BMW G310RR รถมอเตอร์ไซค์สปอร์ตคลาสเริ่มต้นจากค่ายฟ้าขายแห่งบาวาเรีย BMW ที่เพิ่งเปิดตัวในประเทศอินเดียไปเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ญาติร่วมแพลตฟอร์มกับรถมอเตอร์ไซค์แนวสปอร์ตเปลือยและแอดเวนเจอร์อย่าง G310R และ G310GS รวมถึงยังเป็น “รถคันเดียวกัน” กับ TVS Apache RR 310 ที่ถูกนำมาเปลี่ยนตราใหม่แล้ววางจำหน่ายไปทั่วโลก แต่ในวันที่รถคันนี้ถูกนำเข้ามาขายในประเทศไทย มันจะมีราคาประมาณเท่าไรกัน? ถ้าเราต้องการวิเคราะห์ว่าราคาของ BMW G310RR ในประเทศไทยนั้นอยู่ที่เท่าไร ก่อนอื่นเราก็คงต้องนำราคาของ BMW G310RR และพี่น้องของมันอย่าง G310R และ G310GS ในประเทศอินเดียมาเปรียบเทียบเพื่อเป็นการอ้างอิงราคาเบื้อต้นเสียก่อน โดยราคาของรถทั้ง 3 รุ่นก็เป็นดังนี้เลย BMW G310RR 285,000 รูปี (ประมาณ 131,000 บาท) BMW G310RR 270,000 รูปี (ประมาณ 124,000 บาท) BMW G310RR…
Author: Kristha
Carl Fogarty เจ้าของฉายา King Carl อดีตนักแข่งมอเตอร์ไซค์สายรถโปรดักชั่น ดีกรีแชมป์โลกเวที WSBK ได้ออกมาให้ความคิดเห็นด้านบวกเกี่ยวกับสัญญาฉบับใหม่ที่ Jonathan Rea นักแข่งสายแข็งจากทีม Kawasaki ได้ตกลงเซ็นร่วมกันในเชิงเห็นด้วยว่าควรอยู่ต่อ และมองว่ามันเป็นเรื่องไม่คุ้มค่า หากย้ายทีมแล้วผลงานไม่ดี Carl Fogarty นั้นเป็นนักแข่งเบอร์ใหญ่ระดับตำนานจากเวทีรถตลาด เจ้าของแชมป์โลก 4 สมัยกับทีม Ducati เขาสามารถคว้าแชมป์ได้ 2 สมัยติดกัน หลังจากนั้นเขาจึงตัดสินใจไปหาความท้ายใหม่ทางกับทีม Honda ก่อนที่จะต้องย้ายกลับรังในปีถัดมา หลังจากผลงานไม่เป็นที่น่าพอใจ ซึ่งกว่าจะปรับตัวและคว้าแชมป์โลกอีกครั้งได้ “ตอนนั้นมีคนบอกว่า Jonathan อาจจะออกจากทีม” Fogarty กล่าว “ผมเคยสร้างความผิดพลาดแบบเดียวกัน และนั่นทำให้ผมเสียเวลาไป 2 ปี กว่าจะกลับมาเข้าร่องเข้ารอยได้(ถึงจะบอกอย่างนั้น Fogarty ก็เป็นถึงรองแชมป์) ผมเสียไป 2 แชมป์เพราะผมออกจากทีมระดับแชมป์” เขายังกล่าวเสริมอีกด้วยว่า “๋Jonathan ได้แชมป์โลกมา 6…
Manken TY150 มินิไบค์จากค่ายรถจากแดนมังกร ดินแดนที่ขยันสร้างมอเตอร์ไซค์ที่สามารถทำให้เราสนใจออกมาได้ตลอดเวลา แต่ความสนใจที่ว่ากลับไม่ใช่ความน่าทึ่งทางวิศวกรรม หรืองานออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์ แต่กลับเป็นงานออกแบบที่ไร้ความเป็นเอกลักษณ์โดยสิ้นเชิง และเราไม่ได้กำลังพูดถึงหน้าตาของรถที่บังเอิญไปคล้ายกับรถค่ายอื่น แต่มันคือการจงใจให้เหมือนรถค่ายอื่นเลยต่างหาก ซึ่งผู้โชคดีในครั้งนี้ก็คือ ค่ายรถยักษ์ใหญ่จากประเทศญี่ปุ่น Honda กับมินิไบค์พรีเมี่ยมที่มีงานออกแบบสุดเป็นเอกลักษณ์อย่าง Monkey ที่ตอนนี้ไม่เป็นเอกลักษณ์แล้ว เนื่องจากหน้าตาที่สวยงามลงตัว โดดเด่นจากคู่แข่งในตลาด มันเลยทำให้ผู้ผลิตรายนี้นับถือและนำมาเป็น “แรงบันดาลใจ” ในการออกแบบรถรุ่นใหม่ แต่เราไม่คิดว่าผู้ผลิตต้นน้ำจะดีใจกับเรื่องนี้มากนัก Manken TY150 ใช้เครื่องยนต์ระบายความร้อนด้วยอากาศขนาดความจุ 149cc ถือว่าใหญ่ตัดหน้ารถต้นแบบกันเลย มันสามารถสร้างพละกำลังสูงสุด 9.5 PS @ 7,500 rpm และแรงบิดสูงสุด 10.5 NM @ 5,000 rpm ซึ่งก็ไม่ได้ให้พละกำลังได้เยอะเท่าไรนัก และออกจะน้อยด้วยซ้ำถ้าเทียบกับเครื่องยนต์แบบเดียวกันจากค่ายอื่น ทำความเร็วสูงสุด 95 กิโลเมตร/ชั่วโมง รูปลักษณ์ทุกอย่างที่เราสามารถมองเห็นได้ด้วยตานั้นเหมือน Honda Monkey ทุกอย่างจนต่อให้มีรถจอดอยู่ตรงหน้า เราก็อาจจะแยกไม่ออกด้วยซ้ำ ล้ออัลลอยด์ขนาดเล็กที่รัดด้วยยางกึ่งหนามขนาด 120/70-12…
Alberto Puig ผู้จัดการทีมแข่งตราปีกนกในเวที MotoGP เกิดอาการฉุนเล็กน้อย เมื่อหลายคนชอบพูดว่า “Honda เป็นแชมป์ได้เพราะมี Marc Marquez” หลังจากที่ทีมแข่งดีกรีแชมป์โลกหลายสมัยรายนี้กำลังเจอกับปัญหารุมเร้า ไม่สามารถพัฒนารถให้เข้าร่องเข้ารอยได้หลังจากที่นักแข่งตัวหลักและตัวแบกอย่าง Marc Marquez ไม่สามารถลงสนามได้ แถมนักแข่งคนอื่นในสังกัดก็มีผลงานไม่เป็นที่น่าพุึงพอใจอย่างมาก ซึ่งเราก็คงไม่สามารถที่จะปฏิเสธเรื่องนี้ได้ เพราะถึงแม้ว่านักแข่งตัวหลักอย่าง Marc Marquez จะสามารถคว้าแชมป์โลกมาได้หลายครั้ง แต่นักแข่งคนอื่นที่เป็นทีมเมทของเขาก็จะมีเพียงแค่ Dani Pedrosa เท่านั้นที่สามารถคว้าแชมป์สนามมาครองได้ เพราะทีมเมทคนอื่นไม่ว่าจะเป็น Jorge Lorenzo, Alex Márquez หรือ Pol Espargaró ก็ทำได้เต็มที่แค่คว้าโพเดี้ยมไม่กี่ครั้งเท่านั้น (ถ้านับรวมนักแข่งทีมรองไปด้วยก็จะมี Cal Crutchlow เท่านั้นที่สามารถคว้าแชมป์ได้บ้าง) ในระหว่างที่นักข่างกำลังเจาะประเด็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ Puig ก็แทรกขึ้นมาว่า “แบบนั้นผมก็พูดได้ว่า Yamaha ชนะเพราะมีดีแค่ Quartararo” เขากล่าว “นักแข่งตัวท็อปนั้นสามารถสร้างความแตกต่างได้ หลายคนอาจจะไม่รู้เรื่องนี้ ส่วนผสมของ Honda…
BMW G310RR รถมอเตอร์ไซค์สปอร์ตคลาสเริ่มต้นจากค่ายฟ้าขายแห่งบาวาเรีย BMW ที่เพิ่งเปิดตัวในประเทศอินเดียไปเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ญาติร่วมแพลตฟอร์มกับรถมอเตอร์ไซค์แนวสปอร์ตเปลือยและแอดเวนเจอร์อย่าง G310R และ G310GS รวมถึงยังเป็น “รถคันเดียวกัน” กับ TVS Apache RR 310 ที่ถูกนำมาเปลี่ยนตราใหม่แล้ววางจำหน่ายไปทั่วโลก แต่ว่าเมื่อไรกันที่รถอินเดียตีตราบาวาเรียคันนี้จะถูกนำมาขายในประเทศไทย? แน่นอนว่าวิธีที่ง่ายที่สุดในการคาดเดาช่วงเวลาของการเปิดตัวรถรุ่นใหม่ในประเทศไทยนั้น เราก็ต้องอ้างอิงจากรถที่มีสไตล์คล้ายกัน จากค่ายเดียวกันที่ถูกเปิดตัวไปก่อนหน้าอย่างฝาแฝดต่างสไตล์ G310R และ G310GS ซึ่งถูกเปิดตัวไปเมื่อหลายปีก่อน โดยฝาแฝดชีเปลือยอย่าง G310R ถูกเปิดตัวเป็นครั้งแรกในช่วงปลายปี 2015 ก่อนที่จะถูกนำมาเผยโฉมเป็นครั้งแรกในประเทศไทยไม่กี่สัปดาห์หลังจากนั้นในงาน MotorExpo 2015 แต่ปัญหาก็เกิด เมื่อฝาแฝดสายลุย G310GS ที่ถูกเปิดตัวในช่วงปลายปี 2016 กลับไม่ได้ถูกเปิดตัวตามหลังแบบติด ๆ ในงาน MotorExpo 2016 เหมือนครั้งก่อน แต่มันดันถูกดองยาวแล้วนำไปเปิดตัวเป็นครั้งแรกในงาน MotorExpo 2017 แทน ซึ่งมันก็นำมาสู่ปัญหาที่ทำให้เราไม่สามารถยืนยันเวลาการเปิดตัวในไทยที่แน่นอนได้ ถ้าเป็นในกรณีของรถรุ่นอื่นจากค่ายรถส่วนใหญ่ เราก็คงจะคาดเดาช่วงเวลาในการเปิดตัวของรถรุ่นนั้นในประเทศไทยได้ไม่ยากเย็นนัก…
Kawasaki Ninja E1 ชื่อสมมุติของรถปริศนา ว่าที่รถสปอร์ตพลังงานไฟฟ้า EV คันแรกจากค่ายยักษ์เขียว Kawasaki ที่ได้ถูกพัฒนามาตลอดหลายปีที่ผ่านมานั้น มีข่าวลือว่าเริ่มมีความเป็นรูปเป็นร่างจนเข้าใกล้ช่วงสุดท้ายของโครงการ และเตรียมเข้าสู่ขั้นตอนการผลิต มีแววจะได้จัดจำหน่ายทั่วโลกเร็ว ๆ นี้ Kawasaki Ninja E1 รถไฟฟ้าคันแรกของค่ายนั้นถูกคาดเดาว่ามันจะถูกสร้างบนพื้นฐานพื้นฐานของ ZX-25R ต่างกับตัวต้นแบบพลังงานไฟฟ้าก่อนหน้านี้ที่ใช้ Ninja 300 เป็นพื้นฐาน และถึงแม้ว่าเราจะไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับตัวเลขพละกำลังสูงสุดและระยะทางขับเคลื่อน แต่ก็มีแนวโน้มว่าพละกำลังโดยประมาณก็จะอยู่ในระดับเดียวกับรถสปอร์ตคลาสเริ่มต้นที่คงไม่แรงไปกว่า 47 แรงม้า ตามมาตรฐานใบขับขี่ในหลายประเทศ สิ่งที่น่าสนใจอีกอย่างเกี่ยวกับนินจาไฟฟ้าคันนี้คือ มันอาจจะมาพร้อมระบบเกียร์ 4 จังหวะ ที่มีไว้เพื่อเพิ่มความประหยัด และเพิ่มระยะทางขับเคลื่อนภายใต้ขนาดของแบตเตอรี่ที่จำกัด ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องหายากในรถพลังงานไฟฟ้าที่มีแรงบิดให้ใช้เหลือเฟือ แบบเดียวกับรถต้นแบบ โดยผู้ขี่จะต้องควบคุมระบบเกียร์ดังกล่าวด้วยตัวเอง ประโยชน์ของเกียร์นอกเหนือจากความประหยัดแล้ว มันยังช่วยให้ผู้ขี่รู้สึกมีส่วนร่วมกับตัวรถมากขึ้นกว่าการขี่รถไฟฟ้าตามปกติ นั่นก็จะไปใกล้เคียงกับความรู้สึกของการขี่รถเครื่องยนต์สันดาปแบบมีเกียร์ที่หลายคนชอบและอยากเก็บไว้ แต่เราต้องของย้ำไว้ก่อนว่าข้อของ Kawasaki Ninja E1 คันนี้ยังคงเป็นแค่ข่าวลือ เพราะมันอาจจะไม่ได้ใช้ชื่อนี้ในการจำหน่ายเลยก็ได้ โดยเวลาการเปิดตัวของรถรุ่นนี้อย่างเร็วที่สุดก็คาดว่าจะเป็นช่วงปลายปี 2023 ซึ่งก็จะไปตรงกับข่าวที่ว่าค่ายเขียวจากเมืองโกเบรายนี้ เตรียมที่จะเปิดตัวรถพลังงานไฟฟ้าถึง…
Toprak Razgatlıoğlu นักแข่งรถมอเตอร์ไซค์ชาวเติร์ก เจ้าของตำแหน่งแชมป์โลกรายการ WSBK คนล่าสุดจากทีม Yamaha ที่หลังจากมีข่าวมานานว่าเขาอาจจะได้ย้ายรายการไปแข่งในเวทีใหญ่อย่าง MotoGP จนในที่สุดก็ได้มีโอกาสลงทดสอบรถแข่งต้นแบบ YZR-M1 ในสนาม Aragon เมื่อเดือนที่ผ่านมา ซึ่งล่าสุดเจ้าตัวก็ได้เล่าถึงความรู้สึกหลังได้ควบรถแข่งที่ใครก็ใฝ่ฝันสักที โดย Toprak ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อว่า “ถ้าเทียบ(M1)กับ R1 ซึ่งเป็นรถที่ผมใช้แข่งประจำ มันถือว่าเป็นรถสองคันที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง พลังเบรกมันสุดยอดมาก ใช้แค่นิ้วเดียวกันก็อยู่แล้ว แต่ผมกลับรู้สึกว่าตำแหน่งที่นั่งของผมมันอยู่สูงกว่าที่ควรจะเป็น ในตอนนั้นผมแค่คิดเรื่องขับเอามัน ซึ่งผมก็สนุกที่ได้ทำอย่างนั้น มันเป็นความฝันของนักแข่งทุกคนที่จะได้ขับรถ MotoGP แต่ตอนนี้ผมว่ามันไม่ใช่เวลาของผม เพราะผมแก่เกินไปแล้ว” “1:49.6 คือเวลาที่ผมทำได้ในตอนเช้า ผมคิดว่าน่าจะกดเวลาให้ต่ำกว่า 49 หรือเอาให้ถึง 47 เลยก็น่าจะได้ แต่โชคไม่ดีที่ฝนตกตอนบ่าย โดยรวมแล้วผมได้ขับรถอยู่ประมาณชั่วโมงนึง ผมต้องการเวลามากกว่านี้ พอขับรถมากขึ้นผมก็เริ่มปรับตัวได้ แต่ก็มารู้ตัวที่หลังว่าผมไม่สามารถขับ M1 ในสไตล์ของตัวเองได้” Razgatlıoğlu กล่าว และเมื่อนักข่าวถามถึงโอกาสที่จะได้ขับ MotoGP ในอนาคต…
Ultraviolette F77 รถสปอร์ตเปลือยพลังงานไฟฟ้า EV หน้าตาแหลมคมทันสมัยของค่ายน้องใหม่จากประเทศอินเดีย และถึงแม้ว่า Ultraviolette จะเป็นรถค่ายรถพลังงานทางเลือกเจ้าใหม่ที่หลายคนไม่รู้จัก แต่หากเราบอกว่าบริษัทรถยักษ์ใหญ่จากอินเดียอย่าง TVS ซึ่งยังเป็นเจ้าของหรูจากรถอังกฤษอย่าง Norton ได้ทำการลงทุนกับบริษัทแห่งนี้ นั่นก็คงทำให้ค่ายรถรายนี้ได้รับความสนใจมากขึ้นกว่าเดิม ถึงแม้จะมาพร้อมหน้าตาที่ดุดันเหมือนรถ Super Naked แต่อันที่จริงแล้วมันกลับมีสเปคใกล้เคียงกับรถขนาด 250cc มากกว่า โดยขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าที่ให้พละกำลังสูงสุด 33.5 HP แต่แรงบิดกลับมีมากถึง 90 NM ที่จ่ายพลังงานด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าที่พามันวิ่งไปได้ไกลสุด 200 กิโลเมตร ต่อการชาร์จไฟเต็มหนึ่งครั้ง ซึ่งแบตเตอรี่แบบถอดได้ลูกนี้จะใช้เวลาในการชาร์จพลังงานจาก 0-80% ด้วยไฟบ้านใน 3 ชั่วโมง และใช้เวลาแค่ 50 นาที ด้วยระบบ Fast charge ตัวรถยังมีน้ำหนักตัวที่เบามากในมาตรฐานรถไฟฟ้าที่ 158 กิโลกรัม ด้านชุดเฟรมที่ให้มาก็จะเป็นแบบโครงเหล็กถัก, ระบบกันสะเทือนหน้าแบบหนัวกลับ และแบบสปริงเดี่ยวพร้อมซัพแทงค์ที่ด้านหลัง, ระบบเบรกหน้าเป็นแบบดิสก์เดี่ยวขนาด 320 มิลลิเมตร…
หลังจากที่ค่ายรถคนบ้าจากญี่ปุ่นอย่าง Suzuki ได้ทำการประกาศถอนตัวออกจากการแข่งขันมอเตอร์ไซค์หลายรายการที่ทางบริษัทแม่เป็นผู้ลงทุน รวมถึงรายการใหญ่อย่าง MotoGP และ EWC เนื่องจากปัญหาด้านการเงิน และเป้าหมายของบริษัทที่ต้องการจดจ่อกับการพัฒนารถพลังงานทางเลือก สำหรับตลาดที่กำลังเปลี่ยนไปในอนาคต แต่ถ้าเป็นแบบนั้นค่ายคนบ้ารายนี้จะยังเก็บรถ Superbike ของค่ายอย่าง GSX-R1000 ไว้หรือไม่ หลายคนอาจจะทราบดีกันอยู่แล้วว่ามอเตอร์ไซค์หลายรุ่นในตลาด โดยเฉพาะกลุ่มรถ Superbike นั้นเป็นรถที่สร้างขึ้นมาเพื่อทำตามข้อกำหนดในการแข่งขันของรายการที่ต้องใช้รถถนนเช่น WSBK, AMA, EWC ที่ต้องใช้รถที่มีสเปคตรงตามที่ระบุ และมีการผลิตเพื่อจำหน่ายเป็นวงกว้าง นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ทำให้เราได้เห็นรถสปอร์ตตัวพันจากหลายค่าย ที่มาพร้อมรายละเอียดทางวิศวกรรมและรูปทรงที่คล้ายกัน ถูกสร้างขึ้นมาโดยเฉพาะเพื่อลงแข่งในรายการดังกล่าว เพื่อช่วยในการแข่งขันโปรโมทค่ายรถ แต่ถ้าค่ายรถไม่คิดจะแข่งแล้วหละ บริษัทยังมีความจำเป็นที่จะต้องลงทุนเป็นเงินจำนวนมากเพื่อพัฒนารถที่จะไม่ได้ใช้หรือเปล่า? Suzuki GSX-R1000 และรุ่นย่อย GSX-R1000R โฉมปัจจุบันนั้นถูกเปิดตัวมาตั้งแต่ปี 2017 ซึ่งถ้าค่ายคิดจะปรับโฉมรถรุ่นนี้จริง เราก็คงจะได้เห็นรถสปอร์ตรุ่นใหม่เปิดตัวภายในปีนี้อย่างแน่นอน เนื่องจากข้อกำหนดมาตรฐานไอเสียตัวใหม่ Euro 5 จะถูกบังคับใช้กับรถใหม่ทุกคันบนถนน(ในปี 2020 มาตรฐานไอเสียนี้ถูกบังคับใช้กับรถรุ่นใหม่ที่ถูกเปิดตัว ส่วนรถที่ขายอยู่แล้วจะสามารถขายต่อได้ถึงสิ้นปี 2022) แต่จากการถอนตัวของทีมโรงงานในรายการต่าง ๆ หรือการที่ทางค่ายแทบไม่ได้อัพเดตรถรุ่นนี้เลยตั้งแต่เปิดตัว รวมถึงไม่ได้นำเรื่องราวการเป็นแชมป์โลกในรุ่น…
กระจกมองข้าง หรือ กระจกมองหลัง สิ่งประดิษฐ์สุดแสนวิเศษชิ้นหนึ่งในวงการยานต์ ที่ช่วยให้เราสามารถมองเห็นวัตถุที่อยู่ด้านหลังได้ขณะขับรถ มันเป็นสิ่งของที่ไม่ได้มีหลักการทำงานอะไรที่ซับซ้อน แต่กลับมีประโยชน์อย่างน่าเหลือเชื่อ ช่วยให้ผู้ใช้รถปลอดภัยบนท้องถนนมานานนับร้อยปีโดยแทบไม่มีการเปลี่ยนแปลง แม้แต่กล้องมองหลังยุคใหม่ก็ยังไม่สามารถทดแทนได้ วันนี้เราเลยจะพามาดูประวัติแบบย่อของมันกัน หลายคนอาจจะไม่รู้ว่าก่อนว่า “กระจกมองข้าง” นั้นถือเป็น “เทคโนโลยีจากสนามแข่ง” ที่คิดค้นโดย Ray Harroun นักแข่งรถจากรายการ Indianapolis 500 ที่ติดกระจกไว้ข้างตัวถังรถเพื่อระวังคู่แข่งที่จ้องจะแซงเขา ก่อนที่วิศวกรนามว่า Elmer Berger จะนำมันมาประยุกต์ใช้กับรถถนนใน 1921 ด้วยชื่อสิ่งประดิษฐ์ที่เรียกว่า “Cop-Spotter” หรือ อุปกรณ์ช่วยมองตำรวจ ที่ตัวแทนจำหน่ายมักจะติดให้เป็นของแถม หรือผู้ใช้ต้องหาซื้อมาติดเอง เนื่องจากรถในสมัยนั้นยังไม่มีการติดกระจกมองข้างกัน เพราะถนนส่วนใหญ่ในเวลานั้นมักมีแค่เลนเดียว หรือสองเลนที่ขับสวนกัน ทำให้ผู้ขับขี่ไม่ต้องกังวลเรื่องการแซงกันแบบในปัจจุบัน แถมรถในยุคนั้นก็ขับกันช้ามากอยู่แล้ว จึงไม่มีคนสนใจในเรื่องความปลอดภัยเท่าไรนัก อันที่จริงแล้วกระจกมองข้างในยุคแรกจะยังมีแค่ข้างเดียวในฝั่งคนขับเท่านั้น ตลอดเวลากว่า 100 ปีที่ผ่านมา แทบไม่มีความเปลี่ยนแปลงในรูปแบบการทำงานของกระจกมองข้างเลยแม้แต่น้อย มันแทบจะเรียกได้ว่าเป็นสิ่งประดิษฐ์ที่สมบูรณ์แบบมาตั้งแต่ต้น มีแค่การเปลี่ยนแปลงในด้านรูปทรงของโคม หรือวิธีการปรับองศาของกระจกเท่านั้น หรือแม้แต่ระบบ Blind spot นั้นก็ถือว่าเป็นเทคโนโลยีแยกที่ช่วยเติมเต็มช่องโหว่ในจุดบอดของกระจกเท่านั้น…