ดูเหมือนว่าในการแข่งขัน MotoGP จะยังคงอุดมไปด้วยดราม่าเหมือนเช่นที่่ผ่านๆมา ซึ่งในกรณีล่าสุดที่พึ่งเกิดขึ้นสดๆร้อนๆเมื่อคืนก่อนก็คือ กรณีการปะทะกันระหว่าง Alex Rins กับ Marc Marquez ในช่วงต้นของรอบ Q2
โดยในเหตุการณ์ครั้งนั้น ได้เริ่มขึ้นตั้งแต่ตอนที่ Marc Marquez กำลังเป็นผู้นำในกลุ่มนักบิด 3 คน อันได้แก่ตัวเขาเอง, Jack Miller, และ Alex Rins ซึ่งตอนนั้น MM93 ยังคงทำเวลาได้ไม่ดีเท่าไหร่นัก และมีอาการบานโค้งออกให้เห็นบ่อยๆ ทำให้ Jack Miller หาช่องแซงขึ้นไปได้ตั้งแต่โค้ง 5 และต่อมา Alex Rins จึงอยากหาจังหวะแซง Marc เพื่อนขึ้นไปทำเวลาต่อบ้าง
แต่ในจังหวะที่ Rins เสียบ Marquez เพื่อแซงในโค้ง 8 ดูเหมือนว่านักบิดหมายเลข 93 จะไม่ได้เปิดช่องให้อย่างเต็มใจเท่าไหร่นัก เนื่องจากเจ้าตัวบานออกไปเพียงเล็กน้อยเท่านั้น จึงทำให้เกิดการปะทะของสองนักบิดขึ้น และส่งผลเกี่ยวเนื่องให้นักบิดฝ่ายหลัง (MM93) มีอาการสะดุดอย่างเห็นได้ชัดจนถึงขั้นขาตกพักเท้า
ซึ่งแน่นอนว่า MM93 จะต้องมีความรู้สึกหัวร้อนกับเรื่องนี้เป็นธรรมดา ดังนั้นเขาจึงไล่กวด Alex Rins อย่างหนัก เพื่อดักหน้านักบิดรายนี้ให้ได้ จนในจังหวะโค้งสุดท้าย Marquez ก็ได้จงใจเบรกให้ลึกเพื่อเสียบเข้าไปด้านในไลน์ของ Rins และเลี้ยวเข้าพิทไปพร้อมๆกัน
แล้วหลังจากนั้นไม่นานนัก เหตุการณ์ดราม่าก็ได้เกิดขึ้นอีกครั้ง นั่นก็คือการที่ Rins ขี่แซง Marquez ไปในช่วงเส้นแทร็คก่อนปากทางเข้าพิท และไม่รู้ด้วยความตั้งใจหรือไม่ นักบิดหมายเลข 42 รายนี้กลับดูเหมือนจะขี่ไปเบียดช่วงหน้าตัวรถของนักบิดหมายเลข 93 จึงทำให้ฝ่ายหลังต้องยื่นมือไปผลักช่วงลำตัวของฝ่ายแรกเพื่อบอกว่า “เบียดเกินไปแล้ว” จนกลายเป็นเหตุดราม่าที่ 2 แบบติดต่อกันแทบจะทันทีระหว่างนักบิดคู่เดียวกัน
เกี่ยวกับเรื่องนี้ Alex Rins ไม่ได้มองว่าตนเป็นฝ่ายผิด และแสดงความเห็นเชิงวิจารณ์คู่กรณีว่า “Marquez ไม่มีความเกรงใจนักบิดคนอื่นเลย”
“มันคือเล่ห์เหลี่ยมรึเปล่าน่ะเหรอ ?, ไม่เลย, เพราะอันที่จริงเค้าคือคนที่อยู่เหนือทุกคนไปอีกขั้น, เค้าใส่ยางสลิก และเค้าก็ไปได้เร็วมาก”, “แต่ผมว่าเค้าไม่มีความเคารพในตัวนักบิดคนอื่นเลย, เค้ามัวแต่ขี่ในทาง(ไลน์)ของตนเอง”
“ตอนโค้ง 5, เค้าบานออกเล็กน้อย, และด้านหลังของเค้าคือ Miller กับผม, ในตอนที่เราบานออกไป, เค้าหันมามองด้านหลังแล้วเห็น Jack กับ ผม, Jack แซงเค้าขึ้นไปได้, แต่เค้าก็กลับมาวิ่งในไลน์เดิมของตัวเอง, และด้วยความสัตย์จริง เค้าตั้งใจก่อกวนผม”
“ผมพยายามกดเวลา, ผมไม่ได้เร็วมากมาย แต่ก็พยายามกดเวลา, ดังนั้นในโค้งถัดไป (โค้ง 7) ผมพยายามที่จะวิ่งในไลน์ของผม, เค้าเปิดช่องเล็กๆเอาไว้, ผมเลยเสียบเข้าไป, ผมสะกิดเข้ากับเค้า แต่ผมมองว่ามันคือความปิดของเค้าเอง, ถ้าเค้าจะขี่ช้า เค้าควรเปิดช่องไปเลย แต่ก็นั่นไง เค้าไม่ทำ”
“หลังจากนั้นในโค้งสุดท้าย เค้าเบรกลึกมากเพื่อแซงผม, แต่ก็ไม่มีอะไรมากกว่านั้น, พอเราเลี้ยวเข้าพิท, สิ่งที่เกิดขึ้นคือผมไปอยู่ตรงหน้าเค้า, คือผมก็วิ่งตรงมาปกติๆ แล้วเข้าก็เหมือนจะไม่มีช่องว่างให้วิ่งข้างผม, ถ้าผมเป็นเค้า ผมจะเลือกปิดคันเร่ง (เพื่อถอยไปข้างหลัง) แล้วตรงไปที่พิทปกติๆ, แต่เค้าก็ไม่ทำ)”
พอสื่อถามต่อว่า งั้น Rins รู้สึกว่า Marquez พยายามจะขู่ตนเองเหรอ ? Rins ก็ตอบกลับไปว่า “ผมว่าใช่, เพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรก, ทุกคนรู้จัก Marquez, และทุกคนรู้ว่าเค้ามีพรสวรรค์ที่ยอดเยี่ยม”, “แต่ตอนเกิดเหตุการระหว่างเค้ากับ Vinales ในช่วง FP1 มันก็แทบจะเหมือนกัน (กับของตนเอง), Marc ชอบที่จะเล่นเกม(จิตวิทยา)แบบนี้ พยายามที่จะเข้าไปปั่นหัวคู่แข่งของตัวเอง, แต่ในกรณีของผม, ผมว่าผมใจเย็นมากแล้วนะ”
“แน่นอน ว่าถ้าผมต้องสู้กับเค้าเพื่อแย่งแชมป์, ผมก็คงต้องทำอะไรสักอย่าง เพื่อนเล่นเกม(จิตวิทยา)กับเค้า, แต่เค้ามีคะแนนนำผมอยู่ 80 แต้ม, เค้าคงกลัวผมมั้ง, ผมก็ไม่รู้สิ”
ขอบคุณข้อมูลจาก Motorsport.com
อ่านข่าว MotoGP เพิ่มเติมได้ที่นี่
เพื่อนๆ Bikers สามารถติดตามข่าวสารวงการล้อ ได้ทางแฟนเพจ MotoRival ของเราครับ
