แม้ในสัปดาห์ก่อน Maverick Vinales จะทำเวลาในรอบฝึกซ้อมจนถึงรอบควอลิฟายได้ค่อนข้างดี แต่พอถึงจังหวะแข่งจริง ปรากฏว่าตัวแข่งของเขาดันเกิดปัญหาในจังหวะออกตัวถึง 2 ครั้ง จึงทำให้ล่าสุดทาง Yamaha ได้ออกมาประกาศว่านักบิดหมายเลข 12 ของทีมนั้น จะไม่ลงแข่งในสุดสัปดาห์นี้ เนื่องด้วยเหตุผลในเรื่องความปลอดภัย กล่าวคือ แม้อาการความผิดพลาดที่เกิดขึ้นกับตัวแข่ง YZR-M1 ของ Maverick Vinales จะเป็นแค่เพียงการที่จู่ๆเครื่องยนต์ก็ดับในจังหวะจะออกตัว แต่ล่าสุดทาง Yamaha ก็ได้ออกมาเปิดเผยข้อมูลเพิ่มว่าด้วยการกระทำบางอย่างของตัวนักบิดเอง จึงทำให้เครื่องยนต์ของ M1 ได้รับเสียหาย (?) ดังนั้นเพื่อความปลอดภัยของตัวนักบิดเอง และนักบิดคนอื่นๆที่อยู่ในสนาม (ที่อาจพุ่งเข้ามาชนในจังหวะออกตัว หากรถเกิดดับในจังหวะสตาร์ทแบบงงๆอีก) ทางทีมและ Vinales จึงมีความเห็นร่วมกันว่านักบิดจะไม่ร่วมการแข่งขันในสุดสัปดาห์นี้ ไม่เพียงเท่านั้น หากทาง Yamaha ยังไม่สามารถหาสาเหตุและแก้ไขปัญหากับตัวแข่ง YZR-M1 จากการกระทำบางอย่างของ Maverick Vinales ตามที่ระบุได้ หรือหาข้อตกลงระหว่างกันไม่ได้ ก็มีแนวโน้มว่าทีมอาจตัดสินใจไม่ให้นักบิดร่วมแข่งขันในเรซถัดๆไปได้อีกด้วย อ่านข่าว MotoGP เพิ่มเติมได้ที่นี่
Author: admin
แม้ก่อนหน้านี้ เราจะได้เคยให้ข้อมูลกับเพื่อนๆไปว่า Yamaha YZF-R7 คือตัวตายตัวแทนใหม่ของ YZF-R6 ในฐานะรถมอเตอร์ไซค์แนวสปอร์ตไบค์โมเดลคั่นกลางระหว่าง YZF-R3 กับ YZF-R1 แต่ทว่าจากข้อมูลเมื่อสัปดาห์ก่อนที่เราได้รับมา กลับดูเหมือนว่ามันอาจจะไม่เป็นเช่นนั้นเสียแล้ว เกี่ยวกับเรื่องนี้ ก็เป็นอย่างที่เพื่อนๆทราบกันดีว่า ถึง YZF-R7 จะกลายเป็นสปอร์ตไบค์โมเดลใหม่ของ Yamaha R-Series ที่ถูกนำมาทำตลาดคั่นกลางระหว่าง YZF-R3 กับ YZF-R1 แทน YZF-R6 แต่สมรรถนะเครื่องยนต์และออพชันต่างๆของ R7 ที่ถูกสร้างบนพื้นฐานของ ที่นี่ MT-07 นั้น ย่อมไม่มีทางที่จะไปเทียบกับความจี๊ดจ๊าดของสมรรถนะรถมอเตอร์ไซค์แนวซุปเปอร์สปอร์ตไบค์ได้อย่างแน่นอน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนของแรงม้าที่ต่างกันหลัก 40 ตัว แต่จากการที่ในตอนนี้ Yamaha YZF-R9 ถือเป็นว่าที่สปอร์ตไบค์คันใหม่ที่ทาง Yamaha อาจเผยโฉมมันออกมาอย่างเร็วที่สุดภายในช่วงสิ้นปีนี้ เมื่ออิงจากข้อมูลการจดชื่อทะเบียนการค้าตัวรถเมื่อไม่กี่สัปดาห์ก่อน จึงทำให้มีความเป็นไปได้สูงมากว่าเจ้า R9 จะเป็นตัวตายตัวแทนใหม่ของ R6 ในฐานะซุปเปอร์สปอร์ตไบค์อย่างแท้จริง โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากสมรรถนะของขุมกำลัง CP3 889cc…
จากกรณีซิปชุดแข่งรูดลงแบบไม่รู้ตัวของ Fabio Quartararo ที่การแข่งขัน CatalanGP เมื่อหลายเดือนก่อน ก่อให้เกิดเรื่องราวดราม่าตามมามากมาย ทั้งประเด็นที่ว่าเหตุใด FQ20 จึงยังคงตัดสินใจที่จะวิ่งต่อไปทั้งที่มันเสี่ยงอันตราย ไหนจะเรื่องที่ว่าทำไมกรรมการถึงไม่ตีธงดำ หรือตีธงเพื่อเรียกให้นักบิดรายนี้วิ่งกลับมาแก้ปัญหาเรื่องชุดแข่งของตนเองที่พิทดีๆ ซึ่งในท้ายที่สุดทางกรรมการก็ได้มีมาตรการใหม่เพื่อแก้ไขปัญหานี้ออกมาแล้ว นั่นก็คือเพิ่มข้อความสัญญาณเตือนใหม่เข้าไปยังหน้าจอแสดงผล เพื่อให้นักบิดทราบถึงปัญหาเกี่ยวกับชุดแข่งของตนเองได้อย่างชัดเจนมากยิ่งขึ้น “ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เรามีหน้าจอแสดงผลบนตัวแข่งที่กรรมการสามารถส่งข้อความไปยังนักบิดได้, ทั้งสัญญาณธง และข้อมูลเกี่ยวกับการโดนลงโทษ, อะไรประมาณนั้น, นานวันก็ยิ่งมีสัญญาณต่างๆมากขึ้น” Mike Webb กรรมการผู้ควบคุมการแข่งขันกล่าว “แต่กับสองสิ่งที่เกิดขึ้นในช่วงไม่นานมากนี้, หนึ่งในนั้นก็คือสิ่งที่เกิดขึ้นใน CatalanGP เรามีบางสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน, นั่นคือการที่อุปกรณ์ของนักบิด อย่างชุดหน้า ไม่สามารถทำหน้าที่ได้อยากถูกต้อง และเราต้องบอกให้นักบิดแก้ไขมัน, ซึ่งเราดันไม่มีสัญญาณใดเลยที่บ่งบอกปัญหานั้นได้อย่างเหมาะสม” “ในกรณีที่เกิดปัญหา หรืออุปกรณ์ของนักบิดที่ไม่ถูกสวมใส่อย่างรัดกุม, หรือบางสิ่งที่ไม่ใช่ปัญหาใหญ่แต่จำเป็นต้องได้รับการแก้ไข, มันก็ล้วนเป็นสถานการณ์ที่แตกต่างกันไป, ดังนั้นเราจึงมีสัญญานใหม่ๆบนหน้าจอแสดงผล, นั่นคือสัญญาณที่แสดงว่า ‘equipment’ บนหน้าจอของนักบิดซึ่งถูกอธิบายให้กับนักบิดและทีมแข่งแล้วว่า, (เมื่อสัญญาณนี้แจ้งขึ้นมาบนหน้าจอ) มันหมายถึงนักบิดมีปัญหากับอุปกรณ์ชุดแข่งและคุณจำเป็นจะต้องแก้ไขมันโดยเร็วที่สุด” “ถ้าคุณเห็นแล้วกลับเข้า Pit มาแก้ไขมัน, ก็ได้, หรือถ้าคุณสามารถแก้ไขมันในสนามได้, มันก็ได้เหมือนกัน, สิ่งที่(กรรมการ)ต้องการก็คือให้นักบิดแก้ไขมันโดยเร็ว,…
ขณะที่กำหนดการเปิดตัว All-New Ducati Monster ในประเทศไทยกำลังใกล้เข้าไปทุกที เราจึงนำสเปคทางเทคนิคของมันที่เรามีมาเปรียบเทียบกับคู่แข่งในตลาดที่น่าสนใจกันสักหน่อยดีกว่าว่าจะเป็นอย่างไรบ้าง ซึ่งคู่แข่งของมันที่ว่าในคราวนี้ก็คือเจ้า Yamaha MT-09 โมเดลล่าสุดปี 2021 นั่นเอง เครื่องยนต์ 2021 Ducati Monster : L-Twin / 4 วาล์วต่อสูบ / DOHC ทำงานร่วมกลไกแบบ Desmodromnic/ ระบายความร้อนด้วยน้ำ / ความจุ 937cc 2021 Yamaha MT-09 : 3 สูบเรียง / 4 วาล์วต่อสูบ / DOHC / ระบายความร้อนด้วยน้ำ / ขนาดความจุ 889cc กำลังสูงสุด 2021 Ducati Monster :…
New Honda Scoopy Snoopy Limited Edition ที่เกิดจากการครอสแบรนด์กันระหว่าง Scoopy และ Snoopy ส่งมอบความสนุกครั้งใหม่ให้วัยรุ่น ถูกเปิดตัวออกมาอย่างเป็นทางการเพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำตลาดรถแฟชั่น เอ.ที. ของเมืองไทย ด้วยจำนวนการผลิตสุดจำกัดเพียง 4,000 คัน เท่านั้น! New Honda Scoopy Snoopy Limited Edition ได้รับการออกแบบภายใต้คอนเซปต์ “สนู๊ป…หลุดกรอบ” ครั้งแรกของโลกกับการผสาน 2 ไอคอนแห่งความสนุกเข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว นั่นคือ Scoopy ไอคอนรถจักรยานยนต์ที่โดนใจวัยรุ่นไทย และ Snoopy ไอดอลแห่งความกวนจากการ์ตูน 4 ช่องของหนังสือพิมพ์อเมริกัน ตัวรถถ่ายทอดคาแรกเตอร์ที่เป็นเอกลักษณ์ของ Snoopy และ Charlie Brown อย่างเด่นชัด เท่ทุกมุมมอง ด้วยลวดลายที่ไม่เหมือนใคร ด้านหนึ่งเป็นการ์ตูน Snoopy ที่มาในชุดนักบินมาดเท่ และอีกด้านหนึ่งเป็นเพื่อนซี้คู่ใจอย่าง Charlie…
จากเหตุการณ์อุบัติเหตุหนักจนกรรมการต้องสั่งตีธงแดงตั้งแต่เริ่มแข่งศึก AustrianGP ได้ไม่นาน เพราะตัวแข่ง KTM RC16 ของ Dani Pedrosa และ ตัวแข่ง Aprilia RS-GP ของ Lorenzo Savaadori ชนกันจนเกิดไฟไหม้หนักที่โค้ง 3 ล่าสุด DP26 ก็ได้ออกมายอมรับว่า ตนยังไม่รู้ว่าสาเหตุที่ทำให้เกิดเรื่องดังกล่าวเป็นเพราะอะไร แต่ก็รู้สึกโชคดีที่ไม่เป็นอะไร และเสียใจกับ LS32 ที่ต้องมาบาดเจ็บเพราะความผิดพลาดของตนเอง Scary crash Pedrosa and Salvadori #MotoGP #Messi #ShopeePuncak88 #TenggelamkanPartaiDemokrat pic.twitter.com/75VBPO1bOJ— Mr. Polo (@TamaTheViper) August 8, 2021 “คือก็ใช่นะ, มันเป็นการเริ่มต้นที่แย่ในการแข่งรอบแรก เพราะผมไม่รู้ว่าทำไมถึงเกิดพลาดเช่นนี้” Dani Pedrosa กล่าว “ผมคิดว่ามันเป็นรอบที่สามมั้ง และบางทีผมอาจจะเข้าไลน์แคบไปหรือบางที่ยางอาจจะเย็นเกินในฝั่งด้านขวา,…
จากงานวิจัย สาเหตุส่วนที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุจากการใช้รถใช้ถนน ก็คือการใช้ความเร็วมากกว่าปกติ ดังนั้นเพื่อเป็นการลดปัจจัยเสี่ยงนี้ให้มากที่สุด ทางสหภาพยุโรป รวมถึงสหราชอาณาจักร จึงมีการออกกฏหมายใหม่ว่า นับตั้งแต่ปี 2022 เป็นต้นไป ผู้ผลิตจะต้องติดตั้งตัวจำกัดความเร็วอัตโนมัติ ISA ให้กับยานพาหนะทุกคันที่ส่งออกไปวางจำหน่าย เกี่ยวกับเรื่องนี้ เป็นข้อมูลที่ทางสหภาพยุโรป และ สหราชอาณาจักร พึ่งมีการประกาศออกมาเมื่อคืนก่อน ว่านับตั้งแต่ปี 2022 เป็นต้นไป ผู้ผลิตจะต้องติดตั้งตัวจำกัดความเร็วอัตโนมัติ “Intelligent Speed Assistance” หรือ “ISA” ให้กับยานพาหนะที่ส่งออกไปวางจำหน่ายทุกคัน ซึ่งเจ้าระบบ ISA ที่ว่า หากให้อธิบายแบบสั้นๆ มันก็คือระบบอัจฉริยะที่จะเชื่อมต่อตัวมันเองระหว่างยานพานะที่มันถูกติดตั้งอยู่กับระบบ GPS ซึ่งหากผู้ใช้รถ ขับขี่รถเข้าไปถึงเขตจำกัดความเร็วเมื่อไหร่ ระบบก็จะแจ้งเตือนผู้ใช้รถ แล้วเริ่มล็อคความเร็วของรถให้อยู่ในเกณฑ์ความเร็วที่กำหนดไว้บนเส้นทางหรือบริเวณดังกล่าวในทันที อย่างไรก็ดี การสั่งล็อคความเร็วรถของระบบ ISA ดังกล่าว ไม่ได้หมายถึงการที่จู่ๆผู้ใช้รถขับเข้าถึงเขตแล้วรถจะเบรกกระทันหัน หรือเครื่องยนต์ถูกตัดรอบลงฉับพลันเพื่อให้ความเร็วรถอยู่ในกรอบที่กำหนดอย่างรวดเร็ว จนผู้ใช้รถต้องเกิดอันตราย แต่เมื่อระบบจับตำแหน่งได้ว่า ขณะนี้รถได้เข้าสู่เขตจำกัดความเร็วแล้ว มันก็จะทำการแจ้งเตือนผู้ใช้รถ ถึงความเร็วที่ควรใช้ ซึ่งหากผู้ใช้ยังไม่ยอมแตะเบรก…
ท่ามกลางวิกฤต COVID-19 ที่ใครหลายๆคนต่างบ่นว่ามันทำให้การนำเงินมาซื้อรถมอเตอร์ไซค์สักคันเป็นเรื่องที่ทำได้ยากขึ้น ทั้งในส่วนของการคำนึงถึงความจำเป็นที่จะต้องเก็บเงินก้อนนั้นไว้ใช้ในยามฉุกเฉิน หรือต้องนำเงินเก็บที่มีไว้หมุนในกิจการที่ทำกำไรได้ไม่มากอย่างที่ควร(หรือไม่ได้เลย) แต่ปรากฏว่าจู่ๆทางค่ายคนบ้ากลับเลือกเปิดตัว All-New Suzuki Hayabusa ราคาหลายแสนบาทออกมาสวนทิศทางเศรษฐกิจเสียอย่างนั้น ทำไมถึงเป็นแบบนั้นกันล่ะ ? เกี่ยวกับเรื่องนี้ หากเพื่อนๆลองสังเกตกันให้ดี ขณะที่รถมอเตอร์ไซค์ราคาไม่ถึงแสน หรือแสนต้นๆหลายๆคัน ที่ใครหลายๆคนรอคอย อย่างเช่น Suzuki Saluto 125 ซึ่งเป็นสกู๊ตเตอร์ที่ราคาไม่น่าถึงหลักแสนบาท และใครหลายๆคนรออยู่ กลับยังไม่มีทีท่าว่าจะเปิดตัวในไทย หรือบางคันที่เคยมีข่าวว่าจะเปิดตัวเมื่อปีที่แล้ว ก็ดันถูกชะลอการเปิดตัวออกไปเรื่อยๆ จนตอนนี้เรายังไม่เห็นแม้แต่เงา แต่กลับกันสำหรับรถมอเตอร์ไซค์ในกลุ่มบิ๊กไบค์กลับยังคงมีกำหนดการเปิดตัวหลังจากการเผยโฉมในระดับ Global ด้วยระยะเวลาที่ห่างกันเพียงไม่นานนัก แทบจะเหมือนกับในช่วงเวลาปกติที่เชื้อไวรัส COVID-19 ยังไม่ระบาด ซึ่งสาเหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะ “กลุ่มลูกค้า” ของรถมอเตอร์ไซค์ทั้งสองกลุ่มนั้นต่างกัน กล่าวคือ อาจจะจริงอยู่ว่าตอนนี้ ไม่ว่าใครก็ได้รับผลกระทบจากพิษเศรษฐกิจที่ซบเซาเพราะการระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 กันทั้งสิ้น แต่ลูกค้ากลุ่มเป้าหมายของรถมอเตอร์ไซค์ในช่วงราคาไม่เกิน 200,000 บาท ซึ่งก็คือบุคคลทั่วไปที่อยู่ในกลุ่มชนชั้นกลางนั้น เมื่อโดนผลกระทบจากการมีรายได้น้อยลงเพราะพิษเศรษฐกิจ มันก็ย่อมส่งผลถึงความสามารถ และความอยากที่จะซื้อรถมอเตอร์ไซค์ใหม่ๆสักคันมาใช้อยู่พอสมควร ดังนั้นหากไม่นับกรณีที่รถมอเตอร์ไซค์โมเดลเล็กเหล่านั้น อาจไม่ได้ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อวางจำหน่ายในประเทศไทยแต่แรก…
นับตั้งแต่ปรับโฉมครั้งใหญ่เมื่อปี 2015 ตัวรถ Kawasaki Versys 650 ก็ยังไม่ได้รับการปรับโฉมใดๆเลยนับแต่นั้น แม้ว่าพี่ใหญ่ของมันอย่าง Versys 1000 จะถูกปรับโฉมครั้งใหญ่ไปแล้วหนึ่งครั้ง แล้วตามด้วยการปรับโฉมแบบ Minor-Change ไปอีกครั้งแล้วก็ตาม แต่ดูเหมือนว่ามันอาจจะไม่ได้เป็นเช่นนั้นไปอีกนานเท่าไหร่นักหลังจากนี้เมื่อชุดภาพของ Kawasaki Adaptive ถูกเปิดเผยออกมา สำหรับข้อมูลในเบื้องต้น Kawasaki Adaptive ที่เพื่อนๆเห็นอยู่ในขณะนี้ คือรถมอเตอร์ไซค์ร่างต้นแบบ หรือ Concept Bike ที่ถูกออกแบบโดย Institute of Applied Art and Design หรือ สถาบันศิลปะประยุกต์และด้านการออกแบบ (IAAD) ที่ตั้งอยู่ในประเทศอิตาลี ซึ่งแม้มันจะเป็นงานออกแบบที่ทำขึ้นโดยนักศึกษาของสถาบัน แต่มันก็เป็นงานที่ทาง Kawasaki ตั้งใจร่วมมือกับสถาบันดังกล่าวเพื่อมอบหมายให้นักศึกษาช่วยแข่งกันออกแบบว่าที่ผลิตภัณฑ์ใหม่ๆให้กับตนเองขึ้นมาแต่แรกอยู่แล้ว จากความตั้งใจดังกล่าว จึงทำให้ท้ายที่สุดเกิดเป็นเจ้า Kawasaki Adaptive คอนเซปท์ไบค์แนวลูกผสมระหว่าง เอนดูโร่ไบค์, แอดเวนเจอร์ไบค์, ทัวร์ริ่งไบค์, และสปอร์ตไบค์…
จากดราม่าระหว่างการแข่งขัน MotoGP เรซล่าสุดของ Marc Marquez กับ Aleix Espargaro ที่แม้ในตอนสุดท้ายมันจะไม่ได้มีเหตุการณ์เกี่ยวเนื่องตามมามากมายเท่าไหร่นัก ทั้งในส่วนของการผิดใจกันของนักบิด หรือการทำโทษของทางกรรมการ แต่เพื่อเป็นการนำเสนอข้อมูลในทั้งสองมุมมองต่อจากการให้สัมภาษณ์ของ Espargaro ผู้พี่เมื่อวันก่อน เราจึงขอพาเพื่อนๆมาชมบทสัมภาษณ์ของ Marquez ผู้พี่ที่เป็นฝ่ายอธิบายถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในขณะนั้นบ้าง 🚥 Lights out – Take 2! 🚥@88jorgemartin gets the holeshot as @marcmarquez93 and @AleixEspargaro tangle AGAIN! 💥#StyrianGP 🏁 pic.twitter.com/mzsAO6t8lx— MotoGP™🏁 (@MotoGP) August 8, 2021 “ทั้งหมดคือสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นปกติ, การปะทะกันในระหว่างแข่งขันมันก็เกิดขึ้นบ่อยๆ, โดยเฉพาะหลังจาการออกตัวมาแล้วที่ทุกคนจะอยู่ใกล้กันมากๆ” Marc Marquez เริ่มอธิบาย “เรื่องนี้มันก็เกิดขึ้นระหว่างผมกับ Mir เช่นกัน…