รีวิว Ducati DesertX มินเนี่ยน สายลุย สัมผัสแรก บนถนนอิตาลี

0

รีวิว Ducati DesertX มินเนียน ตัวลุยได้สุดของค่ายแดง แต่ วิ่งออนโร้ด ก็พลิกคล่องใช้ได้

โดยก่อนหน้านี้ประมาณ 2 เดือนที่แล้ว Ducati Motors Asia Pacific ได้นำรถเจ้าทะเลทราย คันจริงมาให้ลูกค้า DOC ได้รับชม กัน ณ สนามพีระฯ ในกิจกรรม Track Day ซึ่งทาง MotoRival เราก็ได้ พรีวิว ไปแล้ว รับชมได้ที่นี่

Review-Ducati-Desert-X-1เมื่อช่วงเดือนที่ผ่านมาทาง Ducati ได้เชิญเราไปร่วมงาน WDW2022 ณ Misano World Circuit และ ไม่พลาดที่จะให้เราได้ Test Drive รถโมเดลใหม่ 2 รุ่น ได้แก่ DesertX คันนี้ และ StreetFfighter V2 ที่เปิดราคาจำหน่ายในบ้านเราไปแล้ว แต่ยังไม่มีการส่งมอบ ซึ่งในคอนเท้นต์นี้ ผมขอเริ่มที่ รีวิว Ducati DesertX กันก่อนเลย

สำหรับการทดสอบเจ้า DesertX จะมีทั้งการได้ทดสอบบนทางฝุ่น OffRoad แบบเบาๆ และขี่ On-Road แบบวิ่งบนเส้นทางถนนจริงที่ทาง Ducati นำมาใช้ทดสอบรถจริงๆ จะเป็นเช่นไร มาว่ากันเลยครับ

Ducati-Desert-X-Pon-Ride-Position
เริ่มที่ท่านั่ง ต้องบอกเลยว่า แม้จะเป็นสเป็ก Low Seat แล้ว แต่การที่มันยังเป็น Standard Suspension
ความสูงเบาะมันลดลงมาเพียงประมาณ 10 มม.เท่านั้น ทำให้มันลงมาเหลือ 865 มม. (Standard Seat 875 มม.)
ตัวเบาะไม่ได้แคบเท่าไร แถมล้อหน้าใหญ่ 21″ ช่วงโช้ก Stroke ยาวอีก
ผมสูง 175 ซม. สวมรองเท้าบู๊ทบอกเลยว่า บัลเลต์ เท้าลอยเยอะมาก ลืมบอกว่า นน.ตัวผมประมาณ 60 กก. นั่งลงแล้วช่วงล่างมันแทบไม่ยุบลงเลย
ดังนั้นคนตัวเล็กๆ ต่ำกว่า 170 ซม. น้ำหนักตัวไม่มากนัก จะค่อนข้างลำบากหน่อยเวลา ก้าว-ขึ้นลง รวมถึงเตะขาตั้ง
กล่าว คือ ถ้าเป็นสเป็ก Standard Seat คนสูง 180 ซม. ยังลงไม่เต็มเท้า ต้องสูง 180+ และน้ำหนักตัวมากหน่อย ผมจึงมองว่า ช่วงล่างถึงจะยุบลงมาแบบ เหยียบได้เต็มสบายเท้า

ซึ่งถ้าใครสนใจเราคงต้องรอเวอร์ชั่น Low Seat + Low Suspension = 845 มม. ซึ่งจะช่วยได้อีกเยอะเลยสำ หรับคนสรีระตัวเล็ก

Ducati-Desert-X-Pon-Stand-Position
ส่วนตำแหน่งแฮนด์ ทรงกลาง ต้องบอกว่า กำลังพอดีเลยในส่วนองศาการคอนโทรล แต่เมื่อนั่งขี่ สรีระผมเอง ผมรู้สึกไหล่ยกๆ อยู่นิดนึง นอกจากนี้ วินชิลด์ปรับไม่ได้ ผมนั่งขี่แล้ว ลมยังตีเข้าช่วงศรีษะหมวกอยู่
แต่ถ้ายืนขี่ผมว่า ตำแหน่งความสูงแฮนด์อยู่ในระดับที่ดีเลย

Preview-Ducati-Desert-X (10)
สำหรับตำแหน่ง Grip Tank ผมว่า ทรงถัง ดูจะหนีบกระชับดีกว่า ของ Multi ที่ดูจะอ้วนไปหน่อย

และการที่ นน.ตัว 223 กก. แบบ Kerb เบากว่า Multi V2 นิดเดียว แต่ขนาดล้อหน้า 21″ และหลัง 18″ ความต่างกัน 3 ไซส์ ทำให้ผมรู้สึกว่ามันพลิกรถได้ง่าย และว่องไว ดูดีกว่า Multi อยู่หน่อย

Ducati DesertX
ขุมกำลังเครื่องยนต์ L-Twin กำลัง 110 hp ที่ยกมาจาก Multistrada V2 ละ M937 ต้องบอกว่า จากที่เราเคยขี่ Multistrada ตัว V4 มา
ผมพบว่า มันให้แรงบิดรอบต่ำที่ดีกว่า เหมาะกับการขี่แบบต้องการทอร์ครอบต่ำ ในคาแรกเตอร์รถเช่นนี้ (ส่วน Multi V2 ยังไม่เคยลอง)
แต่จากการที่ขี่ในทาง OffRoad ซึ่งผมเองก็ไม่ใช่สายแข็งอะไร และเดินคันเร่งไม่ค่อยเนียนมาก ผมรู้สึกว่า สไตล์เครื่องจะเดินคันเร่งให้สมูทเนียนได้ยากกว่า V4
L-Twin แม้ผมจะเลือก Enduro Mode ที่ตอนกำลังเหลือเพียง 75 hp แล้วก็ตาม การตอบสนองยังแอบดูกระชากอยู่หน่อย และ ผมรู้สึกในบางการขี่เกียร์ 2 แบบทางดำ ยังรู้สึกหลายจังหวะ ตึงมือไวไปสักนิด ซึ่งส่วนหนึ่งมาจาก การปรับเซ็ทอัตราทดให้ชิดขึ้นเหมาะกับสไตล์รถที่เอาไว้เน้นรอบจัดขี่ลุยแบบ Off Road ด้วย

นอกจากนี้ ภาพรวมพละกำลัง 110 hp เมื่อเราเปิดโหมด Sport หรือ Touring เวลาขี่บนถนน อัตราเร่งทันใจ คันเร่งตอบสนองตามสั่ง บิดมันส์ ไม่แพ้ Monter 937

Review-Ducati-Desert-X-2
ระบบกันสะเทือน จาก KYB ที่ปรับเซ็ทได้เต็มรูปแบบ ทั้งหน้า-หลัง นี่ คือ จุดที่ผมถือว่ามันเป็นสิ่งที่โดดเด่นที่สุด ไฮไลท์ ของมันเลยก็ว่าได้
ทั้งขนาดแกนโช้กหน้าที่ใหญ่มากถึง 46 มม. และช่วงยุบที่เยอะสะใจ 230 มม. ทำให้มันเป็นรถที่ขี่พลิกได้ง่าย และคล่องตัว ด้วยเวลาขี่บนถนน

และที่สำคัญขี่ผ่านหลุม ทางขระขรุที่ทางทีม DRE Adventure ทำเอาไว้ กับคนทักษะไม่แข็งแรงในสาย OffRoad อย่างผม ยังลุยผ่านมันไปได้สบาย ไร้กังวล
ไม่สะเทือนดีดขึ้นมือแต่อย่างใด รวมถึงการซับแรงสะเทือนเวลา ขี่ผ่านรอยต่อถนนก็ เก็บได้ดีมากๆ

Ducati DesertX
ระบบเบรก จุดนี้ ไม่ต้องพูดกันเยอะ จานดิสก์คู่ขนาด 320 มม. จับคู่ปั๊ม M50 เรียกว่าสเป็กจาก Superbike เลย
แม้เทียบกับไซส์ล้อขนาด 21″ แล้วดูจะเล็กไปเลย พละกำลังในการชะลอความเร็ว ถือว่าหายห่วง เวลาเราขี่ซิ่งบนท้องถนน
ส่วนเวลาทาง Off Road คงไม่ได้ใช้เบรกหน้ากันเยอะอยู่แล้ว ในจุดนี้

นอกจากนั้น DesertX ยังดีงามเรื่องความยื่นหยุ่นในการ ปิดระบบ ABS ได้เต็มรูปแบบ หรือ จะปิดแค่เฉพาะล้อหลัง สำหรับใครที่อยากขี่แบบ ให้ท้ายล็อกปัด เวลาลุยทางฝุ่นก็ทำได้
รวมถึงระบบ IMU 6 แกน มันเลยมี Cornering ABS ด้วย ซึ่งก็ ช่วยได้ดีอีกเวลา เราเผลอบานโค้ง แล้วต้องเบรกในโค้ง หรือ จะเทรลเบรก ก็ยังไม่ต้องกลัวหน้าพับ

Review-Ducati-Desert-X
สรุป รีวิว Ducati DesertX มินเนี่ยน สายลุย พอได้ขี่ทางดำ มันก็ถือเป็นรถที่ขี่ดีเลย แต่ว่าไม่สบาย ถ้าถามผม สำหรับคนสายเดินทางโดยทั่วไป Multistrada ทั้ง V2 และ V4 ยังไงก็ดูจะเป็นมิตรกับคนทั่วๆไปมากกว่า สำหรับ DesertX ถ้าอยากจะรีดสมรรถนะที่แท้จริงของมันออกมา เจ้าของรถอาจต้องมี Skill Off-Road ในระดับที่สูงมากพอสมควร เพื่อจะขี่มันในสไตล์แบบรถ Dakar Rally หรือ จะสาย Jump แบบ MX ก็ยังทำได้

อย่างที่บอกถ้าคุณเน้นใช้งานเดินทางดำ แบบทัวริ่งทั่วไป ผมยังรู้สึกเชียร์ไปทาง Multistrada จะสบายกว่า V2 ก็ได้ หรือ ถ้าจะซิ่งจริงจัง V4 ที่ยกหัวใจ Panigale V4 มาลงก็สะใจ
อ่านรีวิว Multistrada V4 S ได้ที่นี่

ซึ่งสำหรับผม ที่ไม่ใช่สายลุยทางฝุ่นอยู่แล้ว มองว่าถ้าใครสายนักเดินทางดำ แต่ชอบสไตล์รถแบบแนว ดาการ์ แบบนี้ ก็จัดคันนี้ สเป็ก Low Seat + Low Suspension แล้วไปแปลงใส่ล้อ 17″ หน้า-หลัง ยางทางเรียบ ถือว่าเป็นรถ Adventure สายทัวริ่งที่ขี่ได้สนุก พลิกได้คล่องไว คันหนึ่งเลย

ในส่วนราคา คงต้องรอการเปิดตัวอย่างเป็นทางการในไทย ผมคาดว่าน่าจะมาช่วง 6 ปลาย – 7 ต้นๆ รอดูกันครับ

อ่านข่าว Ducati เพิ่มเติมได้ที่นี่
อ่าน รีวิว เพิ่มเติมได้ที่นี่

Share.

About Author

Background EXP in Automotive journalists more than 10 Years Writer & Test Driver @Pantip Garage 2018-Present @9carthai 2015- 2017 @Torque & VIPStyle Magazine 2015 @Autospinn 2012-2015 @GTmania.tv 2009-2010

error: Content is protected !!