Can-Am Origin และ Pulse รถมอเตอร์ไซค์แนวแอดเวนเจอร์และสปอร์ตเปลือย จากค่ายรถที่หลายคนอาจจะคุ้นชื่อจากการสร้างรถมอเตอร์ไซค์ 3 ล้อ Can-Am Spyder แต่รู้หรือไม่ว่าค่ายรถดังกล่าวนั้นเคยจำหน่ายรถมอเตอร์ไซค์วิบากมาก่อนในอดีต และนี่ถือเป็นการกลับมาสู่ตลาด 2 ล้อ แต่ในรอบนี้ทางค่ายมาพร้อมกับการแปลงโฉมเป็นค่ายรถพลังงานไฟฟ้า EV เต็มตัว
Can-Am Origin และ Pulse จะเป็นรถมอเตอร์ไซค์ตัวเปิดตลาดยุคใหม่ของค่ายรถจากแคนาดารายนี้ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนการขยายตลาดนอกเหนือกลุ่มของรถแนว ATV หรือ UTV ที่ทางค่ายนั้นโชคโชนอยู่แล้ว แต่การจะไปแข่งขันในตลาดรถเครื่องยนต์สันดาปก็คงจะยากที่จะสู้กับเจ้าตลาด การเปลี่ยนเทคโนโลยีเป็นพลังงานไฟฟ้านั้นก็เหมือนเป็นการล้างกระดานความได้เปรียบที่ว่า
รถทั้งสองรุ่นจะถูกสร้างอยู่บนพื้นฐานของชุดเฟรม แบตเตอรี่ และมอเตอร์ไฟฟ้าเดียวกัน แต่ข้อมูลในทางเทคนิคในปัจจุบันของรถทั้งสองรุ่นนั้นยังไม่มีการประกาศออกมา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของขนาดแบตเตอรี่ ระยะทางขับเคลื่อน หรือพละกำลังของมอเตอร์ไฟฟ้า บอกแค่ว่าตัวรถจะสามารถรอบรับระบบ Fast Charge
แต่เราคาดว่าพละกำลังของตัวรถทั้งสองอาจไม่สูงมากนัก เนื่องจากทางค่ายตั้งเป้าให้เป็นรถที่ขับง่าย เราจึงคาดการณ์ว่าพละกำลังของตัวรถนั้นอยู่ในคลาสเริ่มต้นที่มีพละกำลังสูงสุดไม่เกิน 15 แรงม้า เนื่องจากข้อจำกัดด้านในขับขี่ของทางยุโรป(หากทางค่ายต้องการนำไปขายในยุโรป) แต่อาจจะมีรุ่นย่อยอื่นสำหรับลูกค้าที่ต้องการความแรงเพิ่ม
ทางด้านรายละเอียดและความแตกต่างของรถแต่ละรุ่น เราจะขอเริ่มต้นกันที่รุ่น Pulse ซึ่งจะมาในโฉมของรถแนวสปอร์ตเปลี่ยนหรือ Roadster ที่เน้นใช้งานในเมืองทั่วไป มาพร้อมล้ออัลลอยด์รัดด้วยยางทางเรียบ ในขณะที่รุ่น Origin นั้นจะมาในโฉมของรถแนวแอดเวนเจอร์ ระบบกันสะเทือนยกสูง ชุดล้อซี่ลวดวงใหญ่รัดด้วยยางหนาม
ระบบส่งกำลังไปล้อหลังนั้นถึงแม้จะยังไม่มีการยืนยัน แต่เราก็คาดว่าจะเป็นชุดสายพานเพื่อเพิ่มความนุ่มเงียบ, ระบบกันสะเทือนหน้าแบบหัวกลับ ด้านหลังแบบสปริงเดี่ยว, ระบบเบรกหน้า-หลังเป็นแบบดิสก์เดี่ยว ทำงานร่วมกับคาลิเปอร์แบบแอ็กเซียลเม้าท์
งานออกแบบทั้งของรถทั้งสองจะไปในแนวทางโมเดิร์นล้ำสมัยเหมือนกัน ซึ่งนี่ก็ดูจะเป็นแนวทางที่รถไฟฟ้าทุกค่ายทำเหมือนกัน(และอาจจะดูน่าเบื่อสำหรับบางคน) ระบบไฟส่องสว่างรอบคันแบบ LED ตามยุคสมัย พร้อมไฟ DRL, หน้าจอแสดงผลแบบสี TFT ขนาดใหญ่มาก
Can-Am Origin และ Pulse มีแผนที่จะทำการเปิดตัวเพื่อวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการก่อนสิ้นปี 2024 โดยทางบริษัทก็มีแผนที่จะขยายไลน์อัพรถพลังงานสะอาดนี้ไปสู่รถแนวอื่นที่จะเปิดตัวตามมาที่หลังด้วย แน่นอนว่าเรื่องนั้นเราคงต้องรอดูความคืบหน้าหลังจากที่รถแกนหลักทั้งสองรุ่นนี้เปิดตัวไปแล้ว
ที่มา motorcycle
อ่านข่าวสาร Can-Am เพิ่มเติมได้ที่นี่
อ่านข่าวสาร EV เพิ่มเติมได้ที่นี่
