Honda CB500 Super Four รถมอเตอร์ไซค์ไฟกลม น้องเล็กจากค่ายปีกนก Honda ที่ลือมานานว่าจะเข้ามาแทนที่ CB400 Super Four ในที่สุดก็ดูเหมือนว่ารถรุ่นนี้ จะทำการเปิดตัวจริงสักทีที่งาน CIMAMotor 2025 ที่เมืองฉงชิ่ง ประเทศจีน ในวันที่ 19 กันยายน ที่จะถึงนี้!
ซึ่งรายละเอียดทั้งหมดที่เรากำลังพูดถึงอยู่นี้ก็ไม่ใช่แค่ข่าวลือ แต่เป็นทีเซอร์เรียกน้ำย่อยที่ถูกปล่อยออกมา โดยค่ายปีกนกแดนมังกร Wuyang Honda แสดงให้เห็นภาพลายเส้นของรถมอเตอร์ไซค์สปอร์ตไฟกลม ในสไตล์ญี่ปุ่นย้อนยุค ที่ดูยังไงก็น่าจะเป็นตัวตายตัวแทนของ CB400 Super Four ที่ถูกยกเลิกการผลิตไปเมื่อปี 2022

ข้อมูลอย่างเป็นทางการเกี่ยวกับรถรุ่นนี้ยังมีอยู่อย่างจำกัด ส่วนใหญ่เป็นข่าวลือที่มีต้นทางจากจีนหรือญี่ปุ่น แต่จากสิ่งที่เรามีในตอนนี้คือ ตัวรถจะสร้างขึ้นบนพื้นฐานใหม่หมดจด ไม่ใช่การนำเครื่องยนต์เก่ามาปรับปรุงใหม่
ความจุของเครื่องยนต์นั้นจะมีตั้งแต่ 400 – 500 ซีซี ซึ่งจะวางจำหน่ายแยกกันตามความเหมาะสมของแต่ละตลาด โดยรถเครื่องเล็กนั้นจะวางจำหน่ายในญี่ปุ่น ที่มีข้อกำหนดเรื่องความจุเครื่องยนต์ในใบขับขี่ แต่ส่วนอื่นของโลกมีแนวโน้มว่าจะได้ใช้รุ่นเครื่องใหญ่

ตัวรถจะถูกพัฒนาและผลิตในประเทศจีน เพื่อส่งออกไปจำหน่ายทั่วโลก เหตุผลที่ต้องเป็นประเทศจีนนั้นเป็นเพราะตลาดรถมอเตอร์ไซค์คลาสเล็ก ที่มาพร้อมเครื่องยนต์ 4 สูบ นั้นกำลังได้รับความนิยมอย่างสูงที่นั่น เพราะแม้แต่ค่ายรถท้องถิ่นเองก็ทำรถคลาสนี้ของตัวเองออกมากันเยอะมาก การขยายความจุเครื่องเป็น 500 ซีซี ก็ทำขึ้นเพื่อสู้กับรถจีนที่ขยายความจุเหมือนกัน

ทางด้านของสเปคตัวรถนั้นจะไม่ได้เน้นความแรงแบบจัดเต็ม เหมือนคู่แข่งค่ายเขียวอย่าง Kawasaki ZX-4R ที่รีบรอบสูงถึง 14,000 rpm และมีพละกำลังที่สูงถึง 77 Hp เพราะค่ายปีกนกต้องการทำรถที่เป็นมิตรกับการใช้งานในชีวิตประจำวันมากกว่า แถมยังมีลุ้นว่ารถรุ่นนี้อาจจะติดตั้งระบบ E-Clutch มาให้ด้วยเลยก็ได้

ในส่วนของรูปลักษณ๋ภายนอก คาดว่าจะใกล้เคียงกับรถมอเตอร์ไซค์ต้นแบบอย่าง CB1000F ที่ถูกสร้างขึ้นบนพื้นฐานของ CB1000 Hornet ที่จะใช้ดีไซน์ซึ่งได้แรงบันดาลใจจากรถเก่า แต่สร้างขึ้นบนพื้นฐานของรถแบบทันสมัย ไม่ใช่รถที่มีหน้าตา หรือเทคโนโลยีเก่าจริง ๆ
จากตรงนี้ทำให้มีความเป็นไปได้ว่ามันอาจจะมาพร้อมชื่อในการทำตลาดแบบอื่น ที่อ้างอิงรถรุ่นพี่อย่าง CB500F หรืออาจจะเป็น CB500 Four ที่เคยมีการจดเครื่องหมายการค้าก็ได้ด้วยเหมือนกัน ซึ่งเราก็ต้องมารอดูเมื่อถึงเวลาจริงในวันที่ 19 กันยายน ที่จะถึงนี้
ที่มา motorrad
อ่านข่าวสาร Honda เพิ่มเติมได้ที่นี่