หลังจากที่ทาง Triumph ได้เคยทำการเปิดตัว T120 และ T100 “Black Edition” ไปก่อนหน้านี้และทำตลาดในฐานะโฉมปี 2017 จนมีผู้จับจองไปแล้วมากมายหลายคัน ในที่สุดก็ถึงเวลาของน้องสุดท้องพื้นฐาน Bonny อย่าง Bobber ที่กำลังจะได้รับการปรับแต่งรูปโฉมใหม่ตามสไตล์ “ดำขลับ” กับเค้าเช่นกันเพื่อทำตลาดในฐานะรุ่นปี 2018 โดยการตกแต่งหลักๆของตัวรถที่เปลี่ยนไปนั้น ด้วยความที่แต่เดิมในเรื่องเฉดสีติดรถที่ใช้ในการวางจำหน่ายในปัจจุบันของ 2017 Bobber นั้นก็มีพื้นที่สีดำมากพออยู่แล้วทั้ง บังโคลน โคมไฟหน้า และฝาครอบแบตฯ แต่เพื่อให้มันมีความดำสนิทที่มากขึ้นเหมือนกับพี่ๆ ทาง Triumph จึงทำการจับชุดแครงก์ซ้ายขวา ฝาครอบวาล์ว ท่อไอเสีย และกรอบไฟหน้ามาทำสีดำด้านทั้งหมด เพื่อให้ตรงตามคอนเซปท์ “Black Edition” สำหรับวันเวลาที่จะเปิดตัวนั้น คาดว่าทาง Triumph จะปล่อยภาพและข้อมูลพื้นฐานตัวรถออกมาพร้อมๆกับ T120 Speedmaster ที่มีข้อมูลออกมาว่าจัปรากฏตัวครั้งแรกสูู่สายตาชาวโลกในวันที่ 3 ตุลาคม หรือสัปดาห์หน้านี้ และพร้อมจะทำตลาดเป็นรุ่นปี 2018 ต่อไป…
Author: admin
ใครจะคิดล่ะครับ ว่าแค่ความรู้สึกที่เริ่มจากการไม่ชอบดีไซน์หมวกเดิมๆ ที่ทั้งหนักและอึดอัดของ Arata Ono CEO และดีไซนเนอร์ของบริษัท Borderless จากญี่ปุ่นจะทำให้นึกสร้างหมวกกันน็อคอันเพรียบพร้อมไปด้วยเทคโนโลยีอันล้ำสมัยที่มีชื่อว่า CrossHelmet X1 ใบนี้ โดยในหมวกกันน็อค CrossHelmet X1 ที่เพื่อนๆกำลังเห็นอยู่ในตอนนี้ มีทั้งเทคโนโลยีกล้องด้านหลังที่สามารถถ่ายภาพเคลื่อนไหวองศาเพื่อแสดงผลบนหน้าจอ HUD ได้หน้าแบบเรียลทาม, สามารถแสดงผลข้อมูลการเดินทาง ทั้งเนวิเกเตอร์ สภาพอากาศ สภาพถนน ระยะทางที่เหลือก่อนถึงจุดหมาย, ระบบตัดเสียงหรือควบคุมเสียงจากภายนอก ซึ่งผู้ขับขี่สามารถเลือกเองได้ว่าต้องการฟังเสียงอะไรบ้างขณะขับขี่ และสามารถเชื่อมต่อกับระบบมือถือเพื่อเปิดเพลงจากเพลย์ลิสต์ที่เพื่อนๆมีอยู่ได้ผ่านระบบบลูทูธ แม้กระทั่งการเชื่อมต่อกับผู้อื่นผ่านระบบโทรคมนาคมกับเพื่อนๆก็ไม่ใช่เรื่องยาก ยังไม่หมดแค่นั้น อย่างที่เราได้กล่าวไว้ข้างต้นว่า Ono ได้มีไอเดียแรกในการออกแบบหมวกใบนี้จากความคิดที่ว่า หมวกกันน็อคเต็มใบเดิมๆที่เราใช้กันอยู่ในปัจจุบันนั้นอึดอัด ทำให้เค้าเลือกออกแบบรูปทรงภายในใหม่หมดเพื่อเพิ่มความสบายในการสวมใส่ที่มากขึ้น โดยเฉพาะในเรื่องของการเพิ่มพื้นที่ด้านหน้าหมวกให้ยาวขึ้นเพื่อเพิ่มพื้นที่ในการหายใจ นอกจากนี้ยังเพิ่มความกว้างของหน้ากากจากซ้ายไปขวาให้มีมุมกว้างถึง 190 องศา ซึ่งเมื่อรวมทัศนวิสัยกับกล้องที่สามารถถ่ายภาพได้ 170 องศาทางด้านหลัง ก็ทำให้ผู้ใช้สามารถมองเห็นทุกสิ่งรอบๆตัวได้แบบ 360 องศาเลยทีเดียว แต่ด้วยความที่ว่า Ono ไม่สามารถหาเงินมาสร้างเจ้าหมวก CrossHelmet X1 ใบนี้ได้ในทีแรกทำให้เค้าเลือกที่จะนำเสนอโปรเจ็กต์ดังกล่าวลงบนเว็บไซค์…
อาจจะดูไม่ค่อยคุ้นหูคุ้นตากันมากมายนักสำหรับบ้านเรา แต่สำหรับชื่อ VTX1300CX หรือ Honda Fury นี้ น่าจะเป็นชื่อที่ได้รับความนิยมไม่น้อยเลยทีเดียวสำหรับตลาดชาวครุยเซอร์ในกลุ่มประเทศยุโรปทั้งหลาย ไปจนถึงสหรัฐอเมริกา ซึ่งล่าสุดทางค่ายก็ได้ทำการปล่อยภาพโฉมอัพเดทเพื่อทำตลาดในฐานะรุ่นปี 2017/2018 อันที่จริงแล้วถ้าจะให้บอกว่าเจ้า Honda Fury คันนี้คือรถครุยเซอร์แท้ๆก็คงไม่ใช่ เพราะมันได้ถูกออกแบบดีไซน์ช่วงหน้าตัวรถใหม่ ตั้งแต่ชุดโช้กหน้าปรับองศาใหม่ให้นอนยาวมากกว่าปกติ และถังน้ำมันทรงหยดน้ำขนาดเล็กเรียวที่จุน้ำมันได้เพียง 12.8 ลิตร ซึ่งส่งผลให้เราสามารถเรียกได้อย่างเต็มปากเต็มคำว่า มันคือรถชอปเปอร์อย่างแท้จริง ในส่วนของขุมกำลังหลักนั้นเป็นแบบ V-Twin ขนาดความจุ 1,312cc จ่ายน้ำมันด้วยระบบหัวฉีด PGM-FI มีหัวเทียน 2 หัวต่อสูบ ทำงานร่วมกับชุดเกียร์ 5 สปีดส่งกำลังต่อไปยังชุดเพลา ระบบกันสะเทือนหน้าเป็นแบบตะเกียบธรรมดาแต่ให้ขนาดแกนมาใหญ่ถึง 45 มิลลิเมตร ส่วนระบบกันสะเทือนหลังเป็นแบบโมโนโช้กปรับความแข็งอ่อน 5 ระดับ และรีบาวน์ได้อีกเล็กน้อย ล้ออัลลอยด์ด้านหน้ามีขนาดวงล้อกว้างถึง 21 นิ้ว แต่ให้หน้ากว้างมาแค่เพียง 90 มิลลิเมตร ส่วนวงล้ออัลลอยหลังมีขนาด 18 นิ้ว…
จากเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ที่ทาง ฺBimota ได้ประกาศปิดโรงงานหลักของพวกเค้า แล้วทำการย้ายเครื่องไม้เครื่องมือออกจากสถานที่ตั้งแห่งนี้อกไปทั้งหมด จนเป็นสาเหตุที่ทำให้หลายสื่อตั้งคำถามกันว่า หรือนี่อาจจะเป็นจุดจบของยอดแบรนด์จากอิตาลี? แต่จากข้อมูลล่าสุด ได้มีการยืนยันออกมาแล้วว่าเครื่องไม้เครื่องมือทั้งหมดที่เรากำลังพูดถึงอยู่นั้น ทาง Bimota ได้ทำการย้ายออกไปเพื่อติดตั้งที่โรงงานแห่งใหม่ซึ่งอยู่ห่างจากโรงงานเดิมเพียงไม่กี่ร้อยเมตร โดยข้อมูลที่ระบุในรายงานของพวกเค้าได้เขียนไว้เป็นใจความว่า “ทางแบรนด์จะเปลี่ยนรูปแบบการผลิตจากการคิดค้นและสร้างรถมอเตอร์ไซค์รุ่นใหม่ๆ ให้เหลือแค่เพียงผลิตเพื่อสร้างชิ้นส่วนสำรองให้กับลูกค้าที่ใช้ผลิตภัณฑ์ของพวกเค้าอยู่เท่านั้น” นั่นจึงหมายความว่า เราคงไม่ได้เห็นรถมอเตอร์ไซค์ใหม่ๆจาก Bimota เป็นที่แน่นอนแล้ว แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าถ้ากาลเวลาผ่านไป ตัวผลิตภัณฑ์ที่พวกเค้าเคยสร้างไว้จะหายไปจากโลกง่ายๆนั่นเอง ขอบคุณที่มา Car And Bikes อ่านข่าว Bimota เพิ่มเติมได้ที่นี่ เพื่อนๆ Bikers สามารถติดตามข่าวสารวงการล้อ ได้ทางแฟนเพจ MotoRival ของเราครับ Motorival
นอกจากการเปิดตัวร่างอวตารของ Honda CB500F อย่าง HR7 แล้ว ในงาน CIMA ที่ประเทศจีน ทาง Loncin ยังได้ทำการเปิดตัวอีกหนึ่งแอดเวนเจอร์ไบค์รุ่นใหม่พิกัด 650cc สูบเดียวเพิ่มอีกหนึ่งรุ่นโดยใช้ชื่อว่า DS8 อีกด้วย อย่างไรก็ตามขนาดน้องเล็กอย่าง HR7 ยังใช้เครื่องยนต์ที่ยืมแบบมาจาก Honda CB500F แล้วทำไมในรุ่นพิกัด 650cc เค้าจะทำไม่ได้ ? ครับในคราวนี้ทาง Loncin ก็ยังเดินทางสายเดิมนั่นก็คือการใช้พื้นฐานเครื่องยนต์ที่แบรนด์ใหญ่ๆของโลกเคยสร้างเอาไว้ แต่ถ้าจะให้ใช้เครื่องยนต์ 4 สูบเรียง 650cc จาก Honda ก็คงจะดูไม่เหมาะกับการใช้งานแนวแอดเวนเจอร์ไบค์เท่าไหร่นัก ดังนั้นพวกเค้าจึงเบนเข็มไปหาเครื่องยนต์สูบเดียวขนาดความจุ 650cc พละกำลังสูงสุด 50 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 50 นิวตันเมตร ที่เคยใช้ใน BMW G650GS แทน ซุึ่งแค่ชื่อเดิมของรถต้นแบบนั้นก็การันตีแล้วว่ามันใช้งานในแนวนี้ได้ดีแค่ไหน ส่วนระบบเฟรมนั้นถูกอกอแบบใหม่ให้เป็นแบบโครงถัก, ติดตั้งชุดระบบกันสะเทือนหน้าแบบหัวกลับ,…
จากภาพ Spyshot ที่เราได้เคยเสนอไปก่อนหน้านี้เมื่อวามเดือนที่แล้ว ว่าทาง Loncin แบรนด์ผู้ผลิตรถจักรยานยนต์จากจีนกำลังเตรียมเปิดตัวสามทหารเสือ แน็คเก็ทไบค์, เรโทรไบค์, และแอดเวนเจอร์ไบค์ ในเร็วๆนี้ แต่ล่าสุดในงาน CIMA (คล้ายกับ Motorshow ของบ้านเรา) ทางค่ายได้มีการเปิดตัวเพียงแต่โฉมแน็คเก็ทไบค์เท่านั้น โดยใช้ชื่อประจำรุ่นว่า HR7 โดยจุดสังเกตุที่น่าสนใจนอกจากหน้าตาก็คือเครื่องยนต์สองสูบที่มีตัวเลขความจุ 471cc พร้อมปั่นแรงม้าสูงสุดได้ราวๆ 47 ตัวที่ 8,500 รอบ/นาทีและแรงบิดสูงสุดอีก 43.4 นิวตันเมตร ที่ 7,000 รอบ/นาที ฟังดูคุ้นๆใช่มั้ยล่ะครับ ? ใช่ครับเจ้าเครื่องยนต์สองสูบลูกที่ถูกใช้อยู่ใน Loncin HR7 คันนี้มันถูกสร้างโดยยึดพื้นฐานเดียวกับกับ CB500F ของ Honda มาแทบทุกชิ้นส่วน ชนิดที่ว่ามีจุดแตกต่างกันแค่หน้าตาของแครงก์และเสื้อสูบกับฝาสูบเพียงเล็กน้อยเท่านั้น แต่ถ้าสังเกตุการวางตำแหน่งต่างๆนั้นอยู่ในจุดเดียวกันทั้งหมดทุกระเบียดนิ้ว แม้กระทั่งระยะฐานล้อและน้ำหนักตัวยังมีความไกล้เคียงกันสุดๆ ในส่วนของตัวเฟรมหรือโครงหลักตัว HR7 รถนั้นก็ไม่ได้มีความแตกต่างอะไรกับ CB500F มากมายนัก แต่จะดีหน่อยก็ตรงที่มันได้รับการติดตั้งชุดสวิงอาร์มอลูมิเนียมและระบบกันสะเทือนหน้าแบบโช้กหัวกลับพร้อมจานเบรกคู่ ซึ่งแน่นอนว่ามันให้ความรู้สึกที่ดีกว่าเมื่อมองผ่านทางสายตา…
จากเหตุการณ์ก่อนนหน้าที่เราได้เคยนำเสนอไปแล้วว่าทาง Kawasaki อาจจะมีแนวโน้มที่จะผลิตรถมอเตอร์ไซค์แนวเรโทรไบค์พิกัด 150 รุ่นใหม่เพื่อชิงส่วนแบ่งในตลาดที่กำลังเติบโตขึ้นเรื่อยๆในเวลานี้ แต่ดูเหมือนมันจะไม่ใช่แค่นั้นซะแล้ว เมื่ออีกหนึ่งสื่อจากประเทศอินเดีย ได้ออกมาให้ข้อมูลว่าในตอนนี้ทาง Kawasaki ได้ส่งเจ้าเรโทรไบค์ Estrella 250 ที่พวกเค้าพึ่งประกาศเลิกผลิตไปเมื่อไม่นานมานี้ให้กับทางทีม R&D ในอินเดีย เพื่อทดสอบและเก็บข้อมูลไว้เป็นฐานในการวิจัยสำหรับสร้างคู่แข่งตัวใหม่ของทาง Royal Enfield โดยเป้าหมายหรือรุ่นที่ทาง Kawasaki อินเดีย ตั้งใจจะโจมตีก็คือ Royal Enfield Bullet 350 นั่นจึงหมายความว่าเจ้าเรโทรไบค์รุ่นใหม่ที่พวกเค้ากำลังจะสร้างนั้น มีโอกาศสูงอย่างมากที่จะให้ตัวเลขความจุเครื่องยนต์มาในระดับเดียวกันกับคู่แข่งก็คือ 350cc ส่วนเรื่องจำนวนลูกสูบนั้น ด้วยความที่ว่าพื้นฐานเดิมของ Estrella 250 เป็นแบบสูบเดียว ซึ่งเหมาะกับการใช้งานแนวนี้อยุ่แล้ว ดังนั้นจึงไม่น่าพลิกโผมากนักในเรื่องนี้ อ่านข่าว Kawasaki เพิ่มเติมได้ที่นี่ เพื่อนๆ Bikers สามารถติดตามข่าวสารวงการล้อ ได้ทางแฟนเพจ MotoRival ของเราครับ Motorival
ไม่บ่อยครั้งนักที่เราจะได้เห็น “สุภาพบุรุษฉบับกระเป๋า” อย่าง Dani Pedrosa ออกมาบ่นหรือวิจารณ์ถึงเพื่อนร่วมอาชีพในการแข่งขันมอเตอร์ไซค์ชิงแชมป์โลก MotoGP แต่จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นขณะแข่งขันที่สนาม Aragon ประเทศสเปนเมื่อวานนี้ ทำให้ DP26 ทนไม่ไหวและออกมาบ่นทันทีขณะให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า “การบังไลน์ของ Valentino Rossi ไม่แฟร์” โดยเหตุการณ์ดังกล่าวนั้นเกิดขึ้นบนรอบที่ 15 ของการแข่งขัน ช่วงทางตรงระหว่างโค้ง 15-16 Dani ใด้ให้คำอธิบายไว้ว่า ขณะนั้นอยู่ในอันดับที่ 4 และต้องการจะแซง Rossi ที่อยู่ตรงหน้า แต่โก๋แก่ไม่ยอมจึงปิดไลน์ด้วยการเบี่ยงรถไปทางซ้ายเพื่อบังดานีขนาดที่ว่าแฮนด์บาร์ของทั้งสองคนห่างกันแค่ปลายก้อย ทำให้เค้า (ดานี) จำเป็นต้องเบี่ยงออกจนรถของเค้าต้องเหยียบเส้นขอบสนาม ซึ่งมันถือว่าเป็นอันตรายอย่างมากถ้าหากเค้าหลุดออกไปมากกว่านี้ เพราะความเร็วขณะนั้นเกือบ 300 กิโลเมตร/ชั่วโมง อย่างไรก็ตามในส่วนของผลการแข่งที่จบบนโพเดี้ยมอันดับที่ 2 ต่อจากเพื่อนร่วมทีม Marc Marquez นั้น สำหรับตัว Dani แล้วค่อนข้างพอใจอย่างมาก เนื่องจากเขาสามารถควบคุมรถได้เป็นจังหวะพอเหมาะพอเจาะ โดยเฉพาะกับช่วงหลังๆของการแข่งขัน จะน่าเสียดายก็แค่การไปติดกับกลุ่มอันดับ 4-6…
ยังคงอยู่กับการจับผิดภาพเรนเดอร์ของทางนิตยสาร Young Machine รอบปกนิตยสารเดือนพฤศจิกายน 2017 ซึ่งก่อนหน้านี้เราได้พูดถึงทั้ง Kawasaki H2GT และ Ninja 250/400 แต่ในคราวนี้เราจะมาพูดถึงฝั่งของค่ายปีกนก Honda กันบ้าง โดยจากหน้าปกจะเห็นได้ว่ามีทั้ง PCX150 รุ่นใหม่และเจ้าลิง Monkey ซึ่งเราจะขอพูดถึงเจ้าสกูตเตอร์เท่านั้น ส่วนเจ้าลิงเนื่องจากมองจากภาพแล้วไม่ได้มีความเปลี่ยนแปลงอะไรเราจึงขอข้ามไปก่อน จากภาพจะเห็นได้ว่าชื่อรุ่นของ PCX 150 ที่ทางนิตยสาร Young Machine ใช้นั้นห้อยด้วยคำว่า HV/EV ซึ่งสื่อถึงความเป็นไปได้ที่ทาง Honda อาจติดตั้งระบบมอเตอร์ไฟฟ้าแทนเครื่องยนต์พิกัด 150cc ลูกปัจจุบันเข้าไป เพื่อเป็นอีกทางเลือกหนึ่งให้กับลูกค้าที่ต้องการรักษาสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ส่วนหน้าตาที่ทางสื่อดังกล่าวออกแบบไว้ เราพบว่าแทบไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงอะไรมากมายนักในเรื่องของดีไซน์ภาพรวม เว้นก็แค่ชุดไฟหน้าที่เรียวยาวมากขึ้นและชุดท่อไอเสียที่ถูกเปลี่ยนการ์ดบังความร้อนใหม่เป็นสีเงิน อย่าไรก็ตาม สำหรับ Honda PCX150 โฉมปัจจุบันที่ทำตลาดอยู่ในบ้านเราพึ่งมีอายุทางการตลาดเพียงแค่ 2 ปีเท่านั้น ซึ่งถ้าหากมองตามความจริงแล้วมันออกจะดูเร็วไปซักนิดถ้าจะให้เปลี่ยนโฉมในตอนนี้ แต่ด้วยความที่ว่าคู่แข่งตัวสำคัญอย่าง Yamaha Nmax กำลังมีกระแสดีๆเรื่อยจากเครื่องยนต์ 155cc…
เป็นประจำของช่วงสัปดาห์สุดท้ายก่อนสิ้นเดือนที่ทางสื่อ Young Machine จากประเทศญี่ปุ่น มักปล่อยภาพหน้าปกนิตยสารฉบับใหม่ของพวกเค้าที่จะวางแผงในอีกช่วงไม่กี่เดือนข้างหน้า และเราก็มักจะเห็นภาพเรนเดอร์รถรุ่นใหม่ที่มีข่าวจะเปิดตัวในช่วงเวลาปัจจุบันนี้เสมอ โดยในหน้าปกนิตยสารรอบเดือนพฤศจิกายนที่จะถึงนี้ นอกจากภาพ Kawasaki Z900RS ที่กำลังจะเปิดตัวเร็วๆนี้ เราก็ได้เห็นภาพเรนเดอร์ของสปอร์ตทัวร์ริ่งไซส์ยักษ์ที่มันเองก็มีข่าวว่าจะเปิดตัวในเร็วๆนี้ด้วยเช่นกันนั่นก็คือ h2gt จากภาพจะเห็นได้ว่า ในเรื่องของหน้าตาหรือเอกลักษณ์ต่างๆของตัวรถนั้น ดูเหมือนว่าทางนิตยสารจะเลือกออกแบบให้มันมีลายเส้นผสมผสานกันระหว่างไฮเปอร์สปอร์ตขุมพลังซุปเปอร์ชาร์จ Ninja H2 ที่จะเป็นพื้นฐานหลักของ H2GT ในส่วนของช่วงหน้าตัวรถอันเป็นเอกลักษณ์หลักของรถมอเตอร์ไซค์ตระกูล H2 และ ZX-14R สปอร์ตทัวรฺ์ริ่งเจ้าตำแหน่งรถโปรดักชั่นเร็วที่สุดในโลก ที่ดูเหมือนว่าเจ้า H2GT อาจจะเป็นน้องใหม่ที่เข้ามาแทนตำแหน่งทางการตลาดของมัน ดังที่เราจะเห็นได้จากการติดตั้งกระเป๋าข้าง และตำแหน่งแฮนด์กับวินชิลด์ยกสูงขึ้นมา เพื่อให้เหมาะกับการขับขี่ท่องเที่ยวเต็มขั้น โดยส่วนตัวแล้วทางผู้เขียนพบว่าความผิดพลาดในเรื่องของหน้าตาและฟังก์ชั่นต่างๆรอบคันของรถเรนเดอร์ฝีมือสื่อ Young Machine นั้น แทบไม่ได้ผิดเพี้ยนอะไรมากมายนัก อาจจะด้วยความที่เป็นสื่อชาติเดียวกับบริษัทแม่และความเป็นสื่อใหญ่ ดังนั้นเพื่อนจึงสามารถคาดคะเนหน้าตาคร่าวในหัวของรถโฉมจริงได้เลยว่าเจ้า Kawasaki H2GT ที่กำลังเห็นอยู่ในตอนนี้จะเป็นอย่างไรเมื่อเปิดโฉมเพื่อทำตลาดจริงๆครับ ขอบคุณภาพจาก Young Machine ชมภาพ Render เพิ่มเติมได้ที่นี่ อ่านข่าวสาร Kawasaki เพิ่มเติมที่ได้ที่นี่…