เปิดภาพจริง Ducati Panigale V4 R ซุปเปอร์ไบค์ตัวจี๊ดที่สุดในตอนนี้กับราคาเฉียด 3 ล้านบาท [BIMS2019]

2019 Ducati Panigale V4 R ซุปเปอร์ไบค์ตัวท็อปสุดที่กำลังถูกพูดถึงอย่างหนักหน่วงในวงการนี้ เนื่องจากมันคือตัวรถรุ่นเดียวกับตัวแข่ง WSBK ที่ Alvaro Bautista สามารถใช้แข่งขันจน ทำเวลาทิ้งแชมป์โลก 4 สมัย Jonathan Rea สนามละไม่ต่ำกว่า 10 วินาที ซึ่งในวันนี้ทาง Ducati Thailand ก็ได้นำเจ้านี่มาเปิดตัวแล้วเป็ฯที่เรียบร้อยให้ชาวไทยได้ยลโฉมและจับจองมันในงาน Bangkok International Motor Show 2019

โดยหากเทียบกันกับตัว 1199 Panigale R รุ่นก่อน สำหรับ 2019 Ducati Panigale V4 R นั้นจะได้รับการถ่ายทอดเทคโนโลยีจากสนามแข่ง MotoGP ลงมาโดยตรงมากกว่า ทั้งในเรื่องของเครื่องยนต์จนถีงช่วงล่าง แม้แต่ชุดแฟริ่งเองก็ได้รับการติดตั้งชุดวิงเล็ทคาร์บอน ซึ่งช่วยนอกจากจะช่วยในเรื่องของอากาศพลศาสตร์แล้ว และมันยังช่วยให้ตัวรถมีความมั่นคงในช่วงความเร็วสูง เนื่องจากสามารถสร้างแรงกดได้สูงถึง 30 กิโลกรัม ขณะที่ขับด้วยความเร็วทะลุ 270 กิโลเมตร/ชั่วโมงขึ้นไป และด้วยเหตุนี้จึงทำให้มันช่วยลดภาระของระบบอิเลกทรอนิกส์ที่ต้องมาคอยปราบพยศล้อหน้าของมันได้ดีอีกด้วย

ส่วนไฮไลท์สำคัญของเจ้า V4 R ก็คือเครื่องยนต์ลูกเดิมที่ติดตั้งอยู่ใน Panigale V4 / V4 S อย่าง Desmosedici Stradale (V4) 1,103cc ก็ถูกแทนที่ใหม่ด้วยเครื่องยนต์ Desmosedici Stradale “R” (V4) ที่มีขนาดความจุเล็กกว่าคือ 998cc ตามข้อบังคับของการแข่งขัน WSBK ซึ่งแม้ในภาพรวมตัวเครื่องยนต์ลูกใหม่นี้จะมีแรงหรือกำลังในช่วงต้นด้อยกว่าเครื่องยนต์รุ่นปกติ แต่มันก็ถูกออกแบบมาเพื่อรีดเค้นกำลังในช่วงรอบสูงที่จำเป็นต่อการแข่งขันมากกว่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของการรีดน้ำหนักชิ้นส่วนภายใน เช่น ก้านสูบไทเทเนียม ที่เบากว่าเดิม 100 กรัม/ชิ้น กับ แครงก์ชาฟท์ชิ้นใหม่ที่เบาลงถึง 1.1 กิโลกรัม เมื่อเทียบกับของเดิม และมีการปรับปรุงในเรื่องของระบบไหลเวียนอากาศอีกชุดใหญ่ ไล่ตั้งแต่ ปากท่อ RAM-Air ต่อไปยังหม้อกรอง ผ่านลิ้นเร่ง ลงไปถึงชุดวาล์วไทเทียม ที่ถูกขยายความกว้างออกทั้งหมด ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจเท่าไหร่นักที่เรดไลน์ของมันจะสามารถไปขึ้นไปได้สูงถึง 16,500 รอบ/นาที (ของ V4 / V4 S มีเรดไลน์อยู่ที่ราวๆ 14,500 รอบ/นาที)

และผลที่ได้ก็คือ ใน Panigale V4 R รุ่นใหม่นี้ จะพกพาเอาแรงม้าติดตัวตอนออกโรงงานมาไว้ใต้หว่างขาผู้ขี่สูงถึง 217 แรงม้า ที่ 15,250 รอบ/นาที ซึ่งถ้าหากลูกค้าตัดสินใจติดตั้งชุดท่อไอเสีย Full System เต็มระบบสำหรับแข่งขันของ Akrapovic เข้าไปก็จะยิ่งทำให้พละกำลังสูงสุดของมันเพิ่่มขึ้นไปอีกจนแตะ 230 แรงม้า ที่ 15,500 รอบ/นาที พร้อมขึ้นแท่นเป็น รถมอเตอร์ไซค์ที่แรงที่สุดเท่าที่ Ducati เคยทำมา และเผลอๆอาจจะขึ้นแท่นรถซุปเปอร์ไบค์คลาส 1,000cc ที่แรงที่สุดในขณะนี้เลยด้วยซ้ำ

ด้านชุดเฟรมหลักตัวรถ แม้จะยังคงอิงพื้นฐานเดียวกันกับ V4 และ V4 S แต่ทาง Ducati ก็ได้ปรับปรุงช่วงจุดยึดสวิงอาร์มด้านหลังของ V4 R นิดหน่อยเพื่อให้มันสามารถขยับขึ้นลงได้ 3 มิลลิเมตร

และเปลี่ยนชุดโช้กหน้าหัวกลับของ Ohlins ใหม่เป็นรุ่น NPX รหัส 25-30 ขนาดแกน 43 มิลลิเมตร ปรับเซ็ทได้ทุกค่า ส่วนด้านหลังยังคงเป็นรุ่น TTX 36 เช่นเดิม และไม่มีการติดตั้งระบบควบคุมไฟฟ้าเพิ่มเข้าไปแต่อย่างใด ส่วนนึงก็เพื่อรีดน้ำหนักตัวรถให้เบาลงกว่าเดิม ซึ่งผลที่ได้ก็คือน้ำหนักตัวของมันเมื่อรวมของเหลวพร้อมขี่จะเบากว่าพี่น้อง V4 ไปอีก 2 กิโลกรัม เหลือ 172 กิโลกรัม แต่เอาจริงๆแล้ว เรื่องน้ำหนักตรงนี้ต้องยกให้กับเครื่องยนต์ลูกใหม่ที่เบาลงมากกว่า

รวมถึงชุดปั๊มเบรกคู่ด้านหน้าของมันเองก็ยังคงใช้ของ Brembo รุ่น Stylema (M4.30) เช่นเดิมไม่ได้ต่างจากพี่น้อง V4 รุ่นอื่น

ด้านระบบอิเล็กทรอนิกส์ของ V4 R ต้องบอกว่าแม้จะไม่ได้เพิ่มอะไรจากเดิมมามากมายนัก แต่ทาง Ducati ก็ได้ให้ข้อมูลเพิ่มอีกว่า พวกเขาได้ทำการอัพเดทซอฟท์แวร์ใหม่ให้ทำงานได้ฉลาดยิ่งขึ้นเมื่อเทียบกับพี่น้อง V4 ซึ่งประกอบด้วย Riding Modes, Power Modes, Bosch Cornering ABS EVO, Ducati Traction Control (DTC) EVO, Ducati Wheelie Control (DWC) EVO, Ducati Slide Control (DSC), Engine Brake Control (EBC) EVO, Auto tyre calibration, Ducati Power Launch (DPL), Ducati Quick Shift (DQS) up/down EVO, GPS module, Lap Timer EVO, PIT limiter โดยทั้งหมดที่ว่านี้จะถูกนำไปแสดงผลบนหน้าจอ TFT-Full Color ขนาด 6.5 นิ้วทั้งหมด

ส่วนราคาค่าตัวของเจ้า 2019 Ducati Panigale V4 R คันนี้ก็ถือได้ว่าเป็นไปตามคาด เพราะทาง Ducati Thailand ได้ประกาศตั้งราคาค่าตัวของมันไว้ที่ 2,990,000 บาท โดยหากลูกค้าท่านใดสนใจ ก็สามารถติดต่อจับจองได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป