รีวิว Honda CB750 Hornet ตัวต่อต่อยหนัก ดิบเถื่อนสุดใน ญี่ปุ่นมิดไซส์

0

รีวิว Honda CB750 Hornet นี่คือ รถที่ดิบ ที่สุดคันหนึ่งของค่ายปีกนก ที่ได้เคยขี่มาเลย

รีวิว
หลังจากที่ เราได้รีวิว Transalp (XL750) ไปแล้วก่อนหน้า วันนี้ขอมาต่กันกับคู่แฝด 755 Twins ของมันกันต่อ ในร่าง Naked นั่นก็คือ CB750 Hornet เจ้าตัวต่อต่อย สุดเจ็บ คันนี้

d0MlR5a.jpeg
รูปลักษณ์ต้องบอกว่า ดูเผินๆ แล้วคล้ายกับตัว CB500F เจน4 เลย
ไฟหน้า สามเหลี่ยมแหลม แต่พลาสติกด้านใต้กรอบไฟ จากหยักๆ จะเป็นแบบเรียบๆ เรียวแหลม

d0MlxVq.jpeg
ไฟท้ายปรับมาเป็นทรงเหลี่ยมๆ และแน่นอนไฟเลี้ยวสหกรณ์ ที่ใช้ตั้งแต่รถเล็กยัน BigBike

d0MlEM0.jpeg
ปีกแฟริ่งหน้า ดูจะขนาดเล็กกว่า 500F พร้อมคำว่า Hornet ส่วนกาบแฟริ่งหม้อน้ำขนาดใหญ่กว่า พร้อมโลโก้ตัวต่อ

d0Mlqi8.jpeg
แฟริ่งท้าย และทรงเบาะ ก็ยังดูคล้าย 500F ที่มีช่องรีดอากาศทางด้านท้าย

d0MlTi1.jpeg
จอสี TFT 5″ แบบเดียวกับ Transalp (XL750) แต่ จะไม่มี Mode Gravel และเลือก ปรับ ABS ไม่ได้ โดยมันยังคงมี 4 Mode คือ Sport/Standard/Rain/USer
ซึ่ง User จะปรับค่า Power Mode เองได้ 3 ระดับ, Engine Brake Control 3 ระดับ และ Traction Control 3 ระดับ (+Off)

d0Ml9S2.jpeg
สวิทช์ไฟซ้าย มีปุ่ม Mode, Fn และ Joystick ใช้ควบคุมหน้าจอ

d0Mlbwu.jpeg
ชุดล้ออัลลอย ขอบ 17″ ด้านหลังให้มาไซส์ยางกว้างเพียง 160 ซึ่งเทียบกับเพื่อนๆ ในคลาส จะให้ไซส์หลัง 180 กันหมดแล้ว

d0Mlh5g.jpeg
มิติ Hornet 750 (CB750)
ความสูงเบาะอยู่ที่ 795 มิลลิเมตร
นน. 190 กก. (Wet))
ถังน้ำมัน 15.2 ลิตร

d0MlkVW.jpeg
ท่านั่ง
เบาะสูง 795 มม. สูงกว่า CB500F นิดหน่อย แต่ผมว่ายังนั่งคร่อมได้พอๆกัน ผมสูง 175 ซม. สวมผ้าใบ ยังมีระยะหย่อนเข่าเหลือพอควร

โดยภาพรวม อะไรต่างๆ ใกล้เคียงกับ CB500F มากๆ นน.ตัวเพิ่มขึ้นแค่ 1 กก. เท่านั้น อันนี้ต้องขอชื่นชม Honda เลย ที่รถพิกัดมากขึ้นเกือบ 300cc และแรงขึ้นเยอะมาก แต่ นน.ใกล้เคียงเดิมเลย

แฮนด์บาร์ น่าเสียดายไม่ใช่ Fatbar เป็นแฮนด์เตี้ยองศาต้องกางๆ แบะศอกขี่หน่อย ท่าจะคล้ายๆ พวกแนว Super Moto ซึ่งผมพบว่า มันจะเมื่อยพอควรเวลาขี่บนถนน
นอกจากนั้น ไม่รู้ว่าเพราะรถแรงขึ้น หรืออย่างไร ทำให้รู้สึกเลยว่าหน้ามันดูเบากว่า CB500F พอสมควร ดังนั้นกระแทกคันเร่งต้องระวัง

d0MlL61.jpeg
พละกำลังเครื่องยนต์
ผมอยากให้ลืม คาแรกเตอร์เครื่อง สไตล์ Honda หลายรุ่นที่เคยขี่มาได้เลย เพราะ 755cc สองสูบลูกนี้ ถ้าขี่ในโหมด Standard ที่ Power อยู่ในระดับสองแล้ว ก็ยังถือว่า ขี่คอนโทรลคันเร่งได้สบายๆ

d0MlJR2.jpegแต่เมื่อกด Sport Mode เข้าแล้ว อันนี้ ผมต้องยอมรับเลยว่า ตัวต่อต่อยหนักตัวนี้ มันเป็นรถมิดไซส์ญี่ปุ่น 2 สูบ ที่ ดิบดุดันที่สุดแล้ว
ต้องบอกตามตรงว่าคันเร่งไฟฟ้า ของมันแม้จะตอบสนองได้ดี แต่ เอาจริงๆมันไม่ค่อยจะเป็นมิตรกับมือใหม่สักเท่าไร ใครที่ไม่เคยขี่รถทอร์คหนักๆ ดีดๆ ผมไม่แนะนำให้กระแทกคันเร่งแรงๆ ใน Mode Sport นี้
อย่างตอนผมทดสอบ อัตราเร่ง-TopSpeed นั้น ต้องบอกว่า ช่วงรอบๆ ปลายๆ เข้า Redline นี่ ดูหนักหน่วงเอาเรื่อง หน้าลอยเอาง่ายๆ และพบอาการแฮนด์สะบัดออกมาด้วย
หรือ แม้แต่ ช่วงรอบกลางๆ ตอนผมพยายามเร่งแซง ช่วงประมาณ 4,000rpm เผลอเปิดคันเร่งแรงๆ แฮนด์สะบัดทันที

d0MlXkS.jpegกล่าว คือ ภาพรวมอัตราเร่ง ช่วงต้น กลาง ปลาย ต้องบอกว่า มาหมดแทบทุกช่วง แรงสะใจแน่นอน เพียงแต่ความเร็วปลายนั้น จะเดินไม่ลึกเหมือนอย่าง 4 สูบ 650cc เพียงเท่านั้น

จากที่ผมได้ลอง 0-TopSpeed ได้ค่า ประมาณ 220kmph GPS จริงได้เท่าไร รับชมได้ที่คลิป

แม้ มันจะมีระบบ Slip Assist Clutch และ สามารถปรับ EB ได้ ทำให้ผมรู้สึกว่า Engine Brake มันไม่ลงหนักที่ล้อหลัง มากเหมือนตระกูล 500 Series
แต่จุดที่ผมไม่ค่อยชอบ ก็คือ รถ Hi performance เช่นนี้ ไม่ได้ติดตั้ง QS มาให้จากโรงงานเหมือนอย่างคู่แข่ง (ซึ่งก็เข้าใจได้ที่ปีกนก พยายามจะทำราคาให้ไม่แพงเกินไป) แต่การที่ไม่มี QS ในรถสมรรถนะสูงเช่นนี้ เวลาเค้นรอบ และต่อเกียร์มันไม่ต่อเนื่อง และต้องอาศัยจังหวะเข้าเกียร์ที่ต้องแม่นยำพอสมควร เพราะช่วงที่ผมทดสอบ 0-TopSpeed ทั้ง 3 ครั้ง ผมมีเตะพลาดทุกครั้งเลย อันนี้ ผมต้องย้ำก่อนว่าอาจจะเป็นที่ตัวผมเองที่ เตะเกียร์กำคลัทช์ไม่แม่นด้วย ถ้าเป็นคนอื่นอาจจะไม่เจอปัญหาแบบผม

d0MlDhP.jpeg
ระบบกันสะเทือน จากตอนแรกที่ดูด้วยสายตา คิดว่า สเป็กก็ดูไม่ได้ต่างจาก CB500F สักเท่าไร
สำหรับผม มันสอบผ่านเลย มันมีความหนืดที่เหมาะสมทางด้านหน้า ถ้าขี่ปกติไม่เร็วมาก มันกำลังเหมาะสมเลย พลิกรถคอนโทรลได้อย่างคล่องแคล่ว แต่ถ้าขี่ความเร็วๆ หรือ กระแทกคันเร่ง จะยังพบอาการหน้าเบาอยู่ ต้องจับแฮนด์ให้มั่น และศอกหนีบถังให้แน่น

d0MlAEt.jpeg
และด้านหลัง ถ้าขี่แบบปกติทั่วๆ ไปพบว่ามันยังติดแข็ง และดีดๆ ไปบ้าง แต่ตอนขี่ด้วยความเร็วสูง คือ ไว้ใจได้เลย แน่นตึ๊บ ไม่มีโยนย้วย ซึ่งโดยรวมแล้วก็ต้องขอบคุณที่ Honda ออกแบบมันมาให้ นน. ไม่ค่อยต่างจาก 500 Series เท่าไร

d0MljDZ.jpeg
ระบบเบรก
สเป็กจาก 500F เลย ถ้าเบรกชะลอความเร็วแบบขี่ปกติทั่วๆไป ก็ ถือว่า ok พอเพียง แต่ใจผม อยากให้มันอัพเกรดเบรกจาก 500F สักหน่อย อย่างน้อยก็ให้จานมาเป็นแบบ Semi Floating แทนแบบ Fix Disc ก็น่าจะดี และขยายขนาดจานให้ใหญ่ขึ้นมากว่านี้หน่อย

d0MllJI.jpeg
เอาเป็นว่า ถ้าขี่ซัดๆ แบบผมก็สามารถใช้ Engine Brake มาช่วยได้ แต่ มันอาจไม่หนักหน่วงเท่าไร ดังนั้น ก็สามารถเซ็ทให้มัน EB มันหนักที่สุดได้ อีกสักหน่อย
d0MleMy.jpegสรุป รีวิว Honda CB750 Hornet หน้าละม้ายคล้าย CB500F แต่ มันเหมือนสายหมก เพราะ เจ้าต่อ คันนี้ ดิบ ดีด และเถื่อนสุดในญี่ปุ่นมิดไซส์ ขณะนี้
สเป็กใช้ได้ แต่อยากแนะนำเพิ่ม 2 จุดสำหรับสายมือตึงชอบกระแทกคันเร่ง อาการหน้าเบามากของมัน อาจต้องแก้ด้วยการใส่กันสะบัด
และเติมออปชั่นอย่าง QS น่าจะทำให้การเค้นสมรรถนะต่อเกียร์ได้ราบรื่นดียิ่งขึ้น

เมื่อเทียบกับราคาช่วง 3 แสนต้น เป็นผมจะเลือก 755 Twins มากกว่า 4สูบ 650cc เพราะทั้งเบากว่า แรงกว่า แถมนำเข้าจากญี่ปุ่นทั้งคัน

d0MlaEn.jpeg
Honda Hornet 750 ราคา 3.19 แสนบาท มี 2 ดำ และ ขาว แต่ถ้าสนใจลองไปติดต่อเซลล์ BigWing ดู เพราะเห็นว่ามี Gift Voucher ลดอีกหลายหมื่นเลยทีเดียว

อ่าน รีวิว เพิ่มเติมได้ที่นี่
อ่านข่าว Honda เพิ่มเติมได้ที่นี่

Share.

About Author

Background EXP in Automotive journalists more than 10 Years Writer & Test Driver @Pantip Garage 2018-Present @9carthai 2015- 2017 @Torque & VIPStyle Magazine 2015 @Autospinn 2012-2015 @GTmania.tv 2009-2010

error: Content is protected !!