พรีวิว Honda ADV350 คันเดียวจบทุกการเดินทาง เริ่ม 1.819 แสน

พรีวิว Honda ADV350 พรีเมี่ยม AT ที่สายบิ๊กสกู๊ตเตอร์รอคอย

พรีวิว Honda ADV350 เปิดตัวแล้ว กับรถที่น่าสนใจที่สุดของทางค่ายปีกนกในปีนี้ โดยก่อนอื่นที่จะมาเข้าเรื่องของตัวรถ ผมขอพูดถึงที่มาของมันสักหน่อยก่อน หลังจากที่ผมได้เคย รีวิว ADV150 ไปเมื่อปี 2019 ผมรู้สึกว่ามันเป็น Scooter ที่ยอดเยี่ยมคันหนึ่งเลย เพราะเหมาะกับการขี่เดินทางในเมืองไทยมากๆ ที่จราจรติดขัด และถนนเป็นหลุมเป็นบ่อ แต่ก็ยังรู้สึกติดอยู่ สัก 2 เรื่องก็คือ อยากได้ที่มีพละกำลังกว่านี้ เพื่อจะได้เดินทางไกลได้อย่างไม่เหนื่อยเกินไป รวมถึงพื้นที่เก็บสัมภาระเพิ่มเติมอีกสักหน่อย

ซึ่งถ้าจะมองหารถ ADV Scooter ก็คงต้องข้ามไปที่พี่ใหญ่อย่าง X-ADV เลย แต่มันจะเป็นตัวนำเข้า เป็นรถที่หนักสมรรถนะแรง อาจจะเกินความจำเป็นสำหรับใครหลายคน และค่าตัวที่จับต้องได้ยากสักหน่อย

ผมจึงคิดอยู่ว่าจะมีโอกาสไหมที่ Honda จะเอาพื้นฐานของ Forza350 มาปรับปรุงให้กลายเป็นรถ ADV350 และในที่สุดก็มาจริงๆ เพราะเปิดตัวครั้งแรกในโลกที่งาน EICMA2021 ปลายปีที่แล้ว ทำให้ผมตื่นเต้นรอคอยการมาปรากฎตัวของมันในไทยเลย
เพราะนี่คือรถที่ผมเชื่อว่าหลายคนรอคอย จบในทุกเส้นทางการเดินทางทั้งในเมือง นอกเมือง จะขนสัมภาระ และที่สำคัญพร้อมลุยในทุกเส้นทาง

และขอกลับมาเข้าเรื่องตัวรถกัน เริ่มที่รูปลักษณ์ งานดีไซน์สำหรับผมถือว่าสวยลงตัว เพราะเหมือนนำเอาเส้นสายของพี่ใหญ่ X-ADV มาย่อไซส์ลง

ประยุกต์กับหน้าตาของ ADV150 ได้อย่างลงตัว จากชุดไฟหน้า LED

และ วินชิลด์ที่ปรับระดับได้ 4 ขั้น

นอกจากนี้ก็มีการให้การ์ดแฮนด์มาพร้อม

ไฟท้าย LED ดีไซน์ใหม่ดูเท่รับกับเส้นข้างตัวรถ

สีเงิน, แดงด้าน, ดำด้าน ต้องบอกว่าสวยทุกสี

เบาะนั่งแบ่ง 2 Step พร้อมโหนกกันคนซ้อนไหล ตำแหน่งเบาะผู้ซ้อนสวยงามมีการตัดลาย เป็นตัว X

และเมื่อเปิดเบาะขึ้นมา นี่ล่ะ ที่ดีงามอีกจุดตามแบบ Forza 350 คือ ช่อง U-Box ขนาดใหญ่ 48 ลิตร เก็บหมวกเต็มใบได้ 2 ใบ
รวมถึงสามารถเอากระเป๋ากล้อง และขาตั้งกล้องวางเข้าไปได้เลย

ระบบกุญแจแบบ Keyless อันเป็นมาตรฐานของรถ AT ยุคใหม่

เก๊ะเก็บของมาพร้อมช่อง USB Type-C

หน้าจอ Full-Digital LCD ในลักษณะที่ดูคล้ายกับ X-ADV
มาพร้อมระบบเชื่อมต่อ Smartphone Honda Smartphone Voice Control system (HSVCs) ผ่านแอป Honda Roadsync
ซึ่งจะควบคุมการทำงานของฟังก์ชั่นต่างๆ ด้วยเสียง และกดสั่งการผ่านสวิทช์แฮนด์ซ้าย
แต่การเชื่อมต่อนี้ รอบรับเฉพาะ Android 7.0 ขึ้นไป

ขณะที่ระบบ HSTC (Honda Selectable Torque Control) ปรับได้ 2 ระดับ และยังปิดได้ด้วย เอาใจสายลุย อยากจะไปดริฟต์เล่นทางฝุ่น

แฮนด์เทปเปอร์ที่ช่วยให้การคอนโทรลรถทำได้เหมาะสมตามสไตล์รถลุย

ชุดท่อไอเสียปรับทรงใหม่ เป็นทรงเหลี่ยม ดูสวยงามและปราดเปรียวให้ความสปอร์ตยิ่งขึ้น

มิติรถ
นน.ตัว 186 กก.
ความสูงเบาะ 795 มม.
ระยะ Ground Clearance 155 มม. (สูงกว่าเวอร์ชั่น UK 10 มม.)
ความจุถังน้ำมัน 11.7 ลิตร

เครื่องยนต์ eSP+ พิกัด 329cc แบบ SOHC 4 วาล์ว ส่งกำลังด้วยระบบสายพาน CVT
บล็อกเดียวกับ Forza 350 ซึ่งการันตีได้เลยในเรื่องของความแรง เพราะทีมงาน MotoRival เราได้เคยทำรีวิว พร้อมทดสอบอัตราเร่ง – TopSpeed ไปแล้วว่า เค้าสุดในคลาส Big Scooter พิกัดไม่เกิน 400cc เดิมๆ วิ่งจมหน้าไมล์ได้สบาย

ระบบกันสะเทือน
เห็นกระบอกสีทองแบบนี้ ที่หลายคนรอคอยเลย นั่นก็คือ ชุดโช้กอัพหน้าแบบ USD มาเป็นที่เรียบร้อย โดยมีขนาดแกน 37 มม. มีระยะยุบ 125 มม.

ด้านหลังโช้กแก๊ส คู่มาพร้อมกระปุกซับแทงค์แยกจาก SHOWA ระยะยุบถึง 130 มม. อันนี้ก็ดีงามอีกเช่นกัน เพราะหลายคนมักบ่นถึงโช้กหลังคู่เดิมๆ ของพวกรถ Scooter ทั้งหลาย ซึ่งที่จริง Honda ให้โช้กลักษณะนี้มาตั้งแต่ ADV150 แล้ว และผมรู้สึกได้เลยว่ามันเพียงพอ เฟิร์มแน่น ไม่ย้วย

ถ้าไม่ใช่สาย Hardcore หรือ ชอบขันปรับ Preload บ่อยๆ จากการแบกสัมภาระ หรือมีผู้โดยสารไกลๆ โช้กหลังตัวนี้ผมว่าจบ ok เลย

ชุดล้ออัลลอย ปรับลายใหม่ เป็นแบบ X-Shape 6 ก้าน ด้านหน้าขนาด 15″ หลัง 14″ และปรับมาใส่ยางแบบ Dual Purpose

ระบบเบรก จะเหมือนกับ Forza 350 คือ มีระบบ ABS Dual Channel พร้อมไฟ ESS เมื่อเบรกกระทันหัน
ด้านหน้าจานดิสก์เดี่ยวขนาด 256 มม. ทำงานร่วมกับปั๊ม Nissin 2 pot
ด้านหลังจานเดี่ยวขนาด 240 มม. ทำงานร่วมกับคาลิปเปอร์ Nissin 1 pot

สรุป พรีวิว Honda ADV350 ใหม่ คันจริง ต้องบอกว่าสวยงาม ตามที่คิด ตัวจริงดูใหญ่กว่าที่คิดอีกด้วย
ฟีเจอร์ฟังก์ชั่นทำออกมาพร้อมลุยมากขึ้นกว่า Forza 350 ขณะที่มันคงความอเนกประสงค์สุดในคลาสของ ADV (U-Box ใหญ่กว่า ADV150 และ X-ADV) เรียกได้ว่าออกรถคันนี้คันเดียวจบครบทุกการเดินทาง แทบจะไม่ต้องไปทำอะไรเพิ่มแล้ว
ในด้านสมรรถนะถ้าทีมงาน MotoRival เราได้รีวิว จะรีบมาอัพเดทให้เพื่อนๆ รับทราบกันโดยเร็วครับ

ADV350 ราคา เริ่ม 181,900 บาท ในรุ่น STD
และ 183,900 บาท ในรุ่น Roadsync

นอกจากนี้ยังมีเวอร์ชั่นตัวแต่งพิเศษ Limited ที่มีจำกัด อีก 2 รุ่น คือ
ADV350 Urban Racer Edition ราคา 199,500 บาท (ใช้สีแดง รุ่น Standard มาตกแต่ง)
ADV350 Touring Master Edition ราคา 197,500 บาท (ใช้สีดำ รุ่น Roadsync มาตกแต่ง)