สวัสดีเพื่อนๆ คุณผู้ชมทุกท่านครับ ในวันนี้ ทางทีมงาน MotoRival ของเราก็จะมารีวิว Product ที่ถือได้ว่ามีความสำคัญมากที่สุดอย่างหนึ่งบนรถ นั่นก็คือ ยาง เพราะยางนั้นถือเป็นส่วนเดียวที่สัมผัสกับผิวถนน
ดังนั้น เราจึงควรใส่ใจให้ความสำคัญกับ ยาง มากเป็นพิเศษ สำหรับ เพื่อนๆ หลายคนที่ออกรถสกู๊ตเตอร์มาใหม่ๆ และมักจะพบกับปัญหา ยางเดิมไม่เกาะถนน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเวลาเจอพื้น เปียกเป็นต้องลื่น หรือ เหวอ กันอยู่เป็นประจำ รวมไปถึงพวกเพื่อนๆ ที่ชอบเข้าโต้ง และรู้สึกว่ายางเดิม เข้าได้ไม่เต็มที่ ไม่มั่นใจ ขี่แล้วไม่สนุก
วันนี้ ผมจะขอมา รีวิว Pirelli Diablo Rosso Scooter ยางอิตาลี ดีกรี พาร์ทเนอร์ WSBK คู่นี้ จะสามารถถ่ายทอด DNA รถ สปอร์ต ลงสู่รถสกู๊ตเตอร์ คันเก่งของคุณได้ดีแค่ไหนกัน มาชมกันเลยครับ
สำหรับรถที่ผมใช้รีวิว ในครั้งนี้ คือ Yamaha Xmax300 ซึ่ง ต้องบอกว่า ยางเดิมนั้นลื่นมากทีเดียวเวลาเจอกับฝน รวมไปถึงการเข้าโค้งที่ไม่รู้สึกมั่นใจสักเท่าใด
กับหน้าฝนเช่นนี้ ผมถือว่า ยางเเป็นอะไหล่ ลำดับต้นๆ ที่ควรจะเปลี่ยนเพื่อช่วยให้การขับขี่ทำได้ดี และปลอดภัยมากยิ่งขึ้น
โดยไซส์ของ Pirelli Diablo Rosso Scooter ที่เราจะมารีวิวนั้นจะมีขนาด 120/70/15 ทางด้านหน้า ขณะที่ ด้านหลัง 150/70/14 (Oversized 1 เบอร์จากยางโรงงาน)
ก่อนอื่นคงต้องขอท้าวความถึงยาง Pirelli Diablo Rosso Scooter กันเสียหน่อย เพราะที่จริงแล้ว ยางตัวนี้ต้องเรียกได้ว่ามันเป็นแฝดคนละฝากับ ยางสปอร์ตที่ใช้งานบนถนน On Road อย่าง Diablo Rosso III
แต่อยู่ในคราบของรถ Scooter
เรียกได้ว่า เทคโนโลยีทั้งหมดของ Rosso III นั้นถูกยก DNA มาบรรจุใน Diablo Rosso Scooter ชุดนี้ด้วย
ดีไซน์
จะเห็นได้ทันทีตั้งแต่แรกเลยว่า ลวดลาย สายฟ้า อันเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์อิตาลี นี้ ตั้งแต่ยาง Superbike ตัวแรงตระกูล Super Corsa ลงไปถึงรถเล็ก อย่าง Rosso Sport
ก็ได้ถูกติดตั้งมาเป็นร่องรีดน้ำของเจ้า Diablo Rosso Scooter นี้ด้วย มอบภาพลักษณ์ยางสายซิ่ง ได้เป็นอย่างดี
ด้วยความที่ยางหลังของ Rosso Scooter ที่เราใส่นี้เป็น Oversized 1 เบอร์ นั่นจึงทำให้เวลาเรามองจากมุมบั้นท้ายรถแล้ว เรียกได้ว่ายางหลังดูกว้างใหญ่ บั้นท้ายดูเต็มยิ่งขึ้น ซึ่งรับกันกับบั้นท้ายแฟริ่งช่วงบนของ Xmax ที่มีความกว้างใหญ่ได้เป็นอย่างดี ถ้าให้เทียบ มันให้ความรู้สึกเหมือนกับเป็นรถในพิกัด Midsized เลย ทั้งที่ความจุ จริงแค่ครึ่งเดียวของรถ มิดไซส์ ทั้งหลาย
เทคโนโลยี
เริ่มกันที่โครงสร้างยางหน้า จะเป็นเนื้อยาง คอมปาวด์เดียว (1 Compound) ซึ่งจะมาพร้อมกับเทคโนโลยีการออกแบบผิวหน้ายางแบบ Multi Radius (ความแตกต่างกันของผิวหน้ายางมากถึง 10 ระดับ)
ซึ่งจะช่วยให้การหักเลี้ยว (แบบเปลี่ยนทิศทางทันที) นั้นสามารถทำการคอนโทรลรถได้ดียิ่งขึ้น มีความแม่นยำสูง)
ในส่วนของด้านหลัง จะเป็น 2 Compound
โดยแบ่งสัดส่วนของโครงสร้างยางออกเป็น 40-20-40
นั่นก็คือ Side Compound 40% ทั้ง 2 ฝั่ง จะเป็นเนื้อ Pure Silica (100% ซิลิกา)
ตรงกลาง 20% ที่เหลือเป็น Hi Silica ซึ่งในส่วนตรงกลางจะเน้นความมั่นคงในการขับขี่ และระยะการใช้งานที่ยาวนาน
ต่อมาหลายคนคงมีคำถามต่อมาว่า แล้วเจ้า Silica ที่มีเยอะๆ เนี่ยมันดียังไง?
Silica จะช่วยลดการบิดตัวของยาง ซึ่งจะดีกว่ายางทั่วไปที่ใช้ผงคาร์บอน
รวมไปถึง Silica จะช่วยเพิ่ม Grip การยึดเกาะบนพื้นผิวเปียกได้ดีอีกด้วย
ผลการทดสอบ
ก่อนอื่นเลยผมต้องบอกก่อนว่า ก่อนหน้าที่จะใส่ยาง นี้ผมได้เปลี่ยนยาง ตระกูล Touring มาก่อนแล้ว ซึ่งก็ถือว่าค่อนข้างพอใจกับสมรรถนะของมัน ที่มากกว่ายางติดรถเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว
แต่จากที่ยางหลังมัน Oversized นั่นจึงทำให้การเข็นรถ หรือ บิดออกตัวนั้น อาจจะรู้สึกมันหนืดๆ หนักขึ้นกว่ายางที่เป็นไซส์มาตรฐานอยู่บ้างเล็กน้อย
ซึ่งข้อดีของมัน ที่สัมผัสได้ ทันทีที่เปลี่ยนใส่ ครั้งแรกเลยก็คือ ความมั่นคง เวลาขี่ใช้ความเร็ว (ระดับ 130 กม./ชม.+ จะยิ่งเห็นได้ชัด)
หรือ เวลาเจอพวกจังหวะรอยต่อถนน ต่างๆ มันไม่มีอาการดิ้น ออกมาให้เหวอ รู้สึกถึงความนิ่ง เฟิร์มกว่า ที่เป็นไซส์มาตรฐานโรงงานแบบเห็นได้ชัด
นอกจากนี้การที่เป็นยาง Oversized และรูปทรงของยาง ที่ดูกลมใหญ่ ตามที่ได้บอกไปว่า โครงสร้างตัวด้านข้าง (แก้มยางนั้น กินพื้นที่ถึง 40%)
นั่นจึงทำให้เวลาเราเข้าโค้งกว้างๆ แบบเทโค้งยาวๆ รถจะดูดโค้งได้ดี ให้ความมั่นใจในฟีลแบบเทโค้งรถสปอร์ต ประมาณนั้น
สำหรับ การขี่ที่ต้องเน้นความคล่องตัว ต้องมีการคอนโทรลหักเลี้ยวเยอะๆ แบบซอกแซก นั้น Rosso Scooter ตัวนี้ อย่างที่บอกไปว่ามันมีความหนืดอยู่เล็กน้อย ความกระฉับกระเฉงอาจจะไม่เท่ายางสาย Touring อย่าง ตระกูล Angle Scooter
แต่ อย่างไรก็ดี Rosso Scooter นี้ก็ยังให้การคอนโทรลในเมือง ได้ดีกว่ายางเดิมเป็นอย่างมาก
ขณะที่การขี่บนพื้นผิวที่เปียกอย่างฝนตก ก็ทำได้ดี ไม่แพ้บางตระกูล Touring เลย เนื่องจากเนื้อยางแบบ Hi Silica จึงช่วยให้ Grip บนทางเปียก ทำได้ดี ขี่ได้อย่างมั่นใจไม่แพ้กัน
สรุปแล้ว รีวิว Pirelli Diablo Rosso Scooter ในครั้งนี้ ทำให้เรามั่นใจได้ว่า แม้จะเป็นยางสกู๊ตเตอร์ แต่ด้วยการใช้ลายสายฟ้า จากรุ่นพี่ Rosso III ที่เรียกได้ว่าแค่ใส่ก็ดูเท่แล้ว
มันไม่ได้มาเพียงแค่รูปลักษณ์ แต่ยังถ่ายทอด DNA รถ Supersport ทั้งหมดลงมาด้วย ช่วยแปลงร่างรถสกู๊ตเตอร์คันเก่ง ของคุณ ให้เข้าโค้งสนุก มอบฟีลลิ่งความมั่นใจแบบรถสปอร์ต ได้แบบเต็มพิกัด
แต่ถ้า เพื่อนๆ ไม่ได้ เป็นสายซิ่ง ชอบเท เน้นใช้งานทัวริ่ง หรือ บนถนนขับขี่ในเมืองทั่วๆ ไป Angel Scooter ก็ น่าจะเป็นยางที่ตอบโจทย์ได้ดีเช่นกัน
ในส่วนของราคานั้น Pirelli Rosso Scooter ราคา เริ่มต้นที่ล้อขอบ 12″ ที่ พันปลายๆ
สำหรับไซส์ยางที่เราใส่รีวิว ใน Xmax, Forza นี้ จะอยู่ที่คู่ละ ประมาณ 4,700 บาท
ผู้ที่สนใจสามารถติดต่อสอบถามได้ทางตัวแทนจำหน่าย Pirelli Moto ทั่วประเทศ หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ทาง Pirelli Moto
อ่าน รีวิว อื่นๆ เพิ่มเติมได้ที่นี่
เพื่อนๆ Bikers สามารถติดตามข่าวสารวงการล้อ ได้ทางแฟนเพจ MotoRival ของเราครับ
