมายทั้ง R1M, MT-10, 1998 R1, XJR1300, Dragstar Classic 1100, SR400, TMAX, 2004 R1, 2005 M1,…
ชมคัสตอมไบค์แนว Cafe Racer ไปก็เยอะ แนว Scrambler ไปก็แยะ วันนี้เราขอพาเพื่อนไปพบกับคัสตอมไบค์แนว Cruiser กันบ้าง ซึ่งเจ้ารถที่เพื่อนๆเห็นอยู่ตอนนี้ก็คือเจ้า INDIAN CHIEF VINTAGE รุ่นปี 2016 ที่ถูกแต่งองค์ทรงเครื่องซะจนแทบจำเค้าไม่ได้เพื่อนำไปจัดแสดงในพิพิธภัณฑ์ที่ตั้งอยู่บนยอดเขาประเทศออสเตรีย พร้อมตั้งชื่อให้กับมันว่า “Top Mountain” และจุดเด่นแรกของเจ้า “ยอดเขา” คันนี้เลยก็คงหนีไม่พ้นเฉดสีฟ้าตัดขาวซึ่งบ่งบอกได้ชัดเจนว่ามันถูกทำขึ้นมาเพื่อให้เข้ากับที่อยู่ของมันที่โอบล้อมไปด้วยผืนหิมะและท้องฟ้า ในขณะที่ตัวล้อหน้าเองก็ใหญ่นำใครถึง 26 นิ้ว, ชุดระบบกันสะเทือนหน้าหลังก็เป็นแบบถุงลมซึ่งผู้ขับขี่สามารถปรับระดับความสูงต่ำได้จากสวิทช์ควบคุมที่ติดตั้งไว้ใกล้ๆกับเกจวัดน้ำมัน, ถังน้ำมันคัสตอมพิเศษจาก Victory Hammer, ส่วนชุดบอดี้พาร์ทที่เหลือถูกผลิตขึ้นแบบชิ้นเดียวในโลกทั้งหมดด้วยฝีมือของสำนัก Styrian Motor Cycle (SMC) สำหรับเพื่อนๆคนไหนที่อยากชมเจ้า INDIAN CHIEF VINTAGE “Top Mountain” คันนี้แบบตัวเป็นๆ สามารถตีตั๋วเครื่องบินไปประเทศออสเตรียเพื่อเดินทางต่อไปยังพิพิธภัณฑ์ Top Mountain Motorcycle Museum ซึ่งจากการที่เราได้ลองหาข้อมูลของสถานที่นี้แบบคร่าวๆแล้ว ถือว่าเป็นที่ๆน่าสนใจมากเลยทีเดียวหากเพื่อนๆคือคนที่หลงไหลในยานยนต์คลาสสิคและยานยนต์ที่ผลิตขึ้นในโอากศพิเศษทั้งหลาย ขอบคุณที่มา…
จากการที่ TVS ได้ทำการเปิดตัวสปอร์ตฟูลแฟริ่งน้องใหม่ Apache RR 310 ที่ใช้พื้นฐานเดียวกันกับ BMW G310R และ G310GS ทำให้ความแน่ชัดในเรื่องของการที่ทางค่ายไบพัดสีฟ้ามีแพลนจะเปิดตัว “ฉลามเล็ก” G310RR ในช่วงเวลาอันใกล้ดูจะเป็นจริงขึ้นทุกที ซึ่งล่าสุดก็ได้มีข้อมูลจากทางสื่ออเมริกาเผยออกมาว่าในขณะนี้ทาง BMW ได้ดำเนินการออกแบบไปแล้วเรียบร้อย เริ่มจากงานออกแบบภายนอกที่ทางสื่อ MCN ได้ระบุไว้ว่าทาง BMW จะออกแบบให้ G310RR นั้นมีหน้าตาที่แตกต่างกับฝาแฝดของมัน Apache RR 310 อยู่หลายจุดจะมีก็แค่เพียงชิ้นส่วนภายนอกบางอย่างเท่านั้นที่ยังใช้ร่วมกันได้อยู่ ยกตัวอย่างเช่น ชุดล้อหน้า/หลัง, ชุดเบรก, และชุดระบบกันสะเทือนจาก KYB ส่วนงานออกแบบอื่นๆที่เหลือนั้นทางสื่อเจ้าเดิมก็ได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมไว้ว่า ชุดแผงคอ, แฮนด์จับโช้ค จะถูกปรับตำแหน่งให้ต่ำลงกว่าเดิม ในขณะที่เบาะนั่งเองก็มีตำแหน่งสูงขึ้นเช่นเดียวกับตัวพักเท้าคนขับซึ่งนั่นหมายความว่าตำแหน่งท่านั่งใน G310RR นั้นจะเน้นไปทางสปอร์ตเรพพลิก้าจ๋าเหมือนกับพี่ใหญ่ของมัน S1000RR นั่นเอง ด้านเครื่องยนต์สูบเดียวพิกัด 313cc นั้น แม้ว่าใน TVS Apache RR…
จากข้อมูลของสื่ออเมริกาก่อนหน้านี้ที่ว่าโมเดลใหม่แนว Adventure-Bike ของทาง Honda นั้นจะเป็นรุ่นที่มีขนาดเครื่องยนต์ราวๆ 650cc เป็นขุมกำลังหลัก และมีกระแสจากสื่อยุโรปแทรกเข้ามาให้สับสนยิ่งขึ้นว่าอันที่จริงแล้วมันจะเป็นรุ่นพิกัด 250cc แต่ดูเหมือนว่าความวุ่นวายจะยังไม่จบแค่นั้นเมื่อล่าสุดทางสื่อแดนญี่ปุ่นได้เรนเดอร์ภาพ 2018 Honda CRF500 Rally รถ ADV กึ่ง Enduro จอมลุยออกมาให้พวกเราได้ชมกัน ซึ่งที่จริงแล้วมันมีข่าวลือมาตั้งแต่ ปีที่ผ่านมา โดยภาพที่เราได้นำเสนอมาให้เพื่อนๆชมอยู่ขณะนี้นั้นเป็นภาพเรนเดอร์ที่ทางนิตยสาร YM ได้ทำเอาไว้เพื่อเป็นการ “รวมเดา” ว่าในปี 2018 แต่ละค่ายจะเปิดตัวรถมอเตอร์ไซค์รุ่นใดบ้าง และหนึ่งในโมเดลที่น่าสนใจนั่นก็คือ 2018 Honda CRF500 Rally ซึ่งดูมันช่างประจวบเหมาะกับกระแสข่าวช่วงนี้เหลือเกินว่าทาง Honda กำลังมีแผนที่จะเปิดตัว ADV-Bike ไซส์ย่อส่วนจาก Africa Twin รุ่นใหม่ แต่น่าเสียดายที่ความละเอียดของรูปที่เราได้รับมานั้นค่อนข้างแย่พอสมควรทำให้เราไม่สามารถแกะรายละเอียดได้มากมายนัก นอกจากว่านี่คือภาพเรนเดอร์ของ 2018 Honda CRF500 Rally ขอบคุณภาพจาก Young-Machine อ่านข่าว…
