รีวิว Honda CB650R / CBR650R E-Clutch มาลองบขี่ On Road ลงถนนครั้งแรกในโลก
หลังจากที่ MotoRival เราได้รีวิว Honda E-Clutch แบบ On Track กันไปแล้ว เราขอมาเก็บตก อีกหน่อยกับการขี่บนถนน ทั้ง 2 รุ่นเลย โฉม Naked CB650R และ Sport CBR650R ซึ่ง Thai Honda ได้จัดให้ สือ่มวลชนไทย ได้ทดสอบกันเป็นกลุ่มแรกในโลกกับระบบคลัทช์ไฟฟ้า ลงถนนในเมืองบุรีรัมย์กันบ้าง
โดยเส้นทางการวิ่งนั้น ก็คือ วิ่งออกจาก Pit ในสนามช้างฯ เลย (หลังจากทดสอบการขี่ในแทร็กช่วงเช้าเสร็จ สายก็เทส On Road กันต่อ) ซึ่งระยะก็ไม่ได้ไกลอะไร วิ่งผ่านใจกลางเมืองบุรีรัมย์ มีไปทางตลาด และวนไปผ่านทาง BigWing ก่อนจะกลับเข้ามายังสนามช้างฯ ซึ่งแน่นอน ไม่ได้ ขับด้วยความเร็วสูงแต่อย่างใด เพราะเราหวดในแทร็กด้วยความเร็วซัด เน้น Performance กันไปแล้ว ทาง Honda เลยให้เราไปขี่ชิลๆ รถติดๆ ดูว่าระบบ E-Clutch นี้ พอใช้งานในที่มันควรจะเป็นแล้วช่วยให้ชีวิตสะดวกสบายมากขึ้นเพียงใด
ในภาพรวมการใช้งานระบบนี้ บน On Road ต้องบอกว่า มันเหมาะเป็นอย่างยิ่งกว่าใน Track อีก เพราะ ขี่บนถนน เรายิ่งต้องกำคลัทช์บ่อย ทำให้ปวดเมื่อยนิ้วมือ และใครขี่ไม่แข็ง หรือเลี้ยงคลัทช์ ไม่ดีก็ดับอีก
แต่เราขี่ระบบ E-Clutch และไม่ต้องไปกำคลัทช์มันเลย ยังไงก็ไม่ดับ จนเรียกได้ว่าถอดก้านคลัทช์ออกไปได้เลย สำหรับผม ถือได้ว่าเป็นรถสปอร์ต คันแรกที่ผมขี่มือเดียวได้สบายๆ เลยดีกว่า
นอกจากนั้น หลายคนที่เจอปัญหาจอดบนทางชัน และเวลาออกตัวมันช่างยากลำบาก เพราะต้องเลี้ยงคลัทช์เติมคันเร่งเอาไว้ แต่ คันนี้ ก็แค่ กดคันเกียร์ลงมาที่เกียร์ 1 และเปิดคันเร่งออกได้เลยสบายๆ
ที่ดีงามอีกอย่าง คือ เวลา เราใช้เกียร์ไม่สัมพันธ์กับความเร็ว มันจะระบุบอกเลยเป็นสีเหลือง และมีเครื่องหมายให้ลดเกียร์ลง อันนี้ สำหรับใครที่ชอบขี่เกียร์สูงจนรอบเครื่องยาน ก็ช่วยเตือนสติได้ดี
เพราะการขี่เกียร์สูงๆ จะทำให้คลัทช์และเฟืองเกียร์สึกหรอได้มากกว่าปกติ
ในส่วนของตัว Shifter ถ้าขี่แบบสบายๆ อย่าง On Road ผมว่า Set Shifter เป็น Soft / Soft ทั้ง Up & Down ไปเลยก็ได้ แต่ จะมีอยู่นิดหน่อย คือ ถ้าเราขี่เกียร์ 1 ความเร็วช้าๆ และ จะเตะขึ้นเกียร์ 2 ความเร็วไม่สูงมาก อาจมีติดเข้าเกียร์ N บ้าง ซึ่งจะว่าไปก็แอบคล้ายกับรถ MT คลัทช์ มือหลายรุ่น ถ้าเตะไม่ดีไม่แรงพอ ก็ติดเกียร์ N ได้เช่นกัน
สำหรับความที่มันเป็นรถ 650R Series ในการขี่ใช้งานในเมืองรถติดๆ ด้วยความที่เป็นเครื่องยนต์ 4 สูบเรียง ช่วงมิดไซส์ ในวันที่เราทดสอบอากาศร้อนพอควร ก็ถือว่าได้รับไอร้อนมาที่หน้าขาอยู่ประมาณหนึ่ง
นอกจากนั้นความแตกต่างของโฉม เปลือย และสปอร์ต ก็คือ แฮนด์บาร์ ที่ขี่แล้วไม่เมื่อยเท่า จับโช้ก ทำให้การคอนโทรลลัดเลาะในเมืองทำได้เหมาะสมกว่า แต่ถ้าเกิดรถติดมากๆ ตัว CBR650R พอพับกระจกแล้ว
จะลัดเลาะช่องจราจรได้ง่ายกว่า เพราะแฮนด์ระดับจะต่ำกว่ากระจกรถเก๋ง ทำให้รูดผ่านช่องจราจรไปได้โดยง่าย
ขุมกำลัง ความแรง รวมไปถึงสมรรถนะของตัวรถ ผมว่า คงไม่ต้องพูดกันเยอะ มันแรงเพียงพอไม่ว่าจะขี่ในเมือง หรือ เดินทางไกล จะลงแทร็ก ก็ขี่สนุกได้หมด
ช่วงล่างและเบรก ก็ถือว่าเหมาะสม แต่ถ้าขี่เร็วมากๆ ผมว่าควรปรับเซ็ทพรีโหลดด้านหลังเพิ่มอีกหน่อย
สรุป รีวิว Honda CB650R E-Clutch / CBR650R On Road เรียกได้ว่าเป็นนวัตกรรมใหม่ ของการขี่รถ BigBike สายสปอร์ต
เพราะ ระบบ E-Clutch นี้ ชี่ลงถนน ถือได้ว่า เป็นระบบที่ดีมากๆ เหมาะอย่างยิ่งกับการจราจรในเมืองรถติดขัด มือใหม่ เลี้ยงคลัทช์ไม่เป็นก็ยังขี่ใช้งานง่าย
เรียกได้ว่าเป็นรถสปอร์ตที่ขี่มือเดียวได้เลย ยอดเยี่ยมสุดๆ QS 2ways ก็ทำงานได้เนียนดี แถมปรับระดับได้ กำลังเครื่องแรงเพียงพอ ทั้งใช้ในเมือง และเดินทางทัวริ่ง จะลงแรงพอสนุก
กับราคา +20,000- จากรุ่นปกติ แนะนำซื้อตัว E-Clutch เลยคุ้ม ส่วนสไตล์ ก็แล้วแต่ชอบว่าชอบไฟกลมเปลือย หรือ แฮนด์จับโช้กแบบสปอร์ตฟูลแฟริ่ง
อ่านข่าว Honda เพิ่มเติมได้ที่นี่