รีวิว Ducati Multistrada V4 S วิ่งทริปจัดเต็ม พันโล ทัวริ่งหัวใจซุปเปอร์ไบค์

0

รีวิว Ducati Multistrada V4 S รถที่ไปได้หลายสาย ทัวริ่งสบาย จะซิ่งก็ใช่ จะลุยก็ได้

รีวิว Ducati Multistrada V4 S โดยทีมงาน MotoRival ของเราในครั้งนี้ เป็นการวิ่งจริงออกทริปแบบจัดเต็ม กว่าพันกิโลเมตร

1 พันกิโลเมตรกับ Multistrada V4S | สมบูรณ์แบบที่สุด !!
จากเส้นทางกรุงเทพ ถึงเขาค้อ และขี่เล่นวนๆ อยู่ยอดดอยบนเขา ทดสอบสมรรถนะของตัวรถ ตลอดทั้งทริป ใช้น้ำมันรวมกัน 5 ถังกว่าๆ และหวดไป 1 พันกิโลเมตรเป็นที่เรียบร้อย …. วันนี้แอดมินเปรมพร้อมแล้วครับ ที่จะมาเล่าทุก Feeling ให้เพื่อนๆ ชาว MotoRival ทุกคนได้ฟังไปด้วยกัน ว่าเจ้า Ducati Multistrada V4S สุดยอด Sport Touring ที่ล้ำสมัยที่สุด ณ เวลานี้ ความดีงามทั้งหมด… มันมีอะไรบ้าง ! ไปเริ่มกันนน !!

V4 Grandturismo
[1.] ประเด็นแรกนะครับ เครื่องยนต์บล็อคใหม่ล่าสุดที่มาในชื่อ V4 Gran Turismo / 4 ลูกสูบ กำลังอัด 14:1 ขนาดเครื่องยนต์ปริมาตรจริงอยู่ที่ 1158 cc. บอกลากระเดื่องวาลว์ Desmodromic อันเลื่องชื่อมาอย่างยาวนาน และเปลี่ยนมาใช้สปริงวาลว์แบบรถยนต์ในที่สุด มวลรวมของพละกำลังทั้งหมดนั่นคือ 170 แรงม้า ที่ 10,500 รอบต่อนาที และแรงบิด 125 Nm ที่ 8,750 รอบต่อนาที

ducati-v4-granturismo-multistrada-engine-02
ในด้านของ Feeling ต้องบอกเลยว่า… แรงบิดที่เค้าให้มา กับรอบที่แรงบิดมาสูงสุดที่ 8,750 รอบเนี่ย… “รถสปอร์ต Full Faring บางคันยังอายเลยนะครับ” แต่หากใครคิดว่าเค้าจะดึงกระชากลากวิญญาณแล้วล่ะก็… คุณคิดผิด… แน่นอนว่ามันก็ดึงเต็มๆ ตามเลขแรงบิด 125 นิวตัน-เมตรนั่นแหละ แต่ความสมูธที่มาจากการ “วางเพลาข้อเหวี่ยงให้หมุนทวนเข็มนาฬิกา” ส่งผลให้การลากรอบของตัวรถเป็นไปได้อย่างนุ่มนวลเกินบรรยาย…
ซึ่งผู้ขับขี่อย่างผมเนี่ยะ แทบจะไม่รู้สึกเลยว่ามันดึงแรงจนเหวอ แต่หันมาดูเลขความเร็วอีกที อ้าว… จะขึ้นเลข 2 อยู่แล้ว !!! และผมกล้าการันตีว่า รถพละกำลังระดับนี้ (170 แรงม้า กับแรงบิด 125 นิวตัน-เมตร) เจ้าหมอนี่คือนุ่มนวลที่สุดเลยสำหรับการเดินรอบเครื่องยนต์ !! ไม่มีสะท้าน ไม่มีแรงสั่นสะเทือนของเครื่องยนต์ตึกๆ ตักๆ ขึ้นมาถึงผู้ขับขี่เลย หากเทียบกับบล็อคเดิมที่เป็น L-Twin คนละโลกเลยครับ

Ducati-Bangkok-Multistrada-V4S
และไฮไลท์สำคัญอีกหนึ่งอย่างของเครื่องบล็อค V4 Gran Turismo นั่นก็คือระยะการเข้าศูนย์เซอร์วิสใหญ่ครับ ที่ถูกขยายระยะเวลาออกไปให้อยู่ในช่วง 60,000 Km. (ไปเข้าศูนย์แกะเครื่องเช็คกันอีกทีตอน 60,000 Km. นะครับ) โดยของเดิมจะอยู่ที่ 30,000 Km. ครับผม … ซึ่งเป็นเรื่องที่ชาว Ducatista หรือคนที่คิดจะครอบครอง Ducati ซักคันเนี่ยะ คิดหนักกันมาเสมอ ! เวลาที่จะต้องแกะเครื่องเซอร์วิสใหญ่ เพราะต้องยอมรับว่าในส่วนนี้มันมีค่าใช้จ่ายที่เอาเรื่องอยู่เหมือนกัน … แต่การเซอร์วิสเปลี่ยนน้ำมันเครื่องทุกๆ 15,000 km. ยังคงเป็นเรื่องปกติอยู่ฮะ / ***ทางที่ดี ยังไงก็ให้มันเป็นไปตาม Book Service เถอะนะครับ อย่าขี่จนพังแล้วค่อยนึกซ่อมกันเลย…***
ก็เป็นอีกหนึ่งจุดเด่นของเจ้า V4 Gran Turismo บล็อคนี้นะครับ ไอ 60,000 Km. แล้วค่อยเข้าเซอร์วิสใหญ่เนี่ยะ ขี่ข้ามประเทศลืมวันลืมคืนกันไปเลยฮะ ได้ใจมาก !!

Review-Ducati-Multistrada-V4S (2)และก็ผมไม่มีข้อติใดๆ ในเรื่องของเครื่องยนต์บล็อค V4 Gran Turismo เลยครับเว้นเสียแต่… อัตราสิ้นเปลือง นั่นคือ 10-13 Km. / L ซึ่งถือว่าเป็นรถ Touring ที่สูบน้ำมันเอาเรื่องมากๆ แล้วไอตัวเลขนี้้เนี่ยะ… คือประหยัดที่สุดเท่าที่ผมจะทำได้แล้วนะฮะ ตลอดทางจาก กทม. ไปเพชรบูรณ์เฉลี่ยๆ จะได้ตัวเลขอัตราสิ้นเปลืองประมาณนี้ครับ รอบเลี้ยงอยู่ที่ 4 พันกลางๆ ถึง 6 พันรอบต่อนาที เกียร์ยืดยานที่ 5/6 เสมอ ตัวเลขก็ยังออกมาที่ 10-13 km./L ครับ !!!

และหากเอาอัตราสิ้นเปลืองในตอนขึ้นเขา มีช่วงบิดชู๊ตๆ ขึ้นเนินหลายๆ ลูก หน้าแดชบอร์ดแสดงอัตราสิ้นเปลืองแบบ Real-Time ขึ้นโชว์ที่ 6 kml ครับผม ต้องยอมรับว่า สยองขวัญไม่น้อยเลย… แต่อัตราสิ้นเปลืองสุดสยองแบบนี้… มันถูกชดเชยด้วยความชาญฉลาดของทุกสิ่งอย่างของตัวรถครับ !!!

Multistrada V4 S-Radar-F
[2.] เรดาร์ทั้งหน้า และหลัง สำหรับใช้ตรวจจับรถคันที่อยู่ข้างหน้า-และคันที่อยู่ข้างหลังเรา… Adaptive Cruise Control ที่ให้มาในรถคันนี้ ไม่มีใครเหมือน และใครก็ไม่มีทางเหมือนครับผม…
เพราะ Cruise Control ของเจ้า Multistrada V4S คันนี้ จะมีเรดาร์คอยตรวจจับรถคันข้างหน้าตลอดเวลา ซึ่งหากตัว Multistrada V4S เข้าไปใกล้รถคันข้างหน้า มันจะชลอความเร็วลงมาแบบอัตโนมัติเลยครับ ซึ่งถือว่าเป็นฟีเจอร์ที่จัดอยู่ในหมวดของความสะดวกสบาย / และความปลอดภัยไปในตัวเลย / ซึ่งชาญฉลาดเอามากๆ ฮะ

Multistrada-V4-S-Radar-B
และผมก็อยากจะบอกว่า… เรดาร์ชุดนี้ ฉลาดกว่าที่คิดไปเยอะเลย ตอนแรกผมนึกว่ามันจะจับได้เฉพาะระยะยิงตรง (ที่หมายถึงให้ตัว Multistada ยิงเรดาร์ไปตรงๆ ที่ตัวรถด้านหน้า) แล้วมันถึงจะชลอความเร็วให้… แต่ไม่ใช่เลยครับ มันตรวจจับทั้งเลน ทั้งถนนเลย ว่ามีรถนำหน้าเราอยู่ในช่วงไหน แล้วแต่ระยะที่เราตั้งไว้… (ใกล้ กลาง ไกล ไกลมาก แล้วแต่จะตั้งครับ) หากมีรถเข้ามาในระยะเรดาร์ (ที่มันก็ตรวจจับทั้งถนนทั้งเส้นนั่นแหละฮะ) ตัวรถก็ชลอความเร็วลงในทันทีแบบไม่เสียอาการ ไม่หัวทิ่ม ไม่จิ้มจนเหวอ คือดี !!! ดีงามมากๆ !!
ส่วนเรดาร์ด้านหลัง… ก็มีไว้สำหรับตรวจจับรถที่กำลังจะวิ่งขนาบข้าง หรือแซงเราขึ้นมาครับ ในกรณีที่เราไม่ได้มองกระจกมองข้าง อันนี้ถือว่ามีประโยชน์มากๆ เพราะจะมีไฟ LED แจ้งเตือนที่กระจกมองข้างแบบแสบตาเลยล่ะ !! แต่ระวังจะเสียนิสัยแบบผมนะ ขนาดไม่ได้เป็นเจ้าของ ไม่ได้ขี่มันทุกวัน ยังรู้สึกว่า เริ่มจะเสียนิสัยไม่อยากมองกระจกข้างแล้วฮะ ให้ไฟ LED มันแจ้งเตือนบอกแทน ใครที่ครอบครองและเป็นเจ้าของ Multistrada V4S ผมมั่นใจว่าทุกคนต้องเป็นแบบผม ฮ่าๆ

Multistrada V4 S-Ducati Sky Hook
[3.] ช่วงล่างที่ยอดเยี่ยมที่สุดอีกตัวหนึ่งในรถ Sport Touring กับชุด Ducati Sky Hook แบบปรับไฟฟ้า Adaptive Real-Time
ยอมรับว่านี่เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ผมสบประมาทอีกแล้วเช่นกัน ว่าคงจะไม่ต่างจากช่วงล่างไฟฟ้าทั่วๆ ไปหรอก และผมก็ต้องโดนตบหน้าอีกครั้งด้วยประสิทธิภาพที่ยอดเยี่ยมของมันครับ… ระยะยุบของช็อคหน้าอยู่ที่ 170 มม. ส่วนด้านหลังอยู่ที่ 180 มม. ยึดเข้ากับสวิงอาร์มและวางองศาแบบรถสปอร์ต นอกเหนือจากระยะยุบที่เรารู้กันอยู่แล้วว่ามันกระโดดลงดินได้
Multistrada V4 S- Ducati Sky Hook-R-Shock
แต่ความสมบูรณ์แบบอีกอย่างนึงคือ “การขับขี่ในถนนดำ และความนุ่มนวลที่ชวนอึ้ง” ผมปรับ Pre-Load ให้อยู่ในเลเวลแบบมีสัมภาระหนักๆ พร้อมคนซ้อน และความเฟิร์มปานกลาง แต่จากการขี่ตลอดทาง ไม่มีอะไรสะท้านขึ้นมาถึงตัวผมเลยแม้แต่น้อย ตัวช็อคอับฯ มีการคำนวณอยู่ตลอดเวลาว่าควรจะซับแรงแบบไหน คืนตัวแบบไหน เพื่อให้ตัวรถมีเสถียรภาพที่ดีที่สุด และให้ผู้ขับขี่อย่างผมรู้สึกมั่นใจที่สุด
ส่วนการปรับแต่งให้เข้ากับคาแรคเตอร์การขับขี่และสภาพถนนต่างๆ คือเรื่องพื้นฐานที่ตัวรถระดับนี้ควรทำได้อยู่แล้วครับ ไม่อยากพูดเยอะในเรื่องนี้ เอาเป็นว่า อยากให้นุ่มแข็งแค่ไหน Pre-Load ลักษณะแบบใด ไปปรับแต่งกันเอาเองได้เลยตามชอบ สรุปคือช่วงล่างมันสมบูรณ์แบบสุดๆ ฮะ ตอบโจทย์ทุก Style การขับขี่แน่นอน

Multistrada V4 S- Brembo Stylema
[4.] เบรค Brembo Stylema ที่ใช้แล้วไม่เหมือน Stylema ในรถ Sport
Breambo Stylema ใครไม่ใส่มา ถือว่าบาป !! รถราคานี้ เบรคชุดนี้คือของคู่กัน !! และอยากจะให้ไปลองขี่แล้วมาคุยกันจริงๆ !! เพราะลักษณะของการจับจานเบรค หรือ Pule ของการจับจานมันต่างจาก Stylema ในรถคันอื่นๆ ที่ผมเคยขี่อย่างสิ้นเชิง
ไม่รู้ Ducati ไปตั้งค่าอะไรมันยังไง หรือคาลิเบรทเบรคแบบไหน ผมไม่รู้… แต่ต่อให้กำแบบสุดชีวิต นอกจาก ABS มันจะทำงานไร้ที่ติแล้วเนี่ยะ แต่ความนุ่มนวลที่คาลิปเปอร์มันจับจาน มันต่างจากรถ Sport คันอื่นๆ ที่ใช้ Brembo Stylema เหลือเกินฮะ ซึ่งนุ่มละมุนมากๆ

Multistrada V4 S Brembo Rear
แต่ว่าเบรคหลัง รู้สึก Ducati จะไม่เน้นจริงๆ ครับ เหมือนเคยได้ยินมาว่า ทีมพัฒนาตั้งใจให้ Multistrada V4S ไม่ต้องมีเบรคหลังที่สุดขั้วอะไรมากมายนัก เอาแค่เบรคชลอลงได้ก็พอ ซึ่งนี่อาจจะเป็นเหตุผลของการที่ผมรู้สึกว่า “เบรคหลัง” มันเบรคไม่ถึงใจซักเท่าไหร่ครับแต่ก็อย่างว่าแหละ ชุดเบรคหน้ามันโคตรดีอยู่แล้ว ยังไงก็เอาอยู่ทุกย่านความเร็ว !!
และแน่นอนว่ามี Cornering ABS มาให้ด้วย รถ Sport Touring เต็มขั้นแบบนี้ แกน IMU วัดองศารถ… ถ้าไม่มีให้มันก็กะไรอยู่

Multistrada V4 S-Riding Mode
[5.] การปรับแต่งโหมดการขับขี่ที่ละเอียดสุดขั้ว พร้อมระบบความปลอดภัยที่จำเป็น !!
จะเรื่องของการเซ็ตโหมดเครื่องยนต์ เซ็ตช่วงล่างนุ่มแข็งอ่อนแค่ไหน ปิดเปิดระบบความปลอดภัยต่างๆ ทั้งหมดถูกรวมมาแล้วใน “Setting” ซึ่งก็จะรอให้ทุกคนเข้าไปเซ็ตได้ตาม Style การขับขี่ที่ชอบ
Riding Mode ที่มีมาจากโรงงานประกอบไปด้วย Touring/Sport/Urban/Enduro และทุกโหมด ปรับแต่งทุกสิ่งอย่างข้างในได้อีกตามใจชอบครับ อยากให้พละกำลังเครื่องยนต์ทำงานแค่ไหน ปิดเปิดอะไรๆ ทำได้หมดทุกโหมด
ที่ผมชอบอีกอย่างนึงคือการแยก Traction Control กันลื่น กับ Wheelie Control กันล้อยกนี่แหละครับ ใครสายยกก็ปรับแยกกันได้เลยอิสระ ปิดกันยก แต่เปิดTraction กันลื่นให้รถตัดรอบ คันนี้ทำได้ครับ
และเจ้า Hill Hold ที่กันรถไหลลงเนินในตอนที่ไปจอดอยู่ทางลาดชัน ไม่น่าเชื่อครับ ว่าผมจะได้ใช้มันจนได้ “วัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว” ใครเคยไปก็คงรู้กัน ว่าทางขึ้นไปอีกขั้น มันชันแค่ไหน ซึ่งผมก็ลากเกียร์ 1 เตรียมชู๊ตขึ้นไป แต่สุดท้าย… ด้วยความทะลึ่งอยากลอง ชลอรถจนกระตุกดับกลางเนิน และแล้วตัว Hill Hold ก็ทำงานทันทีครับ ล็อครถไว้เลย “ไม่ต้องกำเบรค” รอให้เราตั้งสติและสตาร์ทเพื่อบิดชู๊ตขึ้นไปอีกครั้ง ยืนยันครับ โคตรดี !!

2021-ducati-multistrada-v4-official-05
[6.] Ducati Connect กับเรื่องระบบ Assistant ต่างๆ รองรับการเชื่อมต่อสมาร์ทโฟน จะรับสาย ฟังเพลง อ่านข้อความ หรือจะใช้ระบบนำทางแบบเปิดแผนที่จัดเต็ม อันนี้ Ducati ทำได้ดีมากๆ ไม่แพ้คู่แข่งเลย… สิ่งเหล่านี้นี้คือเรื่องพื้นฐานทีต้องมีในรถ Touring ระดับนี้อยู่แล้วฮะ แต่ใครจะทำได้ดีที่สุดก็อีกเรื่อง ซึ่ง Ducati ไม่ยอมเสียชื่ออยู่แล้วครับผม
แต่การจะใช้ระบบนำทาง ในแบบที่ให้แสดงแผนที่บนหน้าจอ Dash Board TFT ขนาด 6.5 นิ้วได้แบบเต็มๆ จะต้องเชื่อมต่อผ่าน Application พิเศษอีกตัวที่แยกออกมา นั่นคือ “Sygic ครับผม” ถามว่าเชื่อมต่อได้แล้วก็คือจบเลย ยอดเยี่ยมเลย แต่ใครที่เกลียดความยุ่งยากจุกจิก ผมว่าต้องมีหงุดหงิดกันบ้าง
แต่โดยรวมถือว่ายอดเยี่มฮะ ถ้าได้เชื่อมต่อครบทุกอย่างจนครบแล้ว ตัวรถเป็นส่วนหนึ่งไปกับเราเลยทันที

Multistrada V4 S-Quick Shifter
[7.] Quick Shifter 2 ทางทั้งขึ้นและลง พร้อมระบบความปลอดภัยแบบเข้าใจง่ายๆ ว่า “ถ้าไม่เอาขาตั้งขึ้น คุณ***เข้าเกียร์ไม่ได้” สามารถต่อเกียร์ทั้ง 6 เกียร์ได้อย่างมันส์ๆ แบบรถสปอร์ตเลยครับ ขี่เบาๆ ก็เตะเกียร์นุ่มๆ ได้ไม่มีปัญหา ไม่ต้องเสียเงินติดตั้ง เขามีมาให้จากโรงงานครับผม

Multistrada-V4 S-Wheelie
[8.] เบาะนั่งสามารถปรับระดับได้ 2 เลเวล ด้วยการไขกุญแจ แกะ-ถอด-ปรับ ระดับต่ำที่สุดจะอยู่ที่ 840 มม. สูงสุดจะอยู่ที่ 860 มม. ในส่วนนี้ผมรู้สึกว่า…ใครที่สูง 180 ขึ้นไป การปรับเบาะให้ต่ำที่สุด จะมีท่านั่งที่ไม่ค่อยดีเอาซะเลยนะครับ เหมือนตัวมันห้อยจุ่มๆ ยังไงไม่รู้นะ ผมเองสูง 178 ซม. ก็บอกเลยว่า ชอบแบบสูงสุด 860 มม. มากกว่า ส่วนเตี้ยสุด (840 มม.เนี่ยะ) แอบมีความเมื่อยเบาๆ ครับผม

Multistrada V4 S-Windscreen
[9.] ชิลด์ที่คิดมาแล้วว่าเหมาะที่สุด ตัดลมได้เยี่ยมที่สุด ใครที่ใช้หมวกกันน็อคทรงสปอร์ตจ๋าๆ ที่ไม่ค่อยเน้นช่องลมมากเท่าไหร่… หากขี่คันนี้แบบดึงชิลด์ขึ้นสุดนะครับ บอกเลยว่า “ร้อนจัดๆ” เพราะเอาแค่ระดับชิลด์เดิมๆ ไม่ต้องดึงขึ้นสุด มันก็ตัดลมออกไปได้มากแล้ว ซึ่งถ้าดึงชิลด์ขึ้นจนสุด… ตัวเราก็จะไม่โดนลมเลย จึงเป็นที่มาของคำว่า ตัดลมได้อย่างสิ้นเชิงครับ

2021-ducati-multistrada-v4-official-12
[10.] ชุดไฟ LED รอบคัน ที่ยังคงโดดเด่น และคงเอกลักษณ์ความเป็น Multistrada เสมอ เรื่องส่องสว่างนี่จำเป็นต้องพูดไหมครับ 5555 … มาตรฐานรถ Touring ระดับเรือธงของค่าย ไม่ต้องห่วงครับ

ducati-multistrada-v4s-time2021-001
[11.] ล้อหน้าขนาด 19 นิ้ว ขนาดยาง 120/70 และล้อหลังขนาด 17 นิ้ว ขนาดยาง 170/60 ซึ่งยางที่ติดรถมาจะเป็น Pirelli Scorpion ผสานการใช้งานแบบ Sport Touring และ Enduro ลงดินเข้าไว้ด้วยกัน หายห่วงเรื่องการยึดเกาะครับ… แต่ส่วน Feeling การขับขี่นั้น กับรถที่มีล้อหน้าขนาดใหญ่กว่าล้อหลัง ส่วนตัวผมรู้สึกว่าจะออกปลิวๆ นิดนึงหากเปิดคันเร่งเร็วๆ ลากรอบสูง ซึ่งผมมองว่าบางคนอาจจะไม่ค่อยรู้สึก หรือเฉยๆ กับมัน แต่สำหรับผมนั้น มันแอบเหวอหน้าเบานิดๆ ครับ

Multistrada V4 S-Radiator
[12.] การจัดการความร้อน ด้วยหม้อน้ำซ้าย-ขวาแยกออกจากกัน พร้อม Oil-Cooler ตรงกลาง ยิ่งพูดก็ยิ่งเหมือนอวยนะครับ แต่โกหกไม่ได้จริงๆ ว่ากำลังอวยมันอยู่ ก็เพราะความดีงามในทุกส่วนมันเยี่ยมจริงๆ (ยกเว้นอัตราสิ้นเปลือง) 55555
ไอเรื่องจัดการความร้อนใน Multistrada V4S ผมทึ่งจนไม่รู้จะทึ่งยังไงเลย ตัวรถสามารถจัดการความร้อนออกไปทางช่องลมตรงหัวเข่าผู้ขับขี่ ลำเลียงความร้อนเฉียงออกไป ในแบบที่ไอร้อนไม่เข้าถึงตัวหรือขาผมเลย… ซึ่งในตำแหน่งหลังหม้อน้ำ จะมีพัดลมแยกต่างหากทั้งสองข้าง ซ้าย-ขวาเป่า
เอาให้เห็นภาพก็คือ ระดับความร้อนพอๆ กับการขี่รถสปอร์ตพิกัด 400 cc. เป๊ะๆ เลยครับ ยอมใจจริงๆ อย่าลืมว่านี่คือรถพิกัด 1,200cc. 4 ลูกสูบที่อัดรอบได้หมื่นกว่ารอบ แต่ความร้อนระดับรถ 3-4 ร้อย cc. ไม่ใช้คำว่ายอดเยี่ยม ก็ไม่รู้จะใช้คำไหนละครับ

Review-Ducati-Multistrada-V4S (1)*** สรุป รีวิว Ducati Multistrada V4 S ในครั้งนี้ หากลองจินตนาการกันว่า “อัตราสิ้นเปลืองของมัน อยู่ในระดับที่ยอดเยี่ยม ไม่กินน้ำมันหนักหน่วงขนาดนี้…” มันจะเป็นรถที่โคตรไร้ที่ติเลยครับ
เรื่องน้ำหนักที่เบาเกินกว่าจะเป็นรถ Sport Touring 1200 cc. นั่นคือ 217 kg. หากเติมน้ำมันเต็มถัง 22 ลิตรนะครับ ก็หนักแค่ราวๆ 240 กว่า Kg. เท่านั้นเอง ไถจอด เข็นจัดท่าทางอะไรได้อย่างง่ายดาย ขี่ง่าย และควบคุมได้อย่างเชื่องมือ
ซึ่งมันก็มาจากการที่ Ducati เลือกใช้เฟรม Monocoque แบบให้เครื่องเป็นจุดศูนย์กลางในการประกอบตัวรถนั่นเองครับ จุดๆ นี้เรียกได้ว่า Ducati ก็ยังเป็น Ducati ละเอียดและหมั่นพัฒนาทุกสิ่งอย่างให้ออกมาดีที่สุดเสมอ

พลังเครื่องยนต์ที่เหลือเฟือ ไล่ตามรถสปอร์ตได้สบายๆ และ Top Speed ท้าตายที่ 270 Km./h ไม่รู้จะหาถนนเส้นไหนมาวิ่งอัดกันเลยทีเดียว เหลือกินเหลือใช้ฮะ
ช่วงล่างที่ยอดเยี่ยม ที่ให้อะไรมากกว่าการเป็นช่วงล่างไฟฟ้าโก้โก้ การ Adaptive แบบ Real-Time เข้ากับทุกรูปแบบการใช้งาน และทุกสภาพถนน
ระบบเรดาร์หน้าและหลัง ที่ใช้งานคู่กับ Cruise Control สุดชาญฉลาด และเป็นเจ้าแรกของโลกที่ทำออกมา หากคุณขี่ Multistrada V4S นี่คือสิ่งที่จะไม่มีใครมี ณ เวลานี้ครับ
การจัดการความร้อนที่เราเผลอลืมไปเลยว่า นี่คือรถ Sport Touring พิกัด 1200 cc. นะ แต่กลับมีอุณหภูมิราวกับขี่รถ 3-4 ร้อย cc. เท่านั้น
ไม่ว่าจะให้พูดบทสรุปอีกกี่ครั้งกับรถคันนี้ ผมก็มั่นใจว่าตัวเองจะยังตอบเหมือนเดิมครับว่า “รถมันสมบูรณ์แบบจริงๆ”

Review-Ducati-Multistrada-V4S (3)สุดท้ายนี้ต้องขอขอบคุณทาง Ducati Thailand ที่เอื้อเฟื้อรถให้ทีมงาน MotoRival ได้ทดสอบอย่างจริงจัง ส่วนตังค์ค่าน้ำมัน ของแอดมินเปรมเองครับ… (กรุงเทพ – เขาค้อ ทั้งไปและกลับ + ขี่เล่นบนดอย หมดค่าน้ำมันไปเกือบ 6 พัน 55555) สงสัยรอบหน้าต้องเปิด Cruise Control ล็อคความเร็ว 80 km./h ตลอดทริปซะแล้ว

อ่านรีวิว เพิ่มเติมได้ที่นี่
อ่านข่าว Ducati เพิ่มเติมได้ที่นี่

Share.

About Author

Background EXP in Automotive journalists more than 10 Years Writer & Test Driver @Pantip Garage 2018-Present @9carthai 2015- 2017 @Torque & VIPStyle Magazine 2015 @Autospinn 2012-2015 @GTmania.tv 2009-2010

error: Content is protected !!