Kawasaki ZX-25R เปิดตัวญี่ปุ่นอย่างเป็นทางการ เคาะราคาเริ่ม 2.44 แสนบาท

แม้จะเป็นประเทศแม่ แต่กลายเป็นว่า Kawasaki ZX-25R กลับพึ่งถูกนำไปเปิดตัวในประเทศญี่ปุ่นเป็นครั้งแรกในวันนี้ ซึ่งราคาที่วางจำหน่ายก็ไม่ถูกเลยเสียทีเดียว เพราะตั้งเริ่มเอาไว้ที่ 2.44 แสนบาท

โดยสำหรับตัวรถ Kawasaki ZX-25R ที่ถูกนำไปวางจำหน่ายในประเทศญี่ปุ่น ในเบื้องต้นจะเป็นสเปคเดียวกันกับที่วางจำหน่ายในประเทศไทย นั่นคือเป็นสเปคที่มาพร้อมกับเครื่องยนต์ 4 สูบเรียง 249cc DOHC ระบายความร้อนด้วยน้ำ ที่สามารถทำกำลังสูงสุดได้ 45 แรงม้า PS ที่ 15,500 รอบ/นาที กับแรงบิดสูงสุดอีก 21 นิวตันเมตร ที่ 13,000 รอบ/นาที ซึ่งต่างจากของประเทศอินโดนีเซียที่จะได้ม้าเต็มคือ 50 แรงม้า PS เนื่องจากมาตรฐานมลพิษไม่เข้มงวดเท่าในญี่ปุ่นและประเทศไทย

นอกนั้นในด้านส่วนพ่วงอื่นๆเองก็ยังคงจัดมาให้ครบครัน ไม่ว่าจะเป็น ระบบกันสะเทือนด้านหน้าแบบตะเกียบคู่หัวกลับ SFF-BP ขนาดแกน 37 มิลลิเมตร, ระบบกันสะเทือนด้านหลังเป็นแบบ Horizontal Backlink โช้กเดี่ยวปรับพรีโหลดได้วางนอนทำงานร่วมกับสวิงอาร์มเหล็กหล่อทรงปีกคว่ำ, ระบบเบรกด้านหน้า ดิสก์เดี่ยวขนาด 310 มิลลิเมตร ทำงานร่วมกับปั๊มเบรกแบบเรเดียลเมาท์ โมโนบล็อคคาลิปเปอร์ / ด้านหลังดิสก์เดี่ยวขนาด 210 มิลลิเมตร ทำงานร่วมกับโฟลทติ้งเมาท์คาลิปเปอร์ 1 ลูกสูบ, และชุดล้อเป็นแบบอัลลอยด์ขอบ 17 นิ้ว รัดด้วยยางไซส์ 110/70R17 และ 150/60R17

ขณะที่ระบบอิเล็กทรอนิกส์ต่างๆก็จัดมาให้เต็มๆเช่นกันทั้ง คันเร่งไฟฟ้า, แทร็คชันคอนโทรล 4 ระดับ (ทำงาน 3 Level + ปิดแทร็คชัน), และ Power Modes Full/Low, แสดงผลการทำงานต่างๆบนชุดเรือนไมล์แบบอนาลา็อกผสมดิจิตอล ไม่ว่าจะเป็นทั้งความเร็ว, ตำแหน่งเกียร์, โหมดเครื่องยนต์, ระดับน้ำมัน, และอื่นๆแต่มีการเปลี่ยนสเกลวัดรอบภายในใหม่โชว์ตัวเลขสูงถึง 20,000 รอบ/นาที

อย่างไรก็ดี ด้วยความที่ลูกค้าชาวญี่ปุ่นอาจจะชอบนำตัวรถไปลงแข่งขัน จึงทำให้ Kawasaki ZX-25R เวอร์ชันประเทศญี่ปุ่น มีการวางจำหน่ายรุ่นย่อยที่ไม่มีทั้งระบบ ABS และ Quickshifter ขึ้น/ลง มาให้ด้วย ซึ่งตัวรถรุ่นนี้จะวางจำหน่ายด้วยราคา 825,000 เยน หรือประมาณ 244,000 บาท, ตามด้วยเวอร์ชัน SE ที่นอกจากจะใส่ทั้งระบบ ABS และ Quickshifter ขึ้น/ลง มาให้แต่แรก ยังมีชุดคูดมดด้านท้ายกับกันล้มติดตั้งมาให้ด้วย ซึ่งจะสนนราคาที่ 913,000 เยน หรือประมาณ 270,000 บาท ซึ่งอันที่จริงก็จะเท่ากับตัวรถเวอร์ชัน KRT ที่มีออพชันทุกอย่างเหมือนกัน ต่างกันแค่ชุดสีที่เป็นลายทีมแข่ง WSBK ก็เท่านั้น