Zontes 368K รถมอเตอร์ไซค์บิ๊กสกู๊ตเตอร์สายเที่ยวทางเรียบ ที่ถูกพูดถึงอย่างต่อเนื่องในโซเชียลมีเดีย จนแม้แต่ดีลเลอร์ของ Zontes เองยังออกตัวแบบไม่อ้อมค้อม ว่ารถรุ่นนี้จะเปิดตัวในไทยอย่างแน่นอน แถมยังถูกจับภาพคันจริงได้บนถนนสาธารณะ ซึ่งดูเหมือนว่าสเปคของมันจะจัดเต็มกว่ารุ่นที่บ้านเกิดตัวเองด้วยซ้ำ คำถามที่ตามมาคือสเปคตัวรถในไทยจะเป็นแบบไหน และจะเปิดตัวด้วยค่าตัวเท่าไร? พื้นฐานภายในยังคงมาพร้อมเครื่องยนต์แบบระบายความร้อนด้วยน้ำ 1 สูบ 4 วาล์ว ปริมาตรกระบอกสูบ 368 ซีซี ที่สามารถสร้างพละกำลังสูงสุดได้ 38.2 Hp ที่ 7,500 รอบต่อนาที และแรงบิดสูงสุด 40 Nm ที่ 6,000 รอบต่อนาที ส่งกำลังด้วยเกียร์ออโตเมติก ขับเคลื่อนล้อหลังด้วยสายพาน แน่นอนว่านี้คือเครื่องยนต์ลูกเดียวกับที่มีอยู่ใน 368G ในส่วนของสเปครอบคันก็ยังถือว่าขนขิงได้ตามสูตรของค่ายรถแดนมังกร อันที่จริงแล้วต้องบอกว่าน่าจะขิงได้มากกว่าเดิมด้วยซ้ำ เพราะจากเดิมระบบกันสะเทือนด้านหน้าแบบหัวตั้ง ด้านหลังแบบสปริงคู่ แต่รถที่ถูกพบเป็นภาพหลุดในไทยนั้น กลับมาพร้อมโช้คหน้าแบบหัวกลับ ถือว่าเล่นถูกจุดคนไทยจริง ๆ แต่ถึงอย่างนั้นเราก็ไม่สามารถทราบได้ว่าโช้คใหม่นี้ปรับค่าอะไรได้บ้าง และจะมีระยะยุบเท่าไร ระบบเบรกด้านหน้าแบบดิสก์เดี่ยว ทำงานร่วมกับคาลิเปอร์เรเดียลเม้าท์จาก J.Juan ด้านหลังแบบดิสก์เดี่ยว…
Author: Kristha
Harley-Davidson ค่ายรถมอเตอร์ไซค์พรีเมี่ยมสไตล์อเมริกัน ที่ถือว่ากำลังไปได้สวยในตลาดประเทศไทย แซงหน้าคู่แข่งยุโรปแบบขาดลอย ถึงแม้จะมีค่าตัวต่อคันที่แพงแสนแพงก็ตาม แต่ถึงอย่างนั้นค่ายตราโล่กลับกำลังประสบปัญหาในระดับโลก เพราะนอกจากกำลังบริโภคของลูกค้าจะหดหาย เนื่องจากปัญหาเศรษฐกิจในปัจจุบัน คนเริ่มไม่อยากได้รถมอเตอร์ไซค์พรี่เมี่ยมค่าตัวแรงที่เป็นแค่ของเล่น แต่ใช้งานในชีวิตประจำวันไม่ได้ ซ้ำด้วยปัญหาทางการเมืองและสงครามการค้าจากอเมริกา นั่นสงผลให้ Harley-Davidson ต้องปรับภาพลักษณ์ของแบรนด์ใหม่ เพื่อให้เข้ากับตลาดที่เปลี่ยนแปลง ข้อมูลนี้เป็นการสรุปบทสัมภาษณ์ของ รองประธานฝ่ายตลาดนานาชาติของ Harley-Davidson รวมกับข้อมูลจากแหล่งอื่น ที่ได้ให้ข้อมูลว่า ยอดของทางค่ายในช่วงหลังที่หายไป เป็นเพราะการถอดโมเดลสำคัญอย่าง Sportster รุ่นดั้งเดิม ที่เป็นเหมือนกับรถตัวเริ่มของค่ายในคลาส 800-1200 ซีซี ออกไป ตัวตายตัวแทนรุ่นใหม่อย่าง Sportster S ในสไตล์โมเดิร์นก็ดันได้รับความสนใจน้อยกว่ารุ่นเก่า ส่วนหนึ่งเป็นเพราะภาพลักษณ์ของ Harley-Davidson นั้นยึดโยงกับความเป็นรถคลาสสิกสไตล์อเมริกันไว้อย่างเหนียวแน่น คนทั่วโลกรู้จักค่ายรถรายนี้ และภาพลักษณ์ของพวกเขาเป็นอย่างดี ดีจนคนที่อยู่นอกวงการรถมอเตอร์ไซค์ อาจไม่รู้ด้วยซ้ำว่าค่ายนี้ก็ทำรถแอดเวนเจอร์ร่วมสมัยด้วย นอกจากนี้กลุ่มลูกค้าหลักที่เป็นผู้ชายผิวขาว ที่มีอายุเฉลี่ยมากกว่า 50 ปี ซึ่งเป็นถือเป็นกลุ่มลูกค้าที่มีความสำคัญมากที่สุด สนันสนุนแบรนด์มานานที่สุด และเป็นกลุ่มที่ค่ายต้องเอาใจมากที่สุด กลับอยู่ในช่วงวัยที่เลิกคิดจะออกรถมอเตอร์ไซค์คันใหม่กันแล้ว ส่งผลให้ตลาดของพวกเขามีแต่จะหดตัวลง แต่ถ้าจะไปหวังกับกลุ่มลูกค้าอายุน้อยก็ทำไม่ได้ เพราะคนอายุน้อยนั้นให้ความสนใจกับรถมอเตอร์ไซค์ที่เล็กกว่า…
มาถึงตอนนี้ ทุกคนน่าจะได้ยินข่าวของรถต้นแบบ Honda V3R ซึ่งเป็นรถมอเตอร์ไซค์ที่มาพร้อมกับเครื่องยนต์แบบ 3 สูบวี พร้อมระบบอัดกากาศด้วยไฟฟ้ากันไปแล้ว แต่รู้หรือไม่ว่าเครื่องยนต์แปลกตาที่ว่านี้กลับไม่ใช่ของใหม่สำหรับค่ายปีกนก เพราะถ้าเราย้อนกลับไปเมื่อ 40 ปีก่อน ก็เคยทำเครื่องยนต์แบบนี้ออกมาในชื่อ NS400R แถมถูกพิสูจน์ความสามารถมาแล้วทั้งในสนามแข่ง และบนถนนจริง จุดเริ่มต้นของตำนาน V3 นั้นต้อนย้อนกลับไปในปี 1981 Honda กำลังตั้งไข่ในการแข่งขันรายการ World Grand Prix เนื่องจากตัวแข่งในตอนนั้นอย่าง Honda NR500 ที่มาพร้อมเครื่องยนต์แบบ 4 จังหวะ 4 สูบวี พร้อมลูกสูบแบบวงรี นั้นไม่สามารถสู้กับคู่แข่งที่ใช้เครื่องยนต์ 2 จังหวะ ได้เลย นั่นทำให้ในปี 1982 ค่ายปีกนกได้ทำการเปิดตัวรถมอเตอร์ไซค์ตัวแข่งรุ่นใหม่อย่าง Honda NS500 ที่ยอมเปลี่ยนไปใช้เครื่องยนต์แบบ 2 จังหวะ ซึ่งเป็นรูปแบบเครื่องยนต์ที่ได้เปรียบมากกว่าในกติกาของยุคนั้น แต่ถึงอย่างนั้นมันกลับมาพร้อมกับเครื่องยนต์แบบ 3 สูบวี…
หลังจากที่ Honda ที่ได้การสร้างกระแสบิ๊กไบค์ไร้คลัทช์ ด้วยเทคโนโลยีอย่าง DCT หรือ E-Clutch ในเวลาต่อมาไม่นาน ค่ายคู่แข่งไม่ว่าจะเป็น Yamaha, BMW, KTM ต่างก็ทำของที่คล้ายกันออกมาบ้าง พูดได้เต็มปากว่ากระแสนี้กำลังมา ถึงอย่างนั้นเทคโนโลยีดังกล่าวก็จะวนอยู่กับรถแนวทัวริ่ง หรือรถใช้งานในเมืองเป็นหลัก แต่ล่าสุดค่ายรถสายสปอร์ตอย่าง Ducati ก็สนใจร่วมตลาดนี้กับเขาบ้าง โดยทำการจดสิทธิบัตรระบบคลัทช์ออโต้แบบใหม่ ที่ดูแล้วการทำงานแทบจะเรียกได้ว่ารับแรงบันดาลใจมาจาก E-Clutch ของ Honda เต็ม ๆ โดยระบบคลัทช์ออโต้ของทางค่ายแดง จะมีรูปแบบและวิธีการใช้งานจากมุมมองของผู้ขับขี่ ที่เหมือนกับระบบของค่ายปีกนกทุกอย่าง คือเราสามารถใช้เท้าตบคันเกียร์ขึ้นหรือลงได้ทันที โดยที่ไม่จำเป็นต้องกำก้านคลัทช์ที่มือซ้ายเลยตลอดการใช้งาน แต่ถ้าเกิดว่าเราอยากเล่นสนุกกับการควบคุมคลัทช์ขึ้นมา เช่นการเบิ้ลเครื่องเพื่อฟังเสียงเล่น เราก็สามารถกำคลัทช์ได้ตามปกติ แต่สิ่งที่ต่างออกไปคือเรื่องระบบการทำงานภายใน Honda E-Clutch นั้นจะใช้ระบบคลัทช์แบบสาย ซึ่งสายที่ก้านคลัทช์จะถูกต่อเข้าไปที่โมดุล E-Clutch ที่ติดตั้งอยู่ด้านข้างเครื่องยนต์ ถ้าเราตบเกียร์ที่เท้าซ้าย โมดุลที่ว่านี้จะทำหน้าที่ควบคุมชุดคลัทช์ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าแทนเรา ทางด้านระบบของ Ducati นั้นจะใช้ระบบคลัทช์น้ำมันในการควบคุมแทน (เป็นอิตาเลี่ยนจ็อบ ไม่ได้เป็นอิตาเลี่ยนก็อป) โดยในส่วนของก้านคลัทช์ที่มือซ้ายนั้นจะต่อเข้ากับปั้มน้ำมัน ซึ่งต่อไปที่ชุดคลัทช์ตามปกติเหมือนระบบคลัทช์น้ำมันทั่วไป…
Honda CBR500R FOUR รถมอเตอร์ไซค์สปอร์ตคลาสเริ่มต้นคันใหม่ ที่จะมาพร้อมเครื่องยนต์แบบ 4 สูบเรียง สานต่อตำนาน Super Four จากค่ายปีกนก Honda เตรียมเปิดตัวภายในปลายปีนี้ ลุ้นมาไทย มีโอกาสไหมที่จะติดตั้งระบบคลัทช์ไฟฟ้า E-Clutch? ก่อนอื่นเราก็ต้องขออธิบายก่อนว่า ข่าวของรถมอเตอร์ไซค์คลาสเริ่มแบบ 4 สูบเรียง จากค่ายปีกนกนั้นไม่ได้เป็นเพียงแค่ข่าวลือ เพราะเมื่อปีที่แล้ว Honda ได้ทำการประกาศอย่างเป็นทางการในประเทศจีน ว่าจะจำหน่ายรถกลุ่มนี้ในอนาคตอันใกล้ เนื่องจากรถสปอร์ตคลาสเล็กแบบ 4 สูบเรียง กำลังได้รับความสนใจเพิ่มขึ้นในประเทศจีน นอกจากนี้ก็มีคนค้นพบเครื่องหมายการค้าใหม่อย่าง CBR400R FOUR และ CBR500R FOUR จากชื่อก็แสดงให้เห็นว่ารถรุ่นใหม่จะมาในรูปโฉมสปอร์ตฟูลแฟริ่ง ที่มีท่านั่งแบบเป็นมิตรกับผู้ขับขี่ ไม่ได้ก้มหมอบแบบดุดันเหมือนรถสนาม และแน่นอนว่ามันจะมาพร้อมเครื่องยนต์แบบ 4 สูบเรียง ไม่ใช่ 2 สูบเรียงแบบ CBR500R ที่มีจำหน่ายอยู่แล้ว โดยตัวรถจะถูกแบ่งออกเป็น 2 รุ่น ตามปริมาตรกระบอกสูบ…
สำหรับผู้ที่ใช้รถจักรยานยนต์ในประเทศไทย นอกจากจะต้องห่วงเรื่องอุบัติเหตุบนท้องถนน ซึ่งถือเป็นของขึ้นชื่อของประเทศไทยในเวทีระดับโลกแล้ว รถหาย ก็เป็นอีกปัญหาหนึ่งที่เราได้ยินอยู่ตลอด โดยส่วนใหญ่แล้วจะเป็นรถมอเตอร์ไซค์ขนาดเล็กที่ได้รับความนิยมสูงในตลาด แต่รู้กันไหมว่ารถเหล่านั้นมีรุ่นอะไรบ้าง? โดยข้อมูลที่เรากำลังจะพูดถึงต่อไปนี้ เป็นข้อมูลจาก CIB หรือ ตำรวจสอบสวนกลาง ที่ได้ให้ข้อมูลว่ารายงานรถหายในไทย ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ หรือรถจักรยานยนต์ นั้นต่างก็มีที่มาจากผู้กระทำผิดกลุ่มเดียวกัน โดยจะมีแก๊งขโมยรถจากฝั่งไทย และกลุ่มทุนจากประเทศเพื่อนบ้าน ที่จะนำรถเหล่านั้นไปปล่อยต่อ ซึ่งรถยอดนิยมที่จะถูกขโมยกันก็คือ 1. Honda PCX พรีเมี่ยมสกู๊ตเตอร์สุดฮิต ที่คนไทยก็รู้กันดีว่ารุ่นนี้ได้รับความนิยมมากขนาดไหน เปิดตัวรุ่นใหม่ทีไรก็เป็นกระแสตลอด เพราะเป็นรถบ้านที่ใช้งานได้จริง แต่ก็มีภาพลักษณ์ดูพรีเมี่ยม ขี่แล้วขิงเรื่องฐานะได้พอประมาณ 2. Honda Click รถสกู๊ตเตอร์ประจำบ้านอีกรุ่นที่แชร์พื้นฐานร่วมกับรุ่นก่อนหน้า PCX มีอะไรดี รถรุ่นนี้ก็มีเหมือนกัน แต่มาพร้อมขนาดตัวที่เล็กกว่า และน่าจะเหมาะกับผู้ใช้ที่มีขนาดตัวไม่ใหญ่มาก 3. Honda Wave กับรถแม่บ้านเกียร์วนรุ่นนี้ พวกเราคงไม่ต้องอธิบายให้มาก เพราะทั้งทน ประหยัด ซ่อมบำรุงก็ง่าย อะไหล่หาไม่ยาก แม้แต่ช่างซ่อมในดินแดนที่ห่างไกลที่สุด ทุรกันดารที่สุดก็สามารถซ่อมได้ ถือเป็นรถที่ฮิตมาตั้งแต่ก่อนการมาถึงของรถออโตเมติกด้วยซ้ำ…
ใครที่ติดตามข่าววงการมอเตอร์ไซค์มานาน น่าจะคุ้นเคยกันดีกับการแข่งขันด้านแรงม้า ที่เราจะได้เห็นรถมอเตอร์ไซค์รุ่นใหม่ถูกเปิดตัวมาด้วยแรงม้าที่มากกว่ารุ่นเดิม เกทับค่ายรถคู่แข่งกันไปมาจนดูเหมือนจะไม่มีที่สิ้นสุด จากรถซุปเปอร์ไบค์ยุคต้น 2000 ที่แรงถึง 120 Hp แต่ในตอนนี้รถกลุ่มเดียวกันกลับแรงทะลุฟ้ากว่า 220 Hp รู้ตัวอีกที ค่ายรถหลายรายก็เริ่มเปิดตัวรถใหม่ที่ไม่ได้ให้แรงม้ามาเพิ่ม และหลายครั้งกลับมีม้าน้อยลงเมื่อเทียบกับรุ่นเก่าด้วยซ้ำ และขณะเดียวกัน เราก็มักได้ยินคำพูดประมาณว่า “แรงม้าน้อยลง แต่แรงบิดในรอบต่ำและกลางเพิ่มขึ้น” แล้วอะไรคือสิ่งที่ทำให้ตลาดเปลี่ยนไป? เป็นที่พฤติกรรมของผู้ใช้? ข้อแรงกดดันทางกฎหมายกันแน่? ซึ่งคำตอบของคำถามแบบนี้อาจเกิดได้จากเหตุผลหลายอย่าง แน่นอนว่าเรื่องมาตรฐานไอเสียที่เข้มงวดขึ้นทั่วโลก น่าจะเป็นตัวแปรสำคัญ เพราะการสร้างแรงม้าที่มาก ย่อมต้องใช้เชื้อเพลิงที่มาก และส่งผลตามมาด้วยค่าไอเสียที่มากเป็นเงาตามตัว การลดแรงม้าลงตรง ๆ คงจะเป็นวิธีการที่ง่ายที่สุด แต่การจะลดแรงม้าในรถรุ่นใหม่ลงดื้อ ๆ คงทำให้ผู้ใช้ส่วนใหญ่ผิดหวังไม่น้อย ผู้ผลิตจึงต้องหาวิธีเอาใจลูกค้าแบบใหม่ และลดแรงกดดันทางสังคม โดยการยื่น “แรงบิด” มาให้เป็นสิ่งตอบแทน พร้อมกับบอกด้วยว่าแรงบิดนั้นจะมาเร็วขึ้นในรอบต่ำและกลาง ซึ่งเป็นช่วงที่ถูกใช้งานมากกว่าในชีวิตจริง โดยเราต้องขออธิบายให้ทุกคนเข้าใจก่อนว่า “แรงม้า” และ “แรงบิด” ไม่ใช่ค่าตัวเลข 2 อย่างที่แยกจากกันอย่างชัดเจน เพราะอย่างที่เรารู้กันว่าแรงบิด คือกำลังที่เครื่องยนต์สามารถบิดให้ล้อหมุนได้…
หลังจากที่รถบิ๊กสกู๊ตเตอร์สายลุยอย่าง Zontes 368G ได้ทำการเปิดตัวในไทยไปเมื่อปลายปีที่แล้ว พร้อมยอดจองสูงลิ่ว ในเวลาต่อมาก็มีคนถ่ายภาพของรถแอดเวนเจอร์อย่าง 703F ที่ได้ทำการวิ่งทดสอบในประเทศไทย ตามมาด้วยข่าวลือว่ารถรุ่นดังกล่าวกำลังจะถูกเปิดตัวในช่วงกลางปีนี้ แต่พวกเราทีมงาน MotoRival ก็ได้ทำการวิเคราะห์เอาไว้ว่าทำไมรถในตระกูล 703 จะไม่ทำการเปิดตัวในไทยในอนาคตอันใกล้ นั่นทำให้รถความเป็นไปได้ของรถมอเตอร์ไซค์รุ่นใหม่จาก Zontes ที่จ่อเปิดตัวในในไทยอยู่ในตอนนี้ จะยังคงเป็นรถในกลุ่มบิ๊กสกู๊ตเตอร์ที่ได้รับความนิยมในตลาดที่สูงกว่า ซึ่งรถที่ว่านั้นก็คาดว่าจะมาพร้อมรหัส 368 ซึ่งเป็นรหัสของเครื่องยนต์ที่ใหม่กว่า แทนที่จะเป็นรถในรหัส 350 แต่ว่าด้วยความที่ 368G ก็ได้ทำการเปิดตัวในบ้านเราไปแล้ว 368E และ 368D ก็ดันคล้ายกับ 350E และ 350D ที่เป็นตัวนำร่องตลาดของไทยมากเกินไป ความเป็นไปได้จึงไปตกอยู่ที่ 368M หรือไม่ก็ 368K ที่มีหน้าตาแตกต่างจากรุ่นอื่นชัดเจน ซึ่งพวกเราอยากให้น้ำหนักไปที่คันหลังมากกว่า เนื่องจากในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ตัวแทนจำหน่ายของ Zontes หลายเจ้า ต่างก็พร้อมใจโพสเนื้อหาและข้อมูลของ 368K อย่างพร้อมเพรียงกัน เหมือนกับว่ารถรุ่นนี้กำลังเตรียมเปิดตัวอยู่หลังม่าน Zontes 368K…
Kawasaki Z1100 มอเตอร์ไซค์สปอร์ตเปลือยรุ่นใหญ่ เจ้าของฉายาแรดพันจาก Kawasaki ที่ห่างหายจากตลาดกันไปนานหลายปี ล่าสุดก็มีข้อมูลของรถรุ่นใหม่ ร่างอัพเกรด ขยายความจุเครื่องยนต์ โผล่ออกมาในเอกสารเกี่ยวกับการจดทะเบียนค่าไอเสียในรัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา วันนี้เราเลยจะชวนทุกคนมาวิเคราะห์กัน ว่ารถใหม่จะมีสเปคเป็นแบบไหน? ก่อนอื่นเราต้องขอบอกทุกคนก่อนว่า Kawasaki Z1100 ที่เรากำลังพูดถึงอยู่นี้ ยังไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับสเปคของตัวรถอย่างเป็นทางการโผล่ออกมา ภาพปกที่เห็นอยู่ก็เป็นเพียงแค่ภาพเรนเดอร์ประกอบเนื้อหาเท่านั้น ข้อมูลอย่างเป็นทางการเพียงอย่างเดียวที่เรามีคือชื่อรหัส ZR1100HT ซึ่งถูกใช้จดทะเบียนค่ามลพิษ ควบคู่ไปกับพี่น้องของมันอย่าง Ninja 1100SX และ Versys 1100 แต่นี่ก็ทำให้เราแทบจะสรุปได้ว่ารถปริศนา จะต้องเป็นแรดคันใหม่อย่างแน่นอน ในส่วนของสเปครอบคัน เราก็คาดว่าคงจะไม่หนีไปจากสเปคของ Ninja 1100SX ที่เป็นฝาแฝดสายสปอร์ตทัวริ่งมากนัก เครื่องยนต์พื้นฐานเดิมแบบระบายความร้อนด้วยน้ำ 4 สูบเรียง ถูกเพิ่มปริมาตรกระบอกสูบจากเดิม 1,043 ซีซี ให้ใหญ่ขึ้นเป็น 1,099 ซีซี รวมถึงมีการเปลี่ยนแปลงชิ้นส่วนรอบเครื่องยนต์ใหม่ชุดใหญ่ ไม่ว่าจะเป็น เพลาบาลานซ์, แคมชาร์ฟ, พอร์ตไอดี, หม้อกรองอากาศ,…
Triumph Scrambler 400 XC รถมอเตอร์ไซค์โมเดิร์นเรโทร สายลุยตัวเริ่มร่างอัพเกรดของ Scrambler 400 X ได้ทำการเปิดตัวออกมาในประเทศอินเดีย หลังจากที่ไม่กี่ปีก่อน Triumph ได้ทำการเปิดตัวรถน้องเล็กสุดฮิตในคลาส 400 ออกมา พร้อมผลตอบรับสุดปังในตลาดโลก คราวนี้ก็ถึงเวลาแตกรุ่นย่อยเพิ่มอีกครั้ง Triumph Scrambler 400 XC นั้นจะยังคงถูกสร้างขึ้นบนพื้นฐานเดียวกับพี่น้องรุ่นอื่นในคลาสเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็น Speed 400 หรือ Scrambler 400 X ที่จะมาพร้อมกับเครื่องยนต์ตระกูล TR แบบระบายความร้อนด้วยน้ำ 1 สูบ 4 วาล์ว ปริมาตรกระบอกสูบ 398 ซีซี ให้พละกำลังสูงสุด 40 PS ที่ 8,000 รอบต่อนาที และแรงบิดสูงสุด 37.5 Nm ที่ 6,500…