รีวิว CL500 & CL300 สัมผัสแรก สองคู่หู น้องใหม่ สแคมเบลอร์ เอาใจสายคัสตอม

0

รีวิว CL500 & CL300 2 คู่ Scrambler จากค่ายปีกนก

พรีวิว Honda CL300หลังจากที่ MotoRival เราได้ พา พรีวิว คันจริง CL500 & CL300 ตอนเปิดตัวกันไปแล้ว แต่ยังไม่ได้ ขี่ ซึ่งเมื่อวานนี้ทาง Thai Honda ได้จัดกิจกรรม ให้สื่อ และลูกค้าที่สนใจได้ทดสอบรถกัน ซึ่งทางทีม MotoRival เราก็ไม่พลาดเข้าร่วมทดสอบด้วย

โดยการทดสอบในครั้งนี้ มีขึ้นที่ สนาม Honda Safety สุขาภิบาล 3 จะมีทดสอบทั้ง On Road ที่จะมี การวาง Route ให้ขี่ตามเส้นทาง ได้ลองอัตราเร่ง การพลิกคอนโทรลรถ และ Off Road แบบย่อมๆ จำลองหากเราขี่ทางดำมา แล้วต้องเจอทางแดงด้วย ก็ไปได้สบายๆ

eP4YaR.jpgเราขอมาเริ่มกันที่ท่านั่งกันก่อน

จากการปรับเปลี่ยนรายละเอียด จากตัว Rebel จะพบว่า การเป็นร่าง Scrambler ดูจะเหมาะแก่การขี่คอนโทรลรถที่ดียิ่งกว่า

eP4440.jpgแน่นอนเบาะสูงขึ้นมาอยู่ที่ 790 มม. แต่โดยรวมเบาะยังแคบ ทำให้นั่งหย่อนเข่าได้สบายอยู่ สำหรับ คนสูงช่วง 175 ซม.

แฮนด์บาร์ ทรงกลาง ไม่ได้ยาวมาก ทำให้การคอนโทรลรถ ทำได้ดีทั้งการนั่งขี่ ส่วน ยืนก็ยังพอคอนโทรลได้ในระดับหนึ่ง

ส่วนถังน้ำมัน ที่มากับ Grip Tank ตรงนี้ อาจจะดุดันช่วงเข่าไปนิด แต่ก็ไม่ดันมากเท่าไร ยังพอนั่งหนีบถังได้อยู่

พักเท้าออกแบบให้ถอดยางหุ้มออกเป็นหนามได้ หากต้องการเอาไปขี่ Enduro ที่จริงจังขึ้น

CL500-greenสำหรับภาพรวม นน. หากพูดกันตามตรง มันถือว่าหนัก พอสมควร รถคลาส 300cc หนัก 170 กก. ยิ่ง CL500 ขึ้นไปถึง 190 กก.
แต่ในช่วงที่เราพลิกรถ คอนโทรลรถ ก็ถือว่าทำได้ดี คล่องแคล่วประมาณหนึ่ง ซึ่งขอบคุณ Riding Position ที่ ทำออกมาดี ทั้งองศาแฮนด์

e2DQpJ.jpgเครื่องยนต์ ขุมกำลัง ในรุ่น CL500 ถือว่า การันตี มาจาก 4 โมเดลในไลน์อัพ 500 ดีงามเรื่องของอัตราเร่ง ช่วงต้นที่มาดีอยู่แล้ว แรงบิด เปิดเป็นมาตั้งแต่รอบต่ำ ถือว่าเพียงพอ ต่อการใช้งานทั้ง ในเมือง หรือ เดินทางไกลแล้ว ยิ่งการขี่ในแทร็กเล็กๆ อย่าง Honda Safety บอกเลยว่า ถ้าเปิดเยอะไปก็มีล้น ต้องระวังในตอนเปิดคันเร่ง โดยเฉพาะช่วงขี่ Enduro สามารถเปิดให้ Slide ได้ไม่่ยาก

CL300-Whiteขณะที่ CL300 สูบเดี่ยว ก็ดูจะพอเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการรถเริ่มต้น ไม่เน้นความแรงอะไรมาก แต่เราขี่ในแทร็ก Honda Safety แล้วก็ ถือว่าเหมาะสม กับพละกำลังในจังหวะเปิดคันเร่งคอนโทรลรถ ก็ยังไม่รู้สึกเหวอ
แต่ถ้าได้ขี่ 500 มาก่อนก็จะรู้สึกน่าหงุดหงิดใจหน่อย ในจังหวะทดสอบอัตราเร่ง

e28nkW.jpgส่วนระบบกันสะเทือน ที่เพิ่มช่วงยุบ ทั้งหน้า – หลัง โดยด้านหลังเป็นโช้กคู่ ซึ่งก็ถือว่าทำหน้าที่ ซับแรงสะเทือนได้ดีประมาณหนึ่ง และลุยได้แบบพอประมาณ ในแบบที่ไม่ต้องกลัวอะไรมาขูดใต้ท้องรถ ถ้าไม่ได้ไปขี่ลุยป่า หรือ Hard Enduro แต่ แน่นอนฟิลลิ่งการคอนโทรลที่เน้นจะเอาแบบพลิกรถเร็วๆ อาจจะไม่คมเท่า อย่างโช้กเดี่ยว ที่วางอยู่ในรถสาย Sport 500 Series

eP4WAa.jpgสำหรับระบบเบรก นั้น อาจเป็นอะไรที่ หลายคนมองว่าน่าผิดหวัง เพราะการให้ เบรกแบบดิสก์เดี่ยว มานั้น แถมเป็นแบบ 2pots อีกในขณะที่ 500 Series ยก ดิสก์คู่มาให้หมดแล้ว และในรุ่น R กับ F ได้ Radial 4 pots อีกต่่างหาก ซึ่งจุดนี้เราก็เข้าใจได้ จากการที่ เขาอิงพื้นฐาน มาจาก Rebel ที่ไม่ใช่สายวิ่งจึงไม่จำเป็นต้องให้เบรกมาแบบทวินดิสก์ เพราะ แม้แต่ Scrambler ยุโรป 803cc เองก็ได้ ดิสก์เดี่ยว มาเหมือนกัน
เอาเป็นว่าภาพรวมการใช้งานทั่วไป มันพออยู่แล้ว อย่างการขี่ในสนาม รวมถึง ทาง Enduro ที่มักจะไม่ใช้เบรกเยอะด้วยแล้ว
แต่ถ้าซิ่งๆ ยิ่งซัดๆ ในตัว CL500 ก็คงต้องบอกว่า ให้เผื่อ ระยะกันหน่อย เพราะปั๊ม Nissin สไตล์ไม่ได้จับจิก แบบหมับเดียวอยู่ๆ แล้ว

cl500-black
สรุป รีวิว CL500 & CL300 ใหม่่ แบบสัมผัสแรก สั้นๆ แต่ก็พอได้ใจความ คือ มันเป็นรถที่เรียกได้ว่าา Scrambler ที่จับต้องได้ และขี่ได้ดีประมาณหนึ่ง
Performance กับสเป็กอาจไม่ได้ ให้มาแบบสุดจัด แต่ ความเป็นมิตรในการขี่ และคอนโทรลได้ดี รวมถึงเครื่องยนต์ที่ไว้ใจได้ ของ Honda ก็ถือว่าเพียงพอที่จะทำให้คนตัดสินใจซื้อมันได้ สำหรับใครอยากได้ รถคัสคอม ไลฟ์สไตล์ ดีไซน์ลุยได้ ก็ลองดูครับ ไม่ได้ซิ่งมาก เอาขี่หล่อ CL300 ก็พอ แต่ถ้าจะเผื่อไว้เดินทาง และชอบทอร์คหนักด้วย ก็ต้อง CL500

cl300-blue
CL300 ราคา 1.499 แสนบาท มี 3 สี คือ ส้ม, ฟ้า, ขาว
CL500 ราคา 2.268 แสนบาท มี 3 สี คือ ส้ม, เขียว, ดำ

อ่านรีวิว เพิ่มเติมได้ที่นี่

Share.

About Author

Background EXP in Automotive journalists more than 10 Years Writer & Test Driver @Pantip Garage 2018-Present @9carthai 2015- 2017 @Torque & VIPStyle Magazine 2015 @Autospinn 2012-2015 @GTmania.tv 2009-2010

error: Content is protected !!