รีวิว 2019 Yamaha MT-07 ราชาแรงบิดแห่งมิดเดิลเวท พร้อมตะลุยสภาพจราจร Dark side of Bangkok

ในช่วงที่กระแสของรถมิดเดิลเวท กำลังมาแรง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของดีไซน์ หรือ กำลังเครื่องยนต์ รวมไปถึงออปชั่น ที่น่าสนใจต่างๆ
ในวันนี้ MotoRival เราขอพามาพบกับ รถ Naked Middle Weight อีกหนึ่งคันที่มีความโดดเด่นในตัว ที่เรียกได้ว่ามีจุดเด่นที่ไม่ได้ด้อยกว่าใคร นั่นก็คือ 2019 Yamaha MT-07 รถ Naked จอมพลังในคลาสมิดเดิลเวท ตระกูล MT Series สมญา Dark Side of Japan มันจะขี่ดีขนาดไหนต้องมาชมใน รีวิว 2019 Yamaha MT-07 คันนี้ กันครับ

เริ่มในส่วนของดีไซน์ MT-07 ยังคงสไตล์เอกลักษณ์ ความดิบดั้งเดิมได้เป็นอย่างดี

ไฟหน้า หยิบยกมาจาก MT-09 โฉมเก่า
ไฟเลี้ยวคู่หน้าถูกยกไปอยู่ด้านข้างแฟริ่ง

ไฟท้ายแบบ LED ปรับดีไซน์ใหม่
ขายึดทะเบียนยังคงสามารถถอดทำท้ายสั้นได้ เช่นเดิม

กาบข้าง และถังน้ำมัน
ปรับดีไซน์ใหม่ ช่วงบนดูกว้างขึ้นกว่าเดิม จึงดูมีมิติ ให้ความรู้สึกดุดันยิ่งขึ้น

บั้นท้ายปรับใหม่ ดูเป็นชิ้นเดียวกันตั้งแต้เบาะผู้ขี่ยาวไปจนถึงชิ้นไฟท้าย

ตัวเบาะนั่ง มีขนาดใหญ่กว่าเดิม พื้นที่คลุมมาถึงด้านท้ายติดกับเบาะผู้ซ้อน

ท่อไอเสียปลายสั้นออกใต้ท้อง ดีไซน์พิมพ์นิยมยุคปัจจุบัน

มาตรวัดเป็น Full Digital LCD แสดงข้อมูลครบทั้ง
Odo, Trip A, B เกจ์น้ำมัน, อัตราสิ้นเปลือง, อุณหภูมิ นาฬิกา มีตัวเลขบอกตำแหน่งเกียร์ รอบเครื่องยนต์เป็นสเกลในแนวนอนด้านล่าง ขณะความเร็วบอกเป็นตัวเลข

ชุดสวิทช์ไฟซ้าย มีปุ่มไฟสูง-ต่ำ ไฟ Pass และ แตร
ชุดสวิทช์ไฟขวา ปุ่ม Engine Start แบบดันนิ้วลงเพื่อติดเครื่องยนต์ ขณะที่ด้านล่างมีการติดตั้งปุ่มไฟฉุกเฉินให้ด้วย

ก้านเบรกหมุนปรับได้ 5 ระดับ

ไซส์ยางหน้ากว้าง 120 ขณะที่ด้านหลังกว้าง 180 มม. ใหญ่เท่ากับรุ่นพี่ MT-09

ด้านมิติรถ
MT-07 มีน้ำหนัก Wet เพียง 182 กก.
ความสูงเบาะ 805 มม.
ถังน้ำมันจุ 14 ลิตร

ท่านั่ง การควบคุมรถ

ความสูงเบาะในระดับ 805 มม. ถือว่าเป็น Naked ที่มีความสูงพอประมาณ
อาจจะดูสูงเกินไปสำหรับผู้ขี่ที่มีสรีระต่ำกว่า 170 ซม.

เบาะนั่งซ้อน แม้เป็นเบาะแบบ 2 ตอน แต่ก็ถือว่านั่งได้สบายพอสมควร จากตัวเบาะที่แบน และกว้าง ขณะที่ด้านท้ายเบาะยาวขึ้นกว่าตัวเดิม

การคอนโทรลรถ สามารถควบคุมได้ง่าย จาก นน.ตัวที่เบา และช่วงตัวรถที่สั้น แฮนด์บาร์สั้น
ประกอบกับตำแหน่งแฮนด์บาร์ ที่ดูไม่สูงนัก ช่วยให้การซอกแซกช่องจราจรรถติดในเมืองทำได้สะดวก

มีจุดที่แอบรู้สึกขัดมือไปนิดคือ ที่บิดกุญแจ อยู่ด้านหน้าเรือนไมล์ ต้องเอื้อมมือไปบิดทางด้านหน้า เหมือน MT-07 โฉมเดิม

เครื่องยนต์ CP2 แบบ 2 สูบเรียง ระบายความร้อนด้วยน้ำ ความจุ 689cc กำลัง 74.8 PS @9,000rpm และแรงบิด 68Nm@6,500rpm

การใช้งานนั้น ถือว่า ตอบโจทย์ดีมาก สำหรับการขี่ในเมือง
ทันทีที่เปิดคันเร่งออก ในช่วงรอบเครื่งอต่ำ ถือว่าไม่มีอาการสั่น กระตุก ในแบบสไตล์เครื่อง 2 สูบนัก ซึ่งดูสมูท และรู้สึกว่าควบคุมได้ไม่ยากเย็น

แต่เมื่อเปิดคันเร่งพ้นช่วงราวๆ 3,500rpm + รู้สึกทันทีว่าทอร์คมาอย่างหนักหน่วง ช่วง Torque Band กว้างเหลือๆ แรงบิดถูกรีดออกมาให้พร้อมใช้งานตั้งแต่รอบต่ำ ยัน รอบเครื่องปลาย ถึงระดับ 9,000rpm

หากเผลอเปิดคันเร่งไม่ระมัดระวัง แบบกระแทกออกตั้งแต่แรก แรงดึงกระชากจากตัวรถ อาจทำให้หน้ายกได้

แต่ถ้าชินมือแล้วล่ะก็ ขี่ในเมืองต้องบอกว่ามันส์มาก บิดติดมือ ขี่สนุก พร้อมทะยานเร่งแซงได้ดั่งใจคิด โดยที่ไม่รู้สึกว่ามันแรงน่ากลัว แบบเกรงว่าจะเอาไม่อยู่อย่างผู้พี่ MT-09

น่าเสียดายนิดตรงที่ไม่มี Slipper Clutch จึงทำให้รู้สึกว่า น้ำหนักคลัทช์นั้นจึงดูหนักนิ้วมือไปเสียหน่อย
ขณะที่การ Shift Gear ลง เพื่อทำ Engine Brake นั้น สำหรับผู้ที่ชอบอาการดึงหนักๆ คงจะถูกใจไม่เบา

แต่สำหรับผู้ที่ไม่ชิน อาจต้องระมัดระวัง กำลังเครื่องที่ถ่ายลงล้อหลังค่อนข้างหนัก

ดังนั้นถ้าจะให้ดี ควรเบิลคันเร่งทิ้งในขณะตบเกียร์ลง เพื่อตัดกำลังเครื่องไม่ให้ลงที่ล้อหลังมากเกินไป จะช่วยลดอาการล้อล็อกได้

ระบบกันสะเทือน
ด้านหน้า โช้กอัพหัวตั้งเทเลสโคปิก

ด้านหลัง โช้กอัพเดี่ยว วางนอนกลางบอดี้ บนสวิงอาร์มอลูมีเนียมขนาดสั้น
การใช้งานโดยรวมถือได้ว่าเป็นรถมิดเดิลเวทที่ช่วงล่างดูดีทีเดียว ให้ความกระชับแน่นเฟิร์มกว่าเพื่อนหลายรุ่นในคลาสเดียวกัน จากการปรับเซ็ทใหม่ที่ให้ความเป็นสปอร์ตมากกว่าโฉมเดิม รวมไปสามารถปรับรีบาวน์ที่โช้กหลังได้อีกด้วย

นอกจากนี้ ตามที่บอก คือ ช่วงแฮนด์สั้น และ สวิงอาร์มสั้น มันจึงดูกระฉับกระเฉง คล่องตัวเป็นพิเศษ ในการขี่ในเมืองที่ต้องการรถที่คล่องตัว

ขณะที่การขี่ในสนามก็ทำได้ดี ในจังหวะพลิกโค้งทำได้ง่าย รวมไปถึงไซส์ยางหลังกว้าง 180 มม. ทำให้การเทโค้งทำได้อย่างมั่นใจ

ระบบเบรก ไฮโดรลิก มาพร้อมระบบ ABS
จานเบรกหน้าคู่ขนาด 282 มม. ปัํมไฮโดรลิก ตราดาว OEM ของ Yamaha ขณะที่ปั๊มบนเป็นของ Brembo

ด้านหลังจานเดี่ยวขนาด 245 มม. ปั๊มเบรก Nissin 1 ลูกสูบ

ในการใช้งานจริง ต้องขอบอกว่า ปั๊มตราดาวนี้ ไว้ใจได้เสมอ ไม่ว่าจะอยู่บนรถ Yamaha รุ่นใด

แม้จะเป็นรูปแบบ Axial Mount บน MT-07 คันนี้ แต่ประสิทธิภาพนั้น เรียกได้ว่า ดีกว่าคันอื่นในคลาสมิดเดิลเวท พละกำลังในการจับจานเบรกถือว่าแรงดีหนักหน่วง เบรกอยู่ไว้ใจได้

แต่จุดที่เราไม่ค่อยชอบนัก คือ การทำงานของ ABS ที่เรียก มาไวไปจนเข้าข่ายฟุ่มเฟือยไปหน่อย ซึ่งการเบรกจน ABS ทำงาน อาจทำให้เสียจังหวะไปหน่อย ถ้าสามารถปิด ABS ได้จะเป็นอะไรที่ดีมาก

สรุป รีวิว 2019 Yamaha MT-07 ในครั้งนี้ ถือได้ว่า แรงม้าจะไม่เป็นปัญหากับคุณอีกต่อไป เพราะ MT-07 เป็นรถเน็คเกทจอมพลัง (แรงบิด) แห่งคลาสมิดเดิลเวท กับฉายาตระกูล MT = Master of Torque หรือ ราชาแรงบิด เมื่อเทียบกับรถมิดเดิลเวทในระดับเดียวกัน เพราะการใช้รถในขนาดกลาง แรงบิดถือเป็นสิ่งสำคัญมากกว่าแรงม้า มันส่งผลให้อัตราเร่งแซงที่ยอดเยี่ยม ใช้งานบน Street ถือว่าเหลือเกินพอ นอกจากนี้ มันยังมีน้ำหนักที่เบา คอนโทรลง่าย คล่องตัว เหมาะอย่างยิ่งกับการขี่ในเมือง กับชีวิตที่เร่งรีบเฉกเช่นเมืองกรุง ให้คุณตะลุยฝ่าสภาพถนนที่สุดแสนจะ Dark Side of BKK ไปได้อย่างไม่ยากเย็น

ราคา Yamaha MT-07 อยู่ที่ 2.99 แสนบาท เมื่อเทียบกับการได้รถนำเข้าจากญี่ปุ่นทั้งคัน รวมถึงสมรรถนะที่โดดเด่นกว่าเพื่อนในคลาสเดียวกันแล้ว
สำหรับผู้สนใจสามารถติดต่อได้ทาง Yamaha Rider’s Club ทั่วประเทศครับ