Fab #20 ทำสถิติใหม่ ช้างฯ ด้วย Michelin Power slick สูตรพิเศษสำหรับ 2019 ThaiGP โดยเฉพาะ

0

ผ่านไปแล้วกับการแข่งขันในสนามที่ 15 สำหรับรายการพีทีที ไทยแลนด์ กรังด์ปรีซ์โดยสนามนี้เป็นการขับเคี่ยวกันระหว่างมาร์ค มาร์เกซ ยอดนักบิดสแปนิช จากทีม เรปโซล ฮอนด้า ผู้ที่ลุ้นตำแหน่งแชมป์รายการโมโตจีพีกับฟาบิโอ กวาร์ตาราโร รุกกี้ชาวฝรั่งเศสจากทีม ปิโตรนาส ยามาฮ่า เอสอาร์ที ผู้ลุ้นแชมป์สนามที่คว้าตำแหน่ง Pole Position

mm93-finish-line-thaigp2018-01
สถิติสนามที่เคยทำไว้โดย มาร์ค มาร์เกซ ในปีที่แล้วด้วยเวลา 1’30.088 นาที ได้ถูกทำลายอย่างราบคาบโดยฟาบิโอ กวาร์ตาราโร ทั้งสถิติสนาม 1’29.719 นาที และการแข่งขัน ส่วนหนึ่งเป็นเพราะการพัฒนายางของมิชลินที่ใช้สนับสนุนในรายการนี้ นับว่าเป็นเรื่องที่ท้าทายอย่างมากกับสนามที่ยังไม่ได้แข่งขันกับการเก็บข้อมูลในครั้งแรกที่เริ่มขึ้นเดือนมีนาคมปีที่แล้วกับช่วง Winter Test ซึ่งครั้งนั้นทางมิชลินได้เก็บข้อมูลไว้เพื่อใช้ในการพัฒนายางให้เหมาะกับสนามต่อไป

ทำให้การแข่งขันในปีแรกทางมิชลินก็ทำได้แค่เลือกยางที่คิดว่าเหมาะสมกับสนามมาใช้ แต่ในปีนี้ทางมิชลินได้พัฒนายางที่ใช้ในการแข่งขันสำหรับประเทศไทยโดยเฉพาะซึ่งจะใช้คู่กันกับสนามออสเตรีย

เนื่องจากปีที่แล้วทางมิชลินยังไม่มีข้อมูลสนามแข่งในเมืองไทย อีกทั้งในช่วงที่จัดการแข่งขันมีอากาศร้อนจัด ทำให้เนื้อยางซอร์ฟคอมปาวด์ดูจะนิ่มเกินไป ซึ่งจะทำให้เนื้อยางหมดเร็วเมื่ออุณหภูมิสนามแข่งสูง ศักยภาพของยางในการยึดเกาะพื้นสนามแข่งก็จะอยู่ในระดับต่ำมากส่งผลให้การควบคุมรถทำได้ยากขึ้นจึงทำให้นักแข่งส่วนใหญ่เลือกใช้ยางฮาร์ดคอมปาวด์กัน ส่วนในปีนี้ทางมิชลินได้นำข้อมูลจากปีที่แล้วมาพัฒนาจึงได้สูตรเนื้อยางที่แข็งขึ้น เป็นยางที่มีเนื้อยางสองข้างต่างกันเพราะสนามช้างจะมีโค้งขวาอยู่7โค้ง โค้งซ้าย 5โค้ง

สิ่งที่เกิดขึ้นกับการแข่งขันในครั้งนี้คือนักแข่งสามารถใช้ความเร็วได้เต็มที่จากเนื้อยางที่แข็งขึ้น ทำให้นักแข่งเกือบทุกคนเลือกใช้อย่างหน้าเป็นยางฮาร์ดคอมปาวด์ ส่วนยางหลังจะเลือกใช้ยางซอร์ฟคอมปาวด์ จะมีเพียงนักแข่งเพียงแค่คนเดียวเลือกใช้อย่างหน้าเป็นมีเดียมนั่นก็คือฮอร์เก้ ลอเรนโซ

qautararo-fp4-thaigp2019-motogp-56
จากสูตรยางใหม่ทำให้นักแข่งสามารถทำความเร็วต่อรอบได้มากขึ้นสถิติสนามจึงถูกทำลายลงไปอย่างราบคาบจากฝีมือของฟาบิโอ กวาร์ตาราโรทำให้เขาขึ้นครองตำแหน่งPole Position โดยมี มาเวอริค บีญาเลสตามมาเป็นอันดับ 2 และอันดับ 3 จะเป็นมาร์ค มาร์เกซ ส่วนวาเลนติโน รอสซี่ อยู่ในแถวที่สาม

thaigp2019-race-start-02
จากการแข่งขันจำนวน26รอบสนามที่มีระยะทาง 4,554 เมตร สนุกตื่นเต้นกันตั้งแต่รอบแรกโดยมีฟาบิโอ กวาร์ตาราโรออกนำมาก่อนตามด้วยมาร์ค มาร์เกซ ซึ่งไล่ตามแบบไม่ให้ทิ้งห่าง แต่การขึ้นนำนั้นทำได้ยากเพราะนักแข่งแต่ละคนมีความมั่นใจในสมรรถนะของรถและยางมชลินที่ถูกออกแบบมาสำหรับขณะนี้โดยเฉพาะ ทำให้มาร์ค มาร์เกซ ต้องไล่ตามไปจนถึงรอบสุดท้ายถึงจะแซงได้ แต่เมื่อโดนกวาร์ตาราโรแซงกลับในโค้งสุดท้ายมาร์คมาร์เกซก็ยังแซงคืนและเบียดเข้าเส้นชัยไปได้ ทำให้มาร์ค มาร์เกซ ได้ฉลองแชมป์สนามไปพร้อมๆกับการฉลองแชมป์ในรุ่นโมโตจีพีปีที่ 8 ด้วย

ในการแข่งขันแต่ละสนามทางมิชลินจะจัดเตรียมความพร้อมด้วยยางสำหรับใช้ในการแข่งขับจำนวน 1,400 เส้น แต่การใช้งานจริงจะอยู่ที่ 900 เส้น ซึ่งนักแข่งแต่ละคนจะได้ยางหน้า 10 เส้น ยางหลัง13เส้น ส่วนยางฝนด้านหน้า 5 เส้นด้านหลัง 6 เส้น โดยทางมิชลินจะมียางทุกแบบที่ใช้สำหรับการแข่งขันไว้รองรับ ซึ่งยางสลิคจะมีทั้งซอร์ฟ มีเดียมและฮาร์ดคอมปาวด์ รวมไปถึงยางสำหรับการแข่งขันในพื้นเปียกด้วย

ในการแข่งขันแต่ละครั้งยางที่ผ่านการใช้งานแล้วจะถูกเก็บข้อมูลเอาไว้โดยทางมิชลินจะมีทีมงานจำนวน 20 คน ซึ่งจะแบ่งออกเป็นช่างถอดล้อ 11คน มีวิศวกรที่จะเข้าไปประจำในแต่ละทีมคอยให้ข้อมูลต่างๆสำหรับการเลือกใช้ยาง 7 คน อีก 2 คนจะเป็นผู้บริหารที่คอยดูแลประสานงาน ทำให้มิชลินมีข้อมูลการใช้ยางของนักแข่งแต่ละคนครบถ้วน

MM93-2019-ThaiGP-Post-conf
จากการประมวลผลของของทีมงานมิชลินสามารถบอกได้ว่านักแข่งแต่ละคนขับขี่กันอย่างไร สำหรับนักแข่งที่ใช้การขับขี่ที่รุนแรงมากๆก็จะเป็นมาร์ค มาเกซและคาร์ล ครัทโลว์

2019-ThaiGP-Post-Q2_Fabio
ส่วนที่ใช้ยางแบบนุ่มนวลรักษาสภาพยางได้ดีก็จะมีกวาร์ตาราโรกับลอเรนโซ่ โดยยางหลังที่ใช้สำหรับการแข่งขันจะต้องรองรับกับอุณหภูมิที่สูงถึง 150 องศาจากเครื่องยนต์และอุณหภิของสนาม ดังนั้นเพื่อรักษาคุณภาพของยางให้คงที่ทางทีมงานมิชลินต้องเก็บยางไว้ในตู้คอนเทนเนอร์ที่มีเครื่องปรับอากาศรักษาอุณหภูมิให้อยู่ในระดับ20องศา โดยแนะนำแรงดันลมยางมาตรฐานให้แต่ละทีมไว้เป็นข้อมูล ล้อหน้าที่ใช้จะอยู่ที่ 1.7 บาร์ ส่วนล้อหลังจะอยู่ที่ 1.09 บาร์ ซึ่งในแต่ละสนามทางทีมงานจะมีการปรับค่าแรงดันลมยางให้เหมาะสมกับสภาพอากาศในช่วงเวลานั้นด้วย

อ่านข่าว Michelin เพิ่มเติมได้ที่นี่
อ่านข่าว MotoGP เพิ่มเติมได้ที่นี่

เพื่อนๆ Bikers สามารถติดตามข่าวสารวงการล้อ ได้ทางแฟนเพจ MotoRival ของเราครับ

Share.

About Author

Background EXP in Automotive journalists more than 10 Years Writer & Test Driver @Pantip Garage 2018-Present @9carthai 2015- 2017 @Torque & VIPStyle Magazine 2015 @Autospinn 2012-2015 @GTmania.tv 2009-2010

error: Content is protected !!