รีวิว Honda E-Clutch (CBR650 & CB650R) หวดคลัทช์ไฟฟ้าในสนาม Shifter เป็นไง

0

รีวิว Honda E-Clutch (CBR650 & CB650R) หวดในสนาม Shifter เป็นไง เข้าออก Pit ลืมก้านคลัทช์ไปเลย

รีวิว 2024 CBR650R
หลังจากที่ MotoRival เราได้รีวิว CBR650R 2024 ณ สนามแก่งกระจานไปแล้ว
ทาง Honda ก็ได้ให้สื่อทวลชนได้ ทดสอบเวอร์ชั่น Honda E-Clutch กันต่อตามนัดหมาย ซึ่ง MotoRival เราจะขอมา รีวิว Honda E-Clutch ใน CBR650 & CB650R ทั้ง 2 โมเดล ให้คุณผู้ชมได้รับชมกัน
ซึ่งทาง Thai Honda ได้ให้สื่อมวลชนไทยได้สัมผัสกันเป็นสื่อแรกในโลก ณ สนามช้างฯ และ On Road แห่งแรกในโลกที่ตัวเมืองบุรีรัมย์

2024 Honda CBR650R และ CB650R จุดต่าง
อย่างที่บอกครับว่า ดีเทล รายละเอียด หลักๆ ตัวรถก็จะเป็นเรื่องของรูปลักษณ์ภายนอก ฟีเจอร์หน้าจอสี และการปรับปรุงรายละเอียด อีกเล็กๆ น้อยๆ ซึ่งเราก็ได้พูดไปตอนมันเปิดตัวใหม่ๆ แล้ว (อ่านได้ที่นี่)

honda-e-clutch-CBR650R-CB650R-World-1st-ride
ดังนั้นเราจะขอมาโฟกัส ที่ฟีลลิ่งการขับขี่ในสนามช้างฯ โดยเน้นที่การทำงานของระบบ E-Clutch กันเป็นหลัก และอาจจะเสริมฟีลลิ่งของรถทั้ง 2 รุ่นนี้ อีกเล็กน้อย

Honda e-Clutch
สำหรับ E-Clutch มันคือ ระบบคลัทช์ไฟฟ้า ซึ่งหลายคน ที่บอกว่า รถแนว Family bike เคยทำออกมาก่อนหน้านานแล้ว นั้น ต้องบอกว่า มันเป็นคนละระบบ ลักษณะของรถเหล่านั้น จะเป็นคลัทช์เท้า ที่โยงขึ้นมาให้เล่นคลัทช์มือได้แบบรถสปอร์ต มันไม่ใช่คลัทช์ไฟฟ้า อย่างที่เราเห็นอยู่ใน Honda E-Clutch เพราะ เค้าจะมีระบบสมองกล ECU 2 กล่อง อีกตัวสำหรับชุดคลัทช์โดยเฉพาะ
ซึ่งตรงนี้ จะมีรายละเอียด เรื่องของเซ็นเซอร์ต่างๆ มากมายเข้ามาช่วยคำนวณ และการทำงานของมันจะมีตัว Quick Shifter 2Ways มาให้ด้วย แม้จะใช้คันเร่งสาย ก็ตามที ซึ่งถือว่าล้ำกว่ารถ Supersport บางรุ่นเสียอีก

ตั้งแต่ที่เราจะออกตัว ไปจนถึงกลับเข้ามาใน Pit เพื่อจอดรถนั้น ผมไม่ต้องยุ่งกับก้านคลัทช์อีกเลย

5a785917b65d128b5.jpeg
แรกเริ่มถ้าเราไม่บิดเปิดกุญแจ ระบบ E-Clutch จะยังไม่ทำงาน แต่เมื่อเราบิด On Switch กุญแจขึ้นมา จะพบว่าระบบมันยกคลัทช์ขึ้นมาช่วยรอแล้ว สังเกตุจากก้านคลัทช์ ระยะฟรี จะมีเยอะมากต้องกำคลัทช์ลงไปถึง 70% ถึงจะเจอน้ำหนักคลัทช์

ซึ่งถ้าเน้นขี่ใช้งานทั่วไป เราไม่ต้องใช้ก้านคลัทช์อีกต่อไป ตบเกียร์ลง 1 และที่เหลืองัดขึ้น 2->6 ได้ปกติเลย ถ้าไม่ยุ่งกับก้านคลัทช์ขี่ยังไงรถก็ไม่ดับ
แต่ถ้าใครอยากขับแบบเกียร์ MT (คลัทช์มือ) ปกติ ก็ได้ แค่กำคลัทช์ ระบบจะตัดการทำงาน E-Clutch ซึ่งสังเกตุได้จากโลโก้ที่หน้าจอ ตัว A จะหายไป ก็ขี่ได้เหมือนคลัทช์ปกติ เบิ้ลเครื่อง เลี้ยงรอบสูงๆ, เลียคลัทช์, เย่อคลัทช์เล่นได้ตามปกติ แน่นอน ถ้าคุณปล่อยคลัทช์ไม่ดี ก็ดับได้เหมือนเกียร์ MT ปกติเลย

MV-Agusta-Turismo-Veloce-800-Lusso-SCS_11
ต่อมา และการทำงานของมันเป็นไงบ้างล่ะ Shifter เข้าง่ายไหม?

Pon-MV-Agusta-Turismo-Veloce-LUSSO-SCS-White_1
ผมต้องขอเท้าความกลับไปประมาณ 6 ปีก่อน ช่วงปี 2018 MotoRival เราได้เป็นคนเดียวในประเทศไทยที่ไปทดสอบรถบบ MV Agusta SCS (Smart Clutch System) กันที่โรงงาน Varese ในอิตาลี บนตัวรถ Turismo 800 Veloce SCS ซึ่งระบบ SCS นี้ ก็ช่วยให้ ผู้ขี่ไม่ต้องกำคลัทช์ ตั้งแต่ออกตัวยันจอด (อ่านได้ที่นี่)

ฟังแค่ผลลัพธ์ คำว่า ไม่ต้องกำคลัทช์ตั้งแต่ ออกตัวยันจอดรถ ดูจะเหมือนกัน แต่รายละเอียดกลับไม่เหมือนกันเลย เพราะ MV ใช้เรื่องของ Hardware เป็นหลัก แต่ของ Honda E-Clutch เป็นระบบไฟฟ้า
ซึ่งข้อดีคือ เข้าเกียร์ง่ายนิ่มและเนียนดีมากๆ แตกต่างจาก SCS ที่ผมรู้สึกเจ็บเท้าในการเตะเกียร์ เพราะว่าสปริงคลัทช์แข็งมาก สุดท้ายกำคลัทช์เข้าเกียร์ง่ายกว่า
นอกจากนั้นยังเซ็ท Shifter ได้ 3 ระดับ Hard Medium Soft แยก ทั้ง Up และ Down คือ ดีเยี่ยมมากๆ

479e47d771d6153af.jpegในวันแรกที่ผมเทสตัว CBR ผมเซ็ทค่าโรงงานเลย คือ Medium ทั้ง Up และ Down ผมแอบเจอปัญหาช่วงเข้าเกียร์ 3->4 ในบางจังหวะ ช่วงเข้าโค้ง T5-6 และ T9-10 ที่จะต้องเตะเกียร์ในช่วงเอียงโค้ง
เพราะ ผมอาจจะต้องเตะเกียร์แบบเฉียงๆ เพราะรถเอียงอยู่ทำให้แรงเตะไม่มากพอ รวมถึงอาจจะเป็นที่จังหวะรอบเครื่องยังไม่พอด้วย ก่อนที่จะขึ้นเกียร์ 4 รถมันเบิ้ลเครื่อง วรึม ให้ก่อนเข้าเกียร์ 4 จุดนี้เลยทำให้เสียงจังหวะไปบ้าง แต่ผมว่าก็ยังดี เพราะถ้าเป็น Shifter หรือ คลัทช์มือปกติ มันน่าจะตกกลับมาเกียร์ 3 เหมือนเดิม เสียงจังหวะยิ่งไปอีก ถือว่าระบบรถก็พยายามช่วยแล้ว
จุดนี้ผมได้คุยกับ อ.ตี๋ ให้คำแนะนำว่า ให้ Set Shifter เป็น Hard ไปเลย ทั้ง Up และ Down อีกวันที่ผมเทส CB เลยลองดู ปรากฎว่า ทำได้ดีขึ้น คือ เกียร์อาจแข็งกว่าหน่อย ใช่แรงเพิ่มอีกหน่อย แต่พอเตะเข้าแล้ว มันก็จะเข้าไปเลยทำได้ดีกว่า ในวันที่ 2 ผมจึงขี่ได้เร็วกว่าเดิม

639f3829ee9bf5ec7.jpeg
สำหรับ ฟีลลิ่ง การขับขี่ ในสนาม 650R Series ถือเป็นรถที่มีพละกำลังเพียงอยู่แล้ว สำหรับการใช้งาน ทั้งในเมือง – เดินทางไกล
อย่างการขี่ในแทร็กเช่นนี้ กำลังประมาณ 95ps กับการขี่ในสนามช้างฯ สำหรับผม ก็ถือว่า ไม่แรงเกินไปจนเหนื่อย ขี่เต็ม Session 20 นาทีได้สบายๆ
แรงบิดช่วงต้นอาจไม่มากนัก ตามสไตล์รถสี่สูบขึ้นลื่นๆ ไม่ได้ดิบกระชากอะไร คันเร่งถือว่าคุมง่าย
แต่ถ้าใครขี่ในช้างฯ บ่อยๆ ก็คงอยากได้แรงกว่านี้อีกสักหน่อย

230a3a053a95c96b4.jpeg
ผมได้ TopSpeed สุดทางตรงก่อนเข้า T3 CBR650R ได้ 225kmph

39fb3f143adbfaebe.jpeg
ส่วน CB650R ได้ที่ 219 kmph (Slipstream) แน่นอน Aerodynamics สู้ ไม่ได้เลยได้ค่าน้อยกว่า

397ccf7d1fc0d47db.jpeg
ระบบช่วงล่างนั้น ด้านหน้าผมถือว่ามันดีมากเลย ช่วงล่างหน้า ถือว่านิ่งพับโค้งเข้า T4 ที่ความเร็วระดับ 180+ ยังไม่มีอาการโหวง แต่ Monoshock หลัง Setting เดิมจากโรงงานผมว่า มันนิ่มไปหน่อย
ขี่เร็วๆยังมีให้ตัวดิ้นๆ นิดๆ แต่จุดนี้ผมว่าปรับพรีโหลด กดสปริงเพิ่มอีกหน่อยน่าจะดีขึ้นได้

ระบบเบรก ก็ถือว่าให้มาเพียงพอทำได้ดีแล้ว สำหรับรถสปอร์ตที่ไม่ใช่สาย Replica เบรกหนักช่วงก่อน T3 และ T12 ผมยังไม่รู้สึก Fade หรือ ไม่อยู่แต่อย่างใด

274354edeee889689.jpeg
ขณะที่เรื่องของท่านั่งนั้น ผมมองว่า กับสรีระผมเอง CB650R ดูจะทำได้ดีกว่า คือ ก้มแล้วช่วงปลายคางไม่ชนสวิทช์กุญแจ ซึ่งก็จะเป็นมาจากตำแหน่งแฮนด์บาร์กับองศาแฮนด์บาร์ที่มันกางออกไปหน่อย
แต่ CBR650R นั้นงุ้มเข้าหาลำตัวกว่า แต่ก็อย่างว่าความถนัด และสรีระแต่ละคนก็ไม่เหมือนกัน ณ จุดนี้

1a7c0a0443160a37e.jpeg
ส่วน นน. ที่เพิ่มมา 2 กก. สำหรับระบบ E-Clutch เมื่อเทียบกับรุ่น MT ก็ถือว่านิดหน่อย เพราะนอกจากชุดกล่องคลัทช์ที่ติดตั้งขึ้นมาเหนือแคร้งเครื่องขวาแล้ว ก็จะมี ECU เพิ่มอีก 1
สำหรับผม ก็ไม่ได้ถือว่าเป็นผลมากแต่อย่างใด ส่วนกล่องคลัทช์ที่เพิ่มก็อาจจะเกะกะ สำหรับคนที่ตัวสรีระเล็ก เวลาต้องการวางเท้าลงบ้าง เพียงเท่านั้น

1831fd71d89434ca3.jpeg
แต่จุดที่ผมไม่ชอบใน Honda 650 มาตั้งนานแล้ว คือ เรื่องน้ำหนักตัวมันดูจะหนักมากไปหน่อย เวลาขี่ในแทร็ก คือจังหวะพับรถ ไม่มีปัญหา ยังพับได้เร็ว แต่จังหวะเดินคันเร่งออกโค้ง ช่วง Wide ออกตาม Racing Line ผมแอบรู้สึกมันยังไม่คมเท่าไร ในจังหวะออกโค้ง คือ เหมือนมันจะบานโค้งไปหน่อย ทำให้เร่งได้ไม่เต็มที่นัก

4e2efa99a0db51cc8.jpeg
สรุป รีวิว Honda E-Clutch (CBR650R & CB650R) การขี่ในแทร็ก Honda 650R Series ยังขี่ดีในระดับที่มันควรจะเป็นเช่นเคย เพิ่มเติม QS 2ways มาให้ ที่ถือว่านิ่ม และเนียนเข้าง่ายพอตัว

ที่สำคัญ ขี่ยังไงก็ไม่ดับ ถ้าไม่ไปยุ่งกับก้านคลัทช์ ส่วนการเซอร์วิส ก็แทบจะไม่ต้องมีอะไร เพราะมันไม่มีน้ำมันเกียร์ที่ต้องมาเปลี่ยนถ่าย ส่วนถ้ามีการเสียหาย อันนี้ทาง Honda บอกว่าคงต้องดูเปลี่ยนตามชิ้น Part No.
แต่ ถ้าดูราคา เพิ่ม 20,000- ซื้อๆ มันไปเถอะครับ แค่ได้ QS 2ways มาสำหรับผมก็ถือว่าคุ้มแล้ว

เอาเป็นว่าถ้าใครชอบโฉมหมอบๆ อยากซิ่งก็เลือก CBR650R ส่วนใครอยากขี่สบายขึ้นมาหน่อย ไม่เมื่อยมาก ก็ไฟกลม CB650R

Honda CBR650R E-Clutch ราคา 347,300 บาท
Honda CB650R E-Clutch ราคา 332,100 บาท

อ่านข่าว Honda เพิ่มเติมได้ที่นี่

Share.

About Author

Background EXP in Automotive journalists more than 10 Years Writer & Test Driver @Pantip Garage 2018-Present @9carthai 2015- 2017 @Torque & VIPStyle Magazine 2015 @Autospinn 2012-2015 @GTmania.tv 2009-2010

error: Content is protected !!