ผ่านพ้นไปแล้วกับปี 2016 ที่ผ่านมา ทาง MotoRival เราขอมาเปิดโผรายชื่อ มอเตอร์ไซค์ยอดเยี่ยมประจำปี 2559 (Bike of The Year 2016) by MotoRival ให้เพื่อนๆ ได้รับชมกันครับ
โดยรถที่ได้รับรางวัลในคลาส จะมีเงื่อนไข ได้แก่
1. ต้องเป็นรถที่วางจำหน่ายแล้วในประเทศไทย
2. ไม่นับรถเปิดใหม่ ช่วงปลายปี 2016 เนื่องจากนับเป็นรถปี 2017 (นับเฉพาะโมเดลปี 2016 ลงไปเท่านั้น)
3. เกณฑ์ในการตัดสิน แบ่งเป็นคลาส โดยยึดปัจจัยหลายด้าน รูปลักษณ์, สมรรถนะ, ออปชั่น และ คำนึงถึงราคาจำหน่ายในประเทศไทยด้วย
สำหรับรถที่เราตัดสินให้ได้รับรางวัล มอเตอร์ไซค์ยอดเยี่ยมประจำปี 2559 (Bike of The Year 2016) by MotoRival มีดังต่อไปนี้ครับ
Moped : Yamaha Exciter 150
แม้ว่าจะดูแหวกรถโมเป็ดที่เราคุ้นเคยไปซักนิด แต่เพราะสิ่งนี้แหล่ะครับที่ทำให้มันคือที่สุด ด้วยความจุที่ล้นคู่แข่งร่วมคลาสไปไกล ส่งผลให้พละกำลังแรงม้านั้นอยู่ในระดับสปอร์ตไบค์ขนาดย่อมๆเลยทีเดียว แต่ด้วยรูปทรงที่ยังมีเค้าความเป็นรถครอบครัวอยู่ซึ่งผสมผสานกับสมรรถนะได้อย่างลงตัว มันจึงถือเป็นที่สุดของโมเป็ดประจำปี 2016
AT : Honda Click 125
ถือเป็นรุ่นที่ 2 แล้วของ Honda Click 125 คันนี้ ด้วยความแรงที่เหล่าผู้ที่เคยขับขี่ต่างยอมรับว่ามันตอบสนองได้ดีที่สุดแล้วในรถกลุ่มนี้ และรูปทรงที่เฉียบคมบวกกับประสิทธิภาพในการควบคุมที่ดีกว่าใครเพื่อน มันจึงสามารถเป็นอันดับ 1 ของรถแนว AT ปี 2016 ได้อย่างไม่ยากเย็น
Premium AT : Honda PCX 150
นอกจากรูปทรงที่ออกแบบให้มีความเรียบหรูสมราคาแล้ว ยังเพรียบพร้อมด้วยฟังชั่นน่าสนใจมากมายทั้งระบบ Keyless และระบบไฟ LED รอบคัน พอร์ทชาร์จไฟโทรศัพท์ในตัว และเครื่องยนต์พิกัด 150 ที่ผ่านการพัฒนามาแล้วไม่ต่ำกว่า 3 รุ่นด้วยกัน จนเรียกได้ว่าเป็นเครื่องยนต์ที่แทบไม่มีจุดบกพร่องใดๆแม้แต่น้อย
Minibike : Honda MSX125 SF
โฉมหน้าใหม่ของโฉมหน้าเก่าที่ทำตลาดคู่กันแบบงงๆ จนหลายคนสงสัยว่าทำไม แต่ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม ทันทีที่เจ้า SF ออกวางตลาดก็มีขาโจ๋พากันตบเท้าเข้าศูนย์กันมากมายเพื่อจับจองเจ้านี่ในทันที ด้วยหน้าตาที่ล้ำสมัยไปไกลเมื่อเทียบกับคู่แข่ง ตัวเครื่องยนต์ที่ให้สมรรถนะดีเยี่ยม และระบบคลัทช์มือที่ผู้ขับขี่สามารถตัดต่อกำลังได้ตามใจสั่ง และความมันส์ในการควบคุมเป็นเลิศ
Sport Bike <150cc : Yamaha M-Slaz
ด้วยรูปลักษ์ที่ปราดเปรียว เครื่องยนต์ที่ให้อัตราการตอบสนองต่อคันเร่งจี๊ดจ๊าด และที่ไม่พูดถึงเลยก็ไม่ได้นั่นก็คือโช๊คหน้าหัวกลับที่ยังไม่มีรถมอเตอร์ไซค์พิกัด 150cc คันใหนยัดมาให้แม้แต่พี่น้องร่วมค่าย ทำให้เราปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเจ้า M-Slaz คันนี้ คือที่สุดของรถแนวสปอร์ต(แน็คเก็ต)ไบค์พิกัดที่ได้รับความนิยมมากที่สุดของปี 2016
Premium Scooter : Vespa Sprint & Primavera 150
สองคู่หูจากอิตาลีที่พกพาหน้าตาอันเป็นเอกลักษณ์ของค่ายมาอย่างเต็มเปี่ยม ทั้งความโค้งมนและเรียบหรู จัดเต็มด้วยระบบความปลอดภัยทั้ง ABS และเซนเซอร์วัดองศาการเอียงตัวรถ ตัวเครื่องยนต์ได้รับการปรับปรุงใหม่ให้ความนุ่มนวลในการขับขี่มากขึ้น เสริมฟังชั่นอีกนิดด้วยตัวเปิดเบาะไฟฟ้าซึ่งช่วยเพิ่มความน่าสนใจให้กับตัวรถไม่น้อยเลยทีเดียว
Big Scooter : BMW C650
เรียกได้ว่านี่คือรถแนว Scooter ที่จัดระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่มาเต็มที่สุดแล้วในตอนนี้ ทั้ง Traction Control, Stability Control, ABS และโดดเด่นที่สุดด้วยระบบ Side View Assist หรือระบบแจ้งเตือนมุมอับครั้งแรกในรถมอเตอร์ไซค์แบบเดียวกับที่รถยนต์ระดับพรีเมียมทั้งหลายมีให้
Sport, Naked & Adventure Entry Class (<500cc) : Honda 500 Series
3 ทหารเสือจากค่ายปีกนก ที่มีพื้นฐานขุมพลังลูกเดียวกันคือเครื่องยนต์ 2 สูบเรียงขนาดความจุ 471cc ซึ่งให้สมรรถนะครอบคลุมแทบทุกการใช้งานไม่ว่าจะเป็นการขับขี่ในตัวเมือง เดินทางไกล หรือวัดใจกับทางฝุ่นก็ทำได้หมด นอกจากนี้ในด้านของรูปทรงและออพชั่นที่ติดมาให้กับตัวรถนั้นก็ถือว่าคุ้มค่ากับเม็ดเงินที่จ่ายไปพอสมควร
Naked Mid Sized Class (600-800) : Triumph Street Triple RX Triumph Street Triple RX
เจ้าตั๊กแตนผู้น้อง ด้วยเครื่องยนต์ 3 สูบเรียงอันเป็นเอกลักษณ์ ทั้งสมรรถนะและซุ่มเสียง รวมถึงตัวเลขสมรรถนะหากเทียบกับรถ cc ที่ใกล้ๆกันแล้ว เจ้า Tiple RX นี้มีสมรรถนะเทียบชั้นรถ 800cc + ในรุ่น RX เพิ่ม Quick Shift ให้เอาใจสายสนาม นอกจากนี้ระบบกันสะเทือน และเบรก สมรรถนะสูง จึงเรียกได้ว่ามันเป็นราชารถ Naked Mid-Sized เลยก็ว่าได้
Adventure Mid-Sized Class (600-800) : Triumph Tiger 800
ด้วยเครื่องยนต์ 3 สูบเรียงอันเป็นเอกลักษณ์ ทั้งสมรรถนะและซุ่มเสียง ไม่เพียงเท่านั้น ออปชั่น และเทคโนโลยีแบบรถยนต์หรู ให้คุณเลือกปรับใช้จนใช้งานไม่หมด พร้อมทั้งรุ่นย่อยให้เลือกมากมายถึง 6 รุ่นย่อย ทั้งสาย On-Road และ Off-Road เราจึงขอยกให้สุดสาย Adventure Mid-Sized นี้พี่เสือคว้าไปครอง
Sport Heritage : Yamaha XSR900
*หมายเหตุ แม้จะเพิ่งเปิดตัวในไทย แต่ในต่างประเทศนั้น XSR900 ได้เปิดตัวทำตลาดมาเป็นเวลา 1 ปีแล้ว
Yamaha XSR900 จะถูกเปิดตัวในไทยเมื่อช่วงปลายปีที่ผ่านมา แต่ XSR900 นี้ได้เปิดตัวทำตลาดมาร่วม 1 ปีแล้ว เราจึงขอนับมันเป็นรถโมเดลปี 2016 และคว้ารางวัลในกลุ่ม Sport Heritage ไปครอง ด้วยรูปลักษณ์แบบ คลาสสิค โมเดิร์น พร้อมขุมพลัง CP3 ที่ยอดเยี่ยมจาก MT-09 ปรับจูนให้เหมาะแก่สไตล์รถ พร้อมเพิ่มเทคโนโลยีอย่าง TCS เข้ามาช่วยให้รถควบคุมได้ง่ายขึ้น แต่ไม่ละทิ้งฟีลลิ่งสปอร์ต แท้ๆ จากช่วงล่าง และท่าทางในการขับขี่ จึงไม่มีข้อกังขาใดๆ สำหรับ XSR900 กับรางวัลนี้
Super Moto : Ducati Hypermotard 939
โดดเด่นด้วยเครื่องยนต์ L-Twin พิกัด 937cc พละกำลังสูงสุด 113 แรงม้า และแรงบิดมหาศาล 97.9 นิวตันเมตร รูปทรงก็สวยงามแต่แฝงไปด้วยความดุดันตามสไตล์รถ Ducati
ระบบอิเล็คทรอนิกส์จัดมาให้เต็มขั้น ทั้ง Traction Control 8 ระดับ, Riding Modes อีก 3 รูปแบบ ที่สำคัญราคาแพงกว่า Hypermotard 821 เพียงเล็กน้อย แต่มาพร้อม Worry Free ให้คุณอุ่นใจอีกด้วย
Superbike (1000cc) : Kawasaki ZX-10R
ไอ้เข้ตัวใหญ่สุดจากค่ายแตนเขียวที่พกพาอาวุธหนักติดตัวมาตั้งแต่เกิด ทั้งเครื่องยนต์4 สูบเรียงความจุ 1000cc ที่ให้พละกำลังแรงม้าเป็นระดับหัวแถวของคลาส คอท่อไอเสียไทเทเนียม ควิกชิพ และระบบอิเล็คทรอนิกส์สำหรับการแข่งขันอีกมากมาย ปิดท้ายด้วยระบบกันสะเทือนหน้า Balance Free Fork จาก Showa ที่มีจุดเด่นคือซับแท๊งค์แยกสีแดงแบบเดียวกับตัวแข่งจาก WSBK แถมราคาเปิดตัวเร้าใจ 6.79 แสนบาท ก่อนจะปรับราคามาที่ 6.94 แสนบาท
Super Naked (1000cc) : Yamaha MT-10
Super Naked ตัวจี๊ดคันล่าสุดจาก Yamaha ที่ใช้เครื่องยนต์ CP4 ลูกเดียวกับ YZF-R1 แต่ปรับลดแรงม้านิดหน่อยเพื่อย้ายช่วงกำลังไปเป็นแรงบิด ด้านของระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ รวมถึงระบบกันสะเทือนและชุดเบรกก็ก็หยิบยกมาจากแฝดคนละฝาร่วมค่ายแทบทั้งดุ้นและด้วยหน้าตาของตัวรถที่ดูเหมือนกับหลุดออกมาจากตัวละครในหนัง Hollywood บวกกับคาแรกเตอร์ของตัวรถที่ให้ความสนุกสนานในการขับขี่กว่าใครเพื่อนมันจึงเหมาะอย่างยิ่งที่จะเป็นที่สุดของรถแนวซุปเปอร์แน็คเก็ตแห่งปี 2016
Adventure Touring Class (1000cc) : BMW S1000XR
ฉลากบุกจากค่ายใบพัดสีฟ้าที่แต่เดิมตอนอยู่ในคราบ Superbike ก็โดดเด่นในเรื่องของระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ล้ำกว่าใครอยู่แล้ว พอถูกปรับปรุงให้เป็นรถแนว Adventure Bike ที่เน้นในการเดินทางไกลมากขึ้นแล้ว มันก็สามารถทำหน้าที่เป็นเพื่อนร่วมเดินทางกับผู้ขับขี่ที่ดีได้ไม่น้อยเลยทีเดียว ทั้งระบบโช๊คไฟฟ้า Dynamic ESA ที่รองรับการใช้งานแทบทุกสภาวะถนน Riding Modes ที่สามารถปรับได้ละเอียดแทบทุกค่าเท่าที่เราจะนึกออก และหน้าตาที่ปราดเปรียวไม่เหมือนกับรถสายลุยทั่วไปทำให้มันดูสะดุดตาทุกครั้งที่หันไปมอง
Sport Touring Class (1000cc) : Suzuki GSX-S1000f
รถ Sport Touring ขนานแท้คลาส 1000cc จาก Suzuki ที่ใช้พื้นฐานเครื่องยนต์พัฒนามาจาก Superbike ของค่ายอย่าง GSX-R1000 มันมีน้ำหนักที่ถือว่่าเบากว่าเพื่อนในคลาส รวมถึงความเป็นมิตรในด้านท่านั่งขับขี่ จึงทำให้มันเป็นรถ Sport Touring Class 1000 ที่พร้อมใช้ได้แบบ Street Bike โดยแท้จริง นอกจากนี้ราคาเปิดตัวเมื่อปี 2015 ยังเร้าใจด้วยราคาที่ถือว่าถูกที่สุดในรถ 1000cc 5.99 แสนบาท สำหรับ 100 คันแรก
Adventure Enduro (1000cc) : Honda Africa Twin (CRF1000L)
ร่างใหม่ของรถสายลุยในตำนานจากการแข่งขัน Dakar Rally ที่ถูกเรียกกันจนติดหูนาม Africa twin โดดเด่นด้วยเครื่องยนต์ 2 สูบเรียง ความจุ 1,000cc นอกจากนี้ยังมีระบบคลัทช์คู่ DCT ซึ่งช่วยให้การเดินทางไกลแต่ละครั้งผู้ขับขี่สามารถเลือกได้ว่าจะให้ตัวรถเปลี่ยนเกียร์โดยอัติโนมัติหรือสั่งการด้วยตัวผู้ขับเองได้ตามใจชอบ และถึงแม้ว่าจะมีพละกำลังน้อยไปนิดเมื่อเทียบกับเพื่อนร่วมคลาสคันอื่น แต่เพราะจุดนี้ทำให้มันเป็นรถทางฝุ่นที่ให้ความเป็นมิตรและง่ายในการขับขี่มากที่สุดเท่าที่เคยมีมา
Premium Adventure (>1000cc) : KTM 1290 Super Adventure
The King Of Adventure Bike ที่ไม่ใช่แค่ชาวไทยเท่านั้นที่ให้การยอมรับ แต่สื่อหลายสำนักจากต่างประเทศก็ให้คำชื่นชมเป็นเสียงเดียวกันว่านี่คือราชาแห่งรถสายฝุ่น ไม่ว่าจะเป็นตัวเครื่องยนต์ 2 สูบความจุ 1,301cc ที่ยกมาจากแนคเก็ทไบค์ตัวโหด Super Duke R ซึ่งทาง KTM ได้ทำการปรับแรงม้าให้ลงมาอยู่ที่ 160 แรงม้า และปรับปรุงเครื่องยนต์ให้มีสามารถใช้งานได้ทุกวภาวะอากาศ นอกจากนี้ยังมีระบบอำนวยความสะดวกให้ผู้ขับขี่อีกมากมาย เช่น ระบบอุ่นเบาะนั่ง, ระบบล็อคความเร็ว, ระบบรักษาเสถียรภาพ, ระบบป้องกันล้อล็อคสำหรับทางโค้งจาก Bosch, และระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางชัน ซึ่ง 2 อย่างหลังนี้ยังไม่มีค่ายใหนทำได้ดีเท่าของ KTM
Sport Cruiser : Ducati XDiavel S
Ducati XDiavel รถสปอร์ตครุยเซอร์ ที่มากับรูปลักษณ์สุดทันสมัย ต่อยอด Diavel เดิมได้อย่างงดงามไร้ที่ติ
มันได้รับรางวัลการการันตีด้านดีไซน์และสไตล์การออกแบบจาก Red Dot Award 2016
ไม่ใช่เพียงแค่งดงามแต่รูปลักษณ์เท่านั้น ขุมพลังระดับ 1200cc พร้อมระบบวาล์วแปรผัน DVT บล็อกนี้ก็มอบสมรรถนะที่รุนแรงดุดัน จนอาจเรียกได้ว่าแรงกว่ารถอเมริกันครุยเซอร์ เครื่อง Big Block เสียอีก นอกจากนี้เทคโนโลยีก็ครบครันตามมาตรฐานรถยุโรปหรู ทั้งระบบ Keyless และการเซ็ทปรับค่าต่างๆ ที่แสดงผลผ่านหน้าจอแสดงผลสี TFT Multifunction อีกด้วย
Café Racer : Triumph Thruxton R
สุดยอดรถ Café Racer ที่คุณจะหามาครอบครองได้ คงหนีไม่พ้น Triumph Thruxton R ที่ทั้งหล่อ, แรง, ออปชั่นเต็ม
ระบบเบรก และโช้กอัพหน้า-หลังตัวเทพที่ใครๆ ก็อยากได้มาติดรถของตัวเอง หากคุณขี่เจ้า Thruxton R นี้ไปจอดที่ไหน ควรหาที่จอดที่ปลอดภัยดีๆล่ะ
Classic : Triumph Street Twin
แม้จะเป็นรถ Classic ยุคใหม่ สไตล์ Modern (เนื่องจาก New Bonneville T100 ใหม่ เป็นโมเดลปี 2017) ที่เข้ามาทำตลาดในราคาเริ่มต้นของ Triumph แต่ด้วยการยกขุมพลังบล๊อกใหม่ 900cc ระบายความร้อนด้วยน้ำ เข้ามาใช้แทนหม้อลมแบบเดิม (เครื่องบล๊อกนี้ถูกยกไปลงใน 2017 Benneville T100 ใหม่ ด้วยเช่นกัน)
ทำให้มันเป็นมิตรต่อการขับขี่ไม่ว่าจะใกล้ หรือไกล รวมถึงอัตราสิ้นเปลืองที่ประหยัดราวกับรถคลาส 300cc แถมยังให้ความเบาคล่องตัวแม้ขี่ในเมืองได้ดี Street Twin จึงถือเป็นรถในกลุ่มคลาสสิคร่วมสมัยที่คุ้มค่าคุ้มราคาที่สุด
Premium Bagger : BMW K1600 GTL Exclusive
เจ้านกฮุกตัวโต รถ Bagger หรู จากค่ายกังหันฟ้าขาว ฝั่งยุโรปที่มีดีไม่แพ้ฝั่งอเมริกัน
ทั้งความสะดวกสบายในการโดยสาร พร้อมกระเป๋า 3 ใบ ให้คุณพร้อมเดินทางขึ้นเหนือล่องใต้ ได้อย่างสบายๆ
ขุมพลัง 6 สูบเรียง 1649cc กำลังถึง 160 แรงม้า แรงดุดันไม่แพ้รถสปอร์ต
เทคโนโลยีมากมาย ทั้งระบบ Keyless, Hill Start Control, โหมดการขับขี่ และเทคโนโลยีไฟฟ้า และระบบความปลอดภัย อื่นๆอีกมากมาย
และในปีนี้ เราจะได้เห็น BMW K1600 GT ได้รับเกียรติ ในการนำขบวนพระบรมศพ ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชอีกด้วย
เพื่อนๆ Bikers สามารถติดตามข่าวสารวงการล้อ ได้ทางแฟนเพจ MotoRival ของเราครับ
