รีวิว ADV350 สัมผัสแรก สั้นๆ ในสนามลานขี่ Safety หลังจากที่ได้พาพรีวิวไปแล้วก่อนหน้า
รีวิว ADV350 แบบสัมผัสแรก 1st impression มาให้เพื่อนๆ ได้รับชมกันแล้ว หลังจากที่ทีมงาน MotoRival เราได้พา พรีวิว ชมคันจริงกันไปเป็นที่เรียบร้อย (ชมได้ที่นี่)ในวันนี้ ขอพาทุกคนมารับชมรีวิว 1st impression กันต่อครับ (จะไม่ขอลงรายละเอียดตัวรถซ้ำแล้วนะครับ เพราะ พาชมพรีวิวไปแล้ว)
เริ่มกันที่ท่านั่ง ต้องบอกว่า ADV350 นั้น มีความสูงเบาะในระดับ 795 มม. แต่ตัวเบาะแน่นอน ค่อนข้างกว้าง ทำให้ผมลงที่สูง 175 ซม. นั่งลงได้ไม่เต็มส้น ถ้าไม่ได้นั่งในส่วนปลายสุดของเบาะที่แคบที่สุด
แต่จุดที่ชอบต่อมาคือ ตำแหน่งแฮนด์เทเปอร์บาร์ ที่ดูแล้วให้การควบคุมที่ดี แฮนด์ทรงกางยาว ทำให้คอนโทรลได้ง่าย แต่ถ้าขี่รถติดๆ ก็จะไม่กระฉับกระเฉงแบบ Forza แถม Forza ยังได้กระจกแบบหักพับได้แบบ On Fly เลย ทำให้ มุดการจราจรได้สะดวกมากๆ
ขณะที่ ADV350 แฮนด์กางยาว และยังมีการ์ดแฮนด์ กับกระจกที่ยึดบนประกับ ทำให้การมุดรถติดทำได้ไม่คล่องตัว
วินชิลด์ปรับได้ 4 ระดับ ซึ่งสำหรับผมก็ถือว่า ok แต่ปัญหา คือ มันต้องและใช้สองมือดึงขึ้น ดังนั้นผมมองว่าถ้าขี่ในเมืองผมจะปรับต่ำสุด เพื่อให้ลมโกรกได้ เย็นสบาย อย่างในสนาม Safety เช่นนี้ ไม่ต้องดึงชิลด์ขึ้นเลยด้วยซ้ำ
ด้าน นน.ตัว 186 กก. ก็ถือว่าเป็น นน.ตัวรถพิกัดนี้ประเภทนี้ ไม่ได้ดูเบา หรือ หนักแต่อย่างใด
แต่ทว่าภาพรวมผมว่าการคอนโทรลของมันดูดีมากๆ ไม่ได้คอนโทรลยากเย็น เหมือนอย่างที่คิดไว้ เพราะแว่บแรกผมเห็นรถตัวจริงขนาดใหญ่กว่าในรูปพอสมควรเลย ทำให้แอบเกรงๆ แต่พอได้ลอง ก็ไม่ได้คอนโทรลลำบากกว่า Forza เลย ลักษณะแฮนด์ดูทำให้มันคอนโทรลพลิกได้ง่ายกว่าด้วยซ้ำ
ขุมพลังเครื่องยนต์ eSP+ 330cc เปิดปุป เป็นมาพร้อมให้เรียกใช้งานได้ตั้งแต่ย่านต้น ให้ความจัดจ้าน ออกตัวไฟแดงไม่เป็นสองรองใคร ความเร็วกลางก็ไหลได้ยาวๆ ถึงย่านปลายใน Forza 350 ก็จมไมล์ที่ 160 กม./ชม. มาแล้ว
แต่สำหรับในแทร็กเล็กๆ แคบๆ อย่าง สนาม Safety นี้ผมเองอาจจะมองว่ามันแรงเกินไปด้วยซ้ำ ต้องค่อยเดินคันเร่งให้ดีสักหน่อย ไม่งั้น TC อาจมาช่วยได้ในจังหวะเปิดล้นเกิน
ระบบกันสะเทือน นี่ล่ะ จุดดีงาม!
ด้านหลังแม้จะปรับ พรีโหลด ไม่ได้ แต่ก็ ลักษณะเช่นเดียวกับ ADV150 โช้กยาว และมีช่วงยุบให้ตัวมาก โดยรวมผมว่าอารมณ์เฟิร์มๆ แน่นๆ ตามชื่อ SUV Bike หรือ เหมือนรถยนต์ อาจไม่ได้นุ่มนุ่ม ติดแข็งเล็กๆ แต่สำหรับผมชอบมากกว่าโช้กปกติ เพราะมันดูย้วยไป และไม่ค่อยเกาะ จนหลายคนต้องไปเปลี่ยนโช้กหลัง อัพเกรดโดยการเซ็ทโช้กหน้า
แต่ ADV350 โช้กหน้า USD ตอนเราขี่ผ่านทางขรุขระ ลูกระนาดช่วยได้เยอะ ไม่ Bumping สะเทือนขึ้นมือ และมีระยะยุบที่สูงขึ้นก็รู้สึกช่วยในเรื่องการให้ตัว และไม่ต้องกลัวโช้กยันเวลา เราขี่มาเร็วๆ แล้วเจอ Bump แรงๆ ด้วย
ด้านระบบเบรก โดยรวมผมว่า ก็ถือว่าใช้ได้แล้ว กับคาลิปเปอร์ Nissin 2 pot ทางด้านหน้า ซึ่งถ้าให้สังเกตุรถ จานเบรกหน้าเดี่ยวของรถ AT Honda มักจะอยู่ฝั่งซ้าย ซึ่งก็ถือว่าคิดออกแบบมาแล้วว่าช่วยในการบาลานซ์การเบรกได้ดี อันนี้ถือว่าจริง ถ้าเทียบกับเบรกเดิมของรถคู่แข่งในคลาสที่ ถือว่าไม่ค่อยเวิร์คเลย
โดยรวมเบรกของ ADV350 ถือว่าเพียงพอต่อการใช้งานทั่วไป แต่ถ้าใครสายซัด อาจอัพเกรดเบรกเพิ่มก็น่าจะเหมาะสมกับการใช้งานมากแบบขาซิ่งยิ่งขึ้นไปอีก
สรุป รีวิว ADV350 แบบสั้นๆ แต่ก็พอได้ใจความว่า มันเป็นรถที่ขี่คอนโทรลให้การควบคุมที่ดี ช่วงล่าง จบแบบไม่ต้องทำอะไรเพิ่ม อัตราเร่ง จากบล็อก eSP+ ก็การันตีได้จาก Forza350 อยู่แล้ว ถ้ายังไม่พอ ช่างไทยก็พร้อมโมดิฟายเพิ่มให้แรงขึ้นไปอีกได้
ส่วนความอเนกประสงค์ ทั้งจาก U-box ขนาดใหญ่ มีช่องจ่ายไฟ แถมเชื่อมต่อ Smartphone ได้ในรุ่น Roadsync ผมว่า เป็นคันเดียวที่จบครบทุกเส้นทาง (ไม่ได้ไปลุยหนักขนาดปีนหิน)
สำหรับ ราคา ADV350 เริ่ม 181,900 บาท ในรุ่น STD สำหรับผม แพงขึ้น 6,400 บาท จาก Forza 350 น่าสนใจมาก ไม่แพงเกินไป
แต่ถ้าใครใช้ android 7.0 ขึ้นไป แนะนำเพิ่มอีก 2,000 ได้ระบบ Roadsync ไว้เชื่อมต่อ Smartphone รับสายโทร ฟังเพลง อะไรได้ ก็คุ้มนะ
ส่วนตัวแต่งใครชอบการตกแต่งมาจากโรงงานแบบจบๆ ไม่ต้องไปแต่งเพิ่ม และได้ความเป็น Limited ก็อย่าลืมไปดูจับจองได้ในงาน Motor Show 2022 สัปดาห์หน้าครับ
อ่านข่าว Honda เพิ่มเติมได้ที่นี่
อ่านรีวิว เพิ่มเติมได้ที่นี่
