ถึงตอนนี้ ทุกคนที่ติดตามการแข่งขัน MotoGP รวมถึงรายการรุ่นน้องอย่าง Moto2 น่าจะทราบกันมาบ้างแล้ว ว่ารถแข่งในคลาสกลางนั้นจะมาพร้อมเครื่องยนต์แบบ 3 สูบเรียง ปริมาตรกระบอกสูบ 765 ซีซี ที่ยกมาจากรถชีเปลือยสไตล์สปอร์ตอย่าง Triumph Street Triple 765 แต่รู้หรือไม่ว่าสุดยอดตัวแข่งสายสนามเหล่านั้น ใช้เกียร์ของรถถนนมาโดยตลอด? อันที่จริงถ้าจะบอกว่ารถแข่งเหล่านั้นใช้เกียร์ถนนสำหรับทั้งหมดก็คงไม่ถูก เพราะรถแข่ง Moto2 นั้นได้ทำการปรับใช้เกียร์โยงแบบกลับทิศทางการตบเกียร์ ตามสูตรรถสำหรับใช้งานในสนามตามปกติมานานแล้ว ถ้ารถถนนทั่วไปนั้นมีลำดับการตบเกียร์เป็น 1 N 2 3 4 5 6 โดยต้องตบลงหนึ่งทีเพื่อเข้าเกียร์ 1 แล้วค่อยงัดคันเกียร์ขึ้นเพื่อเข้าเกียร์ที่สูงขึ้น ตัวแข่ง Moto2 ก็จะมาพร้อมลำดับเกียร์แบบ 6 5 4 3 2 N 1 โดยผู้ขี่จะต้องงัดคันเกียร์ขึ้นหนึ่งครั้งเพื่อเข้าเกียร์ 1 แล้วหลังจากนั้นจึงตบเกียร์ลงเพื่อเข้าเกียร์ถัดไป ซึ่งนี่ก็เป็นรูปแบบการเข้าเกียร์ที่นักขี่สายสนามคุ้นเคยกันดี เพราะการเพิ่มเกียร์โดยการตบเท้าลงไป…
Author: Kristha
ผลการวิ่งจับเวลาในวันศุกร์ช่วง Practice จบวันแรกไปด้วยผลงานของสองพี่น้อง Alex Marquez และ Marc Marquez ทางด้านของ ก้อง สมเกียรติ จันทรา ตามหลังผู้นำอยู่ 1.266 วินาที อยู่ในอันดับที่ 21 อ่านข่าวสาร MotoGP เพิ่มเติมได้ที่นี่
ภายในปี 2027 นอกจากการแข่งขันในรุ่นใหญ่อย่าง MotoGP จะทำการเปลี่ยนกติกาครั้งใหญ่เกี่ยวกับตัวแข่ง โดยเฉพาะในส่วนของเครื่องยนต์ ที่จะมีการลดปริมาตรกระบอกสูบลงมาเหลือแค่ 850 ซีซี ขณะเดียวกันในรุ่นเล็กอย่าง Moto3 พวกเขากลับมีแผนขยายความจุเครื่องยนต์แทน กติกาของการแข่งรุ่น Moto3 ในปัจจุบันนั้นจะใช้เครื่องยนต์แบบ 1 สูบ ปริมาตรกระบอกสูบ 250 ซีซี ที่สามารถรีดพละกำลังได้ประมาณ 60 Hp โดยรถแต่ละคันจะมีค่าตัวอยู่ที่ประมาณ 175,000 EURO หรือถ้าจะให้พูดคือรถที่เหล่าวัยรุ่นตัวตึงเอาไปวิ่งและล้มกัน มีค่าตัวใกล้เคียงกับ Porsche 911 GTS แต่ในกติกาใหม่ที่กำลังอยู่ระหว่างการวางแผน จะทำการเปลี่ยนไปใช้เครื่องยนต์ 2 สูบเรียง ปริมาตรกระบอกสูบ 500 ซีซี หรือเทียบได้กับการใช้เครื่องยนต์เดิม 2 เครื่อง มามัดติดกัน แต่กลับสร้างพละกำลังได้ที่ 80 Hp ซึ่งถือว่าเพิ่มมาไม่เยอะเท่าไรเมื่อเทียบกับปริมาตรที่ใหญ่ขึ้นเท่าตัว เนื่องจากจะมีการใช้วัสดุหรือชิ้นส่วนที่มีต้นทุนต่ำลง ทางผู้จัดตั้งเป้าให้ค่าตัวต่อคัน ต่ำลงมาอยู่ที่ประมาณคันละ 75,000…
Kawasaki ค่ายรถยักษ์เขียวจากประเทศญี่ปุ่น ที่ถือเป็นอีกหนึ่งผู้นำทางเทคโนโลยี ซึ่งชอบขนของแปลออกมาให้เราได้เห็นประจำ ไม่ว่าจะเป็นมอเตอร์ไซค์สปอร์ตพลังงานไฮบริด หรือแม้แต่ Hyperbike ที่พ่วงระบบอัดอากาศ Supercharge อย่างรถในตระกูล H2 แต่จะน่าสนใจไหมพ่วงเขาเอาเครื่องยนต์ลูกดังกล่าว ไปใส่ในรถ 4 ล้อ? ซึ่งเรื่องที่เรากำลังพูดถึงอยู่นี้ไม่ใช่ข่าวลือ หรือการคาดเดา เพราะทางค่ายเขียวได้ปล่อยคลิปสั้นทางช่องทางออนไลน์ของตัวเอง ที่สื่อให้เห็นว่าเครื่องยนต์ของรถในตระกูล H2 แบบระบายความร้อนด้วยน้ำ 4 สูบเรียง ปริมาตรกระบอกสูบ 998 ซีซี ที่พ่วงระบบอัดอากาศ Supercharge ซึ่งสามารถรีดพละกำลังได้สูงถึง 228 Hp ในร่างถนน และมากถึง 326 Hp ในร่างปลดปล่อยพลัง H2R นั้นจะถูกนำไปใส่ในรถ UTV 4 ล้อ UTV หรือ Utility Terrain Vehicle หรือ Utility Task Vehicle…
Aveta NOVA 160 รถมอเตอร์ไซค์สกู๊ตเตอร์สายสปอร์ต จากค่ายรถมาเลเซียที่คนไทยอาจจะไม่คุ้นชื่อ ที่ดูยังไงก็มองเห็นว่าเป็นรถที่เราคุ้นเคยอย่าง Yamaha Aerox ที่แปลงหน้าใหม่เป็น XMAX แถมดันทำออกมาสวยมากจนอยากให้ค่ายส้อมเสียงทำตาม โดยรถรุ่นนี้ถูกเปิดตัวในประเทศมาเลเซียไปเมื่อไม่กี่วันก่อน พร้อมกับรถสกู๊ตเตอร์สายสปอร์ตรุ่นน้องอย่าง Aveta NOVA 125 ซึ่งเราก็สามารถเห็นได้อย่างชัดเจน ว่ารถทั้งสองรุ่นนั้นต่างก็ได้รับแรงบันดาลใจมาจากรถของค่ายส้อมเสียงอย่าง Yamaha Aerox แต่ว่าเดิมทีแล้วรถมอเตอร์ไซค์ของ Aveta นั้นไม่ใช่รถที่พวกเขาเป็นคนพัฒนาขึ้นมาเองตั้งแต่แรก แต่เป็นการเอารถแบรนด์จีนบางรุ่นจากต่างผู้ผลิต มาตีตราใหม่ด้วยชื่อของตัวเอง ซึ่งในกรณีนี้คือการเอา Haojin SE05 ที่มีในจีนอยู่แล้วมาทำตลาดใหม่ในมาเลเซีย Aveta NOVA 160 นั้นเป็นเหมือนการเอารถที่เราคุ้นเคย มาแปลงหน้าใหม่ให้เป็น XMAX (ซึ่งเรามองว่าแจ่มใช้ได้) มาพร้อมเครื่องยนต์แบบระบายความร้อนด้วยน้ำ 1 สูบ ปริมาตรกระบอกสูบ 154 ซีซี ให้พละกำลังสูงสุด 16 Hp 8,500 รอบต่อนาที และแรงบิดสูงสุด 14.7 Nm…
2025 Ducati Panigale V2 รถมอเตอร์ไซค์สปอร์ตสายสนาม คลาสกลางคันใหม่จากค่ายแดง Ducati ที่ได้ทำการเปิดตัวครั้งแรกไปในงาน EICMA 2024 กำลังจะถูกนำมาเปิดตัวในประเทศไทยที่งาน ThaiGP 2025 ที่กำลังจะมีขึ้นในบุรีรัมย์ แต่รถน้องเล็กคันใหม่นี้จะมีค่าตัวอยู่ที่เท่าไร? เราจะมาไปวิเคราะห์ไปด้วยกัน! ตัวรถสปอร์ตคลาสกลางโฉมใหม่นั้นถือเป็นรถ All New ทั้งคัน มาพร้อมเครื่องยนต์ลูกใหม่หมดจดแบบ 2 สูบวี 4 วาล์วต่อสูบ ปริมาตรกระบอกสูบ 890 ซีซี ที่ในครั้งนี้มันจะเปลี่ยนจากวาล์ว Desmodromic ที่เป็นเอกลักษณ์ของค่าย มาใช้วาล์วสปริงแบบรถทั่วไป ซึ่งมีจุดขายคือน้ำหนักที่เบา ถือเป็นเครื่องยนต์ V2 ที่เบาที่สุดของค่าย และการเซอร์วิสที่มีค่าใช้จ่ายต่ำกว่าของเดิม ในส่วนของพละกำลังสูงสุดนั้นทำได้อยู่ที่ 120 Hp ที่ 10,750 รอบต่อนาที และแรงบิดสูงสุด 93.3 Nm ที่ 8,250 รอบต่อนาที ตรงนี้จะเห็นได้ว่ามันมีพละกำลังที่ต่ำกว่า…
ในซีรีส์ดราม่าสืบสวนเรื่องใหม่ล่าสุดอย่าง White Lotus ซีซั่น 3 ซึ่งมีฉากหลังของเรื่องราวอยู่ในประเทศไทย เราได้เห็นนักร้องชื่อดัง “ลิซ่า ลลิษา มโนบาล” ได้ร่วมแสดงในบท “มุก” และหนึ่งในซีนเปิดตัวของตัวละครดังกล่าว ลิซ่าก็ได้ยืนอยู่คู่กับรถมอเตอร์ไซค์คันหนึ่งนั่นก็คือ Honda Icon และนี่ก็เป็นอีกครั้งที่ชาวเน็ตอย่างเราจะให้ความสนใจกับอะไรก็ตามปรากฏตัวคู่กับลิซ่า ซึ่งวันนี้ด้วยความที่เราก็เป็นชาวเน็ตคนหนึ่ง เราจึงถือโอกาสขอมาเล่าความเป็นมาของ Honda Icon รถมอเตอร์ไซค์ออโตเมติกอีกรุ่นที่เคยเข้ามาจำหน่ายในประเทศไทย และน่าจะอยู่ในความทรงจำของใครหลายคน แต่รู้หรือไม่ว่าแท้จริงแล้วรถรุ่นนี้ไม่ได้หายไปไหน? Honda Icon นั้นเป็นรถมอเตอร์ไซค์สกู๊ตเตอร์ขนาดเล็ก ที่มีจุดเด่นด้านน้ำหนักที่เบา ค่าตัวไม่แพง ทำหน้าที่เป็นเหมือนตัวเริ่มสายออโตของค่ายปีกนกในยุคนั้น ถูกเปิดตัวในประเทศไทยครั้งแรกในปี พ.ศ. 2550 หรือตรงกับ ค.ศ. 2007 หรือก็คือประมาณ 18 ปี ที่แล้ว ตัวรถมีรูปลักษณ์ไม่ต่างจากรถมอเตอร์ไซค์เกียร์ออโต้ทรงมาตรฐาน คล้ายกับญาติของมันอย่าง Click ที่มีพื้นที่วางทางแบบแบนราบ มาพร้อมเครื่องยนต์แบบระบายความร้อนด้วยน้ำ 1 สูบ 2 วาล์ว SOHC…
เมื่อยุคสมัยเปลี่ยนไป ความนิยมของรถมอเตอร์ไซค์พลังงานไฟฟ้าเริ่มมีสูงขึ้น ค่ายรถรายใหญ่หลายรายออกโมเดลพลังงานไฟฟ้าจากแบตเตอรี่ BEV มาเป็นของตัวเอง ขณะเดียวกันเราก็เริ่มเห็นค่ายรถบางราย เริ่มเปิดตัวรถลูกผสมพลังงานไฮบริด ที่เป็นกึ่งกลางของสองยุคสมัย คราวนี้ก็ถึงตาของรถต้นแบบ Yamaha XMAX HEV ที่ใช้ขุมพลัง Series Parallel Hybrid รถต้นแบบที่เรากำลังพูดถึงอยู่นี้ทาง Yamaha ได้นำบิ๊กสกู๊ตเตอร์ยอดนิยมของตัวเองอย่าง XMAX มาใช้เป็นพื้นฐานในการพัฒนา แต่นำมาแปลงโฉมชุดใหญ่ ไล่ตั้งแต่การติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว เข้าไปที่เครื่องยนต์สูบเดียว โดยมอเตอร์ตัวแรกนั้นจะเป็น Generator Motor ที่ติดอยู่กับเพลาข้อเหวี่ยง ทำหน้าที่ทั้งสตาร์ทเครื่องยนต์ และปั่นไฟกลับเข้าไปในแบตเตอรี่ลูกใหญ่ที่ติดตั้งอยู่ด้านหน้าเครื่องยนต์ ในตำแหน่งของถังน้ำมัน ส่วนมอเตอร์อีกตัวนั้นจะเป็น Drive Motor หรือมอเตอร์ที่ทำหน้าที่ขับเคลื่อนตัวรถเป็นหลัก ซึ่งจะติดตั้งอยู่ใกล้กับแกนล้อหลัง และนอกจากจะช่วยหมุนล้อหลังได้แล้ว มันยังสามารถปั่นไฟกลับเข้าสู่แบตเตอรี่ในช่วงที่ลดความเร็ว หรือทำหน้าที่เป็นเบรก Regen ได้อีกด้วย บอกเลยว่าระบบ Series Parallel Hybrid ของทาง Yamaha ถือว่ามีความซับซ้อนมากกว่าระบบไฮบริดของคู่แข่งพอสมควร…
Honda V3R อาจจเป็นรถรุ่นแรกที่จะได้ใช้ขุมกำลังใหม่ ในช่วงปลายปีที่ผ่านมา Honda ได้ทำการเปิดตัวรถต้นแบบที่ใช้เครื่องยนต์แบบ V3 พร้อมพ่วงระบบอัดอากาศ E-Compressor แถมยังย้ำชัดด้วยว่ารถรุ่นนี้จะผลิตเพื่อจำหน่ายจริงอย่างแน่นอน และล่าสุดเราก็เหมือนจะรู้ชื้ออย่างเป็นทางการของมันแล้ว นั่นคือ Honda V3R ซึ่งชื่อ Honda V3R นี้เป็นชื่อที่ถูกจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าในสหราชอาณาจักร ที่ดูแค่ชื่ออย่างเดียวก็เดาได้ไม่ยากว่ามันจะต้องถูกใช้กับรุ่นจำหน่ายจริงของรถต้นแบบคันนั้นแน่นอน และถึงแม้ว่าตอนนี้เราจะยังไม่ทราบปริมาตรของเครื่องยนต์ที่ใช้ แต่ก็พอจะสามารถคาดเดาสไตล์ของตัวรถนั้นคาดว่าจะมาในแนว สปอร์ตสายถนน หรือไม่ก็สปอร์ตเปลือย ที่เน้นใช้งานในเมืองเป็นหลัก เนื่องจากชื่อของมันถูกพ่วงด้วยตัวอักษร R แค่ตัวเดียว ไม่ใช่ RR หรือ RR-R แต่ตามปกติของเครื่องยนต์ที่มีระบบอัดอากาศ ทำให้ไม่สามารถใช้ลงแข่งขันรายการหลักได้อยู่แล้ว ถึงจุดนี้หลายคนก็น่าจะมีคำถาม ว่าถ้ารถรุ่นนี้ใช้ในสนามแข่งไม่ได้ แล้วทำไมเราถูกพูดว่ามันจะเข้ามาแทนที่ CBR600RR ที่เป็นสายสนามขนานแท้กันล่ะ? นั่นก็เป็นเพราะว่า Honda CBR600RR นั้นเป็นรถที่มีพื้นฐานเก่ามากแล้ว และเป็นเรื่องยากที่จะพัฒนารถรอบสูงสูบเยอะ กลุ่มนี้ให้ผ่านมาตรฐานไอเสียยุคใหม่ที่มีความเข้มงวด นั่นเป็นเหตุผลให้รถสปอร์ตสายถนนเครื่องใหญ่อย่าง Yamaha R9, Ducati Panigale V2,…
ในการแข่งขันรถสูตรอย่าง MotoGP สเปคของตัวรถที่ใช้ลงแข่งขันนั้นถูกกำหนดไว้อย่างเข้มงวด ตั้งแต่ประมาตรกระบอกสูบ ความกว้างของลูกสูบ หรือวัสดุที่สามารถใช้เป็นส่วนประกอบของเครื่องยนต์ได้ แม้แค่เรื่องของปริมาตรถังน้ำมันเชื้อเพลิงก็ถูกระบุไว้อย่างรัดกุม และกติกานั้นก็เข้มงวดถึงขนาดที่ต้องระบุอุณหภูมิเชื้อเพลิงเอาไว้เลย ก่อนจะไปกันต่อ เราก็ต้องย้อนไปดูเรื่องพื้นฐานเกี่ยวกับถังน้ำมันเชื้อเพลิงของ MotoGP กันก่อน โดยถังน้ำมันของรถแข่งเองนั้นไม่ได้กำหนดปริมาตรไว้แบบตายตัว แต่จะมีการกำหนดปริมาตรของเชื้อเพลิงที่สามารถเติมเข้าไปได้ในแต่ละการแข่งขัน โดยจะกำหนดไว้ที่ไม่เกิน 22 ลิตร ในการแข่งวันอาทิตย์ และไม่เกิน 12 ลิตร ในการแข่งวันเสาร์ โดยน้ำมันเชื้อเพลิงเหล่านั้นจะไม่ได้ถูกวัดปริมาตรกันตอนที่เราเติมมันลงไปในถัง แบบตอนที่เราเติมน้ำมันตามปั้ม แต่จะถูกวัดและเตรียมลงในอุปกรณ์เติมน้ำมันโดยเฉพาะที่ทำแยกไว้อีกที ก่อนที่จะถูกตรวจสอบโดยกรรมการว่าผ่านข้อกำหนด และสามารถใช้ได้ แล้วค่อยนำไปเติมใส่ตัวรถก่อนที่จะออกจากพิท แต่การวัดความจุของน้ำมันเชื้อเพลิงด้วย “ปริมาตร” เป็นหน่วยลิตรก็มีช่องโหว่อยู่ นั่นก็คือทีมแข่งสามารถ “แช่เย็นน้ำมัน” เพื่อให้น้ำมันที่มีอยู่หดตัว ทำให้สามารถใส่น้ำมันปริมาณมากขึ้นลงไปในถังได้ โดยที่ไม่เกินข้อกำหนดที่วัดกันด้วยปริมาตร ทางผู้จัดเลยออกข้อกำหนดเรื่องอุณหภูมิน้ำมันเชื้อเพลิงเข้ามา ว่าจะต้องไม่ต่ำกว่าอุณหภูมิของอากาศโดยรอบ 15 องศาเซลเซียส แปลว่าถ้าอุณหภูมิอากาศโดยรอบในตอนนั้นอยู่ที่ 25 องศา อุณหภูมิของน้ำมันก็ห้ามต่ำกว่า 10 องศา และถ้าแข่งกันในประเทศไทยที่มีอากาศร้อนระดับ 35 องศา อุณหภูมิของน้ำมันก็ห้ามต่ำกว่า…