หลังจากที่ทาง Pacemax ได้มีการประกาศเป็นผู้แทนจำหน่ายยางรถมอเตอร์ไซค์ Bridgestone รายใหม่ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการเมื่อกลางเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ในตอนนี้ครับ ผมก็จะขอมา รีวิว Bridgestone BATTLAX SPORT TOURING T31 มา เพื่อทำการทดสอบ โดยมีเจ้า Kawasaki Versys 1000 SE แอดเวนเจอร์ทัวร์ริ่งไบค์ที่เน้นวิ่งถนนดำเป็นหลักเป็นคู่ทดสอบเรียบร้อย และมันจะมีจุดเด่นอะไรที่น่าสนใจบ้าง เรามาว่ากันเลยครับ
สำหรับยาง Bridgestone BATTLAX SPORT TOURING T31 ถือเป็นยางรถมอเตอร์ไซค์ที่ถูกแตกย่อยออกมาจาก Bridgestone BATTLAX Sport Series ทว่าเพื่อให้มันมีประสิทธิภาพในการใช้งาน เหมาะสมกับลักษณะการขี่ที่เปลี่ยนจาก สปอร์ตเพียวๆ เป็น สปอร์ต-ทัวร์ริ่งมากขึ้นตามชื่อ ดังนั้นจุดที่หน้ายางของเจ้า T31 จะแตกต่างจาก Battlax Sport ก็คือ
1.มีการเพิ่มร่องดอกยางทางด้านข้างเพื่อเพิ่มอัตราการรีดน้ำและความสามารถในการยึดเกาะบนทางเปียก
2.เพิ่มพื้นที่ผิวสัมผัสของหน้ายางตรงกลางให้มากขึ้นเพื่อเพิ่มความสามารถในการเบรกบนทางแห้งและเปียก
3.ลายดอกยางด้านหน้าออกแบบรูปทรงให้มีความแข็งแรงเป็นพิเศษเพื่อเพิ่มอัตราการตอบสนองต่อสิ่งต่างๆบนพื้นถนนของหน้ายาง และช่วยให้การพลิกเลี้ยวทำได้ฉับไวขึ้น เช่นเดียวกับลายดอกยางด้านหลังที่ออกแบบแนวการกวาดเส้นมาเพื่อช่วยเสริมการพลิกเลี้ยวให้สามารถทำได้คล่องตัวขึ้นบนทางแห้ง
และแม้ยาง T31 ตัวนี้ จะถูกผลิตขึ้นในประเทศญี่ปุ่นตามถิ่นกำเนิดดั้งเดิมของแบรนด์ ดังที่มีการสลักไว้ตรงแก้มยางว่า “Made In Japan” ที่เพื่อนๆเห็นกันอยู่ตอนนี้ แต่จากการให้ข้อมูลของทาง Bridgestone ก็ระบุว่ายางที่ถูกส่งไปวางจำหน่ายในแต่ละทวีปหรือประเทศนั้นๆจะมีสูตรเนื้อยางที่ต่างกันออกไป เพื่อให้มันเหมาะสมกับสภาพอากาศและสภาพแวดล้อมที่ยางถูกใช้งานจริงๆ ดังนั้นผู้ขี่จึงไม่ต้งกังวลเลยว่ายางของทางค่ายจะเหมาะสำหรับการนำมาใช้งานในเมืองร้อนอย่างประเทศไทยหรือไม่
ไม่เพียงเท่านั้น เจ้า BATTLAX SPORT TOURING T31 ยังอุดมไปด้วยเทคโนโลยีของยางตระกูล BATTLEX มากมายทั้ง
– MS BELT (Mono Spiral Belt) : เทคโนโลยีลวดขดน้ำหนักเบาแต่มีความทนทานที่ถูกพันเสริมไว้ตลอดแนวหน้ายางแล้วหมุนขดไปตามเส้นรอบวงของยางแบบเส้นเดียว เพื่อเสริมสมรรถนะ ช่วยให้ยางน้ำหนักเบาขึ้น ช่วยให้ยางมีพื้นที่ผิวสัมผัสกว้างกว่าเดิม เพิ่มความนิ่งและแรงยึดเกาะขณะเข้าโค้ง เพิ่มอัตราเร่งในช่วงทางตรง และมีความสเถียรในย่านความเร็วสูงๆ
– HTSPC (High Tensile Super Penetrated Cord) : เทคโนโลยีการหุ้มเส้นใยเหล็กภายในด้วยโมเลกุลของยางเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการกระจายความร้อน ลดความเสี่ยงของการระเบิด รวมถึงเพิ่มความยืดหยุ่งให้สามารถช่วยรับแรงกระแทกได้ดี อีกทั้งยังเป็นเทคโนโลยีที่ไม่ก่อให้เกิดการสะสมของความชื้นจึงไม่เกิดการออกซิเดชั่น(สนิมภายใน)ซึ่งอาจส่งผลให้ยางเกิดการผิดรูปได้
– Silica RICH ที่ล้อหน้า เพิ่มสารซิลิกาเข้าไปในเนื้อยางเพื่อช่วยให้ยางไม่ช็อคตอนเจอความเย็นกระทันหัน เพิ่มความสามารถในการวิ่งบนถนนเปียกและช่วยยืดอายุการใช้งานของยางให้ยาวนานขึ้น ขณะที่ล้อหลังก็จะเป็นเทคโนโลยี Silica RICH EX หรือการเพิ่มสารซิลิกาให้มากกว่าด้านหน้า
– RC POLYMER / NANO PRO-TECH เทคโนโลยีการออกแบบและพัฒนาเนื้อยางในระดับโมเลกุล เพื่อให้เนื้อยางเข้ากับสารซิลิกาได้ดีและมีประสิทธิภาพสูงสุด
– ULTIMATE-EYE เทคโนโลยีจำลองการใช้งานของเนื้อยาง, หน้ายาง, และโครงสร้างของยางด้วยซอฟท์แวร์ระดับสูง เพื่อให้ยางสามารถตอบโจทย์การใช้งานได้ดีที่สุดตามรูปแบบของยางประเภทนั้นๆ
– 3LC-CAP BASE (R) เทคโนโลยีการแยกเนื้อยางส่วนในและนอก โดยใช้เนื้อยางซอฟท์คอมปาวน์ที่มีประสิทธิภาพในการยึดเกาะสูงไว้หน้ายางด้านนอกชั้นบน ส่วนเนื้อยางด้านนอกชั้นในจะมีความแข็งขึ้นมาเป็นเนื้อเดียวกับเนื้อยางตรงกลางเพื่อยืดอายุการใช้งานของยางให้ยาวนานขึ้น และยังช่วยเสริมความแข็งแรงของยางไปในตัว ส่วนยางหน้ายังเป็นแบบมีเดียมคอมปาวน์เดียว
สำหรับสัมผัสที่ได้หลังทดสอบใช้งานจริง ด้วยความที่ยาง T31 รุ่นนี้ เป็นยางรถมอเตอร์ไซค์แนวผสมสปอร์ต-ทัวร์ริ่ง จึงทำให้ลักษณะการพลิกเลี้ยวของมันอาจไม่ได้มีความหนืด และพลิกไวมากมายแบบยางสปอร์ตแท้ๆ แต่นั่นก็ทำให้เราได้ความรู้สึกเวลาพลิกล้อไปมาอย่างเป็นธรรมชาติมากกว่าแทน ไม่หน่วงในตอนแรกแล้วจู่ๆวูบลงจนหวิวให้ต้องปรับตัวกันแต่อย่างใด
และด้วยความเป็นยางทัวร์ริ่ง ดังนั้นการสร้างแรงยึดเกาะกับผิวถนนของยางรุ่นนี้ เพื่อนๆอาจจะต้องใช้เวลาวอร์มอัพมันสักพักหนึ่งก่อน มันถึงจะสามารถสร้างแรงยึดเกาะได้อย่างเต็มประสิทธิภาพจริงๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับช่วงขอบยางด้านหลังที่เป็นคอมปาวน์นุ่มกว่าตรงกลาง หากขี่จนถึงอุณหภูมิแล้ว จะรู้สึกได้อย่างชัดเจนเลยว่า มันสามารถเกาะถนนได้ค่อนข้างอยู่หมัด แทบไม่พบอาการท้ายสไลด์เลยแม้แต่น้อย ซึ่งส่วนหนึ่งก็คาดว่าเป็นเพราะลักษณะโครงสร้างยางที่ออกแบบให้หน้ายางสามารถแผ่พื้นที่ผิวสัมผัสได้มากกว่าปกติด้วย
นอกจากนี้ ด้วยลักษณะโครงสร้างยางที่น้ำหนักเบา แต่แข็งแรง จึงทำให้ทั้งในจังหวะที่เปิดคันเร่งออกจากโค้งแรงๆ หรือตอนวิ่งแช่ด้วยความเร็วสูง ทะลุ 200 ว่ากิโลเมตร/ชั่วโมง พบว่ายางยังคงรักษาความนิ่งของตนเองเอาไว้ได้ ไม่มีอาการส่ายซ้าย-ขวาที่เกิดขึ้นจากการผิดรูปของตัวยาง ถึงน้ำหนักตัวผู้ขี่รวมน้ำหนักตัวรถจะเกิน 300 กิโลกรัมแน่นอนอยู่แล้วก็ตาม เต็มที่ก็มีแค่เพียงโยกขึ้นลงของท้ายรถซึ่งเกิดจากโช้กหลังที่อ่อนไปเท่านั้น
ด้านประสิทธิภาพการวิ่งบนทางเปียก ด้วยความที่ทาง Bridgestone ได้มีการเพิ่มสารซิลิกาเข้าไปที่เนื้อยางทั้งด้านหน้าและมากกว่าอีกในด้านหลัง จึงทำให้เราไม่พบอาการกริปหายชั่วขณะ เพราะยางช็อคหรือหดตัวแล้วแข็งขึ้นกระทันหันเวลาเจอน้ำเย็นๆ นอกจากนี้ หากขี่ด้วยความเร็วปกติสำหรับการวิ่งบนถนนเปียกแล้ว แม้บนผิวถนนจะมีน้ำเคลือบอยู่ประมาณหนึ่ง (ไม่ถึงกับหนาเป็นเซนๆ) ยางก็ยังสามารถรีดน้ำออกได้ดี ไม่มีอาการเหินน้ำให้หวิวใจแต่อย่างใด
ส่วนประเด็นในเรื่องของระยะเบรก ก็จะมีประเด็นที่ไม่ต่างจากการเปิดคันเร่งเท่าไหร่นัก นั่นก็คือ หากขี่มาสักพักจนยางเริ่มร้อนได้ที่แล้ว มันก็จะสามารถสร้างแรงยึดเกาะได้ค่อนข้างดีเยี่ยม เมื่อลองเบรกหนักๆแล้ว ABS จะทำงานน้อยลงมาก (แทบไม่มีอาการล็อค) แม้ว่า Versys 1000 ที่เรานำมาทดสอบนั้นจะเป็นรถที่ระบบ ABS ทำงานค่อนข้างไวอยู่แล้วก็ตาม
สรุป รีวิว Bridgestone BATTLAX SPORT TOURING T31 ในครั้งนี้ ถือเป็นยางรถมอเตอร์ไซค์ในกลุ่มสปอร์ต-ทัวร์ริ่งที่น่าสนใจมากเลยทีเดียว เนื่องจากมันถูกสร้างขึ้นด้วยเทคโนโลยีระดับสูงอีกมากมาย ที่ช่วยให้ผู้ขี่มั่นใจได้ว่าจะไม่ลงไปกินข้าวลิงข้างทาง ถ้าหากไม่ขี่แผลงๆหรือไปเจอเหตุสุดวิสัยเข้า
ไม่เพียงเท่านั้นยังมีความโดดเด่นที่สุดในเรื่องของการสร้างกริปหรือว่าแรงยึดเกาะที่สมดุลทั้งบนถนนเปียก หรือถนนแห้ง เมื่อยางมีอุณหภูมิได้ที่ และมีคาแรคเตอร์ในการพลิกเลี้ยวกำลังดี ไม่ไวจนหวิว ไม่หนืดจนเหนื่อย เหมาะสำหรับการใช้ขี่งานเชิงท่องเที่ยว ชิวๆ หรือจะขี่ใช้งานด้วยความเร็วสูงหน่อยๆก็ยังไหว รับรองว่าถูกใจเพื่อนๆสายทัวร์ริ่งวิ่งถนนดำแน่นอนครับ
โดยยาง Bridgestone BATTLAX SPORT TOURING T31 รุ่นนี้ สำหรับในประเทศไทยจะมีไซส์ยางให้เลือกถึง 13 ขนาด สามารถใช้งานร่วมกับรถมอเตอร์ไซค์พิกัด 500cc ขึ้นไปได้หลายรูปแบบ ตั้งแต่สตรีทไบค์ เนคเก็ทไบค์ สปอร์ตไบค์ ไปจนถึงแอดเวนเจอร์-ทัวร์ริ่งไบค์ อย่างที่ผมนำมาทดสอบด้วยในตอนนี้ และยังมียางรหัส GT ที่เอาไว้ใช้กับฟูลไซส์ทัวร์ริ่งน้ำหนักเยอะๆด้วย ส่วนราคาก็จะตกเริ่มต้นคู่ละประมาณ 11,000 บาท ไปจนถึงไม่เกิน 14,000 บาท
ซึ่งหากเพื่อนๆสนใจเพื่อนๆสามารถรับชมยางตัวจริง หรือสอบถามข้อมูลยาง Bridgestone BATTLAX SPORT TOURING T31 เพิ่มเติม จากตัวแทนจำหน่ายยาง Bridgstone ทั้ง 40 กว่าแห่งทั่วประเทศ หรือที่เว็บไซต์ไม่ก็เฟซบุ้ค bridgestonemotothailand.com ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปได้เลยครับผม
ขอบคุณ Kawasaki Motohaolic สำหรับการสนับสนุนตัวรถ Kawasaki Versys 1000 SE เพื่อประกอบการทดสอบในครั้งนี้
อ่านรีวิวอื่นๆ เพิ่มเติมได้ที่นี่
