เดินทางมาถึงสนามที่สองกันแล้วสำหรับการแข่งขัน “เอ.พี. ฮอนด้า เรซซิ่ง แชมเปี้ยนชิพ ฤดูกาล 2016” โดยจะเกิดขึ้นในวันที่ 2-3 กรกฎาคม นี้ ณ สนาม ช้าง อินเตอร์เนชันแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ งานนี้นอกจากการชิงชัยรุ่น TDC และ MSX125SF Super Challenge แล้ว เอ.พี. ฮอนด้า ยังได้เพิ่มรุ่นใหม่ขึ้นมาอย่าง โมโต 3 ไทยแลนด์ ทาเลนท์ คัพ เฟ้นหานักบิดดาวรุ่งฝีมือดีขึ้นมาประดับวงการมอเตอร์สปอร์ตของไทย
การแข่งขันรถจักรยานยนต์ รายการ “เอ.พี.ฮอนด้า เรซซิ่ง แชมเปี้ยนชิพ” เวทีสานฝันให้กับนักบิดหน้าใหม่ที่ใฝ่ฝันอยากสัมผัสประสบการณ์เป็นนักแข่งมืออาชีพ แต่ไม่มีสนามให้ลงแข่งขัน ทาง เอ.พี. ฮอนด้าได้สานฝันมาถึงสนามที่ 2 กันแล้ว โดยสุดสัปดาห์นี้จะไปดวลความเร็วกันที่สนาม ช้าง อินเตอร์เนชันแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์
สำหรับการแข่งขันรายการ เอ.พี. ฮอนด้า เรซซิ่ง แชมเปี้ยนชิพ ซึ่งบริษัท เอ.พี.ฮอนด้า จำกัด ผู้จัดจำหน่ายรถจักรยานยนต์ฮอนด้าในประเทศไทย เป็นผู้สนับสนุนอยู่เบื้องหลัง ได้จัดขึ้นเป็นปีที่ 2 ติดต่อกันแล้วหลังจากประสบความสำเร็จเป็นอย่างดีในการแข่งขันครั้งแรกเมื่อปีที่ผ่านมา ซึ่งการแข่งขันสนามนี้ยังคงเต็มไปด้วยการดวลความเร็วของเหล่านักบิดหน้าใหม่ของไทยในรุ่นต่างๆ เช่น Honda CBR300R Thailand Dream Cup (Division1) และ CBR300R Thailand Dream Cup (Division2) พร้อมด้วยรุ่น Honda MSX125SF Super Challenge ที่เพิ่มเข้ามา
และเพื่อเป็นการเติมเต็มความเร้าใจยิ่งขึ้น เอ.พี. ฮอนด้า ก็ได้เปิดตัวการแข่งขันรุ่นใหม่อีกหนึ่งรายการนั่นคือ Moto 3 Thailand Talent Cup ซึ่งเป็นรถรุ่นเดียวกับ Asia Talent Cup ในศึกชิงแชมป์เอเชีย โดยเปิดโอกาสให้นักบิดรุ่นเยาว์ได้สัมผัสประสบการณ์ความเร็วของรถที่ผลิตขึ้นมาเพื่อการแข่งขัน ก่อนต่อยอดไปสู่การเป็นนักบิดระดับอาชีพในอนาคต ซึ่งก็มีนักแข่งระดับเยาวชนเข้าร่วมแข่งขันรายการนี้ทั้งหมด 12 คนด้วยกัน
โดยรุ่นนี้ คุณอารักษ์ พรประภา รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอ.พี. ฮอนด้า จำกัด ได้ให้รายละเอียดเกี่ยวกับการแข่งขันรุ่นใหม่ที่เพิ่มเข้ามาในสนามนี้ว่า “สำหรับการแข่งขันรุ่น Moto 3 Thailand Talent Cup บริษัทฯ ได้ทำการคัดเลือเยาวชนนักแข่งจากทั่วประเทศที่ผ่าน โครงการ ฮอนด้า เรซซิ่ง สคูล และการแข่งขัน HONDA ONE MAKE RACE มาประลองความเร็วกันซึ่งตอนนี้ก็มีผู้เข้าแข่งขันทั้งหมดแล้ว 12 คน โดยรถที่ใช้จะเป็นรุ่น Honda NSF250R 250 ซีซี ที่ผลิตขึ้นมาเพื่อการแข่งขันโดยเฉพาะ และเป็นสเป็คเดียวกับที่ใช้ในการแข่งขันรุ่น โมโต 3 เลย ซึ่งงานนี้ทุกคนจะได้แข่งด้วยรถสเป๊คเดียวกันหมด ไม่มีใครได้เปรียบเสียเปรียบ”
“ทั้งนี้ ถือเป็นรุ่นใหม่ที่เพิ่มเติมเข้ามาเพื่อเปิดโอกาสให้นักแข่งเยาวชนของเราได้ใช้เป็นเวทีสั่งสมประสบการณ์ เรียนรู้การขับขี่ก่อนพัฒนาตัวเองขึ้นเป็นนักแข่งระดับอาชีพ ซึ่งหากใครทำผลงานได้ดีเราก็พร้อมสนับสนุนเต็มที่และผลักดันให้พวกเขาได้ก้าวขึ้นสู่เวทีที่ใหญ่กว่าเดิมเหมือนกับ (ชิพ) นครินทร์ อธิรัฐภูวภัทร์ ที่ เอ.พี. ฮอนด้า ส่งเสริมให้เข้าร่วมการแข่งขันในรายการ CEV (MOTO3 WORLD JUNIOR CHMPIONSHIP) ซึ่งปัจจุบันกีฬามอเตอร์สปอร์ตของเราก็กลายเป็นกีฬาระดับอาชีพ มีเงินเดือนรองรับด้วย ก็อยากให้ทุกคนช่วยกันเชียร์นักบิดหน้าใหม่ของเรา ซึ่งอนาคตพวกเขาอาจก้าวขึ้นมาสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศชาติ ต่อไป ” คุณอารักษ์ กล่าว
สำหรับการแข่งขัน เอ.พี. ฮอนด้า เรซซิ่ง แชมเปียนชิป สนามที่ 2 ของปี แฟนมอเตอร์สปอร์ตชาวไทยสามารถติดตามชมและเชียร์นักบิดของไทยได้ที่สนาม ช้าง อินเตอร์เนชันแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ ในวันที่ 2-3 กรกฎาคมนี้ รวมถึงสามารถติดตามความเคลื่อนไหวของเหล่านักบิด เอ.พี. ฮอนด้า ได้ที่เว็บ www.aphondaracingthailand.com
ทั้งนี้ การแข่งขัน “เอ.พี.ฮอนด้า เรซซิ่ง แชมเปี้ยนชิพ” ถือเป็นรายการสำคัญที่ทาง เอ.พี. ฮอนด้า จัดขึ้นเพื่อส่งเสริมวงการมอเตอร์สปอร์ตเมืองไทย ให้พัฒนาสู่ระดับแถวหน้าของเอเชีย โดยมุ่งหวังเปิดโอกาสให้นักแข่งมือใหม่ได้เพิ่มพูนทักษะ เรียนรู้ประสบการณ์การเป็นนักแข่งระดับอาชีพ พร้อมกับพัฒนาทักษะของทีมช่างจากเมืองไทยควบคู่ไปด้วยกัน ก่อนผลักดันสู่การแข่งขันในระดับนานาชาติต่อไปในอนาคตภายภาคหน้า
อ่านข่าว Honda เพิ่มเติมได้ที่นี่
เพื่อนๆ Bikers สามารถติดตามข่าวสารวงการล้อ ได้ทางแฟนเพจ MotoRival ของเราครับ
