Marc Márquez ยอมรับแบบตรงไปตรงมาหลังจบการแข่งขัน Sprint Race ในศึก British MotoGP ที่สนาม Silverstone ว่า ตัวเขาเองคือ “ปัญหา” หลังไม่สามารถรักษาฟอร์มแชมป์ Sprint ได้ และต้องพ่ายแพ้ให้กับน้องชายของเขาอย่าง Alex Márquez โดยมาร์คกล่าวว่า “วันนี้ผมเริ่มการแข่งขันโดยคิดเพียงว่าจะไม่เสียคะแนนมากนัก ไม่ได้หวังจะได้อะไร เพราะผมรู้ตัวว่ากำลังมีปัญหา”“เราปรับเซ็ตอัพหลายรอบแล้ว แต่ไม่ว่าจะทำยังไงก็กลับมาที่จุดเดิม”“เมื่อคุณลองเซ็ตอัพหลายแบบและยังรู้สึกไม่ดีอยู่แบบเดิม นั่นแปลว่าคุณคือปัญหา ไม่ใช่รถ” หนึ่งในประเด็นสำคัญคือการเลือกใช้ยางหลังแบบซอฟต์ ซึ่ง Marc ยอมรับว่าไม่สามารถดึงฟอร์มที่ดีที่สุดออกมาได้ในวันเสาร์ ต่างจากยางมีเดียมที่ใช้งานวันศุกร์ ซึ่งเขารู้สึกมั่นใจมากกว่า “เราจำเป็นต้องศึกษาว่าเราจะทำได้ดีแค่ไหนกับยางมีเดียม เพราะวันศุกร์ที่ใช้มีเดียมผมรู้สึกดีมาก ตั้งแต่เปลี่ยนมาใช้ซอฟต์ เราก็เจอปัญหา” แม้จะจบเพียงอันดับ 2 ใน Sprint แต่ Marc ยังไม่หมดหวังในการแข่งขันรอบ Main Race ซึ่งเขาจะออกสตาร์ทจากกริดที่ 4 ซึ่งถือเป็นตำแหน่งที่ต่ำที่สุดของเขาในฤดูกาลนี้ “เรายังต้องปรับวิธีการขี่ของผมให้เข้ากับรถ และยอมรับว่า…
Author: pon piantanongkit
Background EXP in Automotive journalists more than 10 Years Writer & Test Driver @Pantip Garage 2018-Present @9carthai 2015- 2017 @Torque & VIPStyle Magazine 2015 @Autospinn 2012-2015 @GTmania.tv 2009-2010
Alex Márquez นักบิดทีม Gresini Racing แสดงความมั่นใจเต็มเปี่ยม หลังคว้าชัยชนะในรอบ Sprint Race ของศึก British MotoGP ที่สนาม Silverstone ซึ่งถือเป็นชัยชนะครั้งแรกของเขาในฤดูกาลนี้ และเป็นการหยุดสถิติชนะรวดของพี่ชายอย่าง Marc Márquez ที่กวาดชัยชนะใน Sprint มาทั้งหมดก่อนหน้านี้ Alex เผยว่า “ปกติผมตั้งเป้าว่าจะจบอันดับ 2 เป็นอย่างน้อย แต่ครั้งนี้เป้าหมายคืออันดับ 1 เรามีโอกาสที่ดีมากจริง ๆ” แม้จะมีความมั่นใจสูง แต่เจ้าตัวก็ย้ำว่าเขาจะไม่ผลีผลามหรือขับขี่เกินลิมิต โดยเน้นการควบคุมจังหวะอย่างอดทน ซึ่งเป็นกุญแจสำคัญที่ทำให้คว้าชัย Sprint ได้สำเร็จ ฟอร์มที่ยอดเยี่ยมนี้ทำให้ Alex Márquez กลายเป็นอีกหนึ่งตัวเต็งที่มีลุ้นคว้าแชมป์สนาม Silverstone อย่างเต็มตัวในรอบ Main Race วันอาทิตย์นี้ ติดตามผลการแข่งขัน British GP ได้ที่ MotoRival…
รถจักรยานยนต์ฮอนด้า บันทึกสถิติใหม่ เผยยอดการผลิตรถจักรยานยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์และเครื่องยนต์อเนกประสงค์ที่ทะยานสู่ 500 ล้านคันทั่วโลก โดยนับว่าเป็นครั้งแรกของโลก* ที่บริษัทผู้ผลิตรถจักรยานยนต์สามารถทำยอดการผลิตได้ถึงระดับดังกล่าว หลังจากที่ฮอนด้าเริ่มต้นการผลิตรถจักรยานยนต์รุ่นแรก “Dream D-Type” เมื่อปี ค.ศ. 1949 หรือกว่า 76 ปีก่อน *ข้อมูลจากการวิจัยของฮอนด้า นับตั้งแต่ก่อตั้งขึ้นในปี 1948 ฮอนด้า ได้พัฒนาและส่งมอบผลิตภัณฑ์รวมถึงบริการที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้าในหลายประเทศและภูมิภาค ภายใต้ความเชื่อ “จุดประสงค์ของเทคโนโลยี คือการทำให้ชีวิตของผู้คนง่ายขึ้น” ฮอนด้า เริ่มต้นการผลิตรถจักรยานยนต์ในต่างประเทศเป็นครั้งแรกที่ประเทศเบลเยียมในปี 1963 หลังจากนั้นได้สานต่อและขยายการผลิตไปทั่วโลก โดยยึดหลักการสำคัญของบริษัทคือ “ผลิตในพื้นที่ที่มีความต้องการ” นับแต่นั้นเป็นต้นมา ฮอนด้าได้บรรลุยอดการผลิตสะสมครบ 100 ล้านคันในปี 1997 ก่อนจะเพิ่มขึ้นเป็น 200 ล้านคันในปี 2008 และ 300 ล้านคันในปี 2014 ซึ่งในปี 2018 ฮอนด้าได้สร้างสถิติใหม่ด้วยการผลิตรถจักรยานยนต์กว่า 20 ล้านคันภายในปีเดียว จนมียอดการผลิตสะสมทั่วโลกถึง 400 ล้านคันในปี 2019…
BMW Motorrad ยกระดับความเร้าใจอีกขั้นด้วยการเปิดตัว BMW Motorrad Concept RR รถจักรยานยนต์ต้นแบบสายพันธุ์แรง ที่เผยโฉมครั้งแรกในงาน Concorso d’Eleganza Villa d’Este ณ ทะเลสาบโคโม ประเทศอิตาลี งานโชว์ยานยนต์สุดหรูระดับโลก ดีไซน์สปอร์ตเหนือระดับ แรงบันดาลใจจาก M 1000 RR BMW Motorrad Concept RR ได้รับแรงบันดาลใจโดยตรงจากรถแข่งโรงงานระดับแชมป์โลก BMW M 1000 RR ที่ขับโดย Toprak Razgatlıoğlu แชมป์ FIM World Superbike 2024 โดยยังคงเอกลักษณ์ของ DNA Motorsport อย่างเต็มเปี่ยม แต่เสริมความล้ำในเชิงการออกแบบและเทคโนโลยี เครื่องยนต์แรงจัดกว่า 230 แรงม้า แม้จะยังเป็นรถต้นแบบ แต่ BMW…
สำหรับปีงบประมาณล่าสุด ซึ่งสิ้นสุดลงเมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2025 ที่ผ่านมา ฮอนด้า มียอดจำหน่ายรถจักรยานยนต์รวมทั้งสิ้น 20.57 ล้านคัน คิดเป็นสัดส่วนกว่า 40% ของยอดขายรวมในตลาดรถจักรยานยนต์ทั่วโลก โดยความสำเร็จครั้งนี้ยังสร้างสถิติยอดขายสูงสุดเป็นประวัติการณ์ใน 37 ประเทศและภูมิภาคอีกด้วย ทั้งนี้ คาดว่าความต้องการในตลาดรถจักรยานยนต์จะยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในกลุ่มประเทศกำลังพัฒนา รวมถึงประเทศอินเดีย ซึ่งเป็นตลาดรถจักรยานยนต์ใหญ่ที่สุดในโลก อันเนื่องมาจากการขยายตัวของประชากรและระดับรายได้ที่เพิ่มสูงขึ้น โดยคาดการณ์ว่า ยอดขายรวมของอุตสาหกรรมจะเพิ่มขึ้นจากระดับปัจจุบันประมาณ 50 ล้านคัน เป็น 60 ล้านคันภายในปี 2030 เพื่อรองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ฮอนด้า ยังคงมุ่งมั่นนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่มีความน่าสนใจ ผ่านการออกแบบที่สอดคล้องกับความต้องการที่แตกต่างกันของผู้บริโภคทั่วโลก พร้อมทั้งเพิ่มประสิทธิภาพสูงสุดในการจัดหาวัตถุดิบและระบบการกระจายสินค้าที่ดีอีกด้วย นอกจากนี้ เพื่อรักษาความเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมที่มีวิสัยทัศน์ด้านสิ่งแวดล้อม ฮอนด้า ได้เร่งการใช้ระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าในผลิตภัณฑ์รถจักรยานยนต์ ควบคู่ไปกับการพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้น้ำมันในรุ่นเครื่องยนต์สันดาป (ICE) และการขยายไลน์ผลิตภัณฑ์ที่รองรับเชื้อเพลิงทางเลือก สำหรับรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า ฮอนด้า ได้เริ่มวางจำหน่ายรุ่น Active e: และ QC1 ในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา…
Mercedes AMG GT รถซุปเปอร์คาร์จาก ค่ายตราดาว ถือเป็นรถในฝันสำหรับ คอแบรนด์รถเมืองเบียร์ แต่ถือเป็นเรื่องน่าเสียดายเมื่อ มันชนอย่างรุนแรงในสนามเซปังฯ ในกิจกรรม Track Day เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา โดย มีผู้ใช้ FB ได้โพสต์ ภาพ และ คลิป ซึ่งแสดงให้เห็น ว่า ทางตรงผ่านแกรนด์สแตนด์ก่อนถึงโค้งสุดท้าย T15 สนามเซปังฯ ซึ่งเป็นโค้ง แบบ Hairpin นั้น ผู้ขับ ได้กดมาที่ความเร็ว 229kmph ตบไฟสูง ใส่รถที่ชิดอยู่ทางขวา และพยายามเบรกหลังแซงรถคันดังกล่าวไปแล้ว แต่เกิดปัญหา คือ เบรกเฟด ทำให้ความเร็วไม่ลดลง แหกโค้งเข้า Barrier ชนอย่างรุนแรง จากข้อมูลระบุว่าคนขับ เข้ารพ. และบาดเจ็บกระดูกสันหลัง อย่างไรก็ดี ยังเป็นประเด็นที่น่าสงสัยว่า รถมีปัญหา จากระบบเบรก เกิดข้อผิดพลาด…
2025 BMW S1000RR ราคา เริ่ม 1.029 ล้านบาท รถมอเตอร์ไซค์สปอร์ตสายสนาม เจ้าของแชมป์โลกรายการ WSBK จาก BMW เปิดตัวรุ่นปรับโฉมเพิ่มความสดใหม่ ปรับสเปค เปลือกใหม่ ปีกใหม่ ที่งาน Bangkok International Motor Show 2025 หลังจากเผยโฉมครั้งแรกในไทยไปก่อนหน้านี้ 2025 BMW S1000RR นั้นยังคงถูกสร้างขึ้นบนพื้นฐานเดียวกับรถรุ่นเดิม เพราะไม่ว่าจะเป็นชุดเฟรมแบบอลูมีเนียม ซัพเฟรมแบบเหล็กถักได้รับการปรับแต่งใหม่หลายจุด ทางด้านเครื่องยนต์ก็ยังเป็นลูกเดิมแบบระบายความร้อนด้วยน้ำและน้ำมัน 4 สูบเรียง 4 วาล์วต่อสูบ พร้อมระบบวาล์วแปรผัน Shiftcam ปริมาตรกระบอกสูบ 999 ซีซี ทำการปรับชิ้นส่วนภายในขนานใหญ่ จนสามารถให้พละกำลังสูงสุด 210 Hp ที่ 13,750 รอบ/นาที และแรงบิดสูงสุด 113 Nm ที่…
พลิกโฉมอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า ด้วยพันธมิตรระดับชาติ เดินหน้าบุกตลาดโลก “เราไม่ได้แค่ทำรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า แต่เรากำลังสร้างอนาคตของการเดินทางที่ยั่งยืนและเข้าถึงได้” นี่คือคำประกาศจาก คุณกันตินันท์ ตันวีนุกูล กรรมการผู้จัดการบริหาร บริษัท สลีค อีวี จำกัด (SLEEK EV) ที่พร้อมผลักดันแบรนด์ EV ไทยไปสู่ระดับสากล SLEEK EV คือแบรนด์มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าที่เติบโตเร็วที่สุดในประเทศไทยด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัยที่พัฒนาภายในองค์กร และระบบนิเวศ (Ecosystem) ที่ครบวงจร พร้อมการสนับสนุนจากพันธมิตรชั้นนำในแวดวงพลังงาน การเงิน และอุตสาหกรรมยานยนต์ ได้รับการสนับสนุนจากผู้นำระดับประเทศ เบื้องหลังความกล้า คือ พลังสนับสนุนของเรา เรามีความยินดีมากที่เรามีพันธมิตรที่แข็งแกร่งจากทั้ง 3 ภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็น Krungsri Finnovate ผู้นำด้านนวัตกรรมการเงิน ORZON (PTTOR) หน่วยงานในเครือ ปตท. ผู้นำด้านพลังงานของประเทศ รวมไปถึง คุณชนาพรรณ จึงรุ่งเรืองกิจ หนึ่งในทีมบริหารของ Thai Summit Group กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์รายใหญ่ระดับภูมิภาค ซึ่งการสนับสนุนเหล่านี้ไม่ใช่แค่เงินทุน แต่คือความเชื่อมั่นจากผู้เล่นตัวจริงในวงการพลังงาน การผลิต และการเงิน จุดเริ่มต้นจากปัญหาจริง สู่การออกแบบอนาคตที่ดีกว่า “SLEEK EV ไม่ได้เริ่มต้นแค่เพียงความหลงใหลในมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าเพียงอย่างเดียว แต่เพราะเราเห็นถึงปัญหา ค่าเดินทางที่แพงเกินไป มลพิษที่เราทุกคนต้องหายใจเข้าไป และความไม่เท่าเทียมในการเข้าถึงการเดินทางที่ดี ความมุ่งมั่นของเรา…
วงการ MotoGP เตรียมสั่นสะเทือนอีกครั้ง เมื่อ Harley-Davidson ผู้ผลิตรถจักรยานยนต์สัญชาติอเมริกัน ประกาศจับมือกับ Dorna Sports ผู้จัดการแข่งขัน MotoGP เตรียมนำรายการ “King of the Baggers” ซึ่งเป็นการแข่งขันมอเตอร์ไซค์สไตล์ทัวริ่งสุดโหด เข้าร่วมเป็นซีรีส์ซัพพอร์ตอย่างเป็นทางการ เริ่มต้นในปี 2026 King of the Baggers คืออะไร? การแข่งขัน King of the Baggers นั้นไม่ใช่แค่การนำรถใหญ่ๆ มาแข่งกันธรรมดา แต่เป็นสนามดวลของมอเตอร์ไซค์แบบ V-Twin Touring Bagger ที่ได้รับการโมดิฟายให้เร้าใจสุดขีด รถแข่งในรายการนี้มีน้ำหนักราว 280 กิโลกรัม แต่สามารถเร่งความเร็วทะลุ 300 กม./ชม. และมีแรงม้ามากกว่า 200 แรงม้า เรียกได้ว่าแรงไม่แพ้ซูเปอร์ไบค์เลยทีเดียว! Harley-Davidson จะได้อะไรจาก MotoGP?…
รีวิว RD Helmets FC-1 หมวกกันน็อค สำหรับสายซิ่ง ฟอร์จคาร์บอนลายหินอ่อน ที่สวยงามเรียบหรู แต่เบา ทั้ง นน. และราคา เป็นหมวกเรซซิ่ง ที่ให้มาครบเครื่อง เรามาเริ่มกันในส่วนของรูปลักษณ์ภายนอก หมวกกันน็อควัสดุ Forged Carbon ลายหินอ่อน ตามชื่อรุ่นว่า FC ทำให้มันเด่นที่ นน.เบา 1,450g ดีไซน์เป็นหมวกเรซซิ่ง ดังนั้น จึงมี Racing Spoiler ติดตั้งสปอยเลอร์หลัง เพื่อ Aerodynamic เวลาขี่ที่ความเร็วสูง ผมชอบตรงที่ หมวกมันมีเลเยอร์ เป็นสัน เป็นนูน ทำให้ตัวหมวกไม่ได้ดูเรียบกลม ดูมีลูกเล่น FC-1 มีช่องระบายอากาศ Ventilation System ช่องลมระบายอากาศเปิด/ปิดได้ ขนาดใหญ่ 2 จุด ที่ปลายคาง และ ศีรษะด้านบน…