รีวิว Keeway Shiny 150 แฟชั่น AT สกู๊ตเตอร์ โมเดลต่อยอดจาก Versilia 150 ด้วยไฟกลม

หลังจากที่เพิ่งเปิดตัวไปประมาณ 2 สัปดาห์ก่อน กับ Keeway Shiny 150 รถ Scooter สไตล์แบบ Fashion AT150 โมเดลที่ 2 ต่อจาก Versilia หลังจากที่เป็น AT โมเดลแรกในสไตล์ European AT เพิ่งทำตลาดไปยังไม่เต็มขวบปี ทาง Keeway ได้มาทำตลาดเพิ่มทางเลือกให้สำหรับผู้ที่ชื่นชอบรถในรูปลักษณ์ไฟกลม โดยพื้นฐานหลายส่วนจะยกมาจาก Versilia 150

มาเริ่มกันที่ชุดไฟหน้าแบบ LED ทรงกลม มีไฟ DRL รูปตัว X อยู่ด้านใน และมีการตัดกรอบเป็นสีโครเมียม

ไฟเลี้ยวอยู่ที่ด้านล่าง โดยมีมีแถวไฟ DRL อยู่ทางด้านบน

ไฟท้าย LED เส้นไฟรูปตัว X

ชิ้นบอดี้บังลมหน้า ตัดกรอบโครเมียมโดยรอบ และมีโครเมียมตรงกลางเป็นรูปตัว T

บอดี้ตัวรถเป็นแบบ Curve Line Design โค้งมนทรงหยดน้ำ มีจุดเด่นเวลาติดเครื่องยนต์จะมีไฟ LED สีขาวติดขึ้นแบบไฟ DRL

นอกจากนั้นตัวรถ Shiny 150 จะมีการตัดสติกเกอร์

มาตรวัดถ้วยกลมแบบ Digital LCD เปลี่ยนสีพื้นหลังได้ 7 สี
แสดงผล ความเร็ววัดรอบเครื่อง เกจ์น้ำมัน Odo และ Trip ได้

ชุดสวิทช์แฮนด์ ด้านซ้ายมีไฟสูง-ต่ำ, ไฟเลี้ยว, แตร ด้านขวานอกจาก Run-Off, Engine Start ยังให้ปุ่มไฟ Hazard มาด้วย
มีตะขอแขวนของทางด้านหน้า

ในรุ่นนี้จะมีเพียงกุญแจไขเท่านั้น

ลิ้นชักเปิดออกมาจะพบกับช่อง USB จ่ายไฟสามารถวาง Smartphone ลงไปได้ ที่ช่องทางด้านขวา

เบาะนั่งเชื่อมต่อกันเป็นชิ้นเดียว ในแบบรถ Scooter แดนน้ำหอม ซึ่งคันนี้ตัดด้วยเบาะน้ำตาม ทำให้รถเป็นทูโทนดูสวยงาม
เมื่อเปิดเบาะขึ้นพบกับ Ubox ความจุประมาณ 23 ลิตร ลึกพอที่จะวางหมวกเต็มใบลงไปได้
ถัดมาด้านข้างๆกัน จะเป็นถังน้ำมันจุ 5.6 ลิตร

พักเท้าหลังบานพับสามารถใช้เท้ากดสปริงก็จะดีดออกมา และสามารถแตะเพื่อพับเก็บได้แบบ Soft Close ทำสีโครเมียม

จุดเด่น เลยก็คือ มือจับหลัง ที่มาพร้อมแร็คหลังในตัวทำให้สาย เดินทางสามารถวางของและรัดสัมภาระได้เลยโดยไม่ต้องไปติดตะแกรงเพิ่ม

ชุดล้อเป็นลายแบบเดียวกับ Versilia 150 ซึ่งทาง Keeway บอกว่าได้แรงบันดาลใจจากกระทะล้อรถยนต์ สวมไซส์ยาง 120/70/12 ทั้งหน้า-หลัง

มิติรถ
เบาะสูง 790 มม.
ถังน้ำมันขนาด 5.6 ลิตร
น้ำหนักตัว 106 กก. (Dry)
ระยะฐานล้อ 1,330 มม.

ท่านั่ง
เริ่มที่ความสูงเบาะ 790 มม. ผมที่สูง 175 ซม. ยังเหยียบลงได้เต็มเท้า และมีระยะหย่อนเข่าเหลือๆ ซึ่งหากเทียบกับสกู๊ตเตอร์ยุโรป ก็จะพบว่าโดยส่วนมากเบาะจะสูงกว่านี้

ตัว Floorboard มีการกัดลายเป็นหนามเพื่อให้จิกเกาะพื้นรองเท้าได้ดี

ตำแหน่งแฮนด์ ดูความสูงใกล้เคียงกับรถ Scooter AT สไตล์นี้ จะสูงในระดับที่ไล่ๆกับรถยนต์เก๋ง ขณะที่กระจกมองข้างจะสูงในระดับพวกรถยกสูง

จุดที่ผมว่าทำได้ดี คือ ระยะแฮนด์มันดูสูงขึ้นมาทำให้เราไม่รู้สึกว่านั่งชันเข่าเกินไป

นน. ตัว 106 กก. Dry Weight เบากว่า Versilia 1 กก. ร่วมกับระยะฐานล้อสั้นลงอีก 30 มม. ทำให้คล่องตัวดีกว่า
ซึ่งแน่นอนเลยว่าจุดที่ช่วยให้มันมี นน.เบาก็เพราะตัวบอดี้พลาสติกไม่ใช่เหล็ก

ต่อที่ตำแหน่งคนซ้อน ตัวเบาะ 2 Step เริ่มที่พักเท้าผมพบว่าการที่ทำสีโครเมียม จึงทำให้มันดูลื่นไม่เกาะกับพื้นรองเท้า ดังนั้นเวลาลื่นๆ ฝนตกอาจต้องระวังสักหน่อย
ส่วนพักเท้า บานพับถืออันนี้ทำได้ดี ต่างจาก Scooter อิตาลี ที่มักทำเป็นแบบ Built in รวมกับ Floorboard ทำให้เหยียบได้ไม่เต็มที่แถมอาจมีปัญหาปลายเท้าไปเตะน่องผู้ขี่ได้
เบาะตำแหน่งผู้ซ้อนพบว่าอาจจะสั้นไปหน่อย และเนื่องจากปลายเบาะของผู้ขี่มันเชิดขึ้นเลยอาจจะดูดันต้นขาผู้ซ้อนนิดหน่อย แต่เบาะก็ดูกว้างพอควร คนตัวใหญ่ผมว่ายังนั่งได้เต็มก้นสบาย
ด้านมือจับกันตกที่ออกแบบมาเป็นแร็คหลังในตัว อาจจะเตี้ยและแบน ทำให้จับได้ไม่เต็ม Grip มือนัก แนะนำให้เกาะผู้ขี่จะดีกว่า

เครื่องยนต์ 1 สูบ 2 วาล์ว ระบายความร้อนด้วยอากาศ พิกัด 149.6cc มีกำลังสูงสุด 8.3hp@7,500RPM และแรงบิดสูงสุด 8.5Nm@6,000RPM ส่งกำลังด้วยสายพาน CVT

พื้นฐานเครื่องจาก Versilia แต่ ได้ปรับจูนให้กำลังมันลดลงจาก Versilia ลง นั่นจึงทำให้ผมแอบรู้สึกมันยังไม่จี๊ดจ๊าดเท่าตัว Versilia เพราะทาง Keeway มองโจทย์ว่าเน้นขี่สไตล์ชิลๆ เหมาะกับ Lifestyle ตัวรถมากขึ้น
คือ โดยรวมก็ถ้าขี่ใช้งานทั่วไปก็ ok แล้ว แต่ถ้าใครเป็นสายมือตึงแบบ MotoRival คงจะชอบตัวเครื่องของ Versilia มากกว่า
ด้าน 0-TopSpeed Test เราได้ทดสอบแล้ว หน้าปัดไปได้สูงสุด 112 กม./ชม. GPS จริงได้เท่าไร รับชมได้ที่คลิป

เรื่องความร้อน จุดนี้ผมว่าไม่มีปัญหาเพราะ ตัวบอดี้ได้ออกแบบให้มันมีช่องเปิดระบายตรงกลางบอดี้
ขณะที่อัตราสิ้นเปลือง MotoRival เราสายมือตึงพอสมควร จึงทำอัตราเร่งได้ช่วง 35 kml

ระบบกันสะเทือน โช้กหน้าแบบเทเลสโคปิก และ โช้กหลังเป็นแบบ โช้กเดี่ยวคอยล์สปริง
ต้องบอกว่ารถในสไตล์ European AT นี้ โดยส่วนมาก ขนาดแกนโช้กจะเล็ก และช่วงยุบน้อย
ทำให้เรื่องของการซับแรงยังต้องเรียนว่าทำได้ไม่ดีนัก ติดแข็งมีสะเทือนให้รู้สึกได้ ซึ่งถ้าเกิดขี่ผ่านลูกระนาด หรือหลุมต้องผ่อนชะลอความเร็วลงมากๆ เพราะอาจจะสะเทือนขึ้นมือ และโช้กอาจกระแทกยันได้

ระบบเบรก ด้านหน้าจานดิสก์ขนาด 185มม. ทำงานร่วมกับเบรก 2 pots
ด้านหลังเป็นดรัมเบรก ในรูปแบบเดียวกับ Versilia 150

ในด้านประสิทธิภาพการเบรก โดยรวมผมถือว่าทำหน้าที่ชะลอความเร็วลงได้ดี ปั๊มบนอาจดูแข็งนิดๆ แต่งผมถือว่าเพียงพอกับพละกำลังเครื่องยนต์ส่วนเบรกหลังดรัม ก็เน้นชะลอความเร็วไม่มาก เพราะเบรกหน้าเป็นตัวเบรกหลัก ถ้าขี่มาเร็ว และต้องกดเบรกลงลึก ฝั่งซ้ายอาจติดปลอกแฮนด์ ซึ่งตรงนี้ สามารถแก้ได้โดยมาบิดไขตัวน็อตสปริงดรัมเบรกหลัง แต่อย่างไรก็ดีครับ เราควรเผื่อระยะเบรกไว้ด้วยเนื่องจากอย่าพึ่งหวังจากประสิทธิภาพเบรกหน้าเพียงอย่างเดียว เพราะกดหน้าเยอะไปยิ่งถ้าเจอฝนตกก็ต้องระวังล้อล็อก

สรุป รีวิว Keeway Shiny 150 ถือได้ว่าเป็นสกู๊ตเตอร์ แฟชั่นเอที ที่เป็นอีก 1 ทางเลือก
ด้วยการที่เขาให้เครื่องพิกัด 150cc แน่นอนว่า ในเรทราคาใกล้เคียง ฝั่ง Scooter ญี่ปุ่นจะได้เครื่อง 125cc หรือ ถ้าข้ามไปเล่นแบรนด์ยุโรปก็น่าจะเหยียบหลักแสน ด้วยรูปลักษณ์ก็ถือว่าสวยมีความโดดเด่นจากไฟตรงบอดี้
ถ้าได้ไปปรับเซ็ทช่วงล่างเพิ่มเติม ทำชุดชามอีกหน่อย ผมว่าเป็นรถที่ขี่ได้สนุกคันหนึ่งเลย

ราคา Keeway Shiny 150 62,500 บาท และพิเศษสำหรับผู้จอง 500 คันแรก ภายใน 25 กุมภาพันธ์ จะได้ราคาพิเศษ 58,500 บาท โดยตัวรถจะมีสีให้เลือกทั้งหมด 4 สี คือ แดง, ฟ้า, ดำ, ขาว ผู้สนใจไปรับชมตัวจริงได้ที่ตัวแทนจำหน่าย Keeway ได้ทั่วประเทศ หาข้อมูลได้ที่ https://thailand.keeway.com/dealers