นับตั้งแต่มีข้อมูลประกาศออกมาเมื่อปลายปี 2016 ว่าทาง Dorna มีแผนที่จะเปิดคลาสการแข่งขันใหม่ประจำศึกการแข่งขันรถมอเตอร์ไซค์ชิงแชมป์โลกโดยใช้รถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า MotoE
โดยเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา รถแข่ง MotoE ก็ได้ถูกขนมาโชว์ตัวในบริเวณ Paddock ของรายการ 2018 ThaiGP (MotoGP ครั้งแรกในไทย) ณ สนามช้างฯ อีกด้วย ซึ่งทางทีมงาน MotoRival เราไม่พลาดเก็บภาพมาฝากกันครับ
สำหรับซัพพลายเออร์หลักเกี่ยวกับเรื่องตัวรถก็คือ Energica จากประเทศอิตาลี ที่เป็นแบรนด์รถสปอร์ตไบค์ไฟฟ้า รุ่น Ego เป็นพื้นฐาน,
Enel เป็นผู้สนับสนุนหลักในเรื่องของชุดระบบชาร์จไฟให้กับตัวแข่ง
โดยตำแหน่งของ ปลั๊กชาร์จนั้นจะอยู่ใต้เบาะผู้ขี่
และท้ายสุดคือมี Michelin เป็นผู้สนับสนุนหลักในเรื่องของยาง
สำหรับรถ MotoE Energica Ego คันนี้ ใช้โช้กหน้า Marzocchi และเบรกจาก Brembo
การแข่งขัน MotoE นั้นถูกจัดขึ้นโดยอาศัยแนวคิดที่ว่าในปัจจุบันหลายองค์กรค่อนข้างซีเรียสกันอย่างมากในเรื่องของมลพิษโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับไอเสียที่เกิดจากการเผาไหม้ของเครื่องยนต์สันดาปภายใน และประกอบกับการที่ในอนาคตอีกไม่ไกลนับจากนี้ยานพาหนะพลังงานไฟฟ้าก็จะเริ่มมีบทบาทมากขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้นการเริ่มจัดเวทีประลองรถมอเตอร์ไซค์พลังงานไฟฟ้ากันซักทีจึงเหมาะสมแล้วที่จะจัดขึ้นในช่วงเวลานี้
ส่วนกฏกติกาการแข่งขันคร่าวๆนั้นก็อย่างที่เรากล่าวกันไว้เบื้องต้นแล้วว่ารถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าที่จะถูกนำมาเป็นตัวแข่งในคลาส MotoE นั้นก็คือ Energica Ego ที่ได้รับการปรับแต่งมาอย่างดีเพื่อให้เหมาะสมกับการแข่งขันครั้งนี้โดยเฉพาะ ดังนั้นชุดแฟริ่งต่างๆรอบคันที่ติดรถมาตั้งแต่ออกโรงงานจึงถูกถอดทิ้งไปแล้วแทนที่ด้วยชุดแฟริ่งสนาม หลังจากนั้นจึงตามด้วยการอัพเกรดระบบมอเตอร์ไฟฟ้าให้สามารถสร้างแรงบิดได้สูงถึง 200 นิวตันเมตรตั้งแต่ 0 จนถึง 5,000 รอบ ส่วนแรงม้าที่ทำได้สูงสุดก็คือ 147 ตัวซึ่งถือว่าใกล้เคียงกับเหล่าตัวแข่งรุ่น Moto2 ในปัจจุบัน
ด้านจำนวนสนามที่ใช้แข่งขันนั้นจะมีอยู่ทั้งหมด 5 สนามทั่วยุโรปต่อฤดูกาลด้วยกัน โดยแต่ละสนามจะทำการแข่งขันทั้งหมด 10 รอบ/ครั้ง ระหว่างช่วงรอบต่อการแข่งขัน Moto2 และ MotoGP ส่วนช่วงทดสอบแบบพรีซีซั่นนั้นก็จะจัดที่สนามเฆเรซ ประเทศสเปนในช่วงสิ้นเดือนนี้
ในขณะที่จำนวนตัวแข่งจะมีทั้งหมด 18 คันด้วยกัน โดยแบ่งเป็น 14 คันสำหรับทีมอิสระ และอีก 4 คันสำหรับทีมจากคลาส Moto2 และ Moto3 ที่สนใจอยากหันเหมาเข้าร่วมการแข่งขันในคลาส MotoE นี้ด้วย
นอกจากนี้ทาง Dorna ยังแอบติดตลกด้วยว่า แม้เอาจริงๆแล้วในการแข่งขันรุ่น MotoE จะไม่มีเสียงเครื่องยนต์ให้ได้ยินก็ตาม แต่เสียงมอเตอร์ไฟฟ้า กับเสียงยางและเสียงลมที่เกิดขึ้นขณะแข่งขันรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าก็เป็นอะไรที่ดึดดูดใจได้ดีไม่แพ้กัน
อ่านข่าว MotoE เพิ่มเติมได้ที่นี่
เพื่อนๆ Bikers สามารถติดตามข่าวสารวงการล้อ ได้ทางแฟนเพจ MotoRival ของเราครับ