ริวิว Triumph Thruxton R นีโอ-คาเฟ่ และ Bonneville T120 นีโอ-คลาสสิค ฝาแฝดต่างสไตล์ ที่น่าโดนสุดในตลาดพรีเมี่ยม

0
Showing 2 of 2

Triumph-Bonneville-T120_02
มาต่อกันที่ Triumph Bonneville T120 ซึ่งถือได้เป็นรถคลาสสิคแบบดั้งเดิม โดยถอดแบบรถดั้งเดิมแท้ๆ มาจาก 1959 Bonneville ปรับพัฒนาให้เป็นรถคลาสสิคร่วมสมัยยิ่งขึ้น ดูเผินๆ รูปทรงอาจจะคล้ายกับ T100 แต่ T120 จะเห็นหม้อน้ำวางยาวอยู่เป็นตระหง่าน และการใช้จานดิสก์หน้าคู่ นั่นจึงทำให้รถคันนี้ดูทรงพลังยิ่งกว่าเดิม

Triumph-Bonneville-T120_03
Bonny T120 นั้นจะใช้ตัวถังสีทูโทน ที่คงดีไซน์คลาสสิค แต่ยังติดหรูจากการใช้โครเมียมตกแต่ง อาทิ

Triumph-Bonneville-T120-Detail_22
ท่อไอเสียทรง Pea Shooters ที่ชุบโครมตั้งแต่คอท่อยันปลาย เข้ากันกับแคร้งเครื่องยนต์, เพลท Triumph และมือจับหลัง

Triumph-Bonneville-T120-Detail_23
สำหรับล้อเป็นแบบซี่ลวด สวมยางหน้าไซส์ 100/90/R18 หลัง 150/70/R17 จาก Pirelli Phantom (ยางเหมือน Street Twin)

Triumph-Bonneville-T120-Detail_28
มาตรวัดแบบอนาล็อกปนดิจิตอล ทรงถ้วยคู่ แบบเดียวกับ Thruxton R ไม่ขอพูดซ้ำ

Triumph-Bonneville-T120-Detail_08
สวิทช์ทางฝั่งซ้ายมีปุ่ม i ที่ใช้บังคับเลือกตั้งค่าต่างๆ และปุ่มไฟ Pass (เมื่อเปิดไฟ DRL แต่ถ้าเปิดไฟหน้าปกติ จะทำหน้าที่เป็นสวิทช์ไฟสูงซึ่งต้องกดเปิด-ปิด) ขณะที่สวิทช์ไฟฉุกเฉินจะไปอยู่ทางฝั่งขวา ร่วมกับปุ่มปรับ Riding Mode
*ในรุ่น T120 นี้จะสามารถปิดระบบอิเล็กโทรนิคได้เพียง TTC เท่านั้น และ Riding Mode เหลือ แค่ 2 Mode

Triumph-Bonneville-T120-Detail_03
ปลอกแฮนด์ขนาดอวบอิ่มเต็มมือ ให้ปุ่ม Heated Grip มาใช้งานอีกด้วย

Triumph-Bonneville-T120-Detail_04
ก้านคลัช ปรับ 4 ระดับ ก้านเบรกปรับ 5 ระดับ

Triumph-Bonneville-T120-Detail_02ฝาถังน้ำมันแบบเดียวกับ Street Twin

Triumph-Bonneville-T120_08ใน Bonneville T120 เพิ่มขาตั้งคู่มาให้ด้วย

Triumph-Bonneville-T120-Detail_18
ขณะที่ไฮไลท์ของตระกูล Triumph Bonneville ใหม่ อยู่ที่ช่องจ่ายไฟ USB ใต้เบาะ

Triumph-Bonneville-T120_07
ด้านความสูงเบาะไม่เตี้ยไม่สูง 785 มม. (แต่สูงกว่า Street Twin ถึง 35 มม.)
น้ำหนัก 224 กก. (Dry)
ความจุถังน้ำมัน 15 ลิตร (T120)

Triumph-Bonneville-T120-Detail_11
สำหรับท่านั่งขี่นั้น ที่จริงแล้ว Bonneville T120 มีท่านั่งคล้าย Street Twin แต่มีบอดี้ที่ใหญ่กว่า ด้วยแฮนด์ที่ยกสูงพอสมควร และงุ้มเข้าหาลำตัวเล็กน้อย จึงทำให้ท่านั่งนั้นดูเหมือนจะถูกบล๊อกหลังให้ตรง ซึ่งก็ถือเป็นสไตล์ท่านั่งรถคลาสสิคทั่วไปที่ขี่ได้สบาย ไม่ต้องตึงเครียดกับการเค้นความเร็วในการเดินทางนัก แต่ถ้าขี่เร็ว จะพบว่าท่านั่งโต้ลมมากทีเดียว และการหมอบก้มลงจะทำได้ลำบากพอสมควร ขณะที่ถังน้ำมันที่เว้าแบบเดียวกับ Thruxton แต่มียางรองเพิ่มเข้ามากลับดูไม่กระชับกับต้นขานัก โดยเฉพาะเวลาบิดเร็ว และขาต้องหนีบถังให้แน่น

Triumph-Bonneville-T120-Detail_25
เบาะนั่งยาวอยู่ในระนาบเดียวกับผู้ซ้อน และค่อนข้างกว้างพบว่ามันนั่งได้สบายจริง! เบาะอาจจะดูไม่นุ่มเท่ารถประเภท Touring แต่ทว่า การเดินทางไกล มันช่วยให้ไม่เมื่อยก้น เหมือนเบาะเจลนุ่มที่มักยุบตัวเวลานั่งนานๆ

Triumph-Bonneville-T120-Detail_14
เครื่องยนต์ 1200HT บล็อกเดียวกับ Thruxton R ปรับจูนใหม่ เน้นทอร์ครอบต้น กำลังอัดจาก 11:1 ลดลงเหลือ 10:1 นั่นจึงลดแรงม้าลง 80PS@6,550rpm  105 Nm@3,100rpm ส่งกำลังผ่านเกียร์ 6 Speed แทนที่ T100 และ Street Twin ที่ใช้เพียงแค่ 5 Speed ซึ่งโดยรวมจึงทำให้แรงดึง Engine Brake นั้นน้อยกว่า Street Twin ที่มักพบแรงดึงกลับจังหวะ Shift Down เกียร์ลงจนล้อล็อกดังเอี๊ยดอยู่บ่อยครั้ง รวมไปถึงการส่งกำลังของเครื่องยนต์ดูต่อเนื่องไหลลื่นกว่า

Triumph-Bonneville-T120-Detail_26
เมื่อติดเครื่องยนต์ จะพบว่าเสียงเครื่องทุ้มแน่นกว่า Thruxton R ที่ดูเสียงแตก T120 จึงมีซุ่มเสียงน่าฟังกว่า จากท่อทรง Pea Shooters

จุดหนึ่งผู้เขียนพบว่าปลอกแฮนด์ดูจะอ้วนไปเสียหน่อยกับคนข้อมือเล็ก ทำให้การจับนั้นอาจดูไม่กระชับมือนัก

Triumph-Bonneville-T120-Detail_13
ใน T120 จะมี Riding Mode เหลือเพียง 2 โหมด คือ Rain, Road เท่านั้น ซึ่งเราจะมาพูดกันถึง 2 โหมดนี้กันครับ

Triumph-Bonneville-T120_09
ในโหมด Road คันเร่งไฟฟ้าตอบสนองใกล้เคียงกับ Thruxton R ที่มีอาการหน่วงเล็กน้อย และการขี่ที่ความเร็วรอบต่ำมากๆ อาจต้องเปิดคลอเดินคันเร่งหน่อย โดยเฉพาะช่วงคืบคลานรถติดในกรุง

Triumph-Bonneville-T120-Detail_21แม้ว่า แรงม้าจะน้อยลงไปอีกเหลือเพียง 80 ตัว แต่ด้วยแรงบิดระดับ 100Nm + ที่ปรับจูนให้รีดออกมาตั้งแต่รอบต่ำ ทำให้ช่วงออกตัวนั้นไม่ได้ดูแย่กว่า Thruxton R แต่อย่างใด ออกตัวแค่กระแทกคันเร่งหน่อยทอร์คก็ถูกเรียกมาให้ใช้พร้อมแซงได้ดั่งใจคิด เครื่องบล็อกนี้ยังคงเด่นที่รอบต้น-กลาง แต่ทว่า T120 นั้นกำลังจะมาไวหมดไวกว่า Thruxton R เราพบว่ากำลังเริ่มดรอปช่วงรอบเครื่อง 6,000rpm+ ขึ้นไป

Triumph-Bonneville-T120-Detail_27
ถึงกระนั้นก็ตาม การเร่งแซงในขณะเดินทางไกลนั้น ก็ทำได้ใกล้เคียงกัน (ในโหมด Road) ไม่ต้องลุ้นเหนื่อยเมื่อต้องการแซงรถยนต์ที่ย่านความเร็วมากกว่า 120 กม./ชม. เพียงแต่จะพบกับลมที่ปะทะลำตัวมากหน่อยเพียงเท่านั้น และคันเร่งดูจะไม่ติดมือเท่า Sport Mode ใน Thruxton R

Triumph-Bonneville-T120-Detail_10
Rain Mode ในโหมดนี้คันเร่งจะตอบสนองช้าลง รวมไปถึงมันจะช่วยคุณในจังหวะเปลี่ยนเกียร์ต้น ในช่วงเกียร์ 1-2 ป้องกันไม่ให้ล้อสลิป จนศูนย์เสีย Traction โหมดนี้จะเข้ามาทำงานร่วมกับ TTC ซึ่งหากเจอพื้นถนนที่ลื่นกดเข้าโหมดนี้เลย เพื่อการคุมคันเร่งที่ดียิ่งขึ้น

Triumph-Bonneville-T120-Detail_17ด้านอัตราสิ้นเปลืองนั้น จากการวิ่งมาด้วยกันกับ Thruxton R จะมีตัวเลขเฉลี่ยตามแดชบอร์ดราว 20 กม./ลิตร

Triumph-Bonneville-T120-Detail_16ระบบกันสะเทือน โช้คอัพด้านหน้า KYB ขนาดแกน 41 มม. ระยะเคลื่อนตัว 120 มม. ด้านหลังโช้คอัพคู่จาก KYB ปรับ Preload ได้ ระยะเคลื่อนตัว 120 มม. เช่นกัน

Triumph-Bonneville-T120_05การขับขี่รู้สึกว่า ให้ความนุ่มนวลดีกว่า Thruxton R แต่ก็ไม่ยวบย้วยแบบ Street Twin ให้ทรงที่ดูหนักแน่นกว่า ส่วนหนึ่งน่าจะมาจากน้ำหนักรถร่วมๆ 240 กก. เมื่อเติมของเหลวเต็มคันรถด้วย แต่การเข้าโค้ง และการยึดเกาะถนนอาจไม่เทียบเท่าโช้คอัพในแบบรถสปอร์ต ที่เหมาะจะไปซิ่งเล่นโค้งนัก ร่วมกับซีรีย์ยางที่เน้นขี่แบบชิลๆ เสียมากกว่า

Triumph-Bonneville-T120-Detail_15ระบบเบรก ABS หน้า-หลัง ไม่สามารถปิดได้ ด้านหน้าจานดิสก์คู่ขนาด 310 มม. คาลิปเปอร์ 2 สูบ Nissin

Triumph-Bonneville-T120_06จานดิสก์หลังเดี่ยวขนาด 255 มม. คาลิปเปอร์ 2 สูบ Nissin น้ำหนักของปั๊มเบรกนั้นดูเบากว่าของ Thruxton R ที่ดูจะแน่นและหนืดกว่า

Triumph-Bonneville-T120-Detail_29โดยรวมการทำงานของเบรก ถือว่าเป็นที่น่าพึงพอใจ การทำงานดูทันท่วงที เบรกดีกว่า Street Twin ที่ใช้จานดิสก์หน้าเดี่ยว ซึ่งในบางครั้งอาจต้องใช้ Engine เข้าช่วย หากคุณไม่ได้ลองขี่ Thruxton R มาก่อน มันจึงทำให้เห็นข้อแตกต่าง จากความละเอียดและน้ำหนักที่ดูแน่นยิ่งกว่า

Triumph-Bonneville-T120_04
สรุป Triumph Bonneville T120 ถือเป็นรถคลาสสิคร่วมสมัย ที่รักษากลิ่นอายดั้งเดิมไว้เป็นอย่างดี เครื่อง High Torque ที่ทรงพลัง เหมาะกับการเดินทางไกลได้ดี แม้น้ำหนักตัวจะมาก แต่การขี่ควบคุมนั้นทำได้ดีทีเดียว

Triumph-Bonneville-T120_03ถ้าคุณมองหารถคลาสสิคใช้งานทุกวัน เป็นมิตร ขี่สนุก พร้อมตกแต่งได้หลากหลาย Street Twin ดูจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่า แต่ถ้ารักรูปลักษณ์ดั้งเดิม และต้องการสมรรถนะในการขับอย่างแท้จริง Bonneville T120 ตอบโจทย์คุณอย่างไม่ต้องสงสัย

Triumph-Thruxton-R-T120_1สรุปรวม ทั้ง Triumph Thruxton R และ Bonneville T120 เรียกได้ว่า เป็นรถสไตล์ Neo-Retro มีการประยุครูปลักษณ์ในแบบดั้งเดิมเข้ากับเทคโนโลยีสมัยใหม่ ได้อย่างลงตัว สวยงามจนเป็นประติมากรรมชั้นเลิศ ทั้งสมรรถนะและระบบอิเล็กโทรนิก ช่วยให้ทั้งคู่เป็นรถ คาเฟ่ และ คลาสสิค ที่ขี่สนุก เป็นมิตร ใช้งานได้จริง มีเทคโนโลยีความปลอดภัยไร้กังวล ในแทบทุกสภาวะการขี่ จนต้องบอกว่า Triumph Thruxton R และ Bonneville T120 เป็นรถคาเฟ่ และคลาสสิค ระดับพรีเมี่ยม ที่น่าสนใจมากที่สุดในตลาดขณะนี้เลยก็ว่าได้

Triumph-Thruxton-R-T120_3จุดเด่น

  • รูปลักษณ์ที่โดดเด่น ขับไปไหนก็มีแต่คนมอง (ทั้ง 2 รุ่น)
  • เครื่อง 1200HT ที่เน้นแรงบิดสำหรับการใช้งานจริง ไม่เน้นแรงม้า (ทั้ง 2 รุ่น)
  • เบรก และช่วงล่างขั้นเทพ (Thruxton R)
  • Riding mode ที่ควบคุมและเปลี่ยนโหมดได้ง่ายใช้งานได้จริง (ทั้ง 2 รุ่น)

Triumph-Thruxton-R-T120_4จุดที่อยากให้มีเพิ่มเติม

  • ปิด ABS ได้ (T120)
  • ฝาถังน้ำมันแบบบานพับ ไม่ต้องถือถอดออกมาทั้งชิ้น (ทั้ง 2 รุ่น)

Key-Triumph-Thruxton-R-T120_2ขอขอบคุณ Triumph Motorcycles Thailand สำหรับรถทดสอบ Triumph Thruxton R สี Silver Ice ราคา 6 แสนบาท และ Bonnevile T120 สี Cranberry Red/Aluminum Silver ราคา 5.3 แสนบาท

Pon-KAlvin-KDanus_Triumphขอบคุณ Danus Hobby Farm ฟาร์มแกะ + Coffee Shop สถานที่แวะพักรถที่ไม่ควรพลาดเก็บบรรยากาศความสวยงาม
ภณ เพียรทนงกิจ Test Driver & Photo
อำพล มูลทองสุข Co-Rider & Photo

Triumph-Thruxton-R-Detail_28อ่านข่าว Triumph เพิ่มเติมได้ที่นี่
อ่านรีวิวรถอื่น เพิ่มเติมเติมได้ที่นี่

เพื่อนๆ Bikers สามารถติดตามข่าวสารวงการล้อ ได้ทางแฟนเพจ MotoRival ของเราครับ

2 คู่หู Bonneville รหัส 1200HT ต่างสไตล์แต่หัวใจเดียวกัน

7.8 Neo Cafe และ Neo Classic ที่น่าโดนที่สุดในตลาดพรีเมี่ยม

ค่ายรถอังกฤษทำราคา และคุณภาพ ได้อย่างคุ้มค่า พร้อมผสมผสานความดั้งเดิมกับ เทคโนโลยียุคใหม่ได้อย่างลงตัว
คอคาเฟ่ และ คลาสสิค ต้องหามาครอบครอง

  • Triumph Thruxton R 8.5
  • Triumph Bonneville T120 7
  • User Ratings (15 Votes) 6.9
Share.

About Author

Background EXP in Automotive journalists more than 10 Years Writer & Test Driver @Pantip Garage 2018-Present @9carthai 2015- 2017 @Torque & VIPStyle Magazine 2015 @Autospinn 2012-2015 @GTmania.tv 2009-2010

error: Content is protected !!